บทที่ 10 แหวนศักดิ์สิทธิ์!

เฉียวหลิงขับรถไม่พูดเลย เสิ่นชิวสุ่ยก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ตรงไหนที่มีฉีเทียน ทำให้เสิ่นชิวสุ่ยรู้สึกไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น

เฉียวหลิงมองผ่านกระจกหลังที่อยู่ในรถ ฉีเทียนนั่งอยู่ข้างหลังคนเดียว สักพักนั่งเบาะซ้าย สักพักนั่งเบาะขวา ทำให้เฉียวหลิงไม่พอใจมาก ๆ

ฉีเทียนก็ไม่อยากทำแบบนี้ ถ้าเขานั่งอยู่บนที่นั่งคนขับรถ สามารถดูออกว่ารถที่ตามมาอยู่บริเวณรอบ ๆ เป็นยังไง แต่ตอนนี้ทำได้เพียงมองผ่านหน้าต่างเท่านั้น

ไม่นาน รถก็ขับมาถึงประตูชุมชนเล็ก ๆ

ฉีเทียนสังเกตเห็น รถที่ขับตามมาเริ่มเพิ่มความเร็ว พวกเขากำลังเตรียมตัวลงมือแล้ว

เสิ่นเผิงปินนั้น อยากจะจัดการเสิ่นชิวสุ่ยให้เรียบร้อย ก่อนที่จะกลับมาถึงเทียนหยิน ดังนั้นเรื่องนี้จะช้าไม่ได้

ฉีเทียนหายใจเข้าลึก ๆ ประเมินสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ เลือกสถานที่ที่สามารถลงมือได้

รถก็ขับเข้าไปในเขตชุมชนเล็ก ๆ ระยะห่างของระหว่างวิลล่าของที่นี่มีพื้นที่กว้างมาก ๆ คนก็น้อย เป็นสถานที่ที่ลงมือที่ดี

ก่อนที่รถจะจอดที่หน้าประตู จู่ ๆ ก็มีรถหนึ่งคันพุ่งมาขวาง ดักทางที่ไปข้างหน้าของเฉียวหลิงในทันที

เฉียวหลิงเดิมทีก็ทำการสืบสวนข้อมูลอยู่แล้ว ประสบการณ์ของเธอบอกเธอว่า เรื่องนี้ผิดปกติ

ขณะที่เฉียวหลิงกำลังทายอยู่ในใจ เสียงของเครื่องยนต์ดังขึ้นฉับพลันสักพัก มีรถออฟโรดพุ่งมาจากด้านข้างอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด หลังจากนั้นไม่กี่วิรถออฟโรดที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงจะชนรถเก๋งที่เฉียวหลิงทั้งสามคนนั่งอยู่พลิกคว่ำ!

สีหน้าของเฉียวหลิงเปลี่ยนไปมาก ร้องเสียงดังขึ้นมา : “ชิวสุ่ย! ลงรถ! เร็ว!”

เสิ่นชิวสุ่ยที่อยู่ที่นั่งข้างคนขับยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เฉียวหลิงก็ถอดเข็มขัดนิรภัยที่อยู่บนตัวเธอออก เสิ่นชิวสุ่ยยังไม่ทันได้คิด ก็ทำตามที่เฉียวหลิงพูด รีบเปิดประตูรถแล้วลงไปจากรถ ขาเพิ่งแตะพื้น ก็โดนเฉียวหลิงดึงไปข้าง ๆ

วินาทีหลังจากที่เสิ่นชิวสุ่ยโดนเฉียวหลิงดึงไป รถเก๋งที่นั่งมาในตอนแรกก็โดนชนพลิกคว่ำไปทันที

รถออฟโรดที่ชนเข้ามาก็จอดทันที รถที่จอดดักทางข้างหน้าและข้างหลังต่างก็เปิดประตูรถออก มีผู้ชายฉกรรจ์ลงจากรถคันละสี่คน พวกเขาปิดหน้าไว้ ถือมีดไว้ที่มือ ทุกคนล้อมมาที่เสิ่นชิวสุ่ย

มีดที่แหลมคมนั้น มีเปล่งประกายแสงเย็นออกมาภายใต้แสงอาทิตย์

เฉียวหลิงจ้องคนเหล่านี้ไม่ละสายตา : “ชิวสุ่ย ยืนอยู่ข้างหลังฉัน”

เสิ่นชิวสุ่ยมองดูบริเวณรอบ ๆ ด้วยความร้อนรนใจ มองดูรถที่พลิกคว่ำไปแล้วแวบหนึ่งด้วยสัญชาตญาณ กลับมองเห็นภาพที่ฉีเทียนเดินเข้าไปในบ้านพอดี

ทันใดนั้น ก็มีคนหนึ่งถือมีดฟันเข้ามา

“ชิวสุ่ย ระวัง!” เฉียวหลิงตะโกนเสียงดัง เตะขาที่เรียวยาวออก เตะไปโดนข้อมือของมือที่ถือมีดพอดี ทำให้มีดที่อยู่ในมือของเขากระเด็นออกไป

เฉียวหลิงมีวามคล่องตัวมาก

ฉีเทียนวิ่งเข้าไปในวิลล่า ไม่หันกลับมามองเลย ตั้งแต่วินาทีที่เกิดเหตุ ฉีเทียนเห็นปฏิกิริยาของเฉียวหลิงก็สามารถรู้ได้ว่าผู้หญิงคนนี้มีความสามารถไม่ธรรมดา อย่างน้อย ๆ รับมือกับนักดาบเหล่านี้ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร ไม่นานบอดี้การ์ดที่อยู่ในชุมชนก็รีบเข้ามา บอดี้การ์ดของที่อยู่อาศัยระดับพรีเมี่ยมแบบนี้มีความสามารถสูงมาก

สำหรับฉีเทียนในตอนนี้ ต้องไปจัดการเรื่องที่สำคัญกว่า

ฉีเทียนเข้าไปในลานของวิลล่า ไม่ได้รีบปิดประตู แต่ทันทีที่เขาไปในลานก็ตีลังกาหนึ่งครั้ง

ทันทีที่ฉีเทียนตีลังกา สถานที่ที่เข้ายืนอยู่ในตอนแรก ก็มีฝุ่นฟุ้งกระจายออกมา ภายใต้ฝุ่น เป็นปล่องกระสุน!

ฉีเทียนไม่รอช้าเลยสักนิด กลังจากที่ตีลังกาแล้วก็รีบลุกขึ้นมาโดยเร็ว วิ่งไปลานข้างหลังวิลล่า เขาวิ่งอย่างรวดเร็ว ใช้เท้าเตะไปที่กำแพง รูปร่างสูงใหญ่แข็งแกร่งขึ้นในทันที มือทั้งสองจับไปที่ขอบหน้าต่างชั้นสอง

กระบวนท่านี้ทำได้ไหลลื่นเหมือนน้ำ เหมือนกำลังทำการแสดงอะไรอยู่

ฉีเทียนไม่หยุดการกระทำ แขนทั้งสองออกแรงดัน เท้าแตะไปที่ระเบียงหน้าต่างอีกครั้ง ตีลังกาเพียงไม่กี่ครั้งก็ขึ้นไปอยู่บนหลังคาแล้ว

ส่วนโค้งเพียงเล็กน้อยของหลังคาบดบังการมองเห็นของฉีเทียน ฉีเทียนมองไม่เห็น แต่มั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีมือปืนซ่อนตัวอยู่ข้างหลังชายคาบ้านที่โค้งออกมา

ที่ฉีเทียนขึ้นไปจากข้างหลังวิลล่า วัตถุประสงค์ก็เพื่อไม่ให้ตัวเองปรากฏตัวอยู่ปลายปากปืนของฝ่ายตรงข้าม ไม่อย่างนั้นต่อให้แกร่งขนาดไหน เมื่ออยู่ตรงหน้าปลายปากปืน ก็ไม่มีความหมายอะไร

บรรยากาศบนหลังคาจู่ ๆ ก็เงียบลง ทั้งสองฝ่ายต่างก็ซ่อนตัวเองเอาไว้อย่างเงียบ ๆ

ไม่กี่วิต่อมา ฉีเทียนเริ่มโจมตีก่อน ทันทีที่