บทที่ 14 เดินตามหลังผม
เฉียวหลิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เสิ่นชิวสุ่ยสีหน้าเปลี่ยนทันที
พี่หงกวาดสายตามองเข้าไปในห้องVIP แวบหนึ่ง ยิ้มแล้วพูดว่า : “เอ๋อ เป็นคนที่สวยงามมากจริง ๆ ประธานจ้าวมีรสนิยมที่ดี ได้ค่ะ ในเมื่อประธานจ้าวเอ่ยปากขอแล้ว ฉันจะต้องหาวิธีจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จ!”
ตอนที่พี่หงเอ่ยปากพูด น้ำเสียงนั้นผ่อนคลายเหมือนกำลังขายของสบาย ๆ
พี่หงหมุนตัว มองไปที่หลิวจี้ เอ่ยปากพูดว่า : “คุณชื่ออะไรแล้วนะ?”
แม้ว่าหลิวจี้เพิ่งโดนตบไปหนึ่งครั้ง แต่เมื่อเจอคำถามของพี่หง ก็ตอบกลับด้วยความระมัดระวัง : “พี่หง ผมชื่อหลิวจี้”
“อ๋อ” หี่หงพยักหน้า “วันนี้ประธานจ้าวอารมณ์ดี แขนขาของแกปลอดภัยแล้ว ให้ผู้หญิงคนนั้นมาสิ”
หลิวจี้มองไปที่เสิ่นชิวสุ่ยพูดด้วยความลำบากใจเล็กน้อยว่า : “พี่หงครับ คนนี้คือ...”
“หืม?” พี่หงไม่มีอารมณ์ฟังหลิวจี้พูดจบ
หลิวจี้เห็นสีหน้าที่ไม่พอใจของพี่หง ทำให้ตัวสั่นขึ้นมา ไม่กล้าพูดมากกว่านี้อีก เดินไปที่เสิ่นชิวสุ่ย ดูพร้อมกับทำสีหน้าอ้อนวอนว่า : “ประธานเสิ่น วันนี้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายเล็กน้อย คุณสละตัวเองสักนิด ดื่มเหล้ากับประธานจ้าวสักสองแก้วดีไหม?”
“หลิวจี้ แกบ้าไปแล้วใช่ไหม!” เฉียวหลิงเดินไปข้างหน้าเสิ่นชิวสุ่ย
“เช็ด!” ประธานจ้าวด่าขึ้นมาเสียงดัง “อยากจะสนุกกับผู้หญิงสักคนทำไมมันต้องยุ่งยากขนาดนี้! มาหาฉันเดี๋ยวนี้!”
ประธานจ้าวพูดพลาง พาคนเดินตรงเข้ามาในห้องVIP
ประธานจ้าวเดินมาข้าง ๆ หลิวจี้แล้ว มองดูไอหนุ่มที่หยาบคายกับตนเองเมื่อครู่นี้ ตะคอกว่า : “สารเลว!”
หลิวจี้ไม่กล้าพูดมาก ถอยไปข้าง ๆ แต่โดยดี
ประธานจ้าวเดินหน้าสองก้าว มองไปที่เสิ่นชิวสุ่ย เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา : “ไปกันเถอะ สาวน้อย”
ประธานจ้าวพูดพลาง เอื้อมมือไปดึงเสิ่นชิวสุ่ย
เสิ่นชิวสุ่ยถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลบมืออันสกปรกของประธานจ้าว
ประธานจ้าวเห็นเช่นนี้แล้ว รอยยิ้มที่อยู่ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น : “ฮ่าฮ่า ผู้ชายของเธอยังไม่สนใจเธอเลย เธอจะแสร้งทำเป็นเขินอายทำไม?”
ประธานจ้าวโบกไม้โบกมือ ชายฉกรรจ์ที่อยู่ข้างนอกประตูต่างก็พุ่งเข้ามา ล้อมรอบประธานจ้าว
ทายาทคนรวยที่เดิมทีมีท่าทีเหิมเกริมอยู่ในห้องVIP ตอนนี้หดตัวอยู่ข้าง ๆ ไม่กล้าพูดสักคำ
ข้าง ๆ เสิ่นชิวสุ่ยมีเพียงเฉียวหลิงที่ยืนอยู่
ประธานจ้าวแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปาก ทำให้ไขมันบนหน้าของเขาสั่นเล็กน้อย จากนั้นก็เอื้อมมือไปจับตัวของเสิ่นชิวสุ่ย
เสิ่นชิวสุ่ยอยากจะถอยหลังไป แต่ครั้งนี้ ทางข้างหลังของเธอโดนชายฉกรรจ์ที่ประธานจ้าวพามายืนดักไว้แล้ว
เสิ่นชิวสุ่ยไม่สามารถถอยหลังได้เลย
สถานการณ์แบบนี้เสิ่นชิวสุ่ยเคยเจอเสียที่ไหนกัน ขณะที่เสิ่นชิวสุ่ยกำลังครุ่นคิดว่าตนเองควรจัดการอย่างไร จู่ ๆ ก็มีเท้าขนาดใหญ่ปรากฏออกมา เตะเข้าไปที่หน้าอกของประธานจ้าว!
ร่างกายอ้วนใหญ่ของประธานจ้าวอย่างน้อยหนักหนึ่งร้อยกิโลกรัม แต่โดนเตะครั้งเดียวกระเด็นออกไป
ไม่มีใครคาดคิดถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
เสิ่นชิวสุ่ยมองไปข้าง ๆ ตามสัญชาตญาณ ไม่รู้ว่าฉีเทียนมายืนอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่ตอนไหน
เสิ่นชิวสุ่ยคิดไม่ถึงว่า ฉีเทียนจะออกตัว ภายใต้สถานการณ์แบบนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แม้ว่าเสิ่นชิวสุ่ยจะไม่เคยเจอมาก่อน แต่ก็มองสถานการณ์ออก เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงที่ชื่อว่าพี่หงนี้มีอิทธิพลมากเหลือเกิน แม้แต่หลิวจี้ก็ยังไม่กล้าหาเรื่องด้วย
เมื่อครู่นี้เสิ่นชิวสุ่ยครุ่นคิดว่าในกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับตนเองมีใครออกหน้าได้บ้าง แต่คิดไม่ถึงว่า ฉีเทียนจะเป็นฝ่ายออกมาปกป้องตนเอง!
ต้องเข้าใจว่า ตอนที่เจอเรื่องในช่วงบ่ายของวันนี้ ฉีเทียนเป็นคนที่วิ่งหนีเร็วที่สุด!
ประธานจ้าวที่โดนเตะไปหนึ่งครั้งถูกชายฉกรรจ์สองคนพยุงตัวขึ้นมา จ้องไปที่ฉีเทียนอย่างไม่ละสายตา ด่าด้วยความโมโหว่า : “เช็ด เขากล้าแตะต้องฉัน? อยากตายใช่ไหม!”
ฉีเทียนมองไปที่ประธานจ้าวแวบหนึ่ง ไม่สนใจเขา เดินไปที่เสิ่นชิวสุ่ยแล้วพูดว่า : “สถานที่แบบนี้ไม่เหมาะกับคุณ ผมส่งคุณออกไปก่อนก็แล้วกัน”
“ออกไปเหรอ?” ประธานจ้าวถ่มน้ำลายลงบนพื้น “วันนี้ไม่มีใครได้ไปทั้งนั้น!”
ฉีเทียนยังคงไม่สนใจประธานจ้าว เพียงแค่พูดกับเสิ่นชิวสุ่ยว่า : “คุณเดินตามหลังผมมาก็ได้แล้ว”
เมื่อสิ้นสุดเสียงพูด ฉีเทียนก็เดินไปทางประตู
ประธานจ้าวโบกมือขึ้นมา ตะโกนเสียงดังว่า : “ทำให้มันตาย!”
ชายฉกรรจ์ที่อยู่ข้างหลังประธานจ้าววิ่งมาที่ฉีเทียน
หลิวจี้ยืนดูภาพนี้อยู่ข้าง ๆ ด่าเสียงต่ำว่า : “ไอโง่ยังกล้าอวดเก่งในสถานการณ์แบบนี้อีก! ตัวเองอยากตายก็อย่าทำให้พวกเราซวยไปด้วยสิ!”
เสิ่นชิวสุ่ยมองดูชายฉกรรจ์เหล่านี้เดินใกล้เข้ามา รู้สึกประหม่าอยู่ในใจ รีบพูดว่า : “ประธานจ้าวใช่ไหม ฉันคือเสิ่นชิวสุ่ยของตระกูลเสิ่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้จะต้องเกิดความผิดพลาดบางอย่างแน่นอน”
สีหน้าของประธานจ้าวเต็มไปด้วยความไม่แยแส : “ตระกูลเสิ่นอะไร ฉันไม่เคยได้ยิน! จัดการ!”
ภายใต้คำสั่งของประธานจ้าว ชายฉกรรจ์ลงมือทันที ต่อยหมัดตรงไปที่ฉีเทียน
รูปร่างของฉีเทียนมองจากภายนอกแล้วไม่แข็งแรงมากนัก ตอนที่ชายฉกรรจ์นี้ต่อยหมัดมา แทบจะทุกคนเหมือนเห็นภายที่ฉีเทียนโดนต่อยหนึ่งหมัดสลบลงไปนอนบนพื้น
เสิ่นชิวสุ่ยสังเกตเห็นเพียง ขณะที่ชายฉกรรจ์ต่อยหมัดเข้ามา ฉีเทียนยืนอยู่ตรงหน้าตนเอง ร่างของเขาบดบังอยู่ข้างหน้าตนเองได้หมด ทันใดนั้น เสิ่นชิวสุ่ยมีความรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก
หลิวจี้หัวเราะอย่างเย็นชา : “นี่ก็คือจุดจบของคนโง่!”
หลิวจี้รอดูภาพเหตุการณ์ที่ฉีเทียนโดนชายฉกรรจ์ต่อยหน้าคว่ำอย่างเงียบ ๆ
แต่ว่า ไม่เกิดภาพเหตุการณ์นี้ขึ้นแน่นอน
เผชิญหน้ากับหมัดที่ชายฉกรรจ์ต่อยเข้ามา ฉีเทียนเดินไปข้างหน้าไม่หยุด ขณะที่หมัดของชายฉกรรจ์กำลังจะสัมผัสใบหน้าของฉีเทียน ฉีเทียนเตะขาออกไปอย่างรุนแรง
เตะหลังถึงก่อน เตะชายฉกรรจ์ลอยออกไปไกลสองเมตร
แต่ขณะนี้ ชายฉกรรจ์คนอื่น ๆ ก็ล้อมเข้ามา ต่างก็จะลงมือทำร้ายฉีเทียน
เฉียวหลิงเดินเข้าไปทันที แม้ว่าเธอจะไม่ชอบฉีเทียนมาก ๆ แต่ต่อให้จะไม่ชอบเฉียวหลิงก็รู้ว่า สิ่งที่ฉีเทียนทำอยู่ในตอนนี้คือปกป้องเสิ่นชิวสุ่ย เธอไม่สามารถมองดูฉีเทียนตกอยู่ในสถานการณ์โดนรุมทำร้าย
“หยุดนะ!”
พี่หงที่อยู่ข้าง ๆ ตะโกนเสียงดังขึ้นมาฉับพลัน
ชายฉกรรจ์เหล่านี้หยุดการกระทำลงทันที
ประธานจ้าวมองมาด้วยความสงสัย : “พี่หง นี่คุณ...”
พี่หงหันไปพูดว่า : “ประธานจ้าวไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ฉันจะให้คำตอบที่พึงพอกับคุณแน่นอน”
ประธานจ้าวครุ่นคิดสองสามวิ พยักหน้า : “ได้ พี่หงพูดแบบนี้ผมก็สบายใจแล้ว”
พูดจบ ประธานจ้าวก็หันหลังแล้วจากไป กลับไปที่ห้องVIP ของตนเอง
พี่หงเป็นคนควบคุม สถานที่เกิดเหตุ
พี่หงกวาดสายตามองไปที่เสิ่นชิวสุ่ย จากนั้นสายตาก็หยุดอยู่ที่ฉีเทียน เอ่ยปากพูดว่า : “ที่แท้ก็คือผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลเสิ่นเองเหรอ ฉันมองผิดเอง คุณเสิ่น คุณอยากไป ที่นี่ไม่มีใครสามารถห้ามคุณและเพื่อนของคุณได้หรอก เชิญค่ะ”
เมื่อพี่หงพูดจบ ก็เดินไปข้าง ๆ หนึ่งก้าว หลีกทางออกให้
เฉียวหลิงดึงแขนของเสิ่นชิวสุ่ยแล้วเดินออกไป “ชิวสุ่ย พวกเราไปกัน”
เสิ่นชิ่วสุ่ยมองไปที่พี่หงแวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอกประตู ฉีเทียนเพิ่งขยับตัวเล็กน้อย พี่หงก็เอ่ยปากพูดว่า : “ทุกคนไปได้หมด แต่แกต้องอยู่ต่อ”
“เป็นไปไม่ได้!” ฉีเทียนยังไม่ได้พูดอะไร เสิ่นชิวสุ่ยก็เอ่ยปากพูดทันที “ฉีเทียนต้องไปกับฉัน!”
พี่หงยิ้มเล็กน้อย : “คุณเสิ่นไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันแค่อยากจะพูดคุยกับคุณผู้ชายคนนี้สักหน่อย ฉันรับรองกับคุณได้ จะไม่ทำร้ายคุณผู้ชายคนนี้แน่นอน”
หลิวจี้วิ่งมาจากข้าง ๆ พูดว่า : “ประธานเสิ่นครับ พวกเราไปกันเถอะ! เขาต่อยประธานจ้าว เขาเป็นคนก่อเรื่องนี้ขึ้นมา อย่าทำให้คุณต้องซวยไปด้วยเลย”
ฉีเทียนมองไปที่พี่หงแวบหนึ่ง พูดกับเสิ่นชิวสุ่ยว่า : “พวกคุณไปก่อน ไม่ต้องห่วง”
แต่เสิ่นชิวสุ่ยยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เธอรู้ดีว่า ฉีเทียนออกตัวเพื่อตนเอง
ฉีเทียนเห็นเสิ่นชิวสุ่ยดื้อรั้นขนาดนี้ เดินไปข้างหน้าเสิ่นชิวสุ่ย พูดเสียงเบา ๆ ว่า : “พวกคุณกลับไปก่อนถึงจะสามารถหาคนมาช่วยผมออกไปได้ ไม่อย่างนั้นทุกคนจะอยู่ตรงนี้กันหมด สบายใจได้ ผมสามารถยืดเวลาออกไปได้สิบกว่านาที คุณรีบเรียกคนมาช่วย!”
หลังจากที่ฉีเทียนพูดแบบนี้ ในที่สุดเสิ่นชิวสุ่ยก็ออกไปจากห้องVIP กับเฉียวหลิง ในขณะเดียวกันนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ค้นหาเส้นสายที่ตนเองสามารถติดต่อได้
หลิวจี้และคนอื่น ๆ ก็หนีออกไปจากตรงนี้ด้วยเช่นกัน