บทที่ 5 พบเจอ
บทที่ 5 พบเจอ
ด้านเซียวเหมยลี่นั้นก็กำลังนั่งแทะเมล็ดแตงโมด้วยความเบื่อหน่าย หลังจากที่ทำพิธีให้ลูกค้าก่อนหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางก็มานั่งเล่นกับอิงเย่ว์ที่โต๊ะรับแขกชั้นล่างของสำนักร้อยบุปผา
"เหมยลี่ อีกเดี๋ยวจะมีลูกค้าอีกหนึ่งคนนะ เจ้าต้องต้อนรับดีดีเล่า ได้ยินว่าเป็นถึงเชื้อพระวงศ์เชียวนะ ชื่อว่าชินอ๋องฟางเทียนอวี้"
อิงเย่ว์ที่กำลังถือจานใส่ขนมมาวางบนโต๊ะ เอ่ยกับเซียวเหมยลี่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เซียวเหมยลี่ยื่นมือไปหยิบขนมในจานมาเคี่ยวจนแก้มตุ้ย ก่อนจะเอ่ยตอบ
"ข้าจำสิ่งใดไม่ได้ เจ้าให้ท่านแม่ข้าทำแทนเถิด ข้ากลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้"
"ได้อย่างไรกัน ยามนี้ท่านป้ากลับจวนไปแล้ว คนที่ทำพิธีนี้ได้ก็มีเพียงเจ้าที่เป็นสตรีคนเดียวในตระกูลเซียว เจ้าต้องตั้งใจนะเหมยลี่"
เซียวเหมยลี่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย บัดซบจริงๆ!!เกิดใหม่ทั้งที จะให้เกิดในร่างคนดีดีไม่ได้หรือไรกัน!!
"เหมยลี่"
"รู้แล้วน่า อย่าบ่นเยอะได้หรือไม่"
"โอะ น่าจะมาถึงแล้ว"
ไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าม้าที่ด้านหน้าสำนักร้อยบุปผา อิงเย่ว์รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินออกไปต้อนรับแขกทันที เซียวเหมยลี่ไม่ได้สนใจสิ่งใดมากนัก นางหยิบจอกสุราติดมือไปด้วย แล้วเดินไปรอที่ชั้นสองทันที
ฟางเทียนอวี้เดินเข้ามาในสำนักร้อยบุปผาพลางสอดส่ายสายตามองดูไปโดยรอบ ที่นี่สมกับเป็นสำนักร้อยบุปผาเสียจริง เพียงก้าวเดินเข้ามาก็เห็นบุปผานานาพรรณประดับประดาทั่วทั้งสำนัก อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของสมุนไพรอีกด้วย
ให้ความรู้สึกสดชื่นดีจริงจริง
"สำนักร้อยบุปผายินดีรับใช้เจ้าค่ะ"
ฟางเทียนอวี้หันไปมองตามเสียง ก่อนจะพบกับสตรีน้อยนางหนึ่ง อายุราวสิบหกปี กำลังเดินออกมาต้อนรับเขาด้วยท่าทีที่นอบน้อม ใบหน้างามแย้มรอยยิ้มที่ชวนมองให้แก่เขา
"ข้าจะมาทำพิธีปัดเป่าสิ่งไม่ดี ก่อนหน้านี้ได้ให้พ่อบ้านมาแจ้งเอาไว้แล้ว"
"อ้อ ชินอ๋องฟางเทียนอวี้ใช่หรือเพคะ"
"อืม"
"เชิญด้านบนเถิดเจ้าค่ะ"
ฟางเทียนอวี้พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสองตามที่อิงเย่ว์บอก เมื่อฟางเทียนอวี้เดินขึ้นไปแล้ว อิงเย่ว์ก็ยกยิ้มเขินอายเล็กน้อย
ตั้งแต่เกิดมานางเพิ่งเคยพบเจอบุรุษที่รูปงามราวเทพสวรรค์เช่นนี้
ท่านอ๋องช่างหล่อเหลาเสียจริง
ฟางเทียนอวี้เดินขึ้นมาที่บนชั้นสอง ก่อนจะพบกับห้องๆหนึ่งที่เขียนติดเอาไว้ว่า ห้องปัดเป่าภัยร้าย เขายื่นจ้องมองหน้าห้องอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผลักประตูให้เปิดออกแล้วก้าวเดินเข้าไปด้านในทันที
"มีผู้ใดอยู่หรือไม่?"
เขาเดินเข้ามาด้านใน ก่อนจะจ้องมองไปโดยรอบ ไม่นานนักก็พบกับสตรีนางหนึ่ง
เซียวเหมยลี่กำลังยกจอกสุราขึ้นดื่ม เมื่อได้ยินเสียงของบุรุษนางจึงรีบหันกลับมามองทันทีก่อนจะ
พรวด!!
นั่นมัน!!!
"เจ้า!!"
"ท่าน!!!"
สุราในปากของเซียวเหมยลี่พ่นออกมาจากปากจนมันกระเด็นไปใส่ใบหน้าของฟางเทียนอวี้เข้าอย่างจัง ฟางเทียนอวี้ยกมือขึ้นเช็ดสุราบนใบหน้า ก่อนจะหันมาจ้องมองเซียวเหมยลี่อย่างโกรธเคืองเขาจำนางได้!!!
สตรีปากบวมนางนั้น!!!
แม้วันนี้ปากนางจะไม่บวมแล้ว แต่เขาก็จำหน้านางได้ขึ้นใจ ผู้ใดที่ทำให้ทุกส่วนบนร่างกายของเขาสกปรกเขาย่อมจำได้ไม่ลืม!!!
เซียวเหมยลี่เองก็ตื่นตระหนกไม่น้อย นั่นมันบุรุษที่นางทำเหล้าหกใส่ แล้วยังนัดเงินสามอีแปะส่งให้อย่างรีบร้อน
เวรกรรมแท้ๆ อะไรดลใจให้มาเจอกันที่นี่วะเนี่ย!!!
ฟางเทียนอวี้ส่งเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะเอ่ยกับเซียวเหมยลี่
"ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เองที่ทำเสื้อผ้าข้าเลอะ เทอะ!! ทำกิจการหลอกคนจนร่ำรวยได้ถึงเพียงนี้ กลับยัดเงินแค่สามอีแปะให้ข้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสื้อผ้าข้ามีราคาขนาดไหน!!!"
เซียวเหมยลี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองฟางเทียนอวี้ขึ้นลงคราหนึ่ง
"ขออภัยด้วยเจ้าค่ะคุณชาย พอดีวันนั้นข้ารีบ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน วันนี้ข้าจ่ายเพิ่มให้ หนึ่งร้อยตำลึงไปเลย"
"เหอะ!!ทีอย่างนี้อวดรวยขึ้นมาเชียว"
"อ้าว!!และจะเอาอย่างไร ห๊ะ!!ข้าผิดที่ทำเสื้อผ้าท่านเลอะเทอะ แต่ข้าก็ยินดีจ่ายนี่!!"
"เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสื้อผ้าชุดนั้นมันมีค่าต่อใจของข้าเพียงใด ข้าใส่ชุดนั้นแล้วรู้สึกว่าหล่อเหลาที่สุด แต่เจ้ากลับทำมันเลอะ!!"
เซียวเหมยลี่กลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะมองฟางเทียนอวี้อย่างพิจารณา
ใบหน้าหล่อเหลา ผิวพรรณก็ดี เสียอย่างเดียวปากร้ายไปหน่อย
"นี่เรียกว่าหล่อแล้วเหรอ?"
ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตาใส่เซียวเหมยลี่อย่างดุดัน
"เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ พูดอีกรอบสิ"
"ข้าถามว่านี่หล่อแล้วเหรอ วันก่อนข้าไปเดินตลาด เห็นหล่อกว่าท่านมีตั้งหลายคน"
บัดซบ!!ผู้ใดกล้าหล่อกว่าข้ากัน!!!
"อย่าปากดี!!ข้าคือชินอ๋องแห่งหวงเฉวียน หากเจ้ากล้าล่วงเกินข้าอีกเพียงคำ ข้าตัดหัวเจ้าแน่!!!"
เซียวเหมยลี่ที่ได้ยินว่าฟางเทียนอวี้เป็นใครก็รีบยกมือขึ้นมาทาบอก ก่อนจะอุทานในใจ ตายแล้ว หมอนี่คือเชื้อพระวงศ์ที่อิงเย่ว์บอกว่าจะมาทำพิธีหรอกหรือ
"โอ๊ยตายแล้ว หม่อมฉันขออภัยเพคะท่านอ๋อง"
"รู้ตัวก็ดี ข้าน่ะหล่อเหลาจิตใจงามไม่ทำร้ายคนโง่อยู่แล้ว"
เซียวเหมยลี่ก้มหน้าลงก่อนจะเบ้ปากคราหนึ่ง แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ฟางเทียนอวี้ ฟางเทียนอวี้จ้องมองเซียวเหมยลี่เช่นกัน ก่อนจะพูดกับนางว่า
"รอยยิ้มเจ้านี่ช่างเสแสร้งจริงๆ"
ความคิดของเซียวเหมยลี่ :ไอ้เวรรรชินอ๋อง