บทที่ 4 งานหมั้น
ฉีเทียนออกไปจากบ้านใหม่ เผยสายตาที่ดุร้ายออกมา
เพิ่งลงมาจากตึก ก็แห็นกู้เหวินรออยู่ที่ประตูทางเข้าตึก
“คุณฉี” กู้เหวินทักทายด้วยความเคารพ
ฉีเทียนถามขึ้น : “ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วยัง”
“ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับ”
“ขึ้นไปพูดบนรถ”
ฉีเทียนกลับขึ้นไปบนรถกับกู้เหวิน กู้เหวินยื่นซองเอกสารให้ฉีเทียน
สิ่งที่อยู่ในซองเอกสารนี้ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสองสามีภรรยาฉีตงเซิ่งในระยะเวลาสามปีนี้
ฉีเทียนมองดู แววตาที่ดุร้ายและแข็งแกร่งก็เพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากที่ฉีเทียนเข้าคุก คนที่โดนชนก็ถูกช่วยให้มีชีวิตกลับมา แต่ค่ารักษาสูงมาก หวังหรงทั้งครอบครัวผลักไสเรื่องนี้ออกไป ไม่สนใจเลย พ่อแม่ของฉีเทียนจึงต้องรับผิดชอบค่ายารักษาและค่าบำรุงร่างกายทั้งหมด
ค่าใช้จ่ายหลายล้านทำให้สองสามีภรรยาฉีตงเซิ่งต้องขายบ้าน
หลังจากที่ฉีเทียนเข้าคุกได้หนึ่งเดือน ครอบครัวหวังหรงไปหาสองสามีภรรยาฉีตงเซิ่งเพื่อถอนหมั้น บอกว่าฉีเทียนเป็นนักโทษติดคุกไม่มีสิทธิ์ไปสู่ขอหวังหรง และยังบอกว่าเพราะฉีเทียนเข้าคุกจึงทำให้งานแต่งงานโมฆะ สินสอดหนึ่งแสนก็ไม่คืนให้ด้วย
เรื่องราวดำเนินแบบนี้ไปครึ่งปี อยู่มาวันหนึ่ง หวังหรงก็พาคนไปหาสามีภรรยาฉีตงเซิ่ง เพื่อเอาของจากพวกเขา สิ่งของชิ้นนั้น คือภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดบ้านเก่าของฉีเทียน บันทึกเรื่องที่หวังหรงมาขอให้ฉีเทียนช่วยรับโทษแทน!
สามีภรรยาฉีตงเซิ่งไม่ได้ให้ หวังหรงจึงพาคนไปก่อกวนเป็นครั้งคราว เริ่มต้นด้วยการข่มขู่ จากนั้นก็พังประตูบ้าน จนถึงขั้นลงมือทำร้าย หวังหรงทำรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
พฤติกรรมความรุนแรงของหวังหรง เริ่มตั้งแต่ที่ฉีเทียนเข้าคุกได้ครึ่งปี จนกระทั่งตอนนี้สองปีครึ่งเต็ม ๆ!
แววตาของฉีเทียนเผยความเยือกเย็นออกมา ออกแรงที่นิ้วมือ เอกสารที่อยู่ในมือกลายเป็นผงทันที
กู้เหวินที่เห็นภาพนี้ก็รู้สึกเกรงกลัวขึ้นมา
กู้เหวินมีตำแหน่งที่สูง รู้เรื่องราวมากมายที่คนธรรมดาทั่วไปไม่รู้ นักบู๊โบราณผู้ยอดฝีมือ ใช้กำลังภายในอะไรเหล่านี้ กู้เหวินก็เคยได้ยินมา นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น!
ทำให้กู้เหวินรู้สึกเคารพฉีเทียนมากยิ่งขึ้น
กู้เหวินลองสอบถามขึ้น : “คุณฉี ให้ผมส่งคนไปจัดการหรือไม่?”
กู้เหวินพูดพลาง ใช้เมือเช็ดไปที่คอ
ฉีเทียนส่ายหัวเบา ๆ : “ไม่ต้อง ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง พยายามอย่าใช้กำลังของวิหารราชามังกร แค่หวังหรงคนเดียว ไม่ต้องขนาดนั้น”
กู้เหวินพยักหน้าทันที : “เข้าใจแล้ว!”
ฉีเทียนเปิดประตูรถออก : “ฉันกลับไปก่อน คุณไปเตรียมเรื่องงานหมั้นในวันพรุ่งนี้”
ฉีเทียนพูดจบ ก็เดินกลับบ้าน
สาเหตุที่ฉีเทียนอ้างว่าทำงานกับกู้เหวิน ก็เพราะว่ารู้นิสัยของพ่อแม่ สองคนนี้เป็นคนที่ซื่อสัตย์ ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาตลอดชีวิต ถ้ารู้ว่าตนเองทำเรื่องใหญ่โตอะไรขึ้นมาอีก ทั้งสองจะต้องเป็นห่วงแน่นอน แทนที่จะทำให้ทั้งสองตกใจกลัว ยอมทำไปทีละขั้นทีละตอนยังดีกว่า
กลับไปถึงบ้าน ฉีเทียนพูดคุยกับพ่อแม่อย่างสบายใจ
เหวินซู่หวาลังเลพูดขึ้นมาว่า : “เสี่ยวเทียน วันไหนว่าง ๆ ก็ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บเถอะ...”
ฉีตงเซิ่งจ้องไปที่เหวินซู่หวา : “พอเถอะ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเสี่ยวเทียน แผลภายนอกก็รักษาจนหายดีแล้ว ไม่ต้องไปเยี่ยมหรอก”
ฉีเทียนฟังจากน้ำเสียงของพ่อแม่ รู้สึกมีอะไรผิดปกติ เหมือนมีเรื่องอะไรปิดบังตนเองอยู่
นอนที่บ้านหนึ่งคืน เช้าวันที่สอง ฉีเทียนลุกขึ้นมา มุ่งหน้าไปที่โรงแรมซินไค่
โรงแรมซินไค่เป็นธุรกิจของตระกูลเสิ่น มาตรฐานระดับห้าดาว
วันนี้เสิ่นชิวสุ่ยหมั้น จัดเตรียมเรื่องนี้กันทั้งโรงแรม งานที่จัดขึ้นบนล็อบบี้ชั้นหนึ่งจัดเพื่อรองรับแขกทุกคน ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จักตระกูลเสิ่น เพียงแค่เข้ามา ตระกูลเสิ่นก็จะจ่ายบิลให้!
ขึ้นไปชั้นบน เป็นพื้นที่รองรับแขกผู้มีเกียรติ
และชั้นบนสุด จะเป็นสถานที่จัดพิธีงานหมั้น คนที่สามารถขึ้นไปชั้นบนสุดได้ ล้วนเป็นคนที่มีหน้ามีตาในเทียนหยิน
กู้เหวินเตรียมชุดราตรีที่ใส่ในพิธีงานหมั้นให้ฉีเทียนเรียบร้อยแล้ว วันนี้เป็นวันหมั้นของฉีเทียน แต่ฉีเทียนไม่ได้บอกพ่อแม่ ฉีเทียนรู้ดีว่า งานหมั้นเป็นแค่พิธีการหนึ่งเท่านั้น ผู้เฒ่าเสิ่นตองการใช้ในการเดินหมากต่อไปของตระกูลเสิ่น ตนเองกับเสิ่นชิวสุ่ยเป็นเพียงข้อแลกเปลี่ยนตกลงเท่านั้น
ฉีเทียนใส่ชุดราตีระดับไฮเอนด์ ความรู้สึกเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างชัดเจน ฝึกร่างกายอยู่ในคุกสามปี ทำให้ฉีเทียนมีรูปร่างที่สง่า เหมือนเกิดมาเพื่อเป็นหุ่นสำหรับเสื้อผ้า ใส่ชุดราตรีเข้าไป เหมาะสมกับรูปร่างอย่างหาที่ติไม่ได้
ฉีเทียนมาถึงชั้นบนสุดของโรงแรมซินไค่ ชั้นบนสุดของโรงแรมนี้มีคนมาเยอะแล้ว ทุกคนต่างก็แต่งกายสวยหรู
เสิ่นซื่อเป็นบริษัทที่มีหน้ามีตาในเทียนหยิน แขกรับเชิญต่างก็มาแสดงความยินดี
“หยกเนื้ออ่อนและเนื้อแข็งหนึ่งคู่เป็นของขวัญร่วมแสดงความยินดีจากฉ่ายชวน เทรดดิ้ง !”
“ของขวัญจากตี๋เซิงวัสดุเหล็ก...”
แค่ของขวัญที่ตระกูลเสิ่นได้รับ ในวันนี้ มูลค่าก็หลายร้อยล้านแล้ว!
หวังหรงใช้เส้นสายที่มีทั้งหมด เพื่อให้ตนเองได้ขึ้นมาชั้นบนสุดในวันนี้ เธอใช้เงินมหาศาลเพื่อซื้อรูปปั้นเด็กผู้ชายทองคำและผู้หญิงหยกมาวางไว้บนโต๊ะเพื่อแสดงความยินดี เพียงเพื่อให้ตระกูลเสิ่นรู้สึกประทับใจ
“ที่รัก ผมเตรียมคนไว้เรียบร้อยแล้ว หลังเสร็จงานหมั้นผมจะพาคุณไปแก้แค้น คนที่แซ่ฉีจะต้องใช้ชีวิตอย่างไม่สงบสุขแน่!”
วัยรุ่นที่เมื่อวานปรากฏอยู่ข้างหน้าประตูเรือนจำกับหวังหรงกอดคอหวังหรง สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
ที่จ้าวเฉิงโมโหไม่ใช่เป็นเพราะหวังหรงโดนทุบ แต่เป็นเพราะว่าฉีเทียนที่แม้แต่สุนัขก็ยังเทียบไม่ได้นั้นกล้าลงมือ ถ้าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปอีกสักนิด เขาก็คงรื้อคดีขึ้นมาได้แล้วสิ?
จ้าวเฉิงมให้เกิดหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแน่นอน!
หวังหรงพยักหน้า การแก้แค้นฉีเทียนเป็นเพียงเรื่องที่ทำได้สบาย ๆ สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้ คือสร้างความประทับใจต่อหน้าเสิ่นชิวสุ่ย ถ้าได้เจอกับคู่หมั้นที่ลึกลับของเสิ่นชิวสุ่ยก็คงจะดีมากยิ่งขึ้น!
ขณะที่หวังหรงกำลังครุ่นคิด ก็มีร่างของคน ๆ หนึ่งเดินผ่านหน้าหวังหรงไป
ครั้งแรกที่เห็นร่างของคน ๆ นี้ หวังหรงสงสัยว่าตนเองดูผิด!
วันนี้เป็นวันหมั้นของเสิ่นชิวสุ่ย คนที่มาชั้นบนสุดของโรงแรมได้ ล้วนเป็นคนที่มีหน้ามีตาของเทียนหยิน! คนอย่างฉีเทียน จะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
จ้าวเฉิงก็มองไปที่ฉีเทียน สีหน้าบึ้งตึง : “เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
หวังหรงหัวเราะอย่างเย็นชา : “เหอะเหอะ เข้าสังคมไฮโซตามคนอื่นละสิ แต่ไม่ดูเลยว่าตัวเองเป็นใคร นักโทษติดคุกคนหนึ่ง คู่ควรแล้วเหรอ?”
จ้าวเฉิงเดินไปหาด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง พูดเย้ยหยันว่า : “โธ่ นี้ไม่ใช่นักโทษติดคุกเหรอ? ทำไม มาขอข้าวกินขอน้ำดื่มที่นี่เหรอ? แกมาสถานที่แบบนี้ได้ด้วยเหรอ”
ฉีเทียนหันไปเห็นหวังหรงและจ้าวเฉิง
หวังหรงเยาะเย้ยว่า : “เข้ามาได้ยังไงเนี่ย? ดูสินักโทษที่ติดคุกมาหลายปี มีความสามารถบ้างแล้ว กล้ามาสถานที่แบบนี้ด้วยเหรอ? ดูแต่งกายสิ เช่ามาแพงสินะ? พ่อแม่ที่ยังชีพด้วยการเก็บขยะขายต้องเก็บขวดมากขนาดไหนกว่าจะแลกชุดวันนี้ของแกมาได้?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” จ้าวเฉิงหัวเราะเสียงดัง “คนไม่ได้เรื่องที่เลี้ยงโดยคนเก็บขยะยังกล้ามาที่นี่อีก!”
ฉีเทียนกวาดสายตามองไปที่ทั้งสองแวบหนึ่ง สำหรับฉีเทียนแล้ว หวังหรงเป็นคนที่ต้องจัดการแน่นอน คนแบบนี้ ฉีเทียนไม่อยากเสียเวลาพูดคุยด้วย
จ้าวเฉิงเห็นฉีเทียนกำลังจะเดินจากไปโดยไม่พูด จึงก้าวเข้าไปหนึ่งก้าว ดักทางของฉีเทียน พูดข่มขู่ว่า : “ไอ้ขยะ ฉันขอเตือนแกไว้ คำพูดบางคำแกอย่าไปพูดมั่ว! ฉันไม่สนใจว่าที่แกมาในวันนี้มีวัตถุประสงค์อะไร แต่แกฟังให้ดี ถ้าฉันได้ยินคำพูดที่ไม่ควรพูดออกมาจากปากของแก ฉันจะฉีกปากแก ทุบขาทั้งสองข้างของไอแก่นั้นให้หัก เข้าใจไหม?”