บทที่ 4
“พ่อใจร้อนมากไปหรือเปล่าครับ ผมยังทำใจไม่พร้อมเลย”
อชินบ่นอุบ ขณะที่เลี้ยวรถเข้ามาในซอย ที่มีบ้านคนปลูกกันอยู่ค่อนข้างห่าง บ้านแต่ละหลังในหมู่บ้านนี้ค่อนข้างมีเนื้อที่ ให้เจ้าของปลูกต้นไม้ หรือจัดสวน เอกสิทธิ์ทำเสียงเข้ม
“ต้องทำจงทำใจอะไรกันนักหนาเจ้าชิน แหมก็แค่มารู้จักกันไว้ก่อน”
“บ้านหลังไหนล่ะครับ”
ผู้เป็นบิดาชี้มือไปบ้านสีขาวทางขาวมือ ที่มีต้นไม้น้อยใหญ่ดกครึ้มจนแทบไม่เห็นตัวบ้าน
“นั่นไง บ้านที่ต้นไม้เยอะๆ นั่นน่ะ”
อชินรู้สึกใจเต้นแรง ขณะที่กดแตรเรียกคนในบ้าน
หนูเหมียวหนูแมวของพ่อจะหน้าตายังไงกันหนอ อดตื่นเต้นไม่ได้เลยเรา
สักพักประตูรั้วก็เปิดออก พร้อมกับร่างเล็กบางของเด็กสาว อชินลงความเห็นว่าอย่างนั้น เมื่อมองคนตัวเล็ก ผมตัดสั้นที่วิ่งมาเปิดประตูรั้วให้ เจ้าหล่อนเลิกคิ้วเมื่อเห็นรถของเขาแล้ววิ่งเข้าบ้านไป อชินเห็นหล่อนแค่แวบๆ แต่ก็ลงความเห็นว่าเป็นสาวน้อยที่หน้าตาน่ารักดีทีเดียว
“มีเด็กด้วยเหรอพ่อ”
เอกสิทธิ์เลิกคิ้วกับคำถามของบุตรชาย แล้วก็ทบทวนความทรงจำเกี่ยวกับครอบครัวของเพื่อนรัก
“เด็กอะไรที่ไหนกัน อ๋อ สงสัยจะน้องสาวหนูเหมียว หนูแหมวน่ะ”
“น้องสาวเหรอพ่อ สงสัยเพื่อนของพ่อ จะมีลูกสาวห่างกันหลายปีเลยนะเนี่ย”
อชินว่า ก็เจ้าหล่อนตัวเล็กนิดเดียว หน้าตายังใสๆ น่าจะอายุไม่เกินสิบเก้าเป็นอย่างมาก เอกสิทธิ์ไม่ทันฟังเพราะเปิดประตูออกไปหานาวีที่รีบออกมาต้อนรับเสียแล้ว เขาเลยต้องรีบลงจากรถตามไป นัยน์ตาคมกริบมองกวาดไปทั่วๆ เขาไม่เห็นหญิงสาวที่ไหนเลยสักคน นาวีเองก็มองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างสำรวจเช่นกัน
เอ่อ...ลูกไอ้เอกนี่ มันหน้าตาดีจริงๆ เลยแหะ ดีน่ะที่การันตรีไว้กับไอ้แหมวแล้วได้ตามนั้น ไม่อย่างนั้นมันคงประชดประชันทั้งวันแน่ๆ
“มาๆ เข้ามาก่อนไม่เจอกันนานเอ็งแก่ไปเยอะเลยนะไอ้เอก”
นาวีเย้าเพื่อนสนิทเบา ๆ เขาต้องเงยหน้าคุยกับเอกสิทธิ์ เพราะเอกสิทธิ์สูงกว่าเขามาก
“เอ็งก็แก่แหละน่า นี่ลูกชายข้า เจ้าชิน ชินนี่ลุงวี”
อชินยกมือไหว้นาวีอย่างนอบน้อม นาวีรีบไหว้ตอบ พลางมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพอใจ
“ไหว้พระน่ะหลาน เอ่อ ลูกชายเอ็งนี่หล่อไม่เบาเลยโว้ย”
“แล้วลูกสาวเอ็งละ”
เอกสิทธิ์รีบถามทันที นาวีหลิ่วตาให้เพื่อนรัก ก่อนจะเรียกลูกสาวเสียงดังลั่น
“เหมียว แหมว มาไหว้อาเอกหน่อยลูก”
สิ้นเสียงเรียกของนาวี ไม่นานนัก หญิงสาวสองคนก็ก้าวออกมาจากตัวบ้าน คนแรกผมยาวประบ่า หน้าตาสวยหวาน หากมีแววตาอมเศร้า หล่อนสวมชุดยาวสีครีมลายดอกไม้ดูหวานน่ารัก อชินมองกวาดไปทั่วตัวหล่อน แล้วเก็บรายละเอียดไว้อย่างรวดเร็ว
ส่วนสตรีอีกคนที่ทำหน้ามุ่ย เดินตามพี่สาวมา ทำให้เขาอดอมยิ้มไม่ได้ เจ้าหล่อนหน้าตาน่ารักสดใส ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม มันส่งประกายไม่เป็นมิตรให้เขาทันที จนชายหนุ่มรู้สึก จมูกโด่งปลายรั้น จนน่าจะจับบีบอย่างมันเขี้ยวให้สักที แก้มใสแดงเรื่อ ผมหน้าม้าตัดสั้น ยิ่งทำให้เจ้าตัวเหมือนเด็กมากขึ้น หล่อนดูมินิ น่ารักไปทั้งตัว สรีระบางอย่างฟ้องว่าเจ้าตัวไม่ใช่เด็กสาว อย่างที่เขาเห็นแวบแรก เพราะหล่อนก็รูปร่างสมส่วน แม้จะตัวเล็ก หล่อนชักสีหน้าให้เขาทันที และไม่ยอมไหว้เอกสิทธิ์กับอชิน จนนาวีต้องมองตาขวางพลางทำเสียงเข้ม
“แหมว อะแฮ่ม! ไหว้อาเอกกับพี่ชินหน่อยสิลูก”
นิชญารีบยกมือไหว้อย่างเสียไม่ได้ จนนาวีต้องโอบลูกสาวคนเล็กเข้าหาตัว พลางแอบหยิกที่หลังหล่อนแรงๆ จนนิชญาหน้าเบ้
“พ่อ...เจ็บนะ”
“ฮึ่ม!”
นาวีทำเสียงลอดไรฟันให้กับลูกสาวที่ทำหน้ามุ่ยใส่ทันที
“นี่ลูกสาวคนเล็กของข้าเอง นั่นลูกสาวคนโต คนเล็กมันกระโดกกระเดกไปสักหน่อย เอ็งอย่าถือมันเลยนะ”
“ไม่ถือหรอก หน้าตาลูกสาวเอ็งน่ารักทั้งคู่เลย” เอกสิทธิ์ชมจากใจจริง “หนูแหมวยังเด็กอยู่ไม่เป็นไรหรอก”เขามองหน้านิชญาอย่างเอ็นดู
“เรียนจบหรือยังล่ะจ๊ะหนูแหมว”
“มันเรียนจนจบปริญญาแล้ว แต่ลูกข้ามันตัวเล็ก เลยเหมือนเด็กไม่โตกินนมน้อยไปหน่อย”
นาวีหัวเราะก๊าก นภัสนันท์เองก็อมยิ้ม ใบหน้าสวยอมเศร้าของหล่อนดูมีชีวิตชีวาขึ้น เมื่อยิ้มแย้มอย่างนี้ ขณะที่นิชญาหน้ามุ่ย หล่อนไม่ชอบเวลาใครมาว่า หล่อนเป็นเด็ก เอกสิทธิ์มองหน้านิชญาอย่างไม่อยากเชื่อ
“หา! จริง ๆ นะเหรอ ลุงเห็นหน้าตายังเด็ก ๆ นึกว่าสักสิบแปดสิบเก้า”
“แหมวอายุ 24 ปีแล้วค่ะ”
หล่อนย้ำ หน้าตางอๆ ของนิชญาทำให้อชินที่ลอบมองหล่อนอยู่ รู้สึกอยากจะแหย่อย่างบอกไม่ถูก
“เอ้าๆ เข้าบ้านๆ เหมียวเขาทำของโปรดเอ็งด้วย รับรองว่าอร่อยแน่ๆ”
นาวีว่า พลางจูงมือเพื่อนรักเข้าบ้าน อชินเดินตามเข้าไปพร้อมๆ กับนภัสนันท์ เมื่อนิชญาเห็นดังนั้น หล่อนก็รีบเข้ามาแทรกกลาง ระหว่างพี่สาวกับชายหนุ่มทันที แถมทำตาขวางให้เขา ก่อนจะคล้องแขนนภัสนันท์ไว้ อชินปรายตามองคนตัวเล็ก แต่ดูท่าจะฤทธิ์มาก ก่อนจะเหลือบมองอีกคนที่ดูนิ่งกว่า เงียบกว่า สงสัยว่ามาดูตัวว่าที่เจ้าสาวคราวนี้ของเขา คงจะมีอะไรสนุกแน่ๆ ก็แม่ตัวเล็กหวงพี่สาวจนออกนอกหน้าขนาดนี้