บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ขอเชิญคุณฉีเทียน !

วันนี้เป็นวันมงคลของตระกูลเสิ่น ตระกูลเสิ่นจัดงาน แขกทุกคนต่างก็มาร่วมแสดงความยินดี ไม่มีใครคิดเลยว่า วันมงคลแบบนี้ ในงานแบบนี้ จะมีคนลงมือ!

จ้าวเฉิงรู้สึกเพียงใบหน้าเจ็บแสบมาก เขาไม่คิดเลยว่า ฉีเทียนที่ต่ำต้อยเหมือนสุนัขจะกล้าลงมือทำร้ายตน!

จ้าวเฉิงค่อย ๆ ยกมือขึ้นมาใช้แขนแตะลงบนหน้าข้างที่เจ็บ มองดูฉีเทียนด้วยความเหลือเชื่อ : “แกกล้าดียังไงมาตบฉัน?”

ฉีเทียนเหลือบมองจ้าวเฉิงแวบหนึ่ง : “ถ้าฉันได้ยินแกพูดถึงพ่อแม่ฉันอีก จะฉีกปากของแก”

ความโกระของจ้าวเฉิงระเบิดขึ้นมาทันที กำหมัดแล้วเตรียมลงมือ

หวังหรงรีบขึ้นไปดึงแขนของจ้าวเฉิงไว้ แล้วรีบพูดว่า : “อย่าใจร้อน นี่คือที่ของตระกูลเสิ่น คนแซ่ฉีกล้าลงมือในวันมงคลแบบนี้ ต่อให้กู้เหวินไม่สามารถปกป้องเขา คนมากมายขนาดนี้ กู้เหวินก็ต้องไว้หน้าตระกูลเสิ่นอยู่แล้ว!”

คำพูดของหวังหรงทำให้จ้าวเฉิงใจเย็นลงมาทันที หมัดที่กำไว้แน่นก็คลายออก เขามองฉีเทียนด้วยแววตาที่เย็นชา เยาะเย้ยว่า : “คนตัวเล็กตัวน้อยอย่างแก ชอบใช้อารมณ์เหนือเหตุผล แกตบฉันหนึ่งครั้งคิดว่าหล่อมากแล้วเหรอ? ฉันจะรอดู แกก่อเรื่องวุ่นวายในสถานที่แบบนี้ จะให้คำอธิบายตระกูลเสิ่นอย่างไร!”

การเปลี่ยนแปลงของที่นี่ทำให้สายตาของคนที่อยู่รอบ ๆ มองมา เสิ่นชิวสุ่ยที่ยืนอยู่บนเวทีมองมาทางนี้ด้วยสีหน้าที่เย็นชามาก

หวังหรงกับจ้าวเฉิงทั้งสองเห็นเสิ่นชิวสุ่ยมองมาด้วยความไม่สบอารมณ์ แอบยิ้มอย่างเย็นชาอยู่ในใจมากยิ่งขึ้น!

สำหรับผู้หญิงทุกคนงานหมั้นเป็นเรื่องที่เป็นมงคลมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงที่น่าภูมิใจอย่างเสิ่นชิวสุ่ย ก่อเรื่องขึ้นในงานหมั้นของเสิ่นชิวสุ่ย เป็นการรนหาที่ตาย

เสิ่นชิวสุ่ยเดินมาอย่างช้า ๆ พูดเสียงเย็นชาว่า : “วันนี้เป็นวันมงคลของตระกูลเสิ่น และเป็นวันสำคัญของฉันเสิ่นชิวสุ่ย ก่อเรื่องในวันมงคลแบบนี้ ไม่เห็นหัวคนตระกูลเสิ่นใช่ไหม?”

ได้ยินคำเสิ่นชิวสุ่ยถามเอาเรื่อง แววตาที่หวังหรงมองไปที่ฉีเทียน ก็เหมือนมองคนตาย ก่อเรื่องในวันที่เป็นมงคลแบบนี้ ต่อให้เป็นกู้เหวินก็ไม่สามารถปกป้องฉีเทียนได้!

แม้ว่ากู้เหวินจะเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก แต่ยังไม่อยู่ในระดับที่ควบคลุมทั่วโลกได้!

หวังหรงรีบถือโอกาสแสดงความเป็นมิตรต่อเสิ่นชิวสุ่ย : “ประธานเสิ่น คนแบบนี้ไม่รู้จักอะไรควรมิควร คุณไม่ต้องห่วง ฉัน...”

เสิ่นชิวสุ่ยหึอย่างเย็นชา พูดขัดจังหวะหวังหรงขึ้นมา : “แกเป็นใคร?”

หวังหรงชะงักไปกับคำถามของเสิ่นชิวสุ่ย แต่หวังหรงอยากจะสร้างความประทับใจให้กับเสิ่นชิวสุ่ย ยังคงพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มว่า : “สวัสดีค่ะประธานเสิ่น ฉันคือหวังหรง เป็น...ของอุสาหกรรมที่อยู่อาศัย”

หวังหรงพูดด้วยรอยยิ้ม เสิ่นชิวสุ่ยกลับไม่มองหวังหรงแม้แต่พริบตาเดียว เธอเดินไปที่ฉีเทียน ยิ้มขอโทษฉีเทียน ควงแขนฉีเทียน พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า : “ให้คนที่ไม่รู้จักกาลเทศะเข้ามา ทำให้คุณรำคาญใจแล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”

เสิ่นชิวสุ่ยเป็นเทพธิดาเย็นชาที่มีชื่อเสียงในเทียนหยิน คนที่จีบเธอเข้าแถวจากเมืองทางใต้มาถึงเมืองทางเหนือ แต่ไม่เคยได้ยินว่าเสิ่นชิวสุ่ยพูดจาดีกับผู้ชายคนไหนเลย

แต่ตอนนี้ ท่าทางของเสิ่นชิวสุ่ย เป็นการเอาใจฉีเทียนชัด ๆ ! คำพูดที่อ่อนโยนนี้ หลาย ๆ คนที่เห็นแล้วทำตาโตขึ้นมา!

หวังหรงมองภาพที่อยู่ตรงหน้าเหมือนเห็นผีมากยิ่งขึ้น!

นี่คือเสิ่นชิวสุ่ย! ผู้หญิงที่น่าภูมิใจของตระกูลเสิ่น! เป็นผู้หญิงที่สวยสง่าที่สุดในเมืองเทียนหยิน! แต่ตอนนี้ ควงแขนของฉีเทียน อ่อนโยนขนาดนี้!

ทำให้หวังหรงรู้สึกไม่เป็นความจริงมาก ๆ

ฉีเทียนพยักหน้าให้กับเสิ่นชิวสุ่ย เดินขึ้นไปบนเวที

กู้เหวินที่ยืนอยู่บนเวทีพูดเสียงดังว่า : “ทุกท่าน ขอเชิญคู่หมั้นของเสิ่นชิวสุ่ย คุณฉีเทียน!”

เมื่อเสียงพูดสิ้นสุดลง กู้เหวินปรบมือก่อน ทันใดนั้นก็มีเสียงปรบมือดังก้อง

จ้าวเฉิงจ้องมองไปบนเวทีอย่างไม่ละสายตา ความรู้สึกอิจฉาริษยาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในใจของจ้าวเฉิง แทบจะระเบิดออกมา!

ทำไม! เสิ่นชิวสุ่ย เป็นผู้หญิงที่น่าภูมิใจ! ผู้หญิงแบบนี้ จ้าวเฉิงอย่างฉันก็ทำได้เพียงมองอยู่ในที่ไกล ๆ เท่านั้น! คู่หมั้นของเธอจะเป็นขยะอย่างฉีเทียนได้อย่างไร! ผู้ชายที่โดนหวังหรงทอดทิ้ง ทำไมถึงได้เป็นคู่หมั้นของเสิ่นชิวสุ่ย! ทำไม!

จ้าวเฉิงกำหมัดไว้แน่น ฉีเทียนเป็นเพียงสุนัขที่กู้เหวินเลี้ยงเท่านั้น เขามีสิทธิ์อะไรไปยืนข้างเสิ่นชิวสุ่ย! เขามีสิทธิ์อะไร!

จ้าวเฉิงมองดูเสิ่นชิวสุ่ยควงแขนของฉีเทียนอย่างอ่อนโยน ภาพนี้ ทำให้จ้าวเฉิงอยากจะตะโกนออกมาเสียงดัง

บอดี้การ์ดร่างใหญ่สองสามคนเดินไปข้างหน้าจ้าวเฉิงและหวังหรง

“คุณทั้งสอง ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกคุณ ไสหัวไปซะ!”

เมื่อบอดี้การ์ดพูดจบ ก็จับไหล่ของหวังหรงและจ้าวเฉิงทั้งสองคนขึ้นมา ลากทั้งสองคนออกไปจากห้องจัดงาน

เพื่อวันนี้ หวังหรงไม่ได้หลับทั้งคือ คิดว่าจะเตรียมของขวัญอะไรให้เสิ่นชิวสุ่ยเพื่อสร้างภาพจำที่ดี แต่กลับแลกมาด้วยสถานการณ์แบบนี้ ภาพแบบนี้ทำให้ความรู้สึกของหวังหรงแทบจะพังทลายลง

“ไม่! พวกแกทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้! คนที่ควรไสหัวไปคือฉีเทียน!” หวังหรงตะโกนสุดเสียง

เสิ่นชิวสุ่ยขมวดคิ้วขึ้นมา พูดเสียงเบาว่า : “ตบปาก!”

บอดี้การ์ดที่ลากหวังหรงอยู่ตบเข้าไปที่หน้าของหวังหรงสองครั้งโดยไม่ไว้หน้าเลยสักนิด เพื่อให้หวังหรงหุบปาก ความเจ็บแสบนั้นทำให้หวังหรงไม่กล้าพูดอะไรอีก

หวังหรงทำได้แค่มองดูฉีเทียนที่ยืนอยู่บนเวที มีความสุขกับเสียงปรบมือ กลายเป็นพระเอกของวันนี้

“ไสหัวไปเถอะ!”

หวังหรงกับจ้าวเฉิงโดนโยนออกไปข้างนอกห้องจัดงานทั้งคู่ พวกเขาทั้งสองมองดูภายในห้องที่หรูหราด้วยความไม่ยอมพริบตาหนึ่ง จากนั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว

เสียงอวยพรที่อยู่ภายในห้องโถงจัดงานยังดังเข้ามาในหู้ของทั้งสองได้ เมื่อทั้งสองได้ยิน ก็รู้สึกทิ่มแทงหูเป็นพิเศษ

ออกไปจากโรงแรม นั่งเข้าไปในรถเบนซ์ หวังหรงมองดูประตูโรงแรมที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สด จัดให้สำเร็จงานหมั้นของตระกูลเสิ่นโดยเฉพาะ

ตอนที่มาหวังหรงมองดูประตูนี้ และยังพูดทำนองว่าตระกูลเสิ่นยิ่งใหญ่มากจริง ๆ และยังถ่ายรูปไว้อีกหลายรูป โพสต์ลงในโซเชียล แต่ตอนนี้เห็นดอกไม้พวกนี้ หวังหรงมีความรู้สึกอยากจะไปหักดอกไม้สดเหล่านี้ให้หมด แต่หวังหรงไม่กล้า

“ฉันไม่ยอม!”

หวังหรงกัดฟันแน่น มือทั้งสองจับพวงมาลัยไว้แน่น ออกแรงมากจนข้อต่อของนิ้วเป็นสีขาว เหมือนพวงมาลัยนี้เป็นคู่แค้นที่ฆ่าพ่อของเธอ

จ้าวเฉิงมีแววตาที่ดุร้ายเช่นกัน : “ทำไม! นักโทษติดคุกคนหนึ่ง แม้แต่หวังหรงอย่างเธอก็ไม่ชอบ กลับได้มาเป็นคู่หมั้นของเสิ่นชิวสุ่ย! มีสิทธิ์อะไร!”

หวังหรงไม่ได้สนใจความหมายในคำพูดของจ้างเฉิง เงียบไปนานแล้วพูดขึ้นว่า : “ฉันว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรผิดปกติ! คุณคิดดูสิฉีเทียนไม่มีอะไรเลย เสิ่นชิวสุ่ยชอบเขาได้อย่างไร? มีคำอธิบายเพียงอย่างเดียวก็คือ กู้เหวิน สร้างความใหญ่โตให้กับฉีเทียน! กู้เหวินเป็นคนจัดฉากงานหมั้นนี้ขึ้นมาเอง!”

จ้าวเฉิงเผยสีหน้าที่สงสัยออกมา : “กู้เหวินทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?”

หวังหรงพูดขึ้นทันทีว่า : “ง่ายมาก! กู้เหวินมีความทะเยอทะยาน เขาดันให้หุ่นเชิดอย่างฉีเทียนอยู่ในตำแหน่งนี้ เสิ่นชิวสุ่ยก็ตกลงหมั้นด้วย ก็จะต้องอยากเชื่อมความสัมพันธ์การแต่งงานกับกู้เหวิน! ตระกูลเสิ่นมีผู้สืบทอดตั้งมากมายขนาดนั้น เสิ่นชิวสุ่ยอยากได้รับการสนับสนุนของกู้เหวิน! เช่นนี้แล้วหล่อนถึงจะอยู่ในตำแหน่งผู้สืบตระกูลเสิ่นได้อย่างมั่นคง!”

จ้าวเฉิงมีสีหน้าที่ไม่ดี : “ถ้าเป็นแบบนี้ กู้เหวินก็ปกป้องฉีเทียน เสิ่นชิวสุ่ยก็อยู่ฝั่งฉีเทียน แตะต้องฉีเทียนมาได้เลย แต่ถ้าไม่จัดการ เมื่อเขารื้อคดีขึ้นมา เธอกับฉันก็จะซวย!”

หวังหรงส่ายหัวเบา ๆ : “ผู้สืบทอดของตระกูลเสิ่นมีเยอะมาก หลังจากที่เสิ่นชิวสุ่ยอยู่ในตำแหน่งผู้สืบทอด ก็จะไม่ไปสนใจฉีเทียนผู้ที่ทอดทิ้งคนนี้แล้ว! ฉันได้ข่าวว่า สองวันนี้เสิ่นเผิงปินลูกคนรองของตระกูลเสิ่นกลับมาที่เมืองหยินแล้ว เขาไม่ยอมเสียสถานะของผู้สืบทอดตระกูลเสิ่นไปแน่นอน!”

จ้าวเฉิงแววตาเป็นประกายขึ้นมาทันที : “เธอหมายถึง คนโหดเหี้ยมที่ไปจากเทียนหยินเมื่อสองปีก่อนเหรอ!”

หวังหรงพยักหน้าหนักแน่น : “ใช่แล้ว! ให้เขาไปจัดการเสิ่นชิวสุ่ยกับฉีเทียน สองคนนี้ก็จะไม่สามารถเอาชนะได้!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel