บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 โทษตัวเอง

บ้านไม้เดิมทีก็แทบจะกันลมกันฝนไม่ได้แล้ว ชายหนึ่งหญิงหนึ่งวัยกลางคนทั้งสองคนโดนชายฉกรรจ์สองสามคนกดหัวลงบนพื้น

เห็นภาพนี้จากที่ไกล ๆ ดวงตาฉีเทียนแทบระเบิดออกมา รู้สึกเพียงสมองว่างเปล่า ความโมโหทะยานขึ้นฟ้า

“หวังหรง ฉันจะเอาแกให้ตาย!”

ฉีเทียนตะโกนขึ้นมา รถยังไม่หยุด ฉีเทียนก็เปิดประตูออก แล้วกระโดดลงไป มุ่งหน้าไปยังบ้านไม้ที่อยู่ข้างหน้า

กู้เหวินเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่มีกระจิตกระใจเฝ้าดูคนขับรถขับเข้าไป รีบสั่งให้คนขับหยุดรถ จากนั้นก็วิ่งไปยังบ้านไม้ที่อยู่ข้างหน้า

หวังหรงที่ยืนด่าอยู่ข้างหน้าประตูบ้านไม้ ได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากข้างหลัง

“หวังหรง ฉันจะเอาแกให้ตาย!”

ฉีเทียนก้าวเท้าเข้ามายาว ๆ เตะเข้าไปที่หวังหรง

สีหน้าของหวังหรงเปลี่ยนไปมาก อยากจะหลบก็หลบไม่ทัน โดนฉีเทียนเตะลอยออกไปไกลหลายเมตร

เตะเข้าไปครั้งนี้ทำให้หวังหรงรู้สึกเป็นตะคริวที่หน้าท้อง ความเจ็บปวดที่แสนทรมานนั้นทำให้หวังหรงอยากจะร้องออกมาแต่เปล่งเสียงออกมาไม่ได้เลย

ชายฉกรรจ์สองสามคนที่อยู่ข้างในบ้านเห็นเหตุการณ์ จึงพุ่งมาที่ฉีเทียน

เมื่อเผชิญกับการพุ่งเข้ามาของชายฉกรรจ์สองสามคน ฉีเทียนเตะเท้าออกไปติดต่อกันไม่กี่ครั้ง ทำให้คนพวกนี้กระเด็นออกไปทันที ฉีเทียนลงมือหนักมาก เตะเข้าไปที่แขน ทำให้แขนของคนหนึ่งหักทันที

“ฉีเทียน!” หวังหรงกุมที่หน้าท้องแล้วลุกขึ้นมาจากพื้น จ้องตาแข็งไปที่ฉีเทียน ด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ “แกกล้าทำร้ายฉันเหรอ! แกรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ฉันเป็นใคร!”

กู้เหวินพาคนวิ่งเข้ามา จากที่ที่อยู่ไม่ไกลออกไป ไม่เพียงแค่คนขับรถของกู้เหวินเท่านั้น ยังมีทีมรถที่ขับตามหลังมาตลอด

“ทุบเดี๋ยวนี้!”

เป็นถึงมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของเทียนหยิน ตอนนี้มีความเป็นอันธพาลมาก โบกมือหนึ่งครั้ง ก็เรียกให้ทุกคนลงมือได้เลย

คนจำนวนสิบกว่าคนพุ่งเข้าไป

หวังหรงเห็นอย่างนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปมาก : “ได้! ฉีเทียน มีตาแก่หนุนหลังแกใช่ไหม! พวกเรามาคอยดูก็แล้วกัน!”

หวังหรงพูดจบ เปิดประตูรถแล้วนั่งเข้าไปในรถ เหยียบคันเร่งแล้วจากไป

ส่วนชายฉกรรจ์พวกนั้นหนีไม่รอด โดนคนที่กู้เหวินพามาลงมือทุบทันทีที่ได้รับคำสั่ง

ฉีเทียนไม่มีเวลาไปสนใจจุดจบของคนเหล่านี้คืออะไร เขาวิ่งเข้าไปในบ้านไม้

ภายในบ้านไม้มีพื้นที่ไม่มาก ทั้งหมดสิบกว่าตารางเมตร เตากับที่นอนอยู่ใกล้กันมาก

ฉีเทียนเห็น พ่อแม่ของตัวเองยังนอนอยู่บนพื้น มีรอยเขียวช้ำบนใบหน้า เห็นได้ชัดว่าเพิ่งผ่านความทุกข์ยากมา

ทันทีที่เห็นฉีเทียน สองสามีภรรยาไม่ได้เผยความประหลาดใจออกมาทางสายตา และไม่รู้สึกดีใจที่ลูกชายออกมาจากคุก แต่เป็นความกังวลใจ ความลำบากใจ และความไม่สบายใจ!

ฉีเทียนไม่ใช่วัยรุ่นที่ทำอะไรไม่คิดเหมือนในอดีตแล้ว สามปีนี้ เขาได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง

ฉีเทียนสังเกตเห็น บ้านไม้หลังนี้ยุ่งเหยิงมาก และยังมีขวดที่เก็บมาวางกองไว้ด้วยกันจำนวนมาก ปกติพ่อแม่นอนกับสิ่งของพวกนี้ แต่มีเพียงเสื้อผ้าสองชุด ที่พับตั้งไว้ในมุมอย่างเป็นระเบียบ และสะอาด

เสื้อผ้าสองชุดนี้ ฉีเทียนจำได้แม่นมาก ก็คือเสื้อผ้าที่พ่อแม่ใส่ไปเยี่ยมเขาที่คุกทุกครั้ง! พวกเขาให้ตนเองเห็นด้านที่ดีที่สุด ให้ตนเองไม่เคยต้องกังวลใจอะไรเลย!

ฉีเทียนเข้าใจ สีหน้าท่าทางที่ไม่สบายใจของพ่อแม่ในตอนนี้ แต่เพียงเพราะตนเองเห็นความยากลำบากในปัจจุบันของทั้งสอง!

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะตนเอง ทำให้พ่อแม่ที่เดิมทีใช้ชีวิตอย่างสุขสงบต้องกลายมาเป็นแบบนี้!

ในใจของฉีเทียนเต็มไปด้วยความเสียใจ โกรธแค้น รู้สึกผิด

ฉีเทียนงอขาทั้งสองข้าง “ฟึบ” เสียงคุกเข่าลงบนพื้น ก้มหัวลงบนพื้นไม่หยุด ส่งเสียงออกมา

“พ่อ! แม่!”

ฉีเทียนก้มหัวลงบนพื้นไม่หยุด เขาไม่ได้ขอโทษ เขาไม่รู้ว่าควรพูดความรู้สึกขอโทษที่อยู่ในใจตัวเองอย่างไร ทั้งหมดนี้เป็นเพราะตนเอง แต่พ่อแม่ไม่เคยพูดอะไรเลย ไม่เคยทำให้ตนเองต้องเป็นห่วง!

สามปีมานี้ สีผมของพ่อแม่กลายเป็นสีขาวหงอก แก่ชราลงเร็วมาก

กู้เหวินเฝ้าอยู่หน้าประตู รู้กาลเทศะจึงไม่เข้าได้ไป

ภายในบ้าน สองสามีภรรยาฉีตงเซิ่งเห็นท่าทางแบบนั้นของลูกชาย จะทนดูได้อย่างไร

“เสี่ยวเทียน ลุกขึ้นมาเร็วเข้า ลูกกลับมาแล้ว ถือเป็นเรื่องดี ทำแบบนี้ทำไม”

เหวินซู่หวาผู้เป็นแม่ก็เก็บสีหน้าที่ลำบากใจเอาไว้เผยรอยยิ้มออกมา เดินไปพยุงตัวฉีเทียน

ฉีตงเซิ่งลุกขึ้นมา : “เอาล่ะ กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว ลุกขึ้นมานั่งเร็วเข้า”

ฉีเทียนมองดูรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าอันแก่ชราของพ่อแม่ ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้ฉีเทียนรู้สึกโดนมีดกรีดเข้าไปในใจ

“ยังไม่กินข้าวสินะ ให้แม่ไปตักก๋วยเตี๋ยวมาให้สักถ้วย กินข้าวก่อนสักนิด”

เหวินซู่หวารีบเดินออกไปข้างนอกประตู เก็บหม้อ ชามที่ถูกโยนออกไปข้างนอกบ้าน

“พ่อครับแม่ครับ” ฉีเทียนรีบห้ามไว้ “สามปีมานี้ ลำบากพ่อแม่ด้วยนะครับ ขอโทษ ขอบคุณจริง ๆ ล้วนเป็นเพราะผมเอง ถ้าไม่ใช่เพราะผมพ่อแม่ก็ไม่ต้อง...”

ผู้ชายไม่ร้องไห้กันง่าย ๆ เพียงแค่ยังไม่ถึงจุดที่ต้องเสียใจ

น้ำตาของฉีเทียนไหลออกมาอาบแก้ม

“พอได้แล้ว ไม่เป็นไร” ฉีคงเซิ่งตบไปที่ไหล่ของฉีเทียน “ลูกเองก็โตแล้ว คนทุกคนต้องเติบโต พวกเราเป็นพ่อแม่ของลูก เมื่อเกิดเรื่องขึ้นพวกเราไม่ช่วยรับแทน แล้วใครจะรับหน้าแทนลูก?”

ฉีเทียนเช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า : “พ่อครับแม่ครับ พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องของหวังหรง จะต้องไม่จบแค่นี้แน่! สามปีนี้ผมได้เรียนรู้อะไรมามากมาย ต่อไปไม่ให้พ่อกับแม่ต้องลำบากอีกแล้ว!”

เหวินซู่หวายิ้มอย่างอ่อนโยน : “เจ้าเด็กบ้า ลูกพูดอะไรน่ะ พ่อแม่ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แต่แม่ไม่ชอบหวังหรงจริง ๆ ต่อไปอย่าไปมาหาสู่กันอีก ในเมื่อออกมาแล้ว ก็ใช้ชีวิตให้ดี ๆ หางานทำสักหนึ่งงาน ทุกอย่างจะผ่านไปเอง”

ได้ยินคำที่อ่อนโยนของแม่ ฉีเทียนน้ำตาไหลอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่

“พ่อครับแม่ครับ ผมแนะนำให้พ่อแม่รู้จักหน่อย นี่คือกู้เหวินอากู้ เป็นเพื่อนของผู้อาวุโสคนหนึ่ง ต่อไปผมทำงานที่บริษัทของอากู้ พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องงานของผมเลย และยังมีบ้านให้หลังหนึ่งด้วย”

สองสามีภรรยาฉีตงเซิ่งได้ยินคำพูดประโยคนี้ ตาโตขึ้นมาทันที แม้ว่าพวกเขาจะมีสีหน้าที่ผ่อนคลาย แต่ที่จริงแล้วรู้อยู่แก่ใจดีว่า ฉีเทียนออกจากคุกมาแล้วหางานไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น

แต่ในเมื่อตอนนี้ได้งานแล้ว และยังมีบ้านให้อีกด้วย?

กู้เหวินเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเทียนหยิน และมีความช่ำชองในด้านของมนุษย์สัมพันธ์ เมื่อได้ยินฉีเทียนพูดแบบนี้ จึงรีบเอ่ยปากว่า : “ลูกพี่ฉี พี่สะใภ้ เสี่ยวฉีพูดถูก ผมเองก็ได้ฟัง เรื่องของเขาแล้ว เขาไม่ได้มีส่วนผิด เด็กคนนี้มีน้ำใจไมตรี ผมชอบมาก ต่อไปเขาทำงานกับผม พวกคุณไม่ต้องห่วง นี่คือนามบัตรของผม”

กู้เหวินยื่นนามบัตรให้

ฉีตงเซิ่งมองดูแวบหนึ่ง เหวินจุน กรุ๊ป! นี่คือบริษัทที่มีชื่อเสียงในเทียนหยินเลยนะ! สวัสดิการของที่นั่นดีมาก!

สองสามีภรรยาฉีตงเซิ่งสบายใจขึ้นมาทันที

“ขอบคุณสำหรับการดูแลของประธานกู้ เสี่ยวเทียนของพวกเราเป็นคนดี ขยันทำงาน...”

สองสามีภรรยารีบชมฉีเทียนทันที ด้วยความชำนาญด้านมนุษย์สัมพันธ์ของกู้เหวิน ก็เข้าไปมีส่วนร่วมในหัวข้อที่พูดคุยทันที บรรยากาศก็ผ่อนคลายขึ้นมาไม่น้อย

กู้เหวินส่งรถตู้คันเล็กมาหนึ่งคันอย่างเงียบ ๆ และจัดแจงบ้านให้ฉีเทียนหนึ่งหลัง

เดิมทีกู้เหวินก็เตรียมบ้านไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นคฤหาสน์หลังหนึ่ง แต่เมื่อได้ยินคำพูดของฉีเทียน กู้เหวินรีบให้คนไปเตรียมบ้านสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำหนึ่งห้องรับแขกเพิ่มอีกหนึ่งหลังทันที

หลังจากที่มอบบ้านใหม่ให้ฉีเทียนแล้ว กู้เหวินก็หาเหตุผลกลับออกไป ให้สามคนพ่อแม่ลูกมีเวลาได้อยู่ร่วมกัน

สองสามีภรรยาฉีตงเซิ่งอยู่อาศัยที่บ้านกระท่อมมาสามปีแล้ว เมื่อมาอยู่อาศัยในบ้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามอีกครั้ง รู้สึกไม่ชินเลย

ฉีเทียนเห็นได้ชัด ตอนที่แม่ใช้ก๊อกน้ำ มีรอยยิ้มบนใบหน้า

ตอนที่อยู่บ้านกระท่อม การใช้น้ำเป็นเรื่องที่ยากมาก

“พ่อครับ แม่ครับ พ่อกับแม่พักผ่อนก่อน ผมสั่งอาหารให้แล้ว เดี๋ยวมาส่ง ผมต้องไปบริษัทอากู้เพื่อทำเรื่องเข้าทำงาน กลับมาก่อนกินมื้อค่ำ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel