บทที่ 2.1 เก็บไว้
หลังจากพ่อพาภรรยาคนใหม่เข้าบ้านเมื่อสิบปีก่อน ทำให้เงินทุกบาทจากพ่อและเรื่องในบ้านทั้งหมดถูกแม่เลี้ยงดูแล น้าเพียบจ่ายเงินให้เธอไปโรงเรียนวันละห้าสิบบาท ค่าข้าวที่โรงเรียนมัธยมจานละสี่สิบบาทแล้วเธอเหลือเงินเพียงสิบบาทจากโรงเรียนต้องนำมาเก็บออม
บางวันเธอเลือกที่จะไม่ทานข้าว เปลี่ยนเป็นแซนด์วิชสักชิ้นให้พออิ่มท้องก็จะเหลือเงินเก็บวันละสามสิบกว่า
เฌอริตาเคยมีเป้าหมายเมื่อหกปีก่อนตอนที่เธอขึ้นชั้นมัธยมว่าอยากมีเงินเก็บสักก้อน ไว้ซื้อของที่อยากได้แต่หลังจากสามปีผ่านไปเป้าหมายนั้นของเธอก็เปลี่ยน
เธอเฝ้าบอกกับตัวเองทุกวันว่าจะต้องมีเงินสักก้อนเพื่อพาตัวเองออกไปอยู่ที่อื่น ที่ไม่ใช่บ้านหลังนี้ บ้านที่เหมือนเธออยู่ในนรก เหมือนเป็นคนรับใช้ เธอจึงศึกษาเรื่องการขายของออนไลน์และหาเงินจากช่องทางนั้นมาตลอดสามปีที่ผ่านมาจนจับทางได้
“ป็อปแกอยู่ไหน”
เฌอต่อสายไปหาเพื่อนสนิทที่เคยเรียนมัธยมด้วยกัน เป็นคนที่รู้ทุกเรื่องของเธอ ยกเว้นเรื่องล่าสุดที่ยังไม่ได้ปรึกษา เฌอริตารู้สึกว่ามันทำใจยากเหลือเกินถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทที่คบกันมาเกือบหกปีแล้วก็ตาม
(เป็นอะไรเฌอ แกร้องไห้ทำไม) ปลายสายร้อนใจเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสนิทสั่นเครือ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันเพิ่งร้องไห้มาอย่างหนัก
“เดี๋ยวค่อยเล่า แกว่างไหม”
วันนี้เป็นวันหยุดป็อปจึงนอนอยู่บ้านดูซีรีส์ตั้งแต่เช้า พอเมื่อเพื่อนสนิทบอกให้ไปรับจึงไม่รีรอขอยืมรถพ่อที่เป็นกระบะสี่ประตูวิ่งตรงไปยังบ้านของเฌอทันที
ไม่บ่อยนักที่เฌอจะขอความช่วยเหลือจากเธอถึงแม่ว่าจะสนิทกันมากแค่ไหน และรู้ว่าเรื่องครอบครัวของเพื่อนไม่ได้มีความสุขเหมือนอย่างใครเขาแต่เธอก็เห็นเพื่อนทนมาตลอด ไม่แน่คราวนี้มันอาจจะไม่ทนแล้ว คนเรามันก็ต้องมีจุดสิ้นสุดของความอดทนบ้าง
“แกจะไปอยู่ไหน”
“ห้องที่เช่าไว้ไง”
เมื่อได้ยินแบบนั้นป็อปก็พยักหน้ารับรู้ เรื่องนี้มันเป็นความลับของเพื่อนที่เธอเองก็มีส่วนรู้เห็นอยู่บ้าง แถมยังเป็นคนเดียวที่รู้อีกด้วยเพื่อนสนิทอีกคนก็รู้แค่คร่าวๆ
เฌอริตาแอบเช่าอาคารพาณิชย์เก่าๆ หลังหนึ่งในราคาเดือนละสามพันบาทเอาไว้ได้ปีกว่าแล้ว เพื่อใช้เป็นห้องเก็บของที่จะนำมาขายออนไลน์ ทุกๆ วันเธอจะรับออเดอร์จากลูกค้าแล้วเข้าไปแพ็คของช่วงเย็นหลังเลิกเรียนแล้วจึงนั่งรถกลับบ้านจนทำให้ทะเลาะกับพ่ออยู่บ่อยครั้งเพราะถูกแม่เลี้ยงยุโยง
ของที่เฌอขายเป็นพวกเครื่องประดับ สร้อย แหวน งานแฟชั่นราคาไม่แรงและสินค้าในกระแสอย่างอื่น เฌอได้แหล่งสินค้ามาจากเว็บสินค้าออนไลน์ของจีนจากการศึกษานานร่วมปี เฌอมีเพื่อนสนิทอีกคนชื่อบอย สนิทกันอยู่สามคน บอยเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทยจีนที่พอจะช่วยเหลือเพื่อนเรื่องการสั่งสินค้าเหล่านี้จากจีนได้บ้างแต่ก็ได้ไม่มากเพราะเงินทุนที่ไม่มากพอ
“ทะเลาะกับพ่อเหรอ ทุกทีแกก็บอกว่าอยู่ได้”
ป็อปหันมองเพื่อนสนิทที่ใบหน้าขาดรอยยิ้ม ทั้งที่เฌอเป็นคนยิ้มสวย ยิ้มทีโลกเหมือนจะสดใสไปหมด แต่ตอนนี้ใบหน้าผุดผ่องนั้นกลับเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ผมฟูยุ่งเหยิง
“อืม” ตอบแค่นั้นแล้วหลุบตาต่ำลง
“แม่เลี้ยงแกอีกแล้วใช่ไหม หรือนังเกลมันหาเรื่องแกอีก”
ที่ผ่านมาป็อปรู้จากปากเพื่อนว่าเวลาอยู่ที่บ้านเฌอต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ตั้งแต่จ่ายตลาด หุงข้าว ทำอาหาร ล้างจานซักผ้า ไหนจะต้องทำเรื่องที่สองแม่ลูกนั้นต้องการยิบย่อย ถูกด่าทอว่าร้ายหลายเรื่อง
ห้องนอนส่วนตัวก็ถูกยึดไปเป็นห้องของยัยเกลจนต้องย้ายมาอยู่ห้องชั้นล่างที่เคยเป็นห้องเก็บของ พ่อก็ปกป้องไม่ได้ ไม่รู้ว่าเฌอทนอยู่ไปได้ยังไง
แต่ที่เธอนับถือใจเพื่อนคือมันไม่เคยท้อเลย ยังเจียดเวลาอันน้อยนิดไปหาเงินเก็บไว้ใช้ส่วนตัวได้ จนตอนนี้รายได้ของเฌอต่อเดือนแตะหกหลักต่อเดือนก็เคยมี
“ไม่ใช่เพราะพวกนั้น แต่เป็นเพราะฉัน” เฌอหันมองเพื่อนที่กำลังขับรถน้ำตาคลอ
“แกทำอะไร”
“แกจำพี่คนนั้นได้ไหม คืนนั้น”
ป็อปขมวดคิ้วครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า ปกติเพื่อนไม่เคยพูดถึงเรื่องผู้ชายให้ฟังนักหรอก แต่วันนั้นที่ไปเที่ยวกันมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาจีบแล้วมันก็ถูกตาต้องใจเขาเข้า ไม่รู้ไปคุยกันอีท่าไหนถึงไปจบที่ห้อง เธอเองก็เมาไม่รู้เรื่อง ตื่นมาตอนเช้าถึงรู้ว่าทิ้งให้เพื่อนไปกับเพื่อนพี่ชาย แถมยังจำอะไรแทบไม่ได้เพราะพากันเมา
“พี่บูมนั่นนะเหรอ”
ป็อปจำเขาได้เพราะหนุ่มรุ่นพี่เป็นเพื่อนของพี่ปืนพี่ชายแท้ๆ ของเธอ แต่เขาไม่ใช่เพื่อนสนิทเพียงแต่เป็นเพื่อนที่เรียนสาขาเดียวกัน แล้วเขาก็หน้าตาดีชนิดที่ว่าสาวเห็นเป็นต้องเหลียวมอง ไหนจะหุ่นดี รูปร่างราวกับนายแบบ
ไม่แปลกใจที่ยัยเฌอมันจะตกไปในหลุมนั้นอย่างง่ายดาย เผลอไปมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับเขา
“อืม”
“ทำไม”
“ฉันท้อง”
-------------