5.เสือผู้หญิง
EP05.เสือผู้หญิง
รุ่งเช้า
ลิษาตื่นขึ้นมาในสภาพตัวรุมๆ ถึงแม้เธอจะกินยาไปตั้งแต่เมื่อวาน แต่ทว่าก็ยังคงเจอพิษไข้เล่นงานอยู่ วันนี้เป็นวันแรกที่เธอต้องฝึกงานเสียด้วย ถ้าหากจะให้ลาตั้งแต่วันแรก มันคงดูไม่ดีแน่ในสายตาของคนอื่น
“อีษา มึงไหวไหมน่ะ” ฝ้ายที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงเอ่ยถามขึ้น วันนี้เธอได้เข้างานช่วงบ่ายเลยไม่รู้จะทำอะไร
“อืม ไหว” ลิษาตอบกลับ ถึงแม้จะกำลังปวดหัวตุบๆอยู่ก็ตามที แต่ถ้าได้อาบน้ำกินข้าวก็คงจะดีขึ้น
“สภาพมึงเหมือนโดนเปิดซิงมาเลยอะอีษา”
“ฮะ….” ลิษาชะงักอยู่หน้าห้องน้ำ สีหน้าซีดเผือดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อโดนเพื่อนพูดจี้จุด ทั้งๆที่ฝ้ายไม่ได้รู้อะไรมาเลย แค่เดาเล่นเท่านั้น
“ทำไมหน้ามึงซีดๆวะ มึงจะไหวเหรอ”
“เปล่า กูไหว อาบน้ำก่อน”
“เออ”
ห้องแต่งตัวพนักงาน….
“ษาทำผมสวยมากเลย” มิ้นเดินมานั่งข้างๆลิษาก่อนจะเอ่ยชม เธอรวบผมไปไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อย ไม่ลืมที่จะเอาดอกไม้มาทาบทับประดับเอาไว้ด้วย
“อยากทำมั้ย”
“หื้ม เราทำทรงนี้ไม่เป็นอะ แค่รวบๆเอาไว้แบบนี้ก็พอแล้ว”มิ้นเอ่ยบอก เธอไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้เท่าไหร่ ก็เลยรวบหางม้าพร้อมกับทัดดอกไม้เอาไว้ที่โคนผมแทน
“เดี๋ยวเราทำให้ ยังพอมีเวลาเหลืออยู่” ลิษาบอกออกไปอย่างใจดี ฟ้าใสที่นั่งอยู่ในห้องเหล่ตามองเพียงครู่ก่อนจะนั่งแต่งหน้าทำผมของตัวเองต่อไป
สามสิบนาทีต่อมา….
“เอาล่ะจ้ะเด็กๆ พี่ไผ่จะแนะนำพี่ๆพนักงานให้รู้จักนะ”
“พี่อ้อม พี่ฝนแล้วก็พี่เบสจะเป็นคนสอนเราเสิร์ฟอาหารในวันนี้จ้า”
“สวัสดีค่ะ” ลิษายกมือไหว้พี่ๆพนักงานตรงหน้าเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ
“งั้นเราเริ่มกันเลยดีกว่า แขกมาจะได้ไปต้อนรับแขกกัน”
ลิษาตั้งใจฟังคำสอนงานจากรุ่นพี่เป็นอย่างดี โชคดีที่อาการไม่สบายของเธอธุเลาลงแล้ว น่าจะเป็นผลมาจากการที่เธออัดยาไปเมื่อเช้า ช่วงเช้าเป็นช่วงของอาหารบุพเฟ่ห์ พนักงานจึงไม่ต้องทำอะไรมากแค่คอยดูแลแขกเผื่อแขกคนอื่นอยากได้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม
“ขอโทษนะครับผมต้องการน้ำส้มเพิ่ม แต่มันหมดแล้ว” แขกฝรั่งคนนึงเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับโชว์แก้วน้ำส้มที่พร่องไปเกือบหมดแก้ว
