บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

หลิวซืออิงผู้นี้มองผิวเผินดูคล้ายกับสาวน้อยที่อยู่ในโอวาท ไม่เคยโต้เถียงหรือต่อต้านผู้ใด หากหยางตงฉวนมิใช่สหายสนิทบ้านติดกัน ก็คงไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วนางหัวดื้ออย่างมาก ยามเชื่อหรือหมายตาว่าจะทำสิ่งใดแล้วก็จะไม่รามือโดยง่าย ต่อให้ต้องลำบากก็จะมิยอมย่อท้อ

หลายปีก่อนนางถูกคุณหนูสกุลซ่งกล่าวให้ชอกช้ำว่าเป็นเพียงเด็กกำพร้า ทว่าหาญกล้าร่วมสมัครสอบเข้าสำนักศึกษาชงหยวน ค่าใช้จ่ายในการเรียนก็มิใช่ถูกๆ ต่อให้สอบเข้ามาได้ก็คงไม่มีปัญญาจ่ายอยู่ดี

ยามนั้นหลิวซืออิงอายุเพียงสิบขวบ ทราบดีว่าตนมิใช่คนเรียนเก่ง ช่วงกลางวันจึงกราบกรานอ้อนวอนให้ท่านอาเฉินซานกั๋วช่วยสอนวิชาให้ ส่วนช่วงเย็นก็มักจะปีนข้ามรั้วมาหาหยางตงฉวน ซึ่งแก่กว่าชั้นปีหนึ่ง ชักชวนอ่านตำราร่วมกัน มีอันใดไม่เข้าใจก็หมั่นสอบถามจนกระจ่าง

หลิวซืออิงสอบผ่านด้วยคะแนนอันดับต้นๆ

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นไม่ใช่เรื่องน่าห่วงอะไร เพราะเฉินซานกั๋วกล่าวว่าครอบครัวของนางได้ทิ้งทรัพย์สินไว้ให้อยู่บ้าง เดิมทีนางก็มิได้มาจากสกุลที่ลำบาก ทว่าเพลิงไหม้ในคราวนั้นทำให้ไม่เหลืออะไรไว้ให้คนที่ยังอยู่รอดนัก

สาเหตุที่ทำให้หลิวซืออิงเรียนไม่เก่ง ก็เพราะความทรงจำที่ซ่อนอยู่มักจะย้อนกลับมาทำร้าย หากวันใดอากาศหนาวจัดขึ้นมา นางก็จะฝันร้าย อาจถึงขั้นป่วยไข้ และไม่สามารถเพ่งความสนใจให้กับสิ่งใดได้อีกหลายวัน

ในวันที่ครอบครัวของนางถูกฆ่ายกตระกูล

วันนั้นอากาศหนาวเหน็บยิ่งนัก

พอเติบใหญ่พอจะอธิบายความรู้สึกของตนได้ เฉินซานกั๋วก็ได้ว่าจ้างหมอยามารักษาเด็กสาวที่รักใคร่เอ็นดูเสมือนเลือดในอก ปรากฏว่าอาการของหลิวซืออิงคืออาการทางใจ ทำได้เพียงระวังตัวมิให้ต้องรู้สึกหนาวจนเกินไปก็ใช้ได้แล้ว

ผ่านไปได้ครึ่งชั่วยาม สาวน้อยอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ พร้อมด้วยสหายสนิทก็เดินทางไปยังร้านขายเครื่องประดับและของหายากอันเป็นที่นิยมที่สุดของเมืองเซียงไห่

แม้ใกล้จะถึงเวลาปิดร้านเต็มทีแล้ว ทว่าก็ยังคงมีลูกค้าหนาแน่น และเหล่าลูกค้าที่ว่าล้วนเป็นสตรีที่มีความงาม กลิ่นน้ำหอมคละคลุ้งจนหายใจลำบาก

เสียงหัวเราะน่าฟังดังออกมาจากร้านค้าขนาดเล็ก เมื่อชะเง้อคอดูก็พบว่าเจ้าของเสียงนั้นคือชายร่างสูง หลิวซืออิงมั่นใจแล้วว่านางเคยพบเขามาก่อน ทั้งเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

เขาคือชายท่าทางเจ้าชู้ที่ชักชวนนางให้ร่วมโต๊ะอาหาร และชายคนนั้นคือคุณชายเฉินซัวเหยียน เสือร้ายแห่งเมืองเซียงฉวน!

ซึ่งบัดนี้กลายเป็นพ่อค้าโจว เสือร้ายแห่งเมืองเซียงไห่!

“ข้ามีปิ่นหยกที่แกะสลักด้วยตนเอง เพิ่งจะทำแล้วเสร็จเรียบร้อยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่พอมองดูแล้วกลับเห็นว่าไม่มีผู้ใดเหมาะสมกับมัน นอกจากแม่นางหลี่” วาจาของพ่อค้าทั้งล่อลวงและหยอกเย้ามากถึงเพียงนี้ มีหรือสาวสวยที่ฟังอยู่จะไม่ใจอ่อน

“ปิ่นชิ้นนี้ดูมีราคาแพง พ่อค้าโจวจะกำหนดราคาสักเท่าไหร่”

“คิดยากเหลือเกิน คงต้องรบกวนแม่นางหลี่คิดให้เสียแล้ว”

หลิวซืออิงตกใจกับคำหวานของพ่อค้าโจว และตกใจยิ่งกว่าเมื่อแม่นางหลี่ผู้นั้นเสนอราคาที่มากกว่าเงินที่นางใช้จ่ายตลอดทั้งเดือนเสียอีก หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้อง จำนวนเงินนั่นมากกว่าเงินที่หลิวซืออิงใช้ในเวลาสามเดือน!

หลังจากส่งสาวงามกลุ่มนั้นออกจากร้านแล้ว พ่อค้าขายเครื่องประดับก็แขวนป้ายหน้าร้าน บอกว่าวันนี้จะไม่รับลูกค้าอีก ทว่าเขาก็เร่งก้าวเท้าออกมาต้องรับหยางตงฉวนทันทีที่ถูกเคาะเรียก

“คนของสำนักศึกษาชงหยวนใช่หรือไม่”

“ใช่แล้ว เป็นคนของสำนักศึกษาชงหยวน” หลิวซืออิงชิงตอบ มั่นใจแล้วว่านี่คือคุณชายที่นางกำลังตามหา ใบหน้าของเขาแตกต่างจากรูปภาพที่แขวนอยู่ในห้องนอนของฮูหยินเฉินไม่มากนัก

เฉินซัวเหยียน หรือบุรุษที่คนทั่วเมืองเซียงไห่รู้จักกันในนามพ่อค้าโจว มองสาวน้อยที่เขาพบเมื่อช่วงบ่ายด้วยความยินดี นางมีลักษณะบางอย่างที่ทำให้เขาต้องตาต้องใจ จนเผลอหว่านเสน่ห์โดยไม่จำเป็น เขาผายมือเชิญคนทั้งสองเข้าไปในร้าน ก่อนจะลงกลอนแน่นหนา ปิดม่านบังตาเพราะไม่ต้องการให้ผู้ใดเข้ามารบกวน

“เหมยซืออิงรบกวนคุณชายแล้ว” หลิวซืออิงไม่แน่ใจว่าคุณชายจะจำเด็กน้อยที่ย้ายเข้าบ้านจิ้นฝูเมื่อสิบสามปีก่อนได้หรือไม่ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel