บทที่ 7 จวนอ๋อง
บทที่ 7 จวนอ๋อง
เช้าวันต่อมา ผู้คนต่างโจษจันท์กันสนุกปาก เมื่อเห็นว่าที่ด้านหน้าสำนักร้อยบุปผายามนี้มีทหารประจำการอย่างเข้มงวด หน้าสำนักถูกปิดประตูแน่นหนา มีป้ายเขียนเอาไว้ว่าปิดทำการชั่วคราว ผู้คนต่างเล่าลือกันว่า เมื่อวานนี้มีเชื้อพระวงศ์มาที่สำนักร้อยบุปผา แล้วคนในสำนักร้อยบุปผาเกิดทำสิ่งใดล่วงเกินเชื่อพระวงศ์เข้า จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
มีทั้งคนเสียดายและคนที่สมน้ำหน้าปะปนกันไป
ด้านในสำนักร้อยบุปผายามนี้ ฟางเทียนอวี้ที่ใบหน้ามีแต่ผดผื่นแดงขึ้นเต็มไปหมด กำลังจ้องมองเซียวเหมยลี่อย่างดุดัน
"ท่านอ๋องขออภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ บุตรสาวกระหม่อมไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินพระองค์เลยแม้แต่น้อย!!!"
"ไม่ตั้งใจหรือ เจ้าแหกตาดูหน้าข้าสิ!!!"
"ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย!! เซียวเหมยลี่รีบร้องขอความเมตาจากท่านอ๋องเร็วเข้า!!"
ฟางเทียนอวี้หรี่ตามองเซียวเหมยลี่คราหนึ่งก่อนจะครุ่นคิดในใจ ชื่อนางก็เพราะดีแต่สกปรกไปเสียหน่อยแล้วยังทำให้หน้าเขาเป็นเช่นนี้อีกด้วย!!
เซียวเหมยลี่ที่นั่งคุกเข่าก้มหน้าในยามนี้กำลังถูกมารดาของนางถลึงตาใส่อย่างดุดัน โทษฐานที่นางทำเรื่องไม่เหมาะไม่ควร แทนที่นางจะถามอิงเย่ว์ในสิ่งที่ไม่รู้ แต่กลับจัดการทำเองอย่างถือวิสาสะจนนำพาความเดือดร้อนมาให้สำนักร้อยบุปผา
"หึ ข้าขอถามเจ้า ว่าที่นี่มีวิธีรักษาตุ่มบ้านี่บนหน้าของข้าหรือไม่!!!"
"มีพ่ะย่ะค่ะ!!"
"ไปเอามา!!!"
"เอ่อ ทูลท่านอ๋อง ผื่นนี้เกิดจากสมุนไพรที่ผสมกันผิดแขนง ทำให้เกิดเป็นพิษต่อร่างกาย วิธีแก้คือต้องใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็นไปรักษาเป็นเวลาสิบวัน จึงจะหายดีพ่ะย่ะค่ะ หากร่างกายแข็งแรงก็อาจจะหายเร็วกว่าสิบวันพ่ะย่ะค่ะ"
"เช่นนั้นเจ้าก็ไปทำยาแก้มาให้ข้า"
"ท่านอ๋อง ยาแก้ต้องปรุงขึ้นมาและใช้ทันที กระหม่อมจะขอติดตามท่านอ๋องไปที่จวน เพื่อปรุงยาแก้พ่ะย่ะค่ะ"
"เช่นนั้นก็ให้นางไป"
"เอ๋!"
"ให้บุตรสาวเจ้าไป เขียนวิธีให้นาง นางทำก็ต้องให้นางเป็นคนแก้!!"
"แต่ว่าท่านอ๋อง!!"
"ไม่ได้หรือ!ไมได้ก็ประหารทั้งตระกูล!!"
"ตกลงเพคะ หม่อมฉันจะไปเอง!!"
ท้ายที่สุดเซียวเหมยลี่ก็ตกลงที่จะไปด้วยตนเองเพราะว่าไม่ต้องการให้คนในจวนเดือดร้อน บิดาของนางแม้จะไม่สบายใจและไม่มั่นใจในตัวบุตรสาว แต่ก็ทำได้เพียงเขียนเทียบยา สูตรยา และวิธีทำอย่างละเอียด และเน้นย้ำเซียวเหมยลี่ไม่ให้ผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะมองดูบุตรสาวของตนถูกฟางเทียนอวี้ลากตัวกลับจวนอ๋องไปต่อหน้าต่อตา
เมื่อมาถึงที่จวนอ๋องฟางเทียนอวี้ก็บังคับให้นางปรุงยาแก้พิษให้เขาทันที เซียวเหมยลี่ไม่อยากจะถกเถียงกับเขาอีก จึงรีบลงมือทำให้จบๆไปเสีย
เมื่อได้แช่สมุนไพรดับพิษและดื่มยาสมุนไพรบรรเทาอาการตามที่เซียวเหมยลี่ต้มมาให้ ฟางเทียนอวี้รู้สึกว่าอาการคันตามใบหน้าและร่างกายเบาบางลงไม่น้อย หลังจากที่ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ใหม่เรียบร้อยแล้ว เขาก็ออกมานั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างเพื่อให้นางทายาบนใบหน้าให้
เซียวเหมยลี่เปิดตลับยาทาที่ท่านพ่อให้มา ก่อนจะใช้นิ้วเกลี่ยเบาๆและทาลงไปบนใบหน้าของฟางเทียนอวี้
ผิวของหมอนี่มันดีจริงๆ คงจะดูแลตนเองดีมากเลยสิท่า
ฟางเทียนอวี้หรี่ตามองเซียวเหมยลี่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"ข้ารู้ตนเองดีว่าข้าน่ะหล่อเหลามาก เจ้าไม่ต้องมาจ้องข้าเช่นนี้"
เซียวเหมยลี่อยากจะอาเจียนใส่ฟางเทียนอวี้ยิ่งนัก บุรุษผู้นี้หลงตนเองได้อย่างหน้าไม่อาย
เมื่อรู้สึกว่าตุ่มแดงบนใบหน้าเริ่มจางลงไปมากแล้ว ฟางเทียนอวี้ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย เขาจึงหันไปสั่งการพ่อบ้านโจวทันที
"เตรียมห้องเอาไว้ให้นาง ข้าจะให้นางพักอยู่ที่นี่จนกว่าข้าจะหายดี"
"พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง"
เซียวเหมยลี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมามองฟางเทียนอวี้ทันที
"ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่ขออยู่ที่นี่นะเพคะ หม่อมฉันจะกลับจวน แล้วทุกวันจะมาปรุงยาให้พระองค์ตรงตามเวลา.."
"หุบปาก!!ความจริงแล้วโทษของเจ้าเท่ากับลอบปลงพระชนม์เชื้อพระวงศ์ด้วยซ้ำ แต่เพราะใจข้ามันหล่อเหลาเหมือนหน้าตาของข้า ข้าจึงเวทนาเจ้า เช่นนั้นอย่าทำให้ข้าโมโห!!"
คำก็หล่อสองคำก็หล่อ ไม่รู้จักอายปากบ้างหรือไรกัน!!!
ใครสั่งใครสอนให้มั่นหน้าขนาดนั้น!!
เซียวเหมยลี่คร้านจะเถียงกับเขาแล้ว นางจึงยอมพักอยู่ที่นี่ตามคำสั่งของเขา ยามเย็นของวันนั้นบิดามารดาของนางก็ส่งคนนำเสื้อผ้าและของใช้มามอบให้นาง เซียวเหมยลี่เดินเตร็ดเตร่อยู่ในจวนอ๋องพลางกวาดสายตามองไปโดยรอบคราหนึ่ง
ที่จวนอ๋องแห่งนี้ค่อนข้างร่มรื่นไม่น้อย ทุกที่จะมีต้นไม้และดอกไม้ปลูกเอาไว้ทั่วทั้งจวน อีกทั้งสระบัวก็งดงามเป็นอย่างมาก การจัดการก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เซียวเหมยลี่ไม่ได้แปลกใจเท่าใดนัก เพราะดูจากนิสัยของฟางเทียนอวี้แล้ว เขาค่อนข้างเป็นคนเจ้าระเบียบ ในจวนของเขาย่อมเรียบร้อยก็ถือเป็นเรื่องที่ปกติ
คนในจวนอ๋องเองก็เป็นมิตรกับนางไม่น้อย นางจึงไม่ได้รู้สึกลำบากใจอันใดที่จะต้องอยู่ที่นี่
เซียวเหมยลี่เดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งมาเจอกับฟางเทียนอวี้ที่กำลังเดินเล่นเช่นเดียวกัน เขาหันมามองนางคราหนึ่งก่อนจะเอ่ยถาม
"เจ้านี่คงเป็นโรคสอดรู้สอดเห็นสินะ จึงเดินไปทั่วแบบนี้"
เซียวเหมยลี่อยากจะกระโดดตบปากฟางเทียนอวี้ยิ่งนัก เหตุใดเขาจึงปากร้ายได้ถึงเพียงนี้กันนะ
"หม่อมฉันเพียงเห็นว่าจวนของท่านอ๋องสวยดี จึงอยากเดินชมน่ะเพคะ"
"แน่นอนอยู่แล้ว จวนของข้าย่อมต้องงดงามเหมือนเจ้าของเช่นข้า"
"เพคะ หากไม่มีสิ่งใดแล้ว หม่อมฉันขอทูลลา"
"ช้าก่อน"
เซียวเหมยลี่ที่กำลังจะเดินจากไป ต้องหยุดชะงักฝีเท้า ก่อนจะหันมามองฟางเทียนอวี้ด้วยความสงสัย
"มีสิ่งใดอีกหรือเพคะ?"
"ยามดึกห้ามออกมาเดินเพ่นพ่านที่นอกเรือนเด็ดขาด"
"ทำไมหรือเพคะ"
"อย่าสู่รู้ ข้าบอกเจ้าก็จงฟัง!!"
ฟางเทียนอวี้เอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เซียวเหมยลี่จมอยู่กับความสงสัยในคำพูดของเขา