บทที่ 2
“รังแกที่ไหน พี่เหมียวของแกนะแหละ ที่ทำให้ฉันหงุดหงิดหัวใจ”
“ไม่มีอะไรหรอกเบญ”
นภัสนันท์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือหยิกแก้มน้องสาวอย่างเอ็นดู จนนิชญาร้องโอ๊ย!
“เจ็บนะพี่เหมียว ไม่รู้ล่ะ ยังไงแหมวก็จะประท้วงพ่อ ที่ทำอะไรบ้าๆ”
“ตามใจเรา พี่ไปดูในห้องครัวก่อนนะ เบญ พี่เปรมเขามาหรือยังจ๊ะ”
นภัสนันท์ถามถึงเปรมศักดิ์ พ่อครัวประจำร้านขนมผู้ช่วยของหล่อน เบญญาภาพยักหน้า
“มาแล้วค่ะ เห็นว่าจะอยากจะคุยกับพี่เหมียวอยู่ ว่าจะชวนพี่เหมียวทำโดนัทสูตรใหม่ พี่เปรมบอกว่าเพิ่งจะคิดสูตรได้สดๆ ร้อนๆ เลย ตอนดูรายการทีวีเมื่อวันก่อน รายการญี่ปุ่นที่เขาแข่งกันทำขนมน่ะพี่เหมียวทำมาให้เบญชิมเรียบร้อยแล้วด้วยอร่อยมากๆ”
“’งั้นพี่เข้าครัวก่อนนะ เดี๋ยวลูกค้าเข้าร้านจะทำไม่ทัน”
พอเห็นว่านภัสนันท์ลับตาไป เบญญาภาก็รีบกระซิบกระซาบกับนิชญาที่ยังนั่งทำหน้างอไม่เลิก
“มีอะไรกันน่ะแหมว ทะเลาะอะไรกันน่ะ”
“แกจะไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม ไอ้เบญ”
นิชญาเริ่มพาล แต่เพื่อนรักชินเสียแล้ว กับการออกฤทธิ์ของแม่สาวตัวเล็ก เลยบีบๆ นวดๆ ตรงบริเวณแขนให้
“น่า...น่า...แกก็รู้ว่าฉันเป็นนักข่าว เลือดสอดรู้มันแรงกล้า”
เบญญาภาว่า นิชญาเลยได้โอกาสระบายกับเพื่อนรักเสียเลย
“ก็พ่อฉันน่ะสิ ไม่รู้ว่าดูหนังมากไปหรือเพี้ยนอะไรกัน จะให้พี่เหมียวหมั้นกับลูกชายของเพื่อน อะไรกันก็ไม่รู้ พี่เหมียวก็ยอมไปได้ เป็นฉันหน่อยไม่ได้ จะวีนให้บ้านพังเลย พ่อนะพ่อทำอะไรเพี้ยนๆ”
“นี่แกเล่นมุขหรือเปล่า”
“หน้าฉันมันตลกนักหรือไง?”
นิชญาเลิกคิ้ว มองเพื่อนรักตาขวาง ที่เบญญาภาเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องล้อเล่นไปได้ หญิงสาวเลยรีบส่ายหน้า
“เปล่าๆ ฉันเห็นว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้น่ะไอ้แหมว เรื่องแบบนี้มีจริงด้วยเหรอ ลุงวีทำอะไรแปลกอย่างที่แกว่าจริงๆ น่ะแหละ แต่พี่เหมียวเขายอมจริงๆ นะเหรอ”
“ก็เออ...น่ะสิ” นิชญาถอนใจอีกเฮือกหนึ่ง
“ยอมเฉยเลย”
“ก็ไหนว่าพี่เหมียวมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอแก” เบญญาภาถามอย่างสงสัย นิชญาถอนใจอีกเฮือก
“เคยมี ต้องเรียกว่าเคยมี แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว นั่นเพราะพี่ฟากเขางี่เง่าเอง เลยทิ้งพี่เหมียว ทำตัวเป็นผู้เสียสละ ทำยังกับพระเอกนิยาย”
หล่อนเบ้ปาก เมื่อนึกถึงชายหนุ่มร่างสูงผมยาวประบ่า หน้าตาหล่อเหลาคมคาย ที่เคยเข้ามาพัวพันกับพี่สาวของหล่อนระยะหนึ่ง
“หรือว่าพี่เหมียวจะแต่งงาน เพื่อจะอยากลืมพี่ฟากน่ะแก”
เบญญาภาตั้งคำถาม หล่อนเอานิ้วเคาะแก้มเป็นจังหวะ วิเคราะห์อย่างรวดเร็ว
“เลยยอมแต่งงานไง จะได้ลืมๆ พี่ฟาก แต่งงานประชดเสียเลย”
“เหอะ!”
คราวนี้นิชญาหน้ามุ่ยกว่าเดิม
“ฉันกลัวว่า อีตาคนที่พ่อหามาให้ มันจะทำให้พี่เหมียวช้ำใจกว่าพี่ฟากน่ะสิ คอยดูนะ ถ้ามาทำอะไรพี่เหมียวล่ะก็ ฉันเอาตายแน่ๆ”
“ฉันก็ดีใจนะ ที่พ่อแกจะยกพี่เหมียวให้เขา แทนที่จะเป็นแก”
เบญญาภามองแววตามุ่งมั่นเอาจริงของเพื่อนรักก็ชักจะขำ นิชญาหันมาค้อน
“ทำไมยะ”
“ก็ดูแกยังไม่บรรลุนิติภาวะน่ะสิ หน้ายังกับเด็กสิบหก แถมยังดุอย่างกับเสืออย่างนี้ พ่อแกเลยไม่กล้ายกแกให้เขา ยกพี่เหมียวให้แทนก็เป็นบุญของเขาแล้วล่ะ”
เบญญาภาว่า นิชญาที่เมื่อโดนล้อเรื่องปมด้อย ในความหน้าใสเหมือนเด็กๆ ของเจ้าตัว คนอื่นคงดีใจแต่หล่อนไม่ชอบเลย ถึงกับกรี๊ดลั่นร้าน
“ไอ้เบญ มาให้เตะเสียดีๆ ถึงฉันจะตัวเล็กก็ต่อขาเก้าอี้เตะแกถึงนะ อย่าหนีนะไอ้เบญ! ไอ้เพื่อนบ้า”
..........................................................................................................................................
“พ่อมาล้อเล่นอะไรแต่เช้า”
ชายหนุ่มร่างสูง หน้าตาคมคาย มีจุดเด่นตรงนัยน์ตาคมสวยระยับ ในชุดสูทสีดำที่กำลังนั่งจิบกาแฟอย่างอารมณ์ดี พลางอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วย ถึงกับสำลักเมื่อได้ยินคำพูดของบิดา ที่มานั่งดื่มน้ำเต้าหู้อยู่ฝั่งตรงกันข้าม จนน้ำหูน้ำตาไหล
“ไม่ได้เล่น พ่อพูดจริงๆ”
ผู้เป็นบิดายังย้ำ เขามองลูกชายคนเดียว ที่หน้าตาถอดเค้าของเขามาเกือบทุกกระเบียดนิ้ว ตั้งแต่คิ้วเข้ม นัยน์ตาคมสวยสีดำสนิท ขนตาดกหนาจนสาวๆ อิจฉา จมูกโด่งได้รูป หน้าเรียว จนถึงริมฝีปากบางสวย
“พ่อจะให้แกหมั้นกับหนูเหมียว ลูกสาวของไอ้วีจริงๆ แล้วก็ห้ามปฏิเสธด้วยนะเจ้าชิน”
“พ่อล้อเล่นแล้ว”
อชิน ยังเห็นเป็นเรื่องตลก เขาหัวเราะหึ หึ แต่แล้วเมื่อมองสายตาเอาจริงของผู้เป็นบิดา ก็เลิกคิ้ว
“นี่เอาจริงเหรอพ่อ”
“เออ ก็บอกแล้วว่าเอาจริง”
เอกสิทธิ์ยกแก้วน้ำเต้าหู้ของตัวเองขึ้นดื่มบ้าง
“พ่ออยากมีหลานไวๆ”
“แต่ผมยังไม่อยากมีเมียนี่ครับพ่อ” ผู้เป็นลูกชายค้าน
“ผมเพิ่งจะอายุ 29 เองนะพ่อ แล้วน้องเหมียวอะไรของพ่อ หน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้”
“สวยน่า พ่อรับประกัน” อชินรีบส่ายหน้า
“สวยยังไงก็ไม่เอาน่ะพ่อ โธ่! พ่อจะมาบังคับผมทำไม”
“ทำไมน่ะเหรอเจ้าชิน”
เอกสิทธิ์กระแทกแก้วน้ำเต้าหู้ ลงกับจานรองจนน้ำหู้กระฉอก แล้วทำเสียงเข้ม
“แกก็รู้ว่าพ่อเป็นโรคหัวใจ เกิดเป็นอะไรไปไม่ได้เห็นหน้าหลาน พ่อจะนอนตายตาไม่หลับ ไม่รู้ล่ะแกต้องหมั้นกับหนูเหมียว ไม่หมั้นพ่อไม่ยอม แกอยากให้อาการพ่อกำเริบหรือไง แกก็ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน หนูเหมียวเขาก็ไม่ได้เสียหาย หน้าตาน่ารัก ขยันขันแข็ง ไม่รู้ล่ะพ่อจะเอาสะใภ้คนนี้”
พูดจบเอกสิทธิ์ก็หอบจนตัวโยน เพราะออกแรงเปล่งเสียงมาก อชินรีบเข้าประคองบิดาอย่างเป็นห่วง เอกสิทธิ์เหลือบตามองลูกชายแวบหนึ่ง ก่อนจะหอบมากกว่าเดิม ลีลาอาการของเขานี่ ระดับดาราตุ๊กตาทองมาเองกันเลยทีเดียว
“เอ้า เอ้า หมั้นก็หมั้น ไปดูตัวก็ไป แต่บอกไว้ก่อนนะ ถ้าผมไม่ชอบหรือไม่สเปค
แม่หนูเหมียวหนูแมวของพ่อขึ้นมาล่ะก็ พ่อห้ามว่าถ้าผมถอนหมั้นนะ”
“ได้ แต่แกต้องไปดูตัวหนูเหมียวเขาก่อน ดูๆ กันไปก่อนค่อยหมั้น ค่อยแต่งก็ได้”
คราวนี้เอกสิทธิ์หายหอบทันที พลางยิ้มให้บุตรชาย อชินหรี่ตามองบิดาเหมือนจะรู้อะไรเลา ๆ
“นี่พ่อป่วยจริงๆ หรือเปล่า”
“โอ๊ย! เอ่อ พ่อหายใจไม่ออกเสียแล้ว แกไปเอายามาให้พ่อที”
เอกสิทธิ์แกล้งหอบหนัก ทำให้อชินต้องรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว เพราะความเป็นห่วง เมื่อเห็นอชินกุลีกุจอรีบไปหายามาให้ เอกสิทธิ์ก็แอบยิ้มที่มุมปาก รู้แล้วล่ะว่า จะให้ไอ้ชินมันไม่ขัดใจได้อย่างไร เสร็จพ่อแน่ๆ ลูกชายสุดที่รัก...