บทที่ 6

โครม!!!

เสียงดังที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนหันมามองยังจุดเกิดเหตุ เพียงอรยืนมองตาโตกับภาพเหตุการณ์ที่ได้เห็นตั้งแต่ต้นจนจบ มธุรดาคิดว่าเธอนั้นต้องเจ็บตัวเพราะฉากล้มทับแน่นอน แต่ทำไมตอนนี้กลับไม่รู้สึกเจ็บส่วนไหนของร่างกายเลย แถมยังรู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆ แต่ทว่าหนักมากทับตัวเธออยู่ด้วยซ้ำไป จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง สิ่งที่เห็นก็ทำให้หญิงสาวถึงบางอ้อ

“นาย!” มธุรดาสบตาอีธานในระยะประชิดอีกครั้ง จมูกโด่งๆ ของชายหนุ่มคลอเคลียอยู่ตรงแก้มนวล เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะชายหนุ่มเอาตัวเองเข้ามาขวางไม่ให้ฉากหนักๆ ล้มทับตัวเธอ

“คุณอีธาน” เพียงอรอุทานขึ้นเช่นกัน ก่อนจะรีบวางจานผลไม้ในมือลง แล้วกุลีกุจอเข้าไปช่วยผู้เป็นเจ้านาย โดยมีทีมงานมาช่วยกันยกฉากออกไปให้พ้นแผ่นหลังชายหนุ่ม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกอกตกใจให้ทุกคนไม่น้อย โดยเฉพาะทีมงานสองคนที่เดินชนกับมธุรดาเมื่อครู่ พวกเขายืนหน้าซีดเพราะกลัวจะตกงานแบบสายฟ้าแลบ

“คุณอีธาน เป็นยังไงบ้างคะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เลขาทำหน้าที่สอบถามรวมทั้งสำรวจร่างกายของผู้เป็นเจ้านายยกใหญ่ จึงรู้ว่าชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บตรงข้อศอกจนเลือดซึมออกมาเปื้อนเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวที่เขาสวมอยู่ ส่วนมธุรดานั้นแต่ได้นั่งอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก

“เกิดอะไรขึ้น” เสียงแหลมๆ ของแพทตี้ดังขึ้นอีกคน ก่อนจะตาโตกับสิ่งที่เห็น แล้วพูดอีกเป็นชุด

“ว๊าย! ตายแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับคุณอีธานคะเนี่ย เจ็บตรงไหนบอกแพทตี้ แล้วนี่มีใครเรียกรถพยาบาลหรือยัง” พอเห็นเลือดแพทตี้ก็ยิ่งเอะอะโวยวาย

“ผมไม่เป็นอะไรแพทตี้ ไม่จำเป็นต้องเรียกรถพยาบาล”

“แต่แพทตี้ว่าเรียกรถพยาบาลดีกว่านะคะ เดี๋ยวแพทตี้เรียกให้เอง”

“ผมบอกแล้วว่าไม่ต้อง” น้ำเสียงดุดันดังขึ้นพร้อมกับแววตานิ่งๆ จนแพทตี้ต้องถอย ไม่กล้าเซ้าซี้อีก

“ค่ะๆ”

“คุณอีธานไม่เป็นอะไรแน่นะคะ” เพียงอรถามขึ้นอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“อืม” ชายหนุ่มตอบรับเพียงสั้นๆ พร้อมกับขยับลุกขึ้นยืน

“ผมสองคนขอโทษครับคุณอีธาน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” ทีมงานสองคนถึงกับยกมือไหว้อีธาน ชายหนุ่มเข้าใจว่าเรื่องอุบัติเหตุใครก็คงไม่อยากให้เกิด

“ไม่เป็นไร ทีหลังก็ระวังๆ หน่อย”

“ครับๆ” เสียงตอบรับดังมาจากทีมงานทั้งคู่แทบจะพร้อมกันก็ว่าได้ โชคดีแค่ไหนแล้วที่พวกเขาไม่โดนไล่ออก

เมื่อคุยกับทีมงานทั้งสองคนเสร็จ อีธานก็เหลือบไปมองหน้ามธุรดาที่ตอนนี้ยังนั่งนิ่งอยู่กับพื้นอย่างไม่ไหวติง ดูท่าเธอจะยังตกใจอยู่ไม่น้อย ถึงได้อึ้งเป็นหุ่นอยู่แบบนี้

“เธอ” เสียงเรียกครั้งแรกกลับไม่เป็นผล เพราะมธุรดายังไม่ขานขับ ชายหนุ่มจึงเรียกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูห้วนขึ้น

“เธอ!” คราวนี้ได้ผล เมื่อมธุรดาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าอีธาน

“เป็นอะไรหรือเปล่า” แววตาของชายหนุ่มแสดงออกว่าห่วงเธอ แต่ก็แค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น

“ปะ...เปล่า ฉันไม่เป็นอะไร ขะ...” ยังไม่ทันที่มธุรดาจะได้เอ่ยขอบคุณ อีธานกลับแย้งขึ้นเสียก่อน

“ไม่เป็นอะไรก็ดี”

“ตัวปัญหาชัดๆ” แพทตี้ส่งสายตาอาฆาตมายังมธุรดาอย่างไม่ปิดบัง เพราะคิดว่าเธอคือตัวต้นเหตุที่ทำให้อีธานต้องมาเจ็บตัวเช่นนี้ แต่พอเหลือบไปเห็นเพียงอรที่กลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาลก็รีบเข้าไปแย่งมาถือเสียเอง จากนั้นก็อาสาทำแผลให้อีธานเสร็จสรรพ

“ไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนกลับไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง คิวต่อไปนักแสดงเตรียมตัวเข้าฉากนะครับ” เสียงของผู้กำกับดังขึ้นเพื่อทำลายความวุ่นวาย นั่นทำให้ทุกคนต่างกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองอีกครั้ง จะเหลือก็แค่แพทตี้ที่ตอนนี้เข้ามาทำแผลให้อีธานภายในรถของชายหนุ่ม

มธุรดาชะเง้อมองอยู่ห่างๆ เพราะรู้สึกอยากขอบคุณอีธานจริงๆ ถ้าเขาไม่เอาตัวเองเข้ามาขวางฉากที่กำลังจะหล่นทับตัวเธอ ป่านนี้เธออาจเจ็บหนักไปแล้วก็เป็นได้ แต่เธอไม่เจ็บใช่ว่าชายหนุ่มจะไม่เจ็บ เพราะเมื่อครู่เธอเห็นอยู่ว่าเขามีเลือดออกตรงแขน แต่สุดท้ายกลับไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปเอ่ยขอบคุณ

“อ้าว! ยังไม่กลับเหรอจ๊ะน้องดา”

“ยังค่ะพี่อร เอ่อ...คุณอีธานเป็นยังไงบ้างคะ”

“ไม่เป็นไรแล้วจ้ะ นี่ก็นั่งทำงานไม่ได้หยุดมือ ว่าแต่น้องดามีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”

“ไม่มีค่ะ เอ่อ...ดาขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”

“จ้ะ” เพียงอรรับไหว้มธุรดา ก่อนจะปลีกตัวไปทำงานต่ออีกหน่อย ส่วนคนที่บอกว่าจะกลับแต่ทำเพียงเปลี่ยนมุมยืนรอเท่านั้น มธุรดาชะเง้อมองอีธานจนคอจะยาวเป็นยีราฟเพื่อรอจังหวะจะเข้าไปพูดคุยด้วย แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังหาโอกาสไม่ได้เช่นเคย กระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าการถ่ายทำภาพยนตร์วันนี้ก็เสร็จสิ้น ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ

แพทตี้ดูเซ้าซี้อยากติดรถอีธานกลับด้วย แต่ชายหนุ่มขอปฏิเสธเพราะเขาไม่สะดวก นั่นทำให้แพทตี้หน้างอง้ำเดินกระทืบเท้ากลับไปที่รถของตัวเอง อีธานตรวจดูความเรียบร้อยรวมทั้งมองหาใครบางคนไปด้วยและดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะกลับเป็นคนสุดท้ายก็ว่าได้ รอบๆ ตลาดร้อยปีตอนนี้ก็แทบไม่มีคน

มธุรดายืนรอจนคิดว่าน่าจะได้จังหวะ เพราะเห็นอีธานยืนอยู่คนเดียว เธอจึงจะเข้าไปคุยด้วย แต่เขากลับขึ้นรถเสียแล้ว นั่นทำให้เธอต้องรีบวิ่งอ้อมเพื่อมาดักหน้ารถของชายหนุ่มชนิดที่คนขับรถต้องเหยียบเบรกสุดแรงจนหัวแทบจะทิ่มกับพวงมาลัย