บทที่ 1
อคิราห์ใช้สายตาคมกริบพิศมองดวงหน้าจิ้มลิ้มตรงหน้าอย่างพิจารณาเล็กน้อยหลังจากที่หญิงสาวในชุดเดรสลูกไม้สวมสีขาวสวมทับด้วยสูทตัวเล็กสีชมพูหวานเดินเข้ามาพร้อมเอกสารสำหรับสัมภาษณ์งานแล้วก็ให้นึกอยู่ในใจว่า...เขาต้องการเลขามาทำงานไม่ใช่เด็กฝึกงาน...
ไม่แปลกหรอกที่อคิราห์รู้สึกว่าเจ้าหล่อนนั้นดูเด็กเสียเหลือเกินทั้งที่ดูในใบสมัครงานที่ทางฝ่ายบุคคลส่งมาให้แล้วนั้น อายุเธอก็ปาเข้าไปยี่สิบห้าพอดิบพอดี แต่คงเพราะเรือนผมที่ตัดสั้นซอยระต้นคอบวกกับใบหน้าขาวอมชมพูเหมือนผิวเด็กที่แทบจะไม่ต้องตกแต่งด้วยเครื่องสำอางใดๆ ก็สามารถทำให้สะดุดตาได้ไม่ยาก ทำให้เธอดูอ่อนกว่าวัยจนไปมากทีเดียว
“คุณการะบุหนิง ในใบสมัครที่คุณกรอกบอกว่าคุณทำงานอยู่ฝ่ายประสานงานระหว่างประเทศมาก่อน แล้วทำไมถึงได้ลาออกทั้งๆ ที่เงินเดือนก็สูง แต่ถ้าทำงานกับผม เงินเดือนคุณอาจจะไม่ได้สูงเท่านี้” เสียงห้าวเอ่ยถามขณะกวาดสายตาอ่ายประวัติของเธอคร่าวๆ ในใบสมัครงานก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากลมใสที่ยังคงยิ้มหวานได้อย่างคงเส้นคงวาเสียจนคนมองชักจะรู้สึก ‘อึดอัด’ ไม่ได้อึดอัดที่เธอยิ้มให้ แต่ไอ้รอยยิ้มน่ารักๆ นี่ต่างหากที่ทำให้เขารู้สึกวูบวาบแปลกๆ
“คือ...ฉันขอสารภาพว่าฉันมีปัญหากับหัวหน้างานนิดหน่อยน่ะค่ะ แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่เกินจะรับได้ก็เลยตัดสินใจลาออก” หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยแต่มั่นคงในความคิดของตัวเอง ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะเจื่อนลงไปเล็กน้อยเมื่ออคิราห์ย้อนถามกลับด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า คุณพร้อมจะลาออกจากที่ทำงานได้ทุกเมื่อถ้าหัวหน้างานทำอะไรให้คุณไม่พอใจ อย่างเช่นว่า ถ้าผมใช้งานคุณหนักจนคุณรู้สึกว่ามันไม่คุ้มกับเงินเดือนคุณก็พร้อมจะลาออก หรือถ้าผมจู้จี้หยุมหยิมกับคุณมากเกินไป คุณก็พร้อมจะลาออก อย่างนี้หรือเปล่าครับ”
ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ แฮะ...การะบุหนิงคิดอยู่ในใจ...เล่นซะเธอรู้สึกเหมือนถูกจับผลักไปให้รถทับกลางสี่แยกเลยทีเดียว ถึงว่าสิยัยมิ่งโกมุทเพื่อนรักถึงได้ย้ำเตือนเธอนักว่าให้ระวังเขาให้ดี...
“ถ้าเป็นเรื่องงานจริงๆ ฉันจะหนักจะเบาฉันก็ทนได้ค่ะ อย่างที่คุณรู้ว่าสมัยนี้จะหางานทำมันก็ลำบาก ฉันคงไม่ทำร้ายตัวเองที่จะลาออกเพียงเพราะงานหนักหรือเจ้านายจู้จี้แน่นอนค่ะ”
“งั้นผมขอถามถึงเหตุผลที่คุณลาออกจากที่นั่นได้มั้ยครับ” อคิราห์รุกไล่พลางใช้สายตาคมกริบดุจเหยี่ยวจ้องใบหน้าสวยจิ้มลิ้มของหญิงสาวอย่างกดดัน...ความจริงเขาก็ไม่ได้อยากจะโหดร้ายกับเธอนักหรอกนะ แต่เพื่อที่จะคัดกรองคนที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานจริงๆ เขาจำเป็นต้องทำ โดยเฉพาะงานของเขาที่จะต้องคุมคนทั้งบริษัท เขาจำเป็นต้องเฟ้นหาคนที่เหมาะสมและมีความอดทนที่สุด
ชั่วขณะหนึ่งที่ชายหนุ่มได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆ อย่างลำบากใจของหญิงสาวตรงหน้า เจ้าหล่อนมีท่าทีลังเลอย่างชั่งใจว่าควรจะเล่าดีหรือไม่ เรือนร่างแบบบางขยับตัวเพียงนิดเมื่อรู้สึกถึงความกดดันที่ยิ่งเพิ่มขึ้นทุกขณะจากการสัมภาษณ์งาน...ทั้งที่เตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว แต่เขาก็ทำให้เธอรู้สึกอยากลุกออกไปจากห้องนี้อยู่ดี...แต่เมื่อนึกถึงความจำเป็นที่เธอจะต้องเข้าทำงานกับเขาให้ได้ เธอก็จำต้องบอกออกไป แต่ก็ยังต้องคิดหนักอยู่ดีว่าควรจะใช้คำพูดอย่างไรเพื่อไม่ให้ดูเป็นการให้ร้ายกับหัวหน้างานที่เธอเคยร่วมงานด้วย เพราะนั่นมันหมายถึงเขาจะมองเธอติดลบทันที
“มันมีไม่กี่เหตุผลหรอกค่ะที่จะทำให้ผู้หญิงลาออกจากงาน ยกเว้นแต่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะยอมลดคุณค่าและศักดิ์ศรีของตัวเอง”
การะบุหนิงคิดว่าเธอหาคำตอบที่น่าจะชัดเจนที่สุดให้เขาได้แล้ว แล้วก็แอบโล่งอกที่เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่มือหนาจะปิดแฟ้มประวัติของเธอ ดันมันไปไว้ที่มุมโต๊ะทำงาน และหันมาสบตากับเธอตรงๆ
“เอาเป็นว่าผมจะติดต่อกลับไปอีกทีหนึ่งแล้วกันนะครับ สำหรับวันนี้ขอบคุณมากที่สละเวลามาสัมภาษณ์” เพียงประโยคสั้นๆ แต่ก็ทำให้การะบุหนิงใจหล่นไปไม่น้อย เพราะนั่นหมายความว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะรับเธอเข้าทำงานหรือไม่ ทว่าเธอเองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกันนอกจากยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อมที่สุดและหยิบเอกสารที่นำติดตัวมาเดินออกจากห้องทำงานของเขาไปด้วยความเคร่งเครียด