“เดี๋ยวดิฉันจะแจ้งในครัวให้นะคะ กรุณารอสักครู่นะคะ” เธอยิ้มหวานให้ก่อนจะตอบกลับ
“ครับขอบคุณมาก”
หลังจากนั้นหญิงสาวก็เดินไปบริเวณเคาท์เตอร์บาร์ทันที เพียงจากนั้นไม่นานพีพีก็ยกน้ำส้มคั้นสดโถใหม่มาวางไว้แทนโถเก่า หากเป็นเรื่องใช้แรงงาน ส่วนใหญ่ผู้ชายจะเป็นคนทำมากกว่า
“น้ำส้มมาแล้วนะ” เขาเดินมาสะกิดบอกเธอ
“ขอบใจนะพีพี” ทั้งสองพยักหน้าให้กันอย่างเข้าใจ ลิษาจึงเดินไปกดน้ำส้มแก้วใหม่แล้วเอาไปเสิร์ฟให้แขกด้วยตัวเธอเอง
“น้ำส้มได้แล้วค่ะ”
“โอ้ขอบคุณมากเลยครับ คุณลิษา” แขกหนุ่มยิ้มให้เธอด้วยแววตาเป็นมิตร
ในขณะเดียวกันร่างสูงกำยำของมาร์ตินก็กำลังสาวเท้าเข้ามาในห้องอาหาร เขายืนมองคนตัวเล็กที่สวมยูนิฟอร์มของห้องอาหารอยู่แวบนึง ก่อนจะหันไปสนใจแขกหนุ่มที่กำลังยืนส่งยิ้มให้เธอด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
หึ~เสน่ห์แรงจังนะ!
“สวัสดีค่ะคุณมาร์ติน วันนี้ลงมาด้วยตัวเองเลยเหรอคะ” ไผ่หลิวรีบเข้าไปหาเจ้าของเกาะด้วยสีหน้ายิ้มเเย้ม
ปกติปกรณ์จะเป็นคนจัดการอาหารเช้าให้มาร์ตินเอง น้อยครั้งนักที่เจ้านายหนุ่มจะลงมาที่นี่เพื่อทานอาหารเช้า ลิษาเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอเขาเธอก็ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะไม่อยากเจอคนที่พรากพรหมจรรย์ของตัวเองไป บทรักเมื่อคืนฉายชัดวนเข้ามาในหัวของเธออย่างช่วยไม่ได้ อุส่าห์ลืมๆไปแล้ว เขายังโผล่หน้ามาสะกิดให้เธอนึกถึงอีก
หวังว่าเขาคงจะลืมๆมันไปเหมือนที่เธอออยากลืมนะ!
“อืม จัดโต๊ะให้ผมหน่อย” เขาหันไปบอกผู้จัดการห้องอาหารด้วยสีหน้าราบเรียบ แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่ร่างบางของลิษาไม่วางตา
ในขณะที่อีกคนเบือนหน้าหนีเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พอได้เห็นเธอชัดๆอีกครั้งหนี่ง มาร์ตินก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีกว่าเธอสวยจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อคืนเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นนางงามสาว
“ค่ะคุณมาร์ติน เชิญด้านนี้เลยค่ะ” ไผ่หลิวผายมือให้มาร์ตินเดินไปนั่งโต๊ะประจำของเขาที่เขาชอบนั่ง
“ลิษาตามพี่มาหน่อย” ลิษาทำสีหน้าเลิ่กลักออกมาหลังจากได้ยินไผ่หลิวเรียกให้เธอไปดูแลมาร์ติน
เธอไม่อยากไป!
เธอยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้!
“คะ? ษาเหรอคะ”
“เดี๋ยวฟ้าไปเองค่ะพี่ไผ่” ฟ้าใสที่ยืนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเอ่ยขึ้น ลิษารู้สึกขอบคุณเหลือเกินที่ฟ้าใสเสียสละช่วยชีวิตเธอเอาไว้ จะได้ไม่ต้องไปทนยืนอึดอัดต่อหน้าเขา
ส่วนฟ้าใสก็ได้แต่คิดว่า…..ดีแล้วที่ยัยนี่ไม่อยากไป เธอจะได้มีเวลาทำคะแนนกับมาร์ตินสองต่อสอง
“เอางั้นก็ได้จ๊ะ”
“ฟู่วว”สาวลูกครึ่งเกาหลีถอนหายใจออกมาอย่างโลกอก
เธอรีบเดินไปดูแขกบริเวณอื่นทันที เพราะรับรู้ได้ถึงแรงกดดันจากสายตาของอีกคนที่จ้องมองมายังเธออย่างโจ่งแจ้ง ลิษาพยายามทำงานของเธอต่อไปโดยไม่สนใจตำแหน่งที่มาร์ตินนั่งอยู่ ถึงแม้เธอจะเกร็งอยู่มาก แต่โดยรวมนั้นถือว่าเธอสามารถเก็บอาการประหม่าได้ดีทีเดียว
“สวัสดีค่ะคุณมาร์ติน ต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ” ฟ้าใสพยายามหาเรื่องมาบริการชายหนุ่มอยู่บ่อยครั้ง
มาร์ตินเงยหน้ามามองคนตรงหน้าก่อนจะเลื่อนสายตามองป้ายชื่อของเธอว่าเธอเป็นใคร ถึงได้เดินมาถามไถ่เขาบ่อยครั้งนัก อันที่จริงเขาหงุดหงิดมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าลิษากำลังพยายามหลบหน้าเขาอยู่ ซึ่งนั่นมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัว เอาแต่นั่งจ้องมองไปยังเธอในขณะที่กำลังทานอาหารเช้า
หากเป็นคนอื่นจะพยายามบ่ายเบี่ยงเขาถึงขั้นนี้มั้ยนะ เขาล่ะไม่ชินเลยจริงๆ ปกติจะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา แต่เธอคนนั้นกลับกำลังพยายามวิ่งหนีเขา…..
แปลกคนชะมัด!
“ไม่ล่ะ ฉันอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะ” มาร์ตินตอบกลับอย่างไร้เยื่อใยก่อนจะลุกขี้นแล้วเดินออกไปจากห้องอาหารทันที
ฟ้าใสได้แต่มองตามหลังไปด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ ไหนใครบอกว่าเขาเป็นเพลย์บอยตัวพ่อไง ทำไมถึงไม่มีท่าทางแสดงความสนใจในตัวเธอสักนิด
“ชิ! นึกว่าจะเจ้าชู้กว่านี้ซะอีก” เธอบ่นขมุบขมิบก่อนจะเดินไปเก็บโต๊ะด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
ฝ่ายลิษาเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองไม่อยากเจอเดินออกไปจากบริเวณนี้แล้ว เธอก็รู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก หากเขาอยู่นานกว่านี้มีหวังเธอคงขาดอากาศหายใจตายไปตรงนี้แน่!
เวลาต่อมา…..
มาร์ตินนั่งหมุนปากกาเล่นด้วยอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านอย่างบอกไม่ถูก เชื่อไหม? ตั้งแต่เกิดมาเขาเคยชินกับการมีผู้หญิงล้อมรอบข้างกาย แถมผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ไม่เคยมีใครแสดงท่าทางไม่ชอบเขาเหมือนเธอมาก่อนเลย เขานั่งจ้องเธอนานเกือบๆหนึ่งชั่วโมง แต่เด็กนั่นไม่แม้แต่จะหันมาสนใจเขาเลยสักนิด
ถ้าเป็นคนอื่นที่เคยนอนกับเขาส่วนใหญ่มักจะมาขอขึ้นเตียงกับเขาอีกรอบ ถ้าไม่ติดใจเซ็กส์ของเขา พวกน้้นก็คงติดใจเงิน
แล้วแบบนี้เขาจะหาทางใกล้ชิดเธออีกได้ยังไง หัวใจดวงโตกำลังตีกันยุ่งเหยิง ใจนึงเขาก็รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำผิดกฎ ( เพราะอยากมีอะไรกับพนักงานของตัวเอง ) ส่วนอีกใจมันก็ไม่สามารถลบภาพความอิ่มเอมที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้เลย
เขากำลังติดใจเด็ก!
เเบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน….
“เป็นอะไรครับ” เสียงปกรณ์ดังขึ้นทำให้มาร์ตินได้สติ
นี่เขานั่งเหม่อจนไม่รู้เลยว่าลูกน้องเดินเข้ามาในห้องตอนไหน….
“เปล่า”
“ผมว่าแปลกนะครับ ลงไปห้องอาหารมาเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันขอถามอะไรหน่อย”
“ครับ ถามมาได้เลย”
“ตั้งแต่นายทำงานกับฉันมาเคยมีผู้หญิงคนไหนเมินฉันบ้างไหม” มาร์ตินถามออกไปด้วยความข้องใจ
“ครับ? ลิษาเมินคุณเหรอครับ” ปกรณ์สามารถเดาสิ่งที่มาร์ตินกำลังคิดได้ไม่ยากเลย
มันก็ค่อนข้างแปลกใหม่ที่ได้มาเห็นมาร์ตินในมุมนี้
“นายคิดว่าฉันควรจะทำยังไงหับเด็กนั่นดี” เขาหันมาเผชิญหน้ากับเลขาก่อนจะเอ่ยถามไปงั้น เพราะตอนนี้ในหัวของเขามีคำตอบให้ตัวเองอยู่แล้ว
“ปล่อยเธอไปเถอะครับ เธอเพิ่ง22อยู่เลย”
“เหอะ! ปล่อยไปก็โง่น่ะสิ” เขายังจำกลิ่นตัวหอมกรุ่นของเธอได้อยู่เลย จะให้ปล่อยไปง่ายๆได้ยังไง
“หึ แต่ปกติคุณมาร์ตินไม่กินเด็กนะครับ” ปกรณ์อดแซวขึ้นมาไม่ได้ ดูท่าเจ้านายของเขาจะไปเจอคนที่ทำให้ลืมไม่ลงเสียเเล้ว
เมื่อวานตอนรู้ว่าลูน่าอายุ 25 เขายังบอกว่าเด็กอยู่เลย แต่พอได้ลิ้มลองรสชาติของเด็กอายุ 22 กลับลืมไม่ลงเสียอย่างนั้น
ถึงแม้ปกรณ์จะทำงานกับมาร์ตินมาตั้งเเต่เกาะนี้เปิดตัวขึ้น แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นว่าจะมีผู้หญิงคนไหนที่สามารถทำให้คนเจ้าชู้อย่างมาร์ตินยอมสยบแทบเท้าได้เลย
“แล้วไง พี่ฉันยังมีเมียเด็กทุกคนเลย” มาร์ตินตอบกลับอย่างไม่แยแส เขาเคยมองว่าผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าเขาหลายปี มักจะงี่เง่า เอาแต่ใจ
แต่พอได้มาเจอลิษาเมินเฉยใส่แบบนี้เขากลับมีความคิดที่เปลี่ยนไป
เขาอาจจะเริ่มชอบเด็กขึ้นมาบ้างแล้วก็ได้!
“คนนี้จริงจังเหรอครับ” ปกรณ์เลิ่กคิ้วถาม
“ทำไมฉันต้องจริงจังด้วย นายก็รูัว่าฉันขี้เบื่อจะตาย” ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในความรัก แต่เขาเชื่อมั่นในเรื่องของเซ็กส์มากกว่า
มาร์ตินเป็นผู้ชายที่ถือคติว่าเซ็กส์คือเรื่องสนุก ตั้งแต่เขาแตกเนื้อหนุ่มเป้ากางเกงของเขาก็ไม่เคยแห้งอีกเลย ในเมื่อเราสามารถหาความสนุกไปเรื่อยๆได้ ทำไมเขาจะต้องทนมีอะไรกับคนเพียงคนเดียวด้วย เพราะงั้นเขาถึงไม่เคยจริงจังกับใคร เขาชอบความโสด มันทำให้เขาสามารถไปนอนกับใครก็ได้ ไม่ผิดเลยสักนิด
“เห้อ ผมรอดูวันที่คุณน้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่นะครับ”
“ฝันไปได้เลย ไปเรียกเด็กนั่นให้ขี้นมาพบฉันด้วย” เขาอยากเรียกเธอมาปรับทัศนคติสักหน่อย ดูซิ! จะหลบเขาไปได้อีกนานแค่ไหน
“มันจะไม่ดูโจ่งแจ้งเกินไปเหรอครับ”
“ฉันรู้ว่านายสามารถทำให้มันไม่โจ่งแจ้งได้”
“ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้” ปกรณ์ยอมรับคำอย่างว่าง่าย เพราะนั่นคือหน้าที่ของเขา เลขาหนุ่มทำได้เพียงอวยพรขอให้ลิษาโชคดีสำหรับการเผชิญหน้ากับเสือผู้หญิงอย่างมาร์ติน