ตอนที่ 3 พิมพ์อยากแต่งงานกับพี่คีย์
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในคฤหาสน์สุดหรูอัคคีก็พบกับสายตาดุจัดของใครบางคน หลังรู้ว่าหลานชายสุดที่รักกำลังจะทำอะไร 'คุณหญิงเทียมศิริ' ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบออกโรงเตือนเพราะอัคคีก็ไม่ได้ต่างอะไรจากลูกแท้ๆในไส้
“คีย์กำลังจะทำอะไร” หล่อนค้ำเอวมองหน้าหลานชาย แต่อัคคีกลับยักไหล่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ผมทำอะไรหรอครับ”
“ก็เรื่องที่คีย์จะแต่งงานกับหนูพิมพ์ไง นี่คีย์กำลังเล่นอะไรอยู่ รู้ทั้งรู้ว่าหนูพิมพ์ลดาคือลูกสาวของคุณเกียงไกร”
“ผมแค่อยากทวงความยุติธรรมให้พ่อกับแม่ไม่ได้หรอครับ”
“แต่นั่นมันไม่ใช่ทางออกที่ดีนะ ถ้าคีย์ไม่ได้รักลูกสาวคุณเกรียงไกรจริงๆก็ปล่อยเธอไปเถอะ เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วนะ อีกอย่าง.....หนูพิมพ์ก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย”
“ผมยังจำแววตาของไอ้เกรียงไกรได้อยู่เลย ถ้าวันนั้นมันลงมาช่วย พ่อกับแม่ของผมก็คงไม่ตาย คุณน้ารู้อะไรไหม...” อัคคีพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเจ็บปวดสุดหัวใจ ดวงตาแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ เมื่อภาพในอดีตตามหลอกหลอนไม่หยุด เสียงร้องของพ่อกับแม่อันเป็นที่รักดังออกมาจากรถที่ไฟกำลังลุกโหม เขาอยากช่วยท่านทั้งสอง แต่ร่างกายไม่สามารถขยับได้ ทำได้เพียงมองกองเพลิงที่ลุกโหมขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งพ่อกับแม่ของเขาเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา จากวันที่มีความสุขที่สุด กลับกลายเป็นวันที่ต้องเจ็บปวดที่สุดเพราะมันเพียงคนเดียว! “ทุกครั้งที่ผมนึกถึงเรื่องราวในอดีต ผมไม่สามารถลบภาพพวกนั้นออกไปจากใจได้เลย เสียงร้องขอความช่วยเหลือของพ่อกับแม่ดังอยู่ในหัวของผม ท่านต้องทุกข์ทรมานแค่ไหนกว่าจะสิ้นใจ แต่ไอ้คนก่อเหตุมันยังใช้ชีวิตปกติ เหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น!”
“คุณเกรียงไกรเป็นคนผิดก็จริง แต่สิ่งที่คีย์ทำมันกำลังจะทำลายชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งนะ ดูก็รู้ว่าหนูพิมพ์รักคีย์มาก เราปล่อยให้เวรกรรมตามสนองพวกเขาเองเถอะ”
“ผมรอคอยมายี่สิบปีแล้ว ไม่เห็นว่าเวรกรรมจะตามสนองพวกมันเลย ก็ยังเห็นใช้ชีวิตปกติ เหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น”
“น้ารู้ว่าต่อให้ห้ามยังไงคีย์ก็คงไม่ฟัง แต่ก็เอาเถอะ จะทำอะไรก็นึกถึงความรู้สึกของคนอื่นให้มากๆ ถึงคีย์จะไม่เหลือใคร....แต่ก็ยังมีน้าอยู่ตรงนี้เสมอนะ”
หลังจากตกลงเรื่องแต่งงานกับคุณน้าเสร็จ อัคคีก็กลับเข้ามาทำงานในห้องอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ เขาต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนวันแต่งงาน ไม่ได้เชิญญาติพี่น้องและจะไม่ป่าวประกาศให้ใครรู้เด็ดขาดว่ากำลังจะแต่งงาน เพราะเขาก็ไม่ได้กะจะแต่งงานกับพิมพ์ลดาจริงๆอยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นแค่การแสดงละคร
“ในที่สุด...แกก็เข้ามาอยู่ในกำมือของฉัน” อัคคีสบถลอดไรฟัน นัยน์ตาคมดุวาวโรจน์จ้องมองไปที่ข้อมูลของบริษัทฆาตกร ก่อนหน้านี้เกียงไกรกรุ๊ปเกือบล้มละลายแต่โชคดีที่เขายื่นมือเข้าไปช่วย ทำให้กิจการสามารถไปต่อได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะฝีมือของเขาเอง
ทำให้มันตายใจแล้วค่อยหักหลัง แบบนี้แหละที่เขาต้องการ
ชายหนุ่มนั่งนึกถึงใบหน้าแสนสวยของใครบางคน ไม่คิดว่าเกรียงไกรจะมีลูกสาวสวยขนาดนี้ แวบแรกที่เจอ เขาเองก็สะดุดตาพิมพ์ลดาอยู่เหมือนกัน ไม่คิดว่าตัวจริงจะสวยกว่าในรูป ถ้าจะผิด....ก็คงผิดที่เธอดันเกิดมาเป็นลูกของมัน หากพิมพ์ลดาไม่ใช่ลูกสาวของฆาตกร ป่านนี้เขาคงรักเธอด้วยหัวใจที่แท้จริง แต่ยังไงตอนนี้เธอก็คือหมากสำคัญที่จะทำให้เขาเข้าไปถึงเกรียงไกร
ป่านนี้สาวน้อยที่เขานึกถึงคงนอนหัวใจพองโตอยู่ในห้อง ซึมซับความสุขนี้ไว้เยอะๆเลยนะ ก่อนที่เธอจะไม่มีโอกาสนั้นอีก เพราะคุณหนูพิมพ์ลดากำลังจะกลายเป็นคุณหนูตกอับ
“อยากแต่งงานกับฉันมากใช่ไหมพิมพ์ลดา เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอรู้ว่าตกนรกมันเป็นยังไง”
ทางด้านสาวน้อยที่เขานึกถึงกำลังนอนหัวใจพองโตอยู่บนเตียงอันแสนนุ่มจริงๆ ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้แต่งงานกับชายอันเป็นที่รัก แม้เขาจะไม่อนุญาตให้พาแขกคนไหนเข้ามาในงานยกเว้นบิดา แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจเลย เข้าใจดีว่าแฟนหนุ่มชอบความเป็นส่วนตัว เธอนอนจินตนาการไปต่างๆนาๆว่าชีวิตหลังแต่งงานจะมีความสุขแค่ไหน จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำลายความเงียบ
“นอนหรือยังลูก” บิดาสุดที่รักเปิดประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะ พิมพ์ลดาลุกนั่ง เอนหลังพิงหัวเตียง
“ยังค่ะ คุณพ่อมาหาพิมพ์ดึกๆดื่นๆมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พ่อนอนไม่หลับน่ะ” เกรียงไกรยิ้มเศร้าๆ หย่อนสะโพกลงนั่งบนเตียงกับลูกสาว เขาไม่อยากให้พิมพ์ลดาแต่งงานเลยเพราะความรู้สึกบางอย่างบอกว่าอัคคีไม่ได้มาดี “แล้วทำไมลูกยังไม่นอนล่ะ”
“พิมพ์กำลังนอนคิดเรื่องงานแต่งค่ะ”
“พิมพ์ลูกพ่อ” เขาถอนหายใจ แววตาเศร้าๆเหลือบมองลูกสาว “พ่อยังไม่อยากให้พิมพ์แต่งงานเลย”
“พ่อคะ เรื่องนี้เราตกลงกันแล้วนะ”
“มันก็ใช่ แต่พ่อแค่ไม่สบายใจ พ่อคิดว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้มาดี”
“พิมพ์คบกับพี่คีย์มาเกือบปีแล้วนะคะ และพี่คีย์ก็สัญญาว่าจะไม่มีทางทำร้ายพิมพ์ อีกอย่างที่พิมพ์แต่งงาน เพราะพิมพ์อยากช่วยเหลือกิจการของครอบครัวค่ะ เราเลือกไม่ได้ค่ะพ่อ พี่คีย์เป็นคนบอกเองว่าหลังแต่งงานจะโอนบริษัทคืนให้”
“ลูกก็เลยตกลงปลงใจแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นเพียงเพราะเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ”
“มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะคะ คุณพ่อก็รู้ว่าถ้าบริษัทของเราล้มละลายขึ้นมาจริงๆ เราสองคนคงไม่เหลืออะไร”
“พ่อขอโทษนะลูก...ขอโทษที่ทำให้บริษัทตกไปอยู่ในมือของคนอื่น” เขาว่ากล่าวขอโทษลูกสาวอย่างรู้สึกผิดสุดซึ้งหัวใจ หากแม่ของพิมพ์ลดายังอยู่คงจะเสียใจมากแน่ๆที่ปล่อยให้บริษัทตกไปอยู่ในมือของคนอื่น ซึ่งไม่แน่ใจว่าอัคคีจะโอนคืนอย่างที่ว่าหรือเปล่า
“พี่คีย์ไม่ใช่คนอื่นค่ะ อีกหน่อยเราสองคนก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว พิมพ์เชื่อว่าพี่คีย์ไม่มีทางทำร้ายเราสองคนแน่นอน”
“งั้นพ่อจะลองเชื่อพิมพ์ดูสักครั้งก็แล้วกัน”
มือหนาลูบศีรษะลูกสาวด้วยความเป็นห่วง ต่อให้จะไว้วางใจแค่ไหนเขาก็ยังเป็นห่วงลูกสาวเหมือนเดิม พิมพ์ลดาเป็นคนอ่อนต่อโลก บอบบางและอ่อนแอ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาหวงลูกสาวเกินไป ไม่กล้าให้ไปเผชิญโลกภายนอกตามลำพัง เพราะถ้าเสียลูกสาวไปอีกคน ชีวิตนี้ก็คงไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
เหมือนหลายปีก่อนที่เขาเคยเกือบเสียพิมพ์ลดาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา ลูกสาวของเขาเคยป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วและเคยผ่าตัดเมื่อครั้งที่พิมพ์ลดอายุได้แค่ 4 ขวบ ตอนนั้นเธอหยุดหายใจไป ชีพจรเต้นอ่อนมาก เขาทำอะไรไม่ถูกกลัวว่าลูกว่าลูกสาวสุดที่รักจะตายเลยขับรถพาไปหาหมอด้วยตัวเอง โชคดีที่มาโรงพยาบาลทัน ไม่อย่างนั้นพิมพ์ลดาคงตายไปนานแล้ว
ต่อให้พิมพ์ลดาจะโตแค่ไหน เธอก็ยังเป็นเด็กน้อยในสายตาของคนเป็นพ่อเสมอ