บท
ตั้งค่า

II? : การกลับมา…

บ่อนหรูใจกลางเมือง

ดวงตาสีเข้ม คมกริบราวกับนกเหยี่ยว จ้องมองภาพวงจรปิดตรงหน้า เผยหญิงสาวรูปร่างดีจนเตะตาต้องใจ ก่อนจะหรี่มองด้วยสายตาจับผิด แล้วจากนั้น… ทันทีที่หญิงสาวผมดำขลับเอี้ยวตัวเหมือนกำลังจะสบมองกับดวงตาของเขา..

พรึ่บ! ซ่าาา!!

ภาพวงจรปิดที่จับได้ก็ขาดหาย..

“เป็นแบบนี้ทุกตัวเลยครับ ทุกครั้งที่ภาพจับผู้หญิงคนนี้ได้”

“มึงจะบอกว่า ที่กล้องจับภาพผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ เป็นเพราะเธอ มากกว่ากล้องเสีย?” ดวงตาคมกริบมองจ้องลูกน้องในชุดสูทของตนพร้อมกับเลิ่กคิ้วพร้อมตั้งคำถาม

“..เอ่อ คือ”

“ระหว่างผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนกับกล้องเสียเพราะพวกมึงไม่ดูแล”

“….”

“….อันไหนเป็นไปได้มากกว่า?” พลางเลิ่กคิ้วถาม

“….”

“ไปจัดการให้เรียบร้อย”

“ครับ!”ลูกน้องในชุดสูทก้มหัวคำนับก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงาน ของชายร่างสูงสง่า ไหล่กว้าง รอยสักตั้งแต่ต้นคอยาวลามยันแขน แม้จะเป็นเพียงแค่ข้างเดียวแต่ก็สร้างความน่าเกรงขามให้กับทุกคนที่พบเห็น ด้วยสมญานามที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ชื่อของเขาโด่งดังไปทั่วทุกสารทิศ…

เจ้าของร่างกายกำยาเดินไปหยิบขวดไวน์มาตั้งที่โต๊ะ พลางรินมันอย่างเชื่องช้า ก่อนจะกรอภาพวงจรดังกล่าว ถึงแม้ว่ามันจะถูกตัด… ไม่สิ ราวกับมีสัญญาณรบกวนมากกว่า เพราะทันทีที่กล้องกลับมาบันทึกภาพต่อ ผู้หญิงคนนั้นก็หายไปเสียเเล้ว

ใบหน้าคมใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองอยู่นาน หลังจากดื่มไวน์และจ้องมองคลิปวงจรดังกล่าวราวหลายนาที รอยยิ้มที่มุมปากแสยะเพียงนิด จิวที่จมูกเพิ่มเสน่ห์ให้เจ้าตัวมากกว่าที่เคย… ราวกับได้ข้อมูลบางอย่างจากการจดจำรูปร่าง ลักษณะ ผิวพรรณ หรือแม้แต่เวลา… ก่อนจะวางแก้วไวน์ไว้ที่โต๊ะ พร้อมกับคว้าเสื้อสูทพาดไหล่แล้วออกจากห้องทำงานของตัวเองโดยไร้คำพูด หรือแม้แต่จะกดหยุดคลิปที่ยังเล่นค้างอยู่ให้ยุติลง

ทันทีที่ร่างสูงเดินออกจากห้องทำงาน ชายวัยกลางคนค่อนไปทางชรา รูปลักษณ์ภูมิฐานน่าเกรงขามไม่ต่างจากคนที่เดินจากไป หยุดเดินเมื่อเห็นลูกชายตัวเองเดินไปไกลจนเสียงเรียกไม่อาจหยุดเขาไว้ได้

“คุณพิภพครับ”

“…อืม”

“มาหาคุณฟีนิกซ์เหรอครับ…”

“ฉันจะมาหามันไม่ได้? เดี๋ยวนี้ลูกชายฉัน มันออกคำสั่งห้ามต้อนรับพ่อมันแล้วหรือไง?”

“เอ่อ เปล่าครับ… ผมแค่แปลกใจ วันนี้ไม่ใช่วันที่คุณจะมาที่นี่”

“อืม~ ฉันก็เบื่อชีวิตแก่ๆแบบนี้ จะออกมาสูดลมชมวิวข้างนอกบ้างมันไปหนักหัวเอ็งหรือไง?”

“ขอโทษครับ!” ลูกน้องของร่างสูงที่เดินจากไปรีบกล่าวคำขอโทษเสียงแข็งแล้วก้มคำนำราวกับหุ่นยนต์ที่ถูกจดโปรแกรมใส่ และเพราะท่าทีดังกล่าว ทำให้ชายวัยกลางคนที่มีศักดิ์เป็นพ่อของเจ้านายตัวเอง หลุดขำออกมาพร้อมกับใบหน้าที่ดูเป็นมิตรมากกว่าคนเป็นลูกหลายขุม

“ฮ่าๆๆๆๆๆ~”

“?” ชายผู้น้อยเงยหน้าสงสัย ก่อนจะถูกตบไหล่จากชายที่มีความอบอุ่นอยู่เต็มใบหน้า ตรงหน้า

“ลูกชายฉันมันโหดร้ายกับพวกเอ็งมากไปหรือไง ถึงได้ยืนแข็งทื่อ ทำอย่างกับฉันเป็นปีศาจ”

“…เอ่อ คือ”

“เพราะหน้าที่ที่ต้องแบกรับ เจ้านายเอ็งคงไม่มีเวลามานั่งนึกถึงใจใครเท่าไหร่ อย่าโกรธเคืองลูกฉัน เพราะมันโหดร้ายใส่เอ็งเลยนะ”

“มะ ไม่เลยครับ ! พวกผมเข้าใจ”

“ดี.. ฉันคงรู้สึกผิด ถ้าการเลี้ยงลูกของฉัน.. ทำให้มันโตขึ้นมาเพื่อไปทำร้ายใคร”

“…..”

“แค่ฉันคนเดียว.. ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่อาจลืม”

ประโยคปริศนาถูกทิ้งท้ายเอาไว้ ลูกน้องคนเดิมในชุดสูทต่อให้สงสัยในประโยคนั้น ตนก็ไม่อาจกล้าปริปากถาม ทำได้แค่ก้มหัวคำนับท่านผู้นี้อย่างเจียมตัว

“ไปทำงานเถอะ ฉันรอมันในห้องนี่แหละ”

“คุณท่านไม่โทรหาคุณฟีนิกซ์ละครับ เพิ่งเดินออกไป ไม่น่าจะไปไหนได้ไกล”

“สำหรับพวกฉันสองพ่อลูก..”

“…..”

“การโทรหาอีกฝ่าย เพียงเพราะแค่อยากจะเห็นหน้า..”

“…..”

“….มันไม่เท่ห์”

“โธ่ ท่าน..” คุณพิภพส่งรอยยิ้มที่สุขุมและอบอุ่นให้กับลูกน้องคนสนิทของฟีนิกซ์ แฟรงค์ ส่งยิ้มให้กับนายผู้สูงส่ง

“เดี๋ยวผมให้เด็กเอาเครื่องดื่มมาให้ครับ”

“อืม ขอบใจ”

หลังจากนั้น พิภพ เดินเข้าห้องทำงานของฟีนิกซ์ ความมืดทะมึนในนี้ไม่สมกับเป็นห้องทำงานสักนิด.. แต่เพราะรู้ดีว่าลูกชายตัวเองมีนิสัยอย่างไร จึงไม่ได้สนใจหรือคัดค้านห้องทำงานสีดำราวกับถ้ำในสายตาของคนเป็นพ่อ

ชั้นหนังสือ วางหนังสือและแฟ้มจำนวนมากอย่างเป็นระเบียบ ตู้แช่ไวน์และบรั่นดีส่วนตัวไม่เคยว่าง

กึก~ ซ่า~ เสียงคลิปที่ถูกปล่อยให้เล่นซ้ำๆอยู่อย่างนั้นดึงความสนใจให้ พิภพ เดินไปที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะหยุดดูคลิปที่เล่นวนไปมาซ้ำๆอยู่แบบนั้น..

ภาพผู้หญิงชุดดำ ที่กำลังหันมามองกล้อง ถูกตัดไปตลอดเวลาที่เธอกำลังจะหันมาเพื่อสบมองกับกล้อง แต่เพราะรูปร่างของหญิงสาวในคลิปทำให้ พิภพ ค่อนข้างเอะใจ เขาถึงยอมนั่งลงที่เก้าอี้ทำงาน แล้วกด Replay คลิปซ้ำๆ ซ้ำๆ…

ความรู้สึก ที่เหมือนจะคุ้นกับรูปร่างแบบนี้ ผิวพรรณแบบนี้ การแต่งตัวที่…

กึก~ ซ่า~~ และทันทีที่คลิปถูกตัดจนเกิดเสียงซ่าขึ้น ภาพและเสียงในความฝันก่อนหน้าก็โยงเข้ามาในหัว

‘ฉัน.. ไม่มีวันให้อภัย’

ใช่.. ใช่แน่ๆ!

พิภพ ใช้มือท้าวคางราวกับครุ่นคิด หากลางสังหรณ์ของเขาเป็นเรื่องจริง ผู้หญิงในคลิปและในความฝันคือคนเดียวกัน… แล้วผู้หญิงคนนี้….

“…เธอคือใครกัน?” คิ้วหนาขมวดเป็นปมสงสัย เพราะมองไม่เห็นใบหน้า แต่กลับมีความรู้สึกชวนให้เอะใจ ทำให้พิภพนั่งครุ่นคิดอยู่แบบนั้น โดยเฉพาะคำพูดในความฝัน ที่ติดหัวและไม่อาจสลัดให้หลุดออกไปได้

“…จำฉันไม่ได้จริงๆสินะ” หญิงสาวชุดดำ ริมฝีปากแดงนั่งอยู่บนดาดฟ้าของตึกสูงฝั่งตรงข้ามกับบ่อนหรูใจกลางเมือง นั่งห้อยขาราวกับมันเป็นที่ที่สมควรจะนั่ง

“ใช่สิ… ฉันนะ เป็นความทรงจำเดียว ที่คนเลวๆอย่างพวกแก… อยากจะลืม”

ดวงตาสีแดงฉานครุกรุ่นไปด้วยไอความแค้น เรียวเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงถูกแกว่งไปมา พร้อมกับสายตาที่จ้องชายคนดั่งกล่าวอย่างไม่กระพริบ ก่อนจะเบือนสายตาก้มลงไปมองรถหรูสีดำหลักหลายล้านที่กำลังวิ่งออกไปจากบ่อน

นี่.. คือการกลับมาของฉัน

ร่างสูงเจ้าของรถคันดังกล่าว คือคนที่เธอ… คอยเฝ้ามองมาหลายต่อหลายปี หลายนาทีที่จู่ๆหญิงสาวคนนี้จะหายตัวไปราวกับควัน…

เป้าหมายถูกล็อคไว้แล้วววว

===============

⚠️สวีดัด สวัสดีกั๊บ!! ใครที่ยังไม่รู้ว่า นางเอก เรื่องนี้เป็นชะนีประเภทไหน ไปอ่านกันได้นะคะที่ ล่ารักมิติร้าย นางแจมอยู่ในนั้นด้วย จริงๆไม่ใช่เล่มต่อ จะอ่านเล่มไหนก่อนก็ได้ หรือจะอ่านทั้งสองเล่มเลยก็ได้ คืออยากเปิดเป็นจักรวาล555 ไม่แฟนตาซีจ๋าแน่นอนจ๊ะทั้งสองเรื่องเลย

⚠️ล่ารักมิติร้าย เป็นแฟนตาซีแบบเชื่อมโลกทั้ง2โลก เป็นเรื่องเปิดที่ทำให้ยมทูตทั้งสอง เข้ามามีบทบาทกับโลกมนุษย์(ไม่แฟนตาซีจ๋า เป็นเรื่องที่พบเจอได้ในชีวิตปกติ อ่านง่าย สอดแทรกข้อคิดไว้ด้วยกั๊บ) ส่วน ร้ายพ่ายรัก เป็นการกลับมาแก้แค้นของ นางเอก ส่วนถ้าอยากจะรู้ว่านางเจออะไรมาก็ต้องอ่านนะ^^

⚠️ถ้าอ่านแล้วชอบอยากให้คอมเมนท์เยอะๆ เพราะมันคือกำลังใจเลยค่ะ สำหรับคนที่อ่านแล้วไม่ชอบ ช่วยส่งต่อนิยายนี้ให้กับคนที่คุณไม่ชอบด้วยนะคะ นางเอกเรื่องนี้จะได้ตามไปหลอกหลอน??

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel