บท
ตั้งค่า

บทที่ 11

หลิวซืออิงจำต้องก้าวขากลับเข้าห้องพักไป มือน้อยๆ ทาบอกของตน คล้ายจะสั่งให้หัวใจหยุดเต้นแรงเสียที

เสียงประตูร้านปิดลง ตามด้วยเสียงลั่นกลอน หลิวซืออิงได้ยินดังนั้นจึงรีบออกจากห้อง เดาผิดไปว่าคุณชายคงไม่เห็นนางเข้ามาในร้านขายเครื่องประดับเพราะกำลังยุ่งอยู่กับลูกค้า และอาจจะขังนางไว้ที่ร้านเพียงลำพัง

ทว่านางยังมิทันจะก้าวขาออกจากห้องพักเล็กๆ กลับถูกเขาขวางเอาไว้เสียก่อน เฉินซัวเหยียนยิ้มจางๆ มิใช่ยิ้มกว้างอวดฟันสวยเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ร่างสูงเบียดนางกลับเข้าห้อง และปิดประตูลงกลอนตามอย่างแน่นหนา

“ท่านจะทำอะไร”

“ลงโทษคนชอบแอบดู” เฉินซัวเหยียนเบียดนางจนชนโต๊ะบัญชี ขยับตัวไปไหนไม่ได้อีก

“ข้ามิได้ตั้งใจจะแอบดู หว่านฉินพาข้ามาหลบลมหนาวที่นี่ อีกสักครู่นางก็คงจะมารับ”

“อย่างไรเจ้าก็ผิด เจ้าแอบดูข้า”

“ซืออิงไม่ได้ตั้งใจ คุณชายโปรดให้อภัยด้วย”

นางกล่าวเสียงสั่น นึกถึงคำของหยางตงฉวนว่าคุณชายผู้นี้เปรียบเสมือนเสือร้ายมากกว่าแกะดำ และหากไม่ระวัง หลิวซืออิงเองก็อาจจะกลายเป็นเหยื่อ

“อย่างไรก็ต้องลงโทษ”

เฉินซัวเหยียนคว้าร่างของนางมาแนบชิด ก่อนจะทาบทับริมฝีปากตนลงบนริมฝีปากที่นุ่มและหอมหวานราวกับน้ำตาลปั้น ความสงสัยทำให้เขาสอดลิ้นควานหาความจริงว่านางเคยมีประสบการณ์เรื่องพวกนี้บ้างหรือไม่

นางเคยมีประสบการณ์กับหนุ่มน้อยหน้าใสนั่นหรือไม่

ทำเพียงเท่านั้นก็สรุปความได้แล้วว่านางยังมิเคย ทว่าเฉินซัวเหยียนกลับยังไม่ยอมหยุด ขบเม้มริมฝีปากอาจารย์โฉมงามอย่างคนไม่รู้จักพอ มือน้อยๆ แข็งทื่ออยู่บนอกกว้าง คล้ายต้องการดันออก แต่ว่าคงหมดเรี่ยวแรง หรือไม่ก็แค่ป้องกันมิให้เขาล่วงล้ำเนินเนื้อเต่งตึงที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้ามิดชิด

คิดเพียงเท่านั้นก็อยากจะรุกนางให้หนักยิ่งกว่าเดิม!

เสือร้ายสองเมืองไม่ได้ชิมเนื้อกวางเนื้อแกะมาเสียหลายวัน จึงตัดใจจะชิมเนื้อกระต่ายเอาในวันนี้ แต่พอสัมผัสมือของนาง เขากลับต้องรีบถอดเขี้ยวถอดเล็บเป็นการชั่วคราว

หลิวซืออิงยามนี้กลัวจนมิได้สติ มือของนางเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง ตัวหรือก็นิ่งราวกับท่อนไม้ ทว่าดวงตากลับปิดสนิทและมีน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย นางยืนนิ่งอยู่เช่นนั้นเนิ่นนาน

“ปล่อยข้าไปเถิด”

หลิวซืออิงกล่าวเสียงสั่น ภาพดาบยาวพาดคอปรากฏขึ้นในความทรงจำ ความกลัวและอากาศหนาวทำให้ภาพที่ฝังลึกถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง

“ซืออิง เจ้าเป็นอะไรไป” เฉินซัวเหยียนเองก็ตกใจมิแพ้กัน

“อย่าฆ่าข้าเลย ปล่อยข้าไปเถิด” ซืออิงอยากพูดประโยคนี้กับคนร้าย แต่นางในวัยเยาว์กลับทำได้เพียงร้องไห้เสียงดัง

“ซืออิง เจ้าตื่นเดี๋ยวนี้!”

เฉินซัวเหยียนมั่นใจแล้วว่านางหลุดเข้าไปในภวังค์ของความกลัว โดยมีเขาเป็นสาเหตุ มือเรียวไวเท่ากับความคิด เร่งตักน้ำมาประพรมใบหน้าของนางเพื่อเรียกสติ และเมื่อยังไม่ได้ผล จึงสาดเข้าไปเสียจนหมดถ้วย

“ซืออิง!” เฉินซัวเหยียนตะโกนออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเห็นนางสะบัดหน้าอย่างแรง

“คุณชายโจว” นางเอ่ยเรียกขณะใช้แขนเสื้อเช็ดใบหน้าเปียกชื้น พยายามนึกว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ข้าเพียงแกล้งเจ้าเล่นเท่านั้น แต่อยู่ๆ เจ้ากลับยืนนิ่งตัวแข็ง มือไม้เย็นเฉียบ ไม่พูดไม่จา” พูดจบก็คว้าเอามือนางเข้ามาสัมผัส ปรากฏว่าอุ่นขึ้นมาบ้างแล้ว

“อากาศคงจะหนาวมากไปสักหน่อย ข้ามักจะไม่ค่อยสบาย หากต้องพบเจอกับอากาศเช่นนี้”

นางดึงมือของตนออกจากคุณชายอย่างสุภาพ แม้ว่ามือของเขาจะช่วยให้นางรู้สึกอุ่น ทว่าก็มิใช่เรื่องเหมาะสมที่จะปล่อยให้บุรุษมาจับมือถือแขน

“เจ้าเป็นเช่นนี้บ่อยหรือไม่”

“คุณชายไม่ต้องเป็นห่วง ปกติข้าดูแลป้องกันตนเองอย่างดี นึกไม่นึกว่าวันนี้จะประมาท มิได้สวมเสื้อคลุมกันหนาวจนเป็นเหตุให้อาการป่วยกลับมาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง”

“เจ้าไม่สบาย เป็นอะไรหรือ”

“ข้าเพียงแค่ไม่ถูกกับอากาศหนาวเท่านั้น” หลิวซืออิงหันไปให้ความสนใจกับลูกศิษย์ที่เคาะประตูเรียกเสียงดัง ในมือของโจว หว่านฉินถือเตาอุ่นมือที่อาจารย์อยากได้

“คุณชาย เมื่อครู่ข้าพอจำได้ว่าท่านทำท่าขู่จะล่วงเกินกัน หากท่านมีความต้องการนักก็ควรจะไปยังหอโคมเขียว เพ่ยเพ่ยผู้นั้นคงจะยินดีอย่างยิ่งที่ได้ดูแลท่าน และถ้าหากคุณชายคิดแตะต้องข้าแม้เพียงปลายก้อย ข้าก็จะตัดมือของท่านเสีย”

หลิวซืออิงขู่ทั้งที่ยังยิ้ม ก่อนจะออกไปหาโจวหว่านฉินผู้เป็นลูกศิษย์ เอ่ยชมนางเสียยกใหญ่เรื่องมีน้ำใจและนึกถึงผู้อื่น

“ซืออิง” เฉินซัวเหยียนรั้งตัวนางเอาไว้ ก่อนจะหยิบเอาเสื้อคลุมของตนมาทาบทับบริเวณหัวไหล่อย่างสุภาพ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel