การปล่อยวางมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
ร่างสูงใหญ่ยืนนิ่ง ๆ อยู่ที่หน้าต่างบานเกล็ด จ้องมองออกไปอย่างเลื่อนลอยไร้จุดหมาย จ่าเข้มถอนใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยทักทาย
“ สวัสดีครับสารวัตร ”
“ จ่ามีอะไร วันนี้ยังไม่มีคำสั่งอะไรลงมา เคลียร์เอกสารเก่าไปก่อน ”
“ เรื่องงานไม่มีอะไรหรอกครับ จะมีก็แต่เรื่องเจ้านาย " เขาหมุนตัวกลับมา คิ้วเข้มที่พาดขวางอยู่บนดวงตาเฉียงคมกริบนั้นขมวดมุ่น
“ หมายความว่ายังไง ”
“ ก็หมายความว่า เจ้านายของผมน่ะสิมีปัญหา สารวัตรจะว่าผมยุ่งเกินไปก็ได้นะครับ แต่รู้ตัวบ้างไหมว่าสภาพของสารวัตรน่ะทรุดโทรมไปทุกวัน หน้าก็ตอบลง ใต้ตาก็หมองคล้ำอย่างกับหมีแพนด้า แล้วนั่น.. ” จ่าเข้มมองไปยังซองบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน
“ สารวัตรหัดสูบบุหรี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมทำร้ายตัวเองอย่างนี้ล่ะครับ มันเกิดอะไรขึ้น ”
คีรินเบือนหน้าหนี ไม่ตอบใด ๆ ทั้งสิ้น ทว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมหยุด
“ ผมก็อยู่กับสารวัตรมานาน ผ่านอะไรมาด้วยกันก็มาก รู้ดีว่านิสัยของสารวัตรคือไม่ค่อยเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนเรื่องงาน และค่อนข้างปิดตัวเองกับคนรอบข้าง แต่บางทีการเก็บอะไรไว้คนเดียวมันก็ยิ่งทำให้เครียดมากขึ้น หากได้ระบายออกมาบ้าง อะไร ๆ มันอาจจะดีขึ้นก็ได้นะครับ ”
ใบหน้าหล่อเหลาทว่าเคร่งเครียดนั้นหันมามองจ่าเข้มนิ่ง ๆ ก่อนเอ่ยออกมาเบา ๆ
“ ไม่มีอะไรหรอก ผมก็เครียดเรื่องทั่วไปแหละ ”
“ สารวัตรเครียดเรื่องคดีของนายเจค ผิดหวังที่เขาบริสุทธิ์ ผิดหวังที่ไม่ได้จับตัวเขามาลงโทษ ใช่ไหมครับ ”
คีรินตวัดสายตาแข็งกร้าวมามองทันที
“ อะไรทำให้จ่าคิดแบบนั้น ”
“ เพราะผมได้ยินเจคและเพื่อนของเขาพูดถึง เอ่อ... น้องสาวของสารวัตรที่ชื่อขวัญข้าว ” พูดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าคมสันก็ขบกรามจนเป็นสันนูน
“ ถึงแม้ว่าไอ้เจคมันบริสุทธิ์เรื่องนั้น แต่สันดานมันก็เลวชาติจนทำร้ายผู้หญิงบริสุทธิ์ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยคำว่ารัก ”
“ สารวัตรหมายถึงน้องสาวเหรอคะ ”
“ ใช่ น้องสาวของผมสะอาดใสซื่อเกินไป และผลเป็นยังไงรู้ไหม น้องขวัญต้องจากโลกนี้ไปด้วยหัวใจสลายเพราะผู้ชายเลว ๆ อย่างมัน ! ”
“ แล้วสารวัตรรู้ได้ยังไงคะว่าเจคเป็นแบบนั้นจริง ๆ เท่าที่จ่าได้ไปสัมผัส... ”
“ มันเป็นอย่างนั้นแหละ ” คีรินตวาดสวนขึ้นแทรกก่อนที่จ่าเข้มจะได้พูดจบ
“ จ่าไม่รู้หรอกว่ามันเหี้ยแค่ไหน แล้วที่เหี้ยกว่าคือผม ผมที่ขี้ขลาดตาขาว ผมที่ไม่กล้าปลิดชีวิตมันด้วยตัวเอง เพราะหน้าที่การงานค้ำคอ เห็นทีผมจะต้องแหกกฎตัวเองซะแล้ว ” จ่าเข้มยกมือขึ้นทาบอก
“ ตาเถรสะดุดยายชี ! สารวัตรจะทำอย่างนั้นไม่ได้นะคะ เราเป็นผู้รักษากฎหมาย จะมาฆ่าใครเหมือนผักปลาได้ที่ไหนกันคะ ” อีกฝ่ายไม่ตอบ จ่าเข้มจึงนึกได้ว่าเผลอหลุดแอ๊บไป ไม่ใช่ว่าสารวัตรคีรินจะไม่รู้ว่าลูกน้องนั้นสาวแตก เพียงแต่เขาไม่ชอบที่จะให้แสดงออกเกินหน้าเกินตาขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ จึงรีบดึงความเข้มขรึมมากลบเกลื่อน
“ สารวัตรใจเย็น ๆ เถอะครับ เวรย่อมระงับด้วยการ ไม่จองเวร ถ้าเจคทำผิดจริงฟ้าดินก็ต้องลงโทษเขา ปล่อยวางเถอะนะครับ ดูสิ จากโอปป้าเกาหลี ตอนนี้ทรุดโทรมลงจนดูไม่ได้แล้ว ”
“ การปล่อยวางมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ไม่ง่ายเลย ” เขาตอบพลางหันหลังให้จ่าเข้มแล้วจ้องมองออกไปอย่างไร้จุดหมายเช่นเคย
เขาจะลืมได้อย่างไร ในเมื่อขวัญข้าวยังมาให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานของเธอในฝันอยู่ทุกค่ำคืน
***
อีกห้านาทีเที่ยงคืน
ณ ผับแห่งหนึ่ง ร่างสูงใหญ่ซุกตัวอยู่ที่มุมหนึ่งเพียงลำพัง ยกเหล้าในแก้วกระดกดื่มเพียว ๆ โดยไม่ผสมมิกเซอร์ใด ๆ ทั้งสิ้น แก้วแล้วแก้วเล่า
ใช่ เป็นคีริน เขาไม่อยากจะกลับบ้านไปนอน เพราะเมื่อไหร่ที่หลับ ขวัญข้าวก็จะมาให้เห็นในฝัน ความรู้สึกผิด มันเกาะกินหัวใจ จึงตัดสินใจโง่ ๆ มานั่งดื่มฆ่าเวลา ฆ่าสุขภาพ ฆ่าสติ อย่างที่ทำมาแล้วหลายครั้ง แล้วมันก็ได้ผลดีเสียด้วย เมื่อไหร่ที่เหนื่อย เมื่อไหร่ที่เมา เขาจะไม่ฝันอะไรทั้งนั้น
เขาเคยเป็นคนฉลาด เคยเป็นคนมีสติรอบคอบ แต่วันนี้ทุกอย่างพลิกผันไปหมด คีรินคนนั้นได้ตายไปแล้ว เหลือแต่เศษซากกายหยาบไร้ค่า ที่ไม่มีความสามารถแก้แค้นให้กับน้องสาวได้
เสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ดังเข้าหู พร้อมกับบนเวทีที่นักร้องร่วมอวยพรให้ใครสักคนที่เข้ามาฉลองวันเกิดในผับ คีรินไม่ได้ใส่ใจ เขายังคงก้มหน้าก้มตาดื่ม ขอยืมเพียงสถานที่กับบรรยากาศวุ่นวายไม่ให้หัวใจว่างไว้ให้ความฟุ้งซ่านแทรกสอดเป็นพอ