บทที่ 2 คือเพื่อน 1.1
สามเดือนผ่านไป
ภายหลังจากที่หทัยชนกกับอัญญาณีไปส่งเกวลินที่สนามบินสุวรรณภูมิ หทัยชนกได้เดินทางกลับไปยังเชียงใหม่เพื่อดูแลกิจการร้านทองที่เปิดสาขาใหม่ที่นั่น ส่วนอัญญาณีก็วุ่นๆ อยู่กับการดูแลลูกๆ ส่งผลให้ทั้งสามสาวห่างกันโดยปริยาย ทว่าห่างแต่กายเท่านั้น ใจยังผูกพันเชื่อมโยง เพราะโทรศัพท์คือการสื่อสารที่ไม่ทำให้พวกเธอห่างกัน แม้ว่าจะอยู่ไกลกันคนละจังหวัด หรือคนละประเทศ
และวันนี้ก็เป็นวันแรกในรอบสามเดือนที่หทัยชนกกับอัญญาณีจะได้เจอกัน หทัยชนกเดินทางมากรุงเทพฯ พร้อมกับของขวัญกล่องใหญ่ สมกับร่างกายของเจ้าของวันเกิด เธอเดินเข้ามาในบ้านเช่าของอัญญาณีในเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม พอเข้ามาในบ้านก็พบว่ามีเพื่อนของเจ้าของบ้านที่เธอรู้จักและไม่รู้จักนั่งอยู่ในบ้าน
“สุขสันต์วันเกิดนะเกตุ ขอให้พี่ชาติรักเกตุมากๆ และขอให้มีความสุขที่สุดเลย”
หทัยชนกยื่นของขวัญกล่องพิเศษตรงหน้าอัญญาณีที่ยิ้มร่ากับของขวัญที่เพื่อนสนิทมอบให้ และคำอวยพรที่ถูกใจ
“ขอบใจนะรุ้ง ว่าแต่ทำไมปีนี้กล่องของขวัญมันใหญ่จัง”
ปกติทุกปีที่ได้รับของขวัญวันเกิดจากหทัยชนก กล่องของขวัญจะมีขนาดกะทัดรัด แต่ปีนี้ใหญ่กว่าทุกปี อัญญาณีจึงอดที่จะถามไม่ได้
“ก็เจ้าของวันเกิดตัวใหญ่ ของขวัญก็เลยต้องใหญ่ตามตัวไง”
หทัยชนกเย้าเพื่อนกลับด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่า ทำให้ชายคนหนึ่งเกิดอาการใจสั่นขึ้นมาในทันทีทันใด
“โห...เมื่อปีที่แล้วฉันก็ตัวใหญ่ย่ะ ไม่เห็นของขวัญจะใหญ่ตามตัวเลย แต่ช่างเถอะ...แค่รุ้งเอามาให้เกตุ เกตุก็ดีใจแล้ว ไปนั่งกินของอร่อยๆ กันดีกว่านะ”
อัญญาณีคว้ามือเพื่อนสาว แล้วพากันไปทรุดนั่งลงบนพื้นกระเบื้องของบ้าน ที่มีเพื่อนอีกหลายคนของสาวอ้วนนั่งล้อมวงอยู่
บุคคลหนึ่งที่ล้อมวงนั่งอยู่บนพื้นนั้น ได้มองหน้าหทัยชนกที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับตนเองนิ่ง ใบหน้าของเธอแม้จะไม่สวยโดดเด่น แต่ก็มองแล้วไม่น่าเบื่อเพราะมีลักยิ้มสองจุดที่ขึ้นกลางแก้ม เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ตะวันถึงกับชะงัก หัวใจสั่น ลมหายใจเกือบสะดุด เขาผ่านผู้หญิงมามากแต่ไม่มีใครทำให้ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นกับเขาเลย
คนที่มองก็มีทีท่าขวยเขินอย่างเห็นได้ชัด หทัยมองทุกคนที่นั่งล้อมวง แต่พยายามไม่มองหน้าของชายที่นั่งจ้องหน้าเธอตลอดเวลา และเป็นหนึ่งเดียวที่เธอไม่รู้จัก รูปหน้าของชายตรงหน้าคมเข้ม เป็นผิวสีแทน คิ้วดกดำ ดวงตาสีดำดูมีเสน่ห์ หัวใจของสาวน้อยที่ไม่เคยทักทายกับความรักเต้นระส่ำยามที่ได้สบตาเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ มือทั้งสองข้างประสานกันแน่นแล้วบีบเบาเพื่อบรรเทาอาการเขินอายของตนเอง
“ลืมแนะนำไปเลย รุ้งนี่ตะวัน ตะวันนี่รุ้งเพื่อนฉันเอง”
สาวอ้วนแนะนำตัวให้ตะวันเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของเธอได้รู้จักกับสาวหน้าตาน่ารักอย่างหทัยชนก หลังจากที่เห็นตะวันจ้องมองเพื่อนสาวคนสนิทของเธออยู่นาน
“สวัสดีครับ” ตะวันกล่าวทักทายอย่างเป็นทางการ
“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงหวานทักทายกลับพร้อมกับรอยยิ้มละไม นั่นคือจุดเริ่มต้นของการรู้จักของเขาและเธอ งานเลี้ยงฉลองคล้ายวันเกิดของอัญญาณีเป็นอย่างมีความสุข เสียงพูดคุย เสียงเอ่ยแซวตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังออกมาจากปากของทุกคน เช่นเดียวกับที่สายตาของตะวันไม่ละห่างจากดวงหน้าชวนมองของหทัยชนกเลย และการกระทำของตะวันก็อยู่ในสายตาของอัญญาณีเช่นกัน
“เดี๋ยวออกไปซื้อเบียร์ก่อนนะ หมดแล้ว”
เจ้าของวันเกิดพูดขึ้น เมื่อเห็นปริมาณของขวดเบียร์ที่ลดน้อยลงเหลือเพียงไม่กี่ขวด เธอกลัวว่าอรรถรสในการดื่มกินของเพื่อนจะขาดตอนจึงต้องออกไปซื้อมาเพิ่ม
“ตะวันไปด้วย” ตะวันพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“เออดี จะได้เป็นคนจ่ายเงิน” สาวอ้วนพูดจบก็เดินออกไปจากตัวบ้าน โดยมีร่างสูงของตะวันเดินตามไป
“เกตุ รุ้งมีแฟนหรือยัง?” ตะวันถามอัญญาณีหลังจากที่เดินผ่านประตูรั้วบ้าน
“ถามทำไมแกจะจีบหรือไง?” อัญญาณีไม่ตอบ แต่ถามกลับ
“เออ…น่ารักดี” ตะวันตอบ
“ยังไม่มีหรอก” คำตอบที่เขาได้รับเรียกรอยยิ้มให้เกิดบนใบหน้าของคนที่ถามทันที งานนี้ก็มีลุ้น ตะวันคิดในใจ
“งั้นตะวันจีบ เกตุช่วยตะวันด้วยนะ” คนที่อยากมีแฟนรีบขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิท
“ไม่ช่วย อยากจีบก็จีบเองสิ” สาวอ้วนตัดความฝันของเพื่อนเอาดื้อๆ
“ทำไมล่ะ ช่วยหน่อยไม่ได้เหรอ?” ตะวันถามถึงเหตุผล
“ช่วยได้แต่ไม่อยากช่วย ถ้าเผื่อแกจีบรุ้งติดจริงๆ แล้วทำให้เพื่อนของฉันเสียใจ ฉันจะเป็นคนที่เสียใจมากที่สุด แล้วพาลจะโกรธแกด้วย”
อัญญาณีพูดตามความจริง ตะวันกับหทัยชนกเป็นเพื่อนเธอทั้งสองคน หากรักกันหวานชื่นก็ดีไป เธอเองก็มีความสุขตามไปด้วย แต่ถ้าหากวันหนึ่งวันใดความรักเกิดขมขึ้นมา คนที่จะเสียใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอัญญาณี เพราะเธอเป็นสื่อกลางให้ทั้งสองได้รักกัน
“ไม่หรอก คนนี้ตะวันชอบจริงๆ นะ รักจริงหวังแต่งด้วย”
คำพูดของตะวันทำให้อัญญาณีหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างพิจารณา ตั้งแต่คบกับตะวันเป็นเพื่อนมาสิบกว่าปี เธอไม่เคยได้ยินน้ำเสียงและท่าทางของตะวันจริงจังเรื่องผู้หญิงเลยสักครั้ง จะมีครั้งนี้เป็นครั้งแรก
“จริงเหรอ แกแน่ใจเหรอตะวันว่ารักจริงหวังแต่ง?” สาวอ้วนถามกลับด้วยความสงสัย ยังไม่แน่ใจกับคำพูดของเพื่อนมากนัก
“จริงสิ เจอครั้งแรกก็มีความรู้สึกอย่างนั้นเลย”
ตะวันตอบตามความเป็นจริง ตอบตามความรู้สึกของตนเอง เขาก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าความรู้สึกอยากสร้างครอบครัวจะเกิดขึ้นในใจ เขามีแฟนมาแล้วหลายคนแต่ไม่มีใครทำให้เขาเกิดความรู้สึกอย่างแต่งงานเลยสักคน หทัยชนกเป็นผู้หญิงคนแรก