บทที่ 5 ขอเชิญคุณกู้มหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง

“ทุบขาให้หักทั้งสองข้าง? ปัจจุบันวัยรุ่นเทียนหยิน มีอำนาจขนาดนี้เลยเหรอ!”

เสียงพูดที่ดุดันดังขึ้นมา กู้เหวินเดินมาจากข้าง ๆ

เมื่อเห็นกู้เหวิน หวังหรงชี้และพูดทันทีว่า : “ตาแก่คนนี้แหละที่เมื่อวานหนุนหลังให้ฉีเทียน!”

ตอนนี้หวังหรงได้อยู่ในตำแหน่งบริหารชั้นสูงของธุรกิจเพราะความช่วยเหลือจ้าวเฉิง ทำงานที่เทียนหยินได้เยี่ยม แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงธุรกิจอย่างเสิ่นซื่อได้มากนัก

ส่วนกู้เหวินที่เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเทียนหยิน หวังหรงไม่กล้าแม้แต่จะคิด ยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องพูดถึงการพบเจอมาก่อน

จ้าวเฉิงได้ยินคำพูดประโยคนี้ จ้องไปที่กู้เหวิน ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า : “ตาแก่ ได้ข่าวว่าเมื่อวานแกเหิมเกริมมาก พาคนมาทำร้ายกับผู้หญิงของฉันเหรอ? แกเป็นใครกัน?วันนี้ฉันจะทุบขาทั้งสองข้างของคนไม่ได้เรื่องนี้ให้หัก แกมีปัญหาอะไรไหม?”

กู้เหวินหัวเราะ : “พ่อหนุ่ม เวลาพูดจา ต้องดูด้วยว่าตนเองมีสิทธิ์หรือไม่”

จ้าวเฉิงเดินเข้าไปหนึ่งก้าว ใช้ไหล่กระแทกกู้เหวินหนึ่งครั้ง : “ตาแก่ ฉันมีสิทธิ์หรือไม่ เดี๋ยวแกก็รู้ ไม่ต้องห่วง เมื่อวานแกจะทำร้ายทำผู้หญิงของฉัน งานหมั้นวันนี้สิ้นสุดลง ฉันจะไม่ให้แกเดินออกไปจากตรงนี้ได้อย่างปลอดภัยแน่ ไม่มีใครปกป้องแกได้ ฉันจ้าวเฉิงเป็นคนพูดเอง!”

กู้เหวินพยักหน้าเบา ๆ : “จ้าวเฉิงใช่ไหม ฉันจำชื่อของแกไว้แล้ว”

“งั้นก็จำไว้ให้ดี!” จ้าวเฉิงพูดอย่างเย็นชา “ชื่อนี้ จะวนเวียนอยู่กับแก เหมือนฝันร้าย”

เมื่อเสียงของจ้าวเฉิงสิ้นสุดลง ฉีกยิ้ม ชูนิ้วกลางให้กู้เหวิน โอบกอดหวังหรงแล้วเดินออกไปไกล

กู้เหวินมองไปที่จ้าวเฉิงสองครั้ง และไม่ได้ใส่ใจอะไร สำหรับกู้เหวินแล้ว เขาอยู่ในตำแหน่งนี้ เห็นผู้คนมาหลากหลายรูปแบบแล้ว เห็นวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ก็เยอะ คนอย่างจ้าวเฉิงนี้ ไม่เป็นที่น่าสนใจของเขาเลย แค่หลังเกิดเหตุนึกขึ้นได้แล้วโบกมือเล็กน้อย ก็มีคนจำนวนมากไปช่วยจัดการให้แล้ว

กู้เหวินมองดูนาฬิกาข้อมือ พูดกับฉีเทียนด้วยความเคารพว่า : “คุณฉี ยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงพิธีก็เริ่มแล้ว จะไปกินอะไรก่อนไหม?”

“ไม่ต้อง” ฉีเทียนส่ายหัว “คุณมาที่นี่ได้อย่างไร วันนี้ตระกูลเสิ่นเชิญคุณมาเป็นพยานไม่ใช่เหรอ?”

กู้เหวินยิ้มเล็กน้อย : “เพิ่งทราบข่าวว่าคุณฉีมาแล้ว ผมจึงออกมารับ คนตระกูลเสิ่นมาครบแล้ว นายท่านเสิ่นก็จะมาต้อนรับด้วย โดนผมห้ามไว้”

ฉีเทียนโบกไม้โบกมือ “ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น คุณไปทำหน้าที่ก่อนเถอะ ผมยังมีธุระต้องทำอีกสักนิด”

“เข้าใจแล้ว”

กู้เหวินพยักหน้า และถอยไปแต่โดยดี

ฉีเทียนจะทำอะไรนั้น กู้เหวินจะไม่ถาม และไม่กล้าที่จะถาม

ฉีเทียนเดินไปยังมุมที่มีคนน้อย สำรวจรอบด้าน

เวลาผ่านไปผู้คนที่มาชั้นบนสุดก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ภายในห้องโถงใหญ่เปิดเพลงที่ไพเราะน่าฟัง ผู้คนพูดคุยกัน

ทันใดนั้น ไฟในห้องโถงก็ดับลง

ขณะนี้ เสียงที่ดังในห้องโถงเสียงก็เงียบลง ทุกคนต่างก็เข้าใจตรงกัน พิธี กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!

เสิ่นชิวสุ่ยที่ถูกขนานนามว่าสวยงามที่สุดในโลก ผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลเสิ่น สมแล้วที่เป็นเทพธิดา ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา การศึกษา หรือสถานะ ก็สมบูรณ์แบบแทบทั้งหมด!

นี่คือผู้หญิงที่ได้รับความรักจากผู้คนมากมาย

ส่วนอีกคนหนึ่ง มีความเป็นมาที่ลึกลับ จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ ผู้ชายที่หมั้นกับเสิ่นชิวสุ่ยเป็นคนแบบไหน ชื่ออะไร แต่มั่นใจได้ว่า คนที่สามารถหมั้นกับผู้หญิงอย่างเสิ่นชิวสุ่ยได้ ทำให้ตระกูลเสิ่นต้องจัดงานใหญ่ขนาดนี้ จะต้องมีอำนาจใหญ่โต!

หรือ บางทีมีสถานะเดียวกันกับตระกูลกู้ในเทียนหยิน!

ทุกคนต่างก็เฝ้าคอย ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มืดมิด

หวังหรงใจเต้นเร็วมาก เธอรู้ว่า เมื่อใกล้จะถึงเวลาที่ตนต้องแสดงตัวแล้ว หลังจากที่เจ้าของงานทั้งสองคนออกมา ตนเองจะต้องสร้างภาพจำที่ดีให้กับทั้งสองคน ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น คนทั้งสองที่หมั้นกันในวันนี้ หลังจากวันนี้เป็นต้นไป จะต้องมีตำแหน่งที่ใหญ่โตในเทียนหยินพอสมควรเมื่อผู้ที่แข็งแกร่งทั้งสองร่วมมือกัน เพียงแค่กระทืบเท้า ก็สั่นสะเทือนไปทั้งเทียนหยินแล้ว!

สปอร์ตไลท์ส่องไปที่หน้าประตู เมื่อประตูเปิดออก ผู้หญิงที่ใส่ชุดราตรีสีขาวคนนั้น ปรากฏตัวอยู่ภายใต้สปอร์ตไลท์ เมื่อแสงสาดส่องไปที่ตัว เธอเหมือนนางฟ้าที่มาจุติบนโลกมนุษย์ สวยงาม น่าหลงใหล และสง่าสูงส่ง ทำให้ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ในงานหมองกันหมด

จ้าวเฉิงที่อยู่ข้าง ๆ หวังหรงจ้องมองคนที่อยู่ใต้สปอร์ตไลท์อย่างไม่ละสายตา พึมพำว่า : “ไม่รู้ว่าต้องผู้ชายแบบไหนถึงจะได้แต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้”

หวังหรงได้ยินเข้า มองไปที่จ้าวหรงด้วยความหึงหวง แต่ไม่พูดอะไร เพราะหวังหรงมองว่า ด้วยสถานะของจ้าวเฉิง ไม่สามารถใกล้ชิดกับผู้หญิงอย่างเสิ่นชิวสุ่ยได้หรอก จ้าวเฉิงทำได้เพียงจินตนาการอยู่ในใจ ทำอะไรไม่ได้

เสิ่นชิวสุ่ยเดินมาช้า ๆ หน้าตาที่สวยเนียนเพียงแค่ทาแป้งบาง ๆ ดวงตากลมโตที่เป็นประกาย จมูกที่สูงโด่ง ปากทรงเชอร์รี่ ทำให้น่าหลงใหล ตกอยู่ในภวังค์

แสงสว่างเคลื่อนย้ายตามเสิ่นชิวสุ่ยอย่างช้า ๆ เสิ่นชิวสุ่ยเดินขึ้นไปบนเวที ภาพที่แสนธรรมดานี้ กลับทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความสวยงามของโลก

“ทุกคน วันนี้ ขอขอบคุณทุกคนที่มาเข้าร่วมงานหมั้นของชิวสุ่ย”

นายท่านเสิ่นปรากฏตัวอยู่บนเวที แสงสว่างขึ้นมา

ทันทีที่นายท่านเอ่ยปากพูด ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากข้างล่างเวที

“นายท่านเสิ่นพูดเกินไปแล้ว”

“ได้มาเป็นสักขีพยานในวันนี้ เป็นเกียรติของพวกเรา”

นายท่านเสิ่นมองดูรอบ ๆ แล้วพูดต่อไปว่า : “วันนี้ สำหรับตระกูลเสิ่นของพวกเราแล้ว เป็นวันพิเศษวันหนึ่ง สำหรับชิวสุ่ยแล้ว ก็ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง หล่อนได้เจอคู่หมั้นที่เหมาะสมกับหล่อน ถือเป็นความโชคดีของชิวสุ่ย และเป็นความโชคดีของตระกูลเสิ่น!”

นายท่านเสิ่นพูดประโยคนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

อยู่ในตำแหน่งของนายท่านเสิ่นนี้ คำพูดทุกประโยคของเขา แฝงด้วยความหมายที่มากมายเหลือเกิน!

นายท่านเสิ่นบอกว่าตระกูลเสิ่นมีความโชคดีในเรื่องนี้มาก? นั่นหมายความว่าอะไร! หมายความว่า สถานะของคนที่หมั้นกับเสิ่นชิวสุ่ย ตระกูลเสิ่นจะต้องเอื้อมมือขึ้นไป!

ข้อมูลนี้ มีความสำคัญมาก

หวังหรงได้ยินถึงตรงนี้ ก็ยิ่งมีความมุ่งมั่นมากขึ้น ตนเองจะต้องสร้างภาพจำที่ดีให้กับคู่หมั้นที่ลึกลับของเสิ่นชิวสุ่ย คบค้าสมาคมกับคนใหญ่คนโตระดับนี้ จะต้องมีประโยชน์กับตัวเองมากมายแน่นอน!

หลังจากที่นายท่านเสิ่นพูดจบ ก็จงใจทิ้งช่วง ให้ทุกคนทำความเข้าใจกับคำพูดท่อนนี้ให้ดี

ผ่านไปไม่กี่วิ นายท่านเสิ่นก็พูดอีก : “ขณะเดียวกัน วันนี้ต้องขอบคุณกู้เหวินคุณกู้มาร่วมงาน เพื่อเป็นพยานให้กับพวกเรา ทุกคนเชิญคุณกู้ขึ้นมาบนเวที!”

เมื่อสิ้นสุดเสียงพูด นายท่านเสิ่นปรบมือก่อน

เสียงปรบมือภายในห้องโถงก็ดังก้องขึ้นมา

หวังหรงมองดูจ้าวเฉิงด้วยความสงสัยเล็กน้อย ถามว่า : “กู้เหวินคือใคร?”

จ้าวเฉิงพูดด้วยสายตาที่ดุเดือดว่า : “คุณกู้ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเทียนหยิน! ยังจำธุรกิจเหล่านั้นที่ฉันเคยบอกเธอก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ ถูกสร้างขึ้นโดยกู้เหวินคุณกู้ทั้งหมด!”

“มหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง!” ทันใดนั้นหวังหรงหายใจเร็วขึ้น

มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งเลยเหรอ! ตำแหน่งจะต้องเหนือกว่าตระกูลเสิ่นล่ะสิ!

ท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังก้อง มีร่างของคน ๆ หนึ่งเดินเข้าไปบนเวทีช้า ๆ

หวังหรงกับจ้าวเฉิงจ้องมองไปที่เวทีอย่างไม่ละสายตา พวกเขาจะต้องเห็นหน้าตาจริง ๆ ของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเทียนหยินด้วยตนเอง

และทันทีที่เห็นคุณกู้เหวิน หวังหรงกับจ้าวเฉิง ต่างก็ต้องอึ้งไปตาม ๆ กัน!