ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก

85.0K · จบแล้ว
องค์หญิงโนเนม
55
บท
15.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะมีดวงกินภรรยา ฟางเทียนอวี้จึงไปทำพิธีปัดเป่าสิ่งไม่ดีที่สำนักร้อยบุปผา สำนักที่ขึ้นชื่อเรื่องการปัดเป่าสิ่งอัปมงคลและยังขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพรชั้นดีทำใหบุรุษและสตรีมีใบหน้าที่หล่อเหลาสวยงาม แต่ทว่าเขากลับได้พบ เซียวเหมยลี่ สตรีผู้ข้ามภพมาอยู่ในร่างของคุณหนูตระกูลเซียว ผู้ถูกเรียกขานว่า ธิดาสวรรค์ แต่นางไม่รู้เรื่องของสำนักร้อยบุปผาจึงทำพิธีมั่วๆให้กับเขา เรื่องราววุ่นวายปนฮาจึงบังเกิด

นิยายจีนโบราณท่านอ๋องแต่งงานสายฟ้าแลบเศรษฐีโรแมนติก18+

บทที่ 1 การพบเจอ

บทที่ 1 การพบเจอ

เมืองหลวงหวงเฉวียน

รัชศกเจิ้งหลงปีที่สิบ

"หลีกทาง ท่านอ๋องมาถึงแล้ว!!!"

เสียงกีบเท้าม้าที่ย่ำลงบนพื้นดินดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทั้งปฐพี กรอปกับเสียงออกคำสั่งให้หลีกทางของเหล่าองค์รักษ์ทำให้เหล่าชาวบ้านที่กำลังเดินสัญจรไปมาบนถนนต้องรีบหลบเข้าข้างทาง พลางมองดูขบวนทหารร่วมแสนนายที่กำลังเดินทางเข้าประตูเมืองหลวง

บนอาชาสีขาวมีบุรุษผู้หนึ่งรูปร่างกำยำ ใบหน้าของเขาคมคายหล่อเหลา ดวงตาเย็นชาราวหิมะแรกของเหมันต์ฤดู จมูกโด่งคมเป็นสัน ริมฝีปากหนาใหญ่ องคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าของเขาช่างหล่อเหลาเสียจนสตรีทั้งเมืองหลวงเฝ้าใฝ่ฝันคะนึงหา

เขาคือ ชินอ๋องฟางเทียนอวี้ น้องชายร่วมมารดาของฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลง ผู้นำทัพกองกำลังทหารนับแสนนาย บุกโจมตีเหล่ากบฏและศัตรูจนแตกพ่ายและยอมศิโรราบ

"โอ๊ย ท่านอ๋องช่างรูปงามยิ่งนัก!!"

"ดูเรือนร่างกำยำนั่นสิ ข้าอยากจะโผเข้าไปกอดเสียเหลือเกิน"

"ให้ตายเถิด!!ข้าอยากจะเป็นสตรีของท่านอ๋องจนจะบ้าตายอยู่แล้ว!!"

เสียงชื่นชมของเหล่าสตรีน้อยใหญ่ดังเซ็งแซ่ขึ้นมาเป็นระยะตลอดทางที่ฟางเทียนอวี้ควบม้าผ่าน เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใดใดออกมา แต่กลับเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง พลางครุ่นคิดในใจ

แน่นอน!!ข้าน่ะหล่อเหลาที่สุดในใต้หล้าแห่งนี้แล้ว

วังหลวง

"น้องรักของข้า เจ้ากลับมาพร้อมชัยชนะอีกแล้ว"

ฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยินดีปรีดา พลางจ้องมองฟางเทียนอวี้ด้วยความรักใคร่ ยามนี้ภายในห้องทรงอักษรมีเพียงเขากับพี่ชายสองคน ฟางเทียนอวี้จึงยกขาขึ้นพาดไปบนโต๊ะอย่างสบายอารมณ์ ฟางเจิ้งหลงเองก็ไม่ได้ถือสา กลับเอ่ยถามน้องชายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

"อาเทียน เจ้าอยากได้สิ่งใดเป็นรางวัล บอกพี่มาเถิด พี่จะให้เจ้าทุกอย่าง"

ฟางเจิ้งหลงยิ้มตาหยีจ้องมองฟางเทียนอวี้อย่างมีความสุข แต่ไหนแต่ไรมาเขากับน้องชายผู้นี้ก็รักใคร่ปรองดองกันมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีมารดาคนเดียวกัน ฟางเทียนอวี้ก็ไม่เคยคิดแย่งชิงบัลลังก์กับเขา อีกทั้งยังปกป้องเมืองหลวงเอาไว้อย่างสุดกำลัง เขาจึงรักน้องชายผู้นี้ยิ่งกว่าใคร

ฟางเทียนอวี้จ้องมองฟางเจิ้งหลง ก่อนจะยิ้มมุมปาก

"ท่านพี่ ข้าอยากได้สมุนไพรบำรุงผิวพรรณ ทั้งภายในและภายนอก"

ฟางเจิ้งหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย

น้องชายคนนี้อะไรก็ดีไปเสียหมด ติดอย่างเดียว สำอางยิ่งกว่าสตรี!!

แม้จะอยู่ในสนามรบตรากตรำสู้รบกับศัตรูไม่ได้หยุดพัก แต่ทว่าฟางเทียนอวี้กลับมีผิวกายที่ขาวสะอาด แม้จะไม่ขาวงดงามเฉกเช่นสตรี แต่ก็ดีกว่าบุรุษในวัยเดียวกันมากนัก

"อาเทียน เจ้าน่ะเป็นบุรุษ จะนำสิ่งของพวกนี้ไปทำไม..."

"ท่านพี่จะไม่ยอมมอบให้ข้าหรือ?"

ฟางเจิ้งหลงเงียบกริบไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพราะรู้จักนิสัยของน้องบัดซบผู้นี้ดี

หากเขาไม่ตามใจ มันก็จะหาข้ออ้างนั่นนี่มาทำให้เขาลำบากใจ!

"เอาเถิด ข้าจะให้คนนำไปส่งให้เจ้าที่จวน"

"ท่านพี่นี่ดีเหลือเกิน"

ดีกับผีน่ะสิ!!!น้องเวร

"อาเทียน ข้าว่าเจ้าถึงวัยที่จะต้องแต่งงานแล้ว ข้าจะหาสตรีที่เหมาะสมให้เจ้าดีหรือไม่?"

ฟางเจิ้งหลงเอ่ยถามฟางเทียนอวี้ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าใดนัก นับแต่ฟางเทียนอวี้ถึงวัยหนุ่ม ได้หมั้นหมายกับสตรีถึงสามคน แต่ยังไม่ทันได้แต่งงานสตรีเหล่านั้นก็ล้มป่วยจนตกตายไปเสียก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้คนจึงเล่าลือกันว่า ฟางเทียนอวี้มีดวงกินภรรยา ทำให้ไม่มีสตรีบ้านไหนอยากจะหมั้นหมายและแต่งงานเข้าจวนอ๋องของเขา

ยิ่งคิดฟางเจิ้งหลงก็ยิ่งกลุ่มใจ ต่างจากฟางเทียนอวี้ที่มีสีหน้าเรียบเฉย

"ท่านพี่จะกังวลไปไย ข้าไม่ใช่องค์รัชทายาทที่จะต้องรีบแต่งงานมีภรรยาสืบทอดตำแหน่งเสียหน่อย"

"ไม่ได้!! เจ้าต้องมีชายสตรีดูแลจัดการเรือนหลัง นี่เป็นธรรมเนียมของราชวงศ์เรา เจ้าต้องรีบแต่งงานก่อนอายุยี่สิบปี เข้าใจหรือไม่?"

"น่าเบื่อ!!!"

"อ้อ!ข้านึกออกแล้ว หลายวันก่อนข้าได้ยินเหล่าขุนนางเล่าลือกันว่า ที่เมืองหลวงเรา มีสำนักร้อยบุปผา เป็นสำนักที่ขึ้นชื่อเรื่องการแก้ไขปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัวคนได้ นี่ๆๆ เจ้าลองไปดูเสียหน่อย"

"ไร้สาระท่านพี่!!!"

"ข้าสั่งให้เจ้าไป!! ไปเถิดน่า หากเจ้าไม่ชอบใจก็ไม่ต้องไปอีก ข้าได้ยินว่าสำนักร้อยบุปผาน่ะมีดีหลายอย่าง ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพรที่บำรุงหน้าตาด้วยนะ ส่วนหนึ่งที่ข้าได้มาก็เพราะมีขุนนางนำมาถวาย ฮองเฮาของข้าก็ใช้อยู่"

ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่งขึ้นมาทันที

เรื่องเกี่ยวกับความหล่อเขาสนใจเป็นอย่างมาก!

ผู้ใดบ้างไม่อยากให้ตนเองหล่อเหลาดูดี

ไปสักรอบก็ได้

เมื่อคิดได้เช่นนั้นฟางเทียนอวี้จึงพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะขอตัวกลับจวนของตนไปในทันที

ยามนี้เป็นช่วงกลางเหมันต์ฤดู หิมะโปรยปรายลงมาเป็นระยะ ฟางเทียนอวี้ควบม้ามาหยุดอยู่ที่ร้านขายสุราชั้นดีร้านหนึ่ง ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า แล้วลงไปซื้อสุรามาเก็บเอาไว้หลายไห เมื่อจ่ายเงินและบอกที่ให้ไปส่งสุราเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้าน ก่อนจะยกจะยื่นมือขึ้นไปรองรับหิมะที่ตกโปรยปรายลงมาบางๆ พลางครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างไปเรื่อยเปื่อย

ในขณะที่เขากำลังยื่นเหม่อลอยคิดบางสิ่งอย่างอย่างโดยไม่ทันระวัง ก็ถูกสตรีผู้หนึ่งชนเข้าอย่างจัง สุราในมือของสตรีนางนั้นหกราดรดเสื้อผ้าของเขาจนเปียกชุ่ม

"ไม่มีตามองหรือ!!!!!"

"ขออภัยเจ้าค่ะ ขออภัยเจ้าค่ะ"

"โว๊ยยยย!!ผีปากบวม!!!"

ฟางเทียนอวี้พลังจะหันไปด่าทอสตรีนางนั้น แต่เมื่อหันไปเขาก็ต้องสะดุ้งโหยง

ให้ตายเถิด!!เหตุใดปากของนางจึงบวมขนาดนั้น!!!

"ปะ ปากเจ้า?"

"ขออภัยด้วยนะคุณชายท่านนี้ บังเอิญข้าโดนผึ้งต่อยปากมาน่ะเจ้าค่ะ เลยรีบหาสุรามาดื่ม เขาว่ามันบรรเทาอาการบวมได้"

ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางมองสตรีตรงหน้าด้วยสายตาที่รังเกียจ

ตำราบทไหนกันบอกว่าสุราลดอาการปากบวมได้!!

แต่ช้าก่อน!นางทำเสื้อผ้าข้าเลอะนี่นา

"เจ้าทำเสื้อข้าเลอะ!!"

"ขออภัยด้วยคุณชาย ข้ามีเงินติดตัวอยู่สามอีแปะ ท่านเอาไปก่อนนะเจ้าคะ ข้าไปละ ข้ารีบ"

"เดี๋ยว!!กลับมานะ!!บัดซบ!!เงินแค่สามอีแปะจะเอาไปทำสิ่งใดได้"

ฟางเทียนอวี้กำลังจะวิ่งตามสตรีนางนั้นไปแต่ก็ต้องหยุดชะงัก

จะวิ่งไม่ได้!!เดี๋ยวความหล่อกระจัดกระจาย

เมื่อคิดได้เช่นนั้นฟางเทียนอวี้จึงสงวนท่าที กระโดดขึ้นไปบนหลังม้ามุ่งหน้ากลับจวนอ๋องทันที

อย่าให้ข้าได้เจอหน้าเจ้าอีกรอบนะ!!สตรีปากบวม