บทที่ 2 (1)
ไนต์คลับชื่อดังถูกสั่งห้ามไม่ให้คนนอกเข้า คงมีแค่เพียงเด็กเสิร์ฟ เหล่าบาร์เทนเดอร์ และหญิงบริการเกรดเอที่ถูกคัดมาเป็นพิเศษเท่านั้นที่สามารถเข้ามาในผับแห่งนี้ได้
แต่หญิงสาวแสนสวยใบหน้าคมเข้ม เรือนร่างสุดเซ็กซี่ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวเจ้าของผับไม่รู้เรื่องการถูกสั่งปิดผับเพื่อเจ้าแห่งทะเลทรายโดยเฉพาะ หญิงสาวเพิ่งเดินทางมาถึงภูเก็ตเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา และอยากมาเซอร์ไพรส์เพื่อนรักจึงมาหาที่ผับโดยไม่ได้บอกเพื่อนไว้ล่วงหน้า
“สวัสดีจ้ะ น้องอั้ม”
อาคิรา หรือ ตะวัน เอ่ยทักทายกับเด็กเสิร์ฟ เมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าผับ ซึ่งเด็กเสิร์ฟเหล่านี้รู้จักคุ้นเคยกับเธอเป็นอย่างดี
เด็กเสิร์ฟผู้เป็นเจ้าของชื่อจ้องมองอาคิราอยู่ครู่หนึ่ง พอจำได้ว่าเป็นใครก็รีบทักทายกลับในทันที “สวัสดีค่ะคุณตะวัน ไม่ได้เจอคุณตะวันแค่ไม่กี่เดือน อั้มจำคุณตะวันแทบไม่ได้”
อาคิราคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะสัพยอกกลั้วเสียงหัวเราะ “พี่ขี้เหร่มากจนน้องอั้มจำไม่ได้เลยหรือจ๊ะ”
เด็กเสิร์ฟรีบส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับโปรยยาหอมใส่อย่างเอาอกเอาใจ “ใครว่าล่ะคะ คุณตะวันสวยขึ้นจนอั้มจำไม่ได้ต่างหากค่ะ”
อาคิราหัวเราะกับความปากหวานของเด็กเสิร์ฟ ก่อนจะถามหาเพื่อนรักของเธอ “ตอนนี้คุณใบเฟิร์นอยู่ในห้องทำงานหรือเปล่า”
“อยู่ค่ะคุณตะวัน แต่คุณใบเฟิร์นยุ่งมากเลยค่ะ คุณตะวันจะให้อั้มไปเรียกคุณใบเฟิร์นมาพบไหมคะ”
พอได้ยินเด็กเสิร์ฟบอกเช่นนั้น อาคิราก็รีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ไม่อยากรบกวนเวลาทำงานของเพื่อน เพราะยังไงๆ คืนนี้เธอก็ตั้งใจว่าจะปักหลักอยู่ในผับของเพื่อนรักตลอดทั้งคืน
“ไม่ต้องหรอกอั้ม อย่าเพิ่งไปรบกวนคุณใบเฟิร์นเลย เอาไว้พี่พบกับคุณใบเฟิร์นตอนเธอออกมาดูแลแขกในร้านก็ได้”
เอ่ยบอกไปแล้ว อาคิราก็ก้าวเท้าเข้าไปในผับ พอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาเล็ก ซึ่งวางอยู่แทบทุกมุมของผับ ก็เอ่ยถามเด็กเสิร์ฟต่อด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
“ทำไมวันนี้เงียบจังเลย ไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลยหรืออั้ม”
พออาคิราเอ่ยถาม เด็กเสิร์ฟร่างเล็กอย่างอั้มก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย เพราะนึกขึ้นมาได้ในทันทีว่าวันนี้ เจ้านายของเธอสั่งให้ปิดผับ งดรับคนนอกเข้ามาเที่ยว
“แย่แล้วคุณตะวัน อั้มลืมเสียสนิทเลยค่ะ”
“อะไรจ๊ะอั้ม” อาคิราถามอย่างงุนงงกับท่าทีของเด็กเสิร์ฟที่ร้องออกมาเสียงดัง
“คือคุณใบเฟิร์นสั่งให้ปิดผับ งดรับแขกจากข้างนอก เพราะว่ามีคนเหมาผับของเราในคืนนี้นะคะ”
“ใครหรือใบเฟิร์น ท่าทางจะรวยน่าดู ถึงกล้าเหมาผับของคุณใบเฟิร์น”
อาคิราเอ่ยถามด้วยความสงสัย อยากรู้ว่าใครกันที่กล้าเหมาผับแห่งนี้ ซึ่งเป็นผับมีระดับ หรูหรา และสร้างรายได้ต่อคืน ให้กับผู้เป็นเจ้าของผับในหลักแสนขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าคนที่สามารถเหมาผับของเพื่อนรักของเธอได้ คงมีฐานะการเงินที่เข้าขั้นมหาเศรษฐี
อั้มส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ พร้อมกับตอบว่า “อั้มก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ คุณใบเฟิร์นสั่งไว้เพียงเท่านี้นะคะ”
“แล้วคุณใบเฟิร์นสั่งห้ามไม่ให้คนนอกเข้าเลยหรือ” อาคิราถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง
“ค่ะ คุณตะวัน มีคำสั่งจากคนที่เหมาผับว่าห้ามแขกคนอื่นๆ เข้าในผับ นอกจากแขกวีไอพีที่มีบัตรเชิญแล้ว คนที่เข้าได้ก็มีเด็กเสิร์ฟ และพวกสาวๆ ที่ถูกคัดเลือกให้มาบริการในคืนนี้ค่ะ”
“ห้ามถึงเพียงนี้เลยหรือนี่” อาคิราบ่นงึมงำอยู่ในลำคอ ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ “เขาห้ามคนนอกเข้า แต่ไม่ได้ห้ามคนในอย่างฉัน ฉันเป็นเพื่อนคุณใบเฟิร์น คงไม่เป็นไร หากจะนั่งดื่มอยู่ในผับสักสองสามชั่วโมง”
ใจจริงแล้ว อาคิราไม่ได้คิดจะอยู่ในผับแค่สองสามชั่วโมงตามที่บอกออกไป เธอต้องการมาดื่มเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้คลายจากความเครียด และตั้งใจจะอยู่คุยกับเพื่อนรักจนกว่าผับจะปิดให้บริการ แต่กระนั้นก็ไม่ปริปากบอกความจริงกับเด็กเสิร์ฟ
อั้มตีสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับกำลังตัดสินใจ พลางเอ่ยตอบออกมาอย่างเกรงใจ “คงได้มั้งค่ะคุณตะวัน ถ้าเอ่อ...คุณตะวันไม่ไปยุ่งกับพวกเขา”
อาคิราหัวเราะออกมาเบาๆ กับคำพูดในตอนท้ายของเด็กเสิร์ฟคนนี้ “พี่ไม่ไปยุ่งกับพวกเสือ สิงห์ ที่มาท่องราตรีในคืนนี้หรอก พี่แค่อยากนั่งจิบอะไรเย็นๆ คนเดียวเท่านั้น”
“ถ้ายังงั้นอั้มจะไปบอกให้บาร์เทนเดอร์ชงเครื่องดื่มมาให้คุณตะวัน อีกห้านาที แขกก็จะเดินทางมาถึงแล้ว เดี๋ยวอั้มขอไปต้อนรับแขกที่หน้าผับก่อนนะคะ”
อาคิราพยักหน้ารับโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา ดวงตากลมโตจ้องมองตามอั้มที่รีบก้าวเดินไปยืนอยู่หน้าผับ หญิงสาวรอไม่นาน เครื่องดื่มเย็นๆ มีแอลกอฮอล์อ่อนๆ ที่เธอมักจะสั่งทุกครั้งเวลามานั่งดื่มในผับแห่งนี้ ก็ถูกนำมาเสิร์ฟอยู่ตรง
หน้า และด้วยนั่งหันหน้าเข้าหาทางเข้าผับพอดี หญิงสาวจึงเห็นว่าตอนนี้บริเวณด้านหน้าผับเริ่มมีนักท่องราตรีเดินมายื่นบัตรเพื่อขอเข้ามาภายในผับแห่งนี้แล้ว
“ท่าทางจะเข้มงวดน่าดู ถึงต้องตรวจบัตรละเอียดซะขนาดนั้น”
อาคิราพึมพำอยู่คนเดียว ขณะทอดสายตามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าผับ เห็นได้ชัดว่าคนที่เหมาผับแห่งนี้คงเป็นคนสำคัญ ถึงต้องมีการตรวจตรานักท่องเที่ยวทุกคนก่อนจะเข้ามาในผับ
แต่ก็ช่างเถอะ! ใครจะทำอะไร จะเป็นยังไงเธอไม่สนใจทั้งนั้น แค่ปัญหาอันหนักอึ้งอยู่ในหัวสมอง ซึ่งหาทางแก้ไขยังไม่ได้ จนต้องหนีมาภูเก็ตก็หนักหนาสำหรับเธอมากอยู่แล้ว ตอนนี้เธอไม่อยากคิดเรื่องของคนอื่นให้รกหัวสมอง
‘ตะวันต้องแต่งงานเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ’
“ฮึ! แต่งงานเพื่อใช้หนี้ เป็นเมียขัดดอกให้กับคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับปู่ มันช่างตลกสิ้นดี”
หญิงสาวเค้นเสียงเยาะหยันโชคชะตาของตัวเอง เมื่อคำสั่งบางประโยคของบิดาแล่นเข้าสู่โสตประสาท แต่งงานเพื่อขัดดอก สิ่งเหล่านี้เธอเคยได้ยินแต่ในนิยาย ทว่าไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเจอกับตัวเองในวันนี้
“ต่อให้ต้องตาย ตะวันก็ไม่มีทางทำตามคำสั่งของคุณพ่อ”
อาคิราต้องการให้คำพูดประโยคเหล่านี้ลอยไปถึงผู้เป็นบิดาเหลือเกิน แต่เพราะทุกอย่างไม่เป็นดั่งที่ใจต้องการ เธอทะเลาะกับบิดาจนบ้านแทบพัง สุดท้ายก็ต้องเผ่นหนีมาสงบสติอารมณ์ที่นี่ และมาหาเพื่อนรักเพื่อขอคำปรึกษาด้วย
อาคิรานั่งจิบเครื่องดื่ม ตกอยู่ในความคิดคนเดียวเงียบๆ พยายามนึกคิดว่าบิดาไปติดหนี้ติดสินคนแก่คราวปู่ ที่เธอรู้จักแค่เพียงชื่อว่า อลงกต ได้อย่างไร จึงต้องหาวิธีโละหนี้ด้วยการขายเธอ จนไม่รู้เลยว่าตอนนี้บรรยากาศภายในผับเริ่มครึกครื้น มีเสียงพูดคุยกันดังเซ็งแซ่ขึ้นทุกขณะ อีกทั้งยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้บรรดาเสือราตรีหลายคน ต่างก็จ้องมองเธอด้วยความสนใจ สายตาเต็มไปด้วยความหิวกระหาย
แล้วจู่ๆ เสียงพูดคุยกัน เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นแข่งกับเสียงเพลงเปิดดังกระหึ่ม ก็มีอันต้องเงียบลง ดวงไฟหลากสีหลายดวงที่เปิดส่องเป็นไฟหมุนอยู่ทั่วผับ ตอนนี้ได้สาดส่องไปยังตัวบุรุษหนุ่มหน้าตาคมเข้มหล่อเหลาระดับนายแบบแถวหน้า ซึ่งกำลังเดินเข้ามาภายในผับด้วยท่วงท่าองอาจ รัศมีของความน่าเกรงขามแผ่ซ่านอยู่รอบตัวบุรุษผู้นี้ จนอาคิราอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาคือใครกัน
นอกจากดวงไฟที่จับจ้องไปยังบุรุษผู้นี้แล้ว บรรดาสาวๆ ที่ถูกเรียกมาให้บริการในคืนนี้ รวมทั้งแขกที่ได้รับเชิญ ต่างก็หันไปมอง ให้ความสำคัญกับบุรุษผู้หล่อเหลาเป็นจุดเดียวกัน
“เปิดตัวได้ยิ่งใหญ่ราวกับเจ้าพ่อก็ไม่ปาน”
แม้จะมองเห็นหน้าของบุรุษผู้นี้ไม่ชัดนัก กระนั้นอาคิราก็อดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมเพราะความหมั่นไส้
“คนนี้หรือเปล่า ที่เหมาผับในคืนนี้ ใบเฟิร์นถึงต้องออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง”
อาคิราเอ่ยถามอยู่คนเดียว ขณะทอดสายตามองเพื่อนสาวที่รีบเอาดอกไม้ไปบุรุษผู้นั้นด้วยท่าทีนอบน้อม หญิงสาวจ้องมองการต้อนรับขับสู้คนสำคัญอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เลิกให้ความสนใจชายคนดั่งกล่าว นั่งจิบเครื่องดื่มและใช้ความคิดสำหรับการแก้ปัญหาของตนเองต่อไป โดยไม่รู้เลยว่าการที่เธอไม่ได้ออกไปต้อนรับเหมือนที่สาวๆ คนอื่นกำลังทำอยู่ ได้สร้างความสนใจให้กับเจ้าแห่งทะเลทรายเป็นยิ่งนัก
ชีคอัลมัสเต็มไปด้วยความพึงพอใจเมื่อได้เห็นสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองสละโสดของพระองค์ แม้ผับแห่งนี้จะไม่ได้หรูหราระดับห้าดาวเหมือนในรัฐคาลาห์ซึ่งเป็นผับประจำที่พระองค์มักจะไปผ่อนคลายความเคร่งเครียด ทว่าผับแห่งนี้ก็มองดูสะอาดสะอ้าน กว้างขวาง สมกับเป็นผับดังของหาดภูเก็ต
พันธิสา หรือ ใบเฟิร์น เจ้าของผับนำพวงมาลัยดอกมะลิมาถวายการต้อนรับชีคอัลมัส และขณะย่อตัวยื่นพวงมาลัยให้พระองค์ ก็เอ่ยต้อนรับเสียงสั่นเพราะความน่าเกรงขามของเจ้าแห่งทะเลทรายพระองค์นี้
“เดอะบีชผับยินดีต้อนรับท่านชีคเพคะ”
ชีคอัลมัสเอื้อมพระหัตถ์ไปหยิบพวงมาลัยดอกมะลิหอมชื่นใจมาถือไว้ ก่อนจะถามคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าพระองค์
“ไม่มีคนนอกเข้ามาในผับใช่ไหม”
สุรเสียงห้วนทรงอำนาจที่ตรัสถามออกมา กอปรกับดวงเนตรคมกริบซึ่งจ้องมองเขม็งมายังตัวเธอ ทำเอาพันธิสาหายใจไม่ทั่วท้อง เอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักฟังแทบไม่รู้เรื่อง
“เพ...เพคะ...ไม่มีใครเข้ามาแน่นอน...เพคะ”
ชีคอัลมัสพยักพระพักตร์รับรู้ จากนั้นก็โบกพระหัตถ์ไล่ผู้เป็นเจ้าของผับ พอหญิงสาวเดินออกไปแล้ว ก็กวาดดวงเนตรมองรอบๆ บริเวณผับ และก็สะดุดดวงเนตรกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งนั่งจิบเครื่องดื่มโดยไม่สนใจลุกมาให้การต้อนรับพระองค์เหมือนสาวบริการคนอื่นๆ สร้างความโกรธกริ้วให้กับพระองค์ยิ่งนัก
“ทำไมหญิงบริการคนนั้นไม่มาต้อนรับเรา”
ทรงตรัสถามสุรเสียงห้วนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ดวงเนตรยังจ้องมองไปยังหญิงสาวผู้นั้นเขม็ง ซึ่งพระองค์สามารถมองเห็นแค่เพียงแผ่นหลัง และเส้นผมยาวดำขลับมาเกือบถึงเอวคอดกิ่วของเธอเท่านั้น
องครักษ์มาริสส์รีบทอดสายตามองตามดวงเนตรของเจ้าเหนือหัวที่ยังคงจ้องมองเขม็งไปตรงหน้า พอรู้ว่าพระองค์กำลังจับสายตามองใครอยู่ ก็รีบเอ่ยบอกพร้อมกับทำท่าจะก้าวไปหาผู้หญิงคนนั้น
“เดี๋ยวกระหม่อมจะไปจัดการเธอเองพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้อง มาริสส์” ชีคอัลมัสตรัสห้าม ก่อนจะเค้นสุรเสียงลอดไรฟัน ให้องครักษ์หนุ่มต้องรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ แทนหญิงสาวผู้นั้น
“รับเงินค่าตัวไปแล้ว แต่ลักไก่ไม่ยอมทำหน้าที่บริการแขก เดี๋ยวเราจะเป็นคนสั่งสอนหญิงสาวคนนั้นด้วยตัวของเราเอง”
ตรัสคาดโทษทัณฑ์หญิงสาวที่พระองค์เห็นแค่เพียงแผ่นหลังไปแล้ว ชีคอัลมัสก็หันไปให้ความสนใจกับสหายของพระองค์ ซึ่งต่างก็เข้ามาแสดงความยินดีกับการสละโสดของพระองค์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ปาร์ตี้สละโสดของเจ้าแห่งทะเลทรายผู้ยิ่งใหญ่ ผ่านไปหลายชั่วโมงและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่ใช่ว่าขณะกำลังสำราญอยู่กับงานเลี้ยงและสาวๆ ที่รายล้อมอยู่รอบกาย แล้วชีคอัลมัสจะลืมหญิงสาวที่พระองค์คาดโทษไว้ ดวงเนตรดำขลับเป็นสีนิล คอยจับจ้องมองไปยังหญิงสาวเป็นระยะ รอเวลาอันเหมาะสมที่เจ้าแห่งทะเลทรายจะไปสั่งสอนเธอก็เท่านั้นเอง