บทที่ 8 พูดกันชัดเจนแล้ว
บนดาดฟ้าของโรงแรมซินไค่ ภายในห้องรับแขกที่มีความหรูหราที่สุด
นายท่านเสิ่นนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเสิ่นชิวสุ่ย ยื่นกุญแจหนึ่งดอกให้กับเสิ่นชิวสุ่ย
“ชิวสุ่ย นี่คือกุญแจบ้านใหม่ ในห้องหนังสือ มีเอกสารโอนย้ายหุ้นส่วน 10% ขององค์กร เป็นของเธอตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
เสิ่นชิวสุ่ยไม่อยากไปรับกุญแจที่นายท่านเสิ่นยื่นมาให้ แต่มองไปที่นายท่านเสิ่น พูดว่า : “คุณปู่คะ นี่คือผลที่คุณปู่อยากได้เหรอ เป็นพันธมิตรกับเหวินจุน กรุ๊ป ใช่ไหม?”
นายท่านเสิ่นถอนหายใจ : “ชิวสุ่ย ปู่รู้ว่าเธอไม่สบายใจ...”
“หนูไม่สบายใจแน่นอนค่ะ!” เสิ่นชิวสุ่ยที่นิ่งเฉยมาตลอดจู่ ๆ ก็กระวนกระวายใจขึ้นมา “หนูจะสบายใจได้อย่างไร! คุณปู่ให้หนูหมั้นกับคนที่ไม่เคยเจอมาก่อน! หนูเรียนจบมหาวิทยาลัยมาก็เข้าไปทำงานในองค์กร หนูอยากจะอยู่ในตระกูลได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง! หลายปีมานี้ ในบรรดาลูกหลานตระกูลเสิ่น หนูเป็นคนที่มีความพยายามมากที่สุด และทำได้ดีที่สุด!”
นายทานเสิ่นหยักหน้า : “ปู่รู้ ปู่รู้ทั่งหมด”
เสิ่นชิวสุ่ยยิ้มอย่างมีเสน่ห์ : “ใช่ค่ะคุณปู่ คุณปู่รู้หมดแล้ว ปู่รู้ว่าที่หนูทำแบบนี้ ก็เพราะไม่อยากโดนตระกูลวางแผนชีวิตให้ อยากจะพิสูจน์ว่าหนูเป็นผู้หญิงคนเดียวก็สามารถทำให้องค์กรดีขึ้นได้! แต่ตอนนี้เพราะการตัดสินใจของคุณปู่ ก็ปฏิเสธความพยายามที่หนูทำมาหลายปี! คุณปู่บอกหนูว่า คุณปู่รู้ทุกอย่างงั้นเหรอ?”
นายท่านเสิ่นแตะบนที่จับของเก้าอี้ เงียบไปนานสองนานแล้วพูดว่า : “ชิวสุ่ย พี่ชายคนรองของเธอพรุ่งนี้มาถึงเทียนหยิน เขากลับมาครั้งนี้ เตรียมความพร้อมมาเยอะมาก แต่เธอมีเหวินจุน กรุ๊ปคอยสนับสนุน ดังนั้นเมื่อพี่ชายคนรองของเธออยากจะไล่เธอออกจากตำแหน่งนี้ก็จะไม่ใช่เรื่องง่าย คุณปู่แก่แล้ว ตอนนี้แค่หมั้นกันไม่ใช่แต่งงานกันจริง ๆ ถือเป็นสิ่งเดียวที่คุณปู่สามารถทำให้เธอได้แล้วล่ะ ถือเป็นการชดเชยเหตุการณ์ในตอนนั้น”
เมื่อนายท่านเสิ่นพูดจบ ส่ายหัวแล้วลุกขึ้น ค่อย ๆ เดินออกไปจากห้อง
เสิ่นชิวสุ่ยยืนอยู่ตรงนั้น มองดูนายท่านเสิ่นเดินจากไป ทันทีที่นายท่านเสิ่นเดินออกไปจากประตูห้อง เสิ่นชิวสุ่ย สะบัดแขนอย่างรุนแรง ทำให้แจกันดอกไม้สวยงามราคาแพงที่อยู่ข้าง ๆ เธอแตกเป็นชิ้น
รอยแตกที่อยู่บนพื้น ล้วนเป็นความรู้สึกในขณะนี้ของเสิ่นชิวสุ่ย
น้ำตาไหลออกมาจากตาของเสิ่นชิวสุ่ย หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงเต็ม เสิ่นชิวสุ่ยค่อยเดินออกมาจากในห้อง
บนทางเดินระเบียงที่อยู่นอกห้อง ฉีเทียนยืนอยู่ที่นี่ มองดูเสิ่นชิวสุ่ยเดินออกมาจากประตูในห้อง
เสิ่นชิวสุ่ยยิ้มเล็กน้อย เดินไปข้างหน้าฉีเทียน : “ขอโทษด้วยนะคะ คุณฉี ให้คุณรอนานไปแล้ว”
สำหรับฉีเทียน เสิ่นชิวสุ่ยไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด และยังรู้สึกเกลียดผู้ชายคนนี้ที่จู่ ๆ ก็เข้ามาในชีวิตของตนเอง
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฉีเทียน เสิ่นชิวสุ่ยไม่สามารถแสดงออกถึงความไม่พอใจได้ ทำได้เพียงยิ้มออกมา
ฉีเทียนสังเกตเห็น เสิ่นชิวสุ่ยตาแดงเล็กน้อย ตอนที่อยู่ในคุกฉีเทียนโดนผู้เฒ่าเจียงฝึกฝนมาเป็นเวลาสามปีตอนนี้ไม่ใช่คนอ่อนต่อโลกเหมือนในอดีตแล้ว ผู้เฒ่าเจียงไม่ใช่แค่ฝึกฝนวิชาการต่อสู้เท่านั้น ยังมีสิ่งที่คลอบคลุมเช่นการสังเกต
ฉีเทียนดูออกว่าเสิ่นชิวสุ่ยมีอารมณ์ที่เปลี่ยนไป ก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
ฉีเทียนยิ้มอ่อน : “คุณเสิ่นไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้”
เสิ่นชิวสุ่ยมองไปที่ฉีเทียน หายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งครั้ง แม้ว่าในใจจะไม่ยินยอมมากแค่ไหน เสิ่นชิวสุ่ยก็ต้องอดกลั้นไว้แล้วพูดว่า: “พิธีจบแล้ว พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
กลับบ้าน!
เมื่อกี้นี้นายท่านเสิ่นยื่นกุญแจบ้านใหม่ให้เสิ่นชิวสุ่ย เตรียมไว้ให้เสิ่นชิวสุ่ยกับฉีเทียน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกันแล้ว!
“ครับ” ฉีเทียนหยักหน้า
ทั้งสองเดินออกจากโรงแรม คนขับรถที่กู้เหวินจัดเตรียมไว้ก็มารอที่หน้าประตูโรงแรมแล้ว ทั้งสองออกมา เปิดประตูรถให้ทั้งสองคนอัตโนมัติ รถขับไปยังย่านปี้สุ่ย
นี่คือเขตที่อยู่อาศัยที่หรูหราที่สุดในเมืองเทียนหยินแล้ว บ้านที่ราคาถูกที่สุดอยู่ที่สองหมื่นต่อหนึ่งตารางเมตร
และบ้านที่นายท่านเสิ่นซื้อให้เสิ่นชิวสุ่ยนี้ เป็นวิลล่าที่แพงที่สุดของย่านปี้สุ่ย มีพื้นที่ทั้งหมดแปดร้อยหกสิบตารางเมตร รวมการตกแต่งแล้ว เกือบจะห้าสิบล้าน!
เดินเข้าไปในบ้าน ฉีเทียนมองดูวิลล่าที่สวยหรูหลังนี้ หรูหรากว่าที่เขาคิดไว้เยอะมาก
“คุณฉีคะ ฉันยังมีธุระที่บริษัทอีก นี่คือกุญแจบ้าน ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
หลังจากที่เสิ่นชิวสุ่ยยื่นกุญแจหนึ่งพวงให้ฉีเทียนแล้ว ไม่อยู่ต่อแม้แต่นาทีเดียว ออกไปจากที่นี่เหมือนวิ่งหนี
ที่จริงแล้วบริษัทไม่มีอะไรมาก เสิ่นชิวสุ่ยแค่ไม่อยากอยู่ที่นี่ อยู่นานขึ้นหนึ่งวิ เธอก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง
ขณะที่เสิ่นชิวสุ่ยกำลังจะขึ้นรถ ฉีเทียนตะโกนเรียกเธอไว้ทันที
“คุณเสิ่น”
เสิ่นชิวสุ่ยหันหน้าไปเหมือนหุ่นยนต์ ยิ้มให้กับฉีเทียน : “คุณฉี ว่ายังไงคะ?”
ฉีเทียนถือกุญแจที่อยู่ในมือ แล้วเอ่ยปากพูดว่า : “พูดตามตรง รอยยิ้มที่อยู่บนหน้าคุณแข็งทื่อมาก รอยยิ้มที่ฝืนออกมา ดูไม่ดีมากนัก”
สีหน้าของเสิ่นชิวสุ่ยนิ่งไปชั่วขณะ ต่อมา รอยยิ้มที่ฝืนออกมาก็ค่อย ๆ หายไป สีหน้ากลับคืนสู่ความเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง
เดิมทีเสิ่นชิวสุ่ยก็ฝืนยิ้มจนเหนื่อยมากแล้ว ในเมื่อฉีเทียนเป็นฝ่ายพูดขึ้น เสิ่นชิวสุ่ยจึงไม่เสแสร้งอีกต่อไป
เห็นสีหน้าที่เย็นชาของเสิ่นชิวสุ่ย ฉีเทียนกลับยิ้มออกมา : “เธอไม่พอใจกับ งานหมั้นนี้มากเลยใช่ไหม?”
“ใช่!” เสิ่นชิวสุ่ยพยักหน้าโดยไม่ลังเล “ฉันไม่พอใจมากจริง ๆ! ถึงขั้นที่เกลียดเรื่องนี้!”
ในเมื่อเปิดประเด็นพูดกันชัดเจนแล้ว เสิ่นชิวสุ่ยก็ไม่เสแสร้งอีก เธอปิดประตูรถที่เปิดออกมาแล้ว เผชิญหน้ากับฉีเทียน
ฉีเทียนมองดูท่าทางที่จะเปิดอกพูดของเสิ่นชิวสุ่ย หายใจเข้าลึก ๆ ยักไหล่เบา ๆ แล้วพูดว่า : “ดังนั้น เดิมทีก็เกลียดเรื่องนี้มากพออยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสแสร้งกันอีก พูดตามตรง แกเป็นคนที่บุกเข้ามาอย่างฉับพลัน แค่เห็นแก ก็ทำให้ฉันรู้สึกไม่ชอบแล้ว”
ฉีเทียนเม้มปากเบา ๆ : “แต่ช่วยไม่ได้ งานแต่งงานนี้ คุณไม่สามารถตัดสินเองได้ ที่ผมพูดพวกนี้กับคุณ ไม่มีอะไรนอกเหนือจาก ยอมรับความจริงเถอะ”
เสิ่นชิวสุ่ยกำลังจะเอ่ยปากพูด กลับเห็นฉีเทียนหันหลังเข้าไปในบ้านแล้ว
เสิ่นชิวสุ่ยพูดไม่ออก เดิมทีคิดว่าพูดกันชัดเจนแล้ว จะทำให้เรื่องนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดี แต่ใครจะไปรู้ว่าฉีเทียนบอกให้ตนเองยอมรับความจริง!
ความจริงนี้ จะยอมรับได้อย่างไร?
เสิ่นชิวสุ่ยเปิดประตูรถออกแล้วเข้าไปในนั่งด้วยความโมโห แต่ก็ดี อย่างน้อยก็พูดกันชัดเจนแล้ว ต่อไปจะได้ไม่ต้องฝืนยิ้มในทุก ๆ วัน
สตาร์ทรถ เสิ่นชิวสุ่ยเหยียบคันเร่ง มุ่งหน้าไปที่บริษัท
ฉีเทียนยืนอยู่ข้างหน้าหน้าต่างกระจกจากเพดานจรดพื้นที่อยู่ชั้นสองของวิลล่า มองดูเสิ่นชิวสุ่ยขับรถออกไป หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูข้อความที่ได้รับเมื่อกี้นี้ จากนั้นก็โทรออก
“ฉีเทียน ผมเอง”
ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพ : “ท่านฉี ผมคือหนอนน้อยแห่งเป่ยไห่ไง”
ปีศาจมังกรแห่งเป่ยไห่คนโหดที่ถูกเรียกขานด้วยความเคารพ เมื่ออยู่ต่อหน้าฉีเทียนแทนตัวเองว่าหนอนน้อย
“ธุระอะไร?”
“ผู้เฒ่าเจียงบอกว่า เสิ่นเผิงปินกลับมาแล้ว จะลงมือกับคู่หมั้นของท่านฉี ผมได้รับข้อมูลมาว่า นักสังหารที่เสิ่นเผิงปินส่งมาตอนนี้มาถึงเทียนหยินแล้ว”
“เสิ่นเผิงปินเหรอ?” ฉีเทียนขมวดคิ้ว “ไม่เคยได้ยินชื่อของคน ๆ นี้
ปีศาจมังกรแห่งเป่ยไห่พูดว่า : “เป็นคนต่ำต้อยคนหนึ่ง ไม่อยู่ในสายตาของท่านฉีอย่างคุณแน่นอน ผมจะส่งข้อมูลของเขาไปให้คุณเดี๋ยวนี้”