บทที่ 1 (2)
องครักษ์มาริสส์เอ่ยแทงใจดำ รู้ดีว่าชีคอัสมัสรักชีวิตความเป็นโสดมากเพียงใด บรรดาสาวๆ ที่เข้ามาพัวผันในชีวิตของพระองค์ก็รู้เรื่องดี มีผู้หญิงหลายคนพยายามสรรหาวิธีผูกมัดเจ้าแห่งทะเลทรายผู้นี้ แต่ก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำสำเร็จแม้แต่รายเดียว
ชีคอัลมัสพยักพระพักตร์รับ กระตุกยิ้มตรงมุมโอษฐ์ ตรัสตอบด้วยสุรเสียงที่บ่งบอกถึงความหยิ่งทะนงตนอย่างที่สุด
“แน่นอน มาริสส์ เราหวงชีวิตโสดของเรามากที่สุด ผู้ชายที่เพียบพร้อมไปทุกอย่างเหมือนเรา ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตไปผูกไว้กับผู้หญิงแค่เพียงคนเดียว”
“แต่กระหม่อมอยากให้พระองค์อภิเษก” องครักษ์มาริสส์ค้านออกมาเบาๆ
และผู้เป็นเจ้าเหนือหัวก็ตรัสถามต่อในทันที สุรเสียงนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจสักเท่าไร เมื่อทรงคิดว่าแม้แต่องครักษ์มาริสส์ก็อยากให้พระองค์อภิเษกกับเจ้าหญิงไลลา
“เจ้าหมายถึงอภิเษกกับเจ้าหญิงไลลายังงั้นหรือ”
“เปล่าพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์มาริสส์ปฏิเสธ ก่อนจะตอบตามที่ตนเองนึกคิด “กระหม่อมหมายถึงอภิเษกกับผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง ที่สามารถช่วยเติมเต็มให้ชีวิตของพระองค์สมบูรณ์มากที่สุด”
ได้ยินคำตอบจากองครักษ์มาริสส์ ผู้เป็นเจ้าหัวเหนือถึงกับยักไหล่ พลางตรัสตอบในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจของพระองค์เอง
“ตอนนี้เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตของเราขาดสิ่งใดไป เรามีพร้อมทุกอย่าง มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ในขณะนี้”
องครักษ์มาริสส์ลอบถอนหายใจ ทอดสายตาจ้องมองเจ้าเหนือหัวหนุ่มผู้หล่อเหลา พร้อมไปด้วยรูปกายและรูปทรัพย์อันเป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั่วทั้งโลกก็ว่าได้ จากนั้นก็เอ่ยถามตามที่ตนเองรู้ดีว่าชีคอัลมัสทรงต้องการสิ่งใดมากที่สุด และสิ่งเหล่านั้นพระองค์ก็ใช้ เงินและอำนาจ ซื้อหามาครอบครองไม่ได้
“ความรัก! พระองค์ขาดสิ่งนี้ พระองค์กำลังตามหาความรักจากผู้หญิงสักคนที่จะรักพระองค์ในตัวตนของพระองค์ ไม่ใช่เงินทองที่พระองค์มีอยู่”
“พูดมากชะมัดเจ้ามาริสส์ ผีเจาะปากมาพูดหรือยังไง”
ชีคอัลมัสทรงตรัสต่อว่าไม่จริงจังนัก เพราะสิ่งที่องครักษ์มาริสส์พูดมาล้วนเป็นเรื่องจริง
ทั้งสิ้น หากทุกคนคิดว่าเจ้าชายนักรักอย่างพระองค์ไม่ต้องการความรักอันพิสุทธิ์จากใครสักคน
พวกเขาล้วนคิดผิดทั้งสิ้น และคงมีแค่เพียงองครักษ์มาริสส์เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าพระองค์กำลังแสวงหาความรักมาทั้งชีวิต
พระหัตถ์ใหญ่ยกขึ้นลูบพระพักตร์ของพระองค์เอง พลางถอนหายใจยาว ขณะตรัสถามองครักษ์มาริสส์ด้วยความอ่อนล้ากับการวิ่งตามหาความรัก
“จะมีสักคนไหม มาริสส์ จะมีผู้หญิงที่ใช่สำหรับเราหรือไม่ จะมีผู้หญิงหลงเหลือสักคนไหม ที่ไม่ได้รักเราเพราะว่าเราเป็นเจ้าแผ่นดินของรัฐคาลาห์ จะมีใครสักคนไหมที่รักเราอย่างแท้จริง”
“กระหม่อมคงตอบไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้แต่ภาวนาให้พระองค์พบผู้หญิงที่มีจิตใจบริสุทธิ์คนนี้เร็วๆ”
องครักษ์มาริสส์รู้ว่าเจ้าเหนือหัวหนุ่มทรงแสวงหาความรักอันแท้จริงมานาน ทว่าไม่เคยได้รับสิ่งเหล่านั้น และเขาเองก็ภาวนาให้พระองค์ได้รับในสิ่งที่กำลังค้นหาสักวัน
“คงยาก มาริสส์ คงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะรักเรา โดยไม่สนใจทรัพย์สมบัติของเรา”
ทรงตรัสออกมาอย่างปลงๆ เพราะไม่มีหญิงใดที่รักตัวตนอันแท้จริงของพระองค์ และหากไม่ถูกพระบิดาบังคับให้อภิเษก พระองค์จะอยู่เป็นโสดไปตลอดทั้งชีวิต
“ไม่แน่นะพ่ะย่ะค่ะ บางทีพระองค์อาจจะพบผู้หญิงคนนั้นในประเทศไทยก็ได้”
“เจ้าคิดแบบนั้นหรือมาริสส์ คิดว่าเราจะเจอผู้หญิงที่ใช่! ในประเทศไทยยังงั้นหรือ”
ชีคอัลมัสทรงตรัสถามโดยไม่ได้สนใจมากสักเท่าไร เพราะพระองค์ไม่เชื่อว่าจะมีผู้หญิงที่บูชาความรักมากกว่าเงินทอง
“พระองค์เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาสไหมล่ะพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์มาริสส์ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
คนที่มองความรักเป็นสิ่งสวยงามอย่างองครักษ์มาริสส์ เชื่อเรื่องพรหมลิขิต เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาสหมดใจ ทว่าผู้เป็นเจ้าเหนือหัวกลับไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว
“ไม่! เราไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้” ทรงตรัสตอบสุรเสียงห้วนๆ ไม่เคยเชื่อเรื่องไร้สาระที่องครักษ์มาริสส์กำลังพร่ำรำพันไม่ต่างจากเด็กหนุ่มริลองรัก
“แต่กระหม่อมเชื่อเรื่องพรหมลิขิต และกระหม่อมเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ จะต้องเกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
“ไร้สาระ”
“โธ่...พระองค์ เชื่อกระหม่อมเถอะพ่ะย่ะค่ะว่าเรื่องเหล่านี้มีจริง และบางทีพระองค์อาจกำลังถูกพรหมลิขิตคืบคลานเข้าหาโดยไม่รู้ตัวก็ได้น่ะพ่ะย่ะค่ะ”
“เหม็นขี้ฟัน เลิกพล่ามได้แล้วเจ้ามาริสส์”
ผู้ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องเหล่านี้อย่างชีคอัลมัสผู้ทะนงตน ออกคำสั่งสุรเสียงห้วนๆ เริ่มเบื่อกับการพูดถึงพรหมลิขิตหรือบุพเพสันนิวาสที่ไม่มีทางเกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่นอน
และแทนที่จะหยุดพูด องครักษ์มาริสส์กลับหาเรื่องเจ็บตัว ด้วยการถามเจ้าแห่งทะเล
ทรายต่อว่า
“แล้วถ้ามันเกิดขึ้นกับพระองค์จริงๆ ล่ะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์จะทำอย่างไร”
“จะทำยังไง? ถามได้ เราก็จับผู้หญิงคนนั้นโยนขึ้นเตียงนะสิ”
ชีคอัลมัสตรัสตอบกลั้วเสียงหัวเราะ เห็นเป็นเรื่องตลกกับสิ่งที่องครักษ์มาริสส์กำลังพูดถึงด้วยน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยความศรัทธา
“กระหม่อมล่ะอยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นจริงๆ อยากรู้ว่าเธอจะยอมให้พระองค์จับโยนขึ้นบนเตียงหรือว่าสู้กับพระองค์ยิบตา!”
องครักษ์มาริสส์อยากให้เจ้าเหนือหัวถูกพรหมลิขิตเล่นงานจริงๆ เพราะอยากเห็นว่าผู้หญิงคนไหนที่จะสามารถปราบเจ้าชายนักรักผู้นี้ให้อยู่หมัดได้
ชีคอัลมัสหัวเราะร่วนอยู่ในลำคอ ก่อนจะตรัสตอบอย่างเย่อหยิ่ง “ผู้หญิงคนนั้นคงตัวอ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟ นับตั้งแต่นาทีแรกที่เรากระดิกนิ้วเรียก”
“แต่กระหม่อมคิดว่าเธอคนนั้นคงไม่มีทางยอมพระองค์อย่างง่ายๆ แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
มีผู้หญิงหลายร้อยคนที่เป็นดั่งเจ้าแห่งทะเลทรายตรัสมา แต่! ต้องมีสักคน ที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับชีคอัลมัสผู้เอาแต่ใจ และต้องมีสักคนที่กล้าขัดคำสั่งของพระองค์ ทำให้ชีคอัลมัสหัวปั่นได้ในทุกนาที
ชีคอัลมัสหลุบสายตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือราคาแพงลิบ จากนั้นก็ตรัสสั่งองครักษ์ปากปีจอ เมื่อเห็นว่าถึงเวลานัดหมายกับสหายทุกคนแล้ว
“หยุดพล่ามถึงเรื่องพรหมลิขิตไว้สักสองสามชั่วโมงนะเจ้ามาริสส์ ตอนนี้เราอยากออก
ไปท่องราตรี ฉลองความโสดให้กับตนเองหน่อย หรือ...ถ้าหากถูกพรหมลิขิตเล่นงานให้เจอผู้หญิงไทย ที่สามารถทำให้เรารักเธอได้ เราจะได้ดื่มฉลองให้กับโชคชะตาของเราไปในคราว
เดียวกัน”
ตรัสออกไปแล้ว ก็ทรงหัวเราะร่วนเสียงดังด้วยความขบขำ พร้อมกับเดินออกจากห้อง โดยมีองครักษ์มาริสส์เดินตามมาติดๆ
‘หัวเราะไปเถอะพระองค์ เจอหญิงสาวที่สามารถปราบพระองค์ได้เมื่อไร แล้วจะหัวเราะไม่ออก’
องครักษ์มาริสส์ค่อนขอดเจ้าเหนือหัวอยู่ในใจ เชื่อว่าต้องมีใครสักคนที่สามารถกุมหัวใจอันแข็งแกร่งของเจ้าแห่งทะเลทรายผู้นี้ได้ และมั่นใจว่าการเดินทางมาประเทศไทยในครั้งนี้ ชีคอัลมัส อัลซิดส์ คาลาห์ จะต้องถูกกระชากหัวใจออกจากตัวพระองค์ด้วยฝีมือของสาวไทย ซึ่งเงิน! ไม่สามารถซื้อหัวใจของเธอได้...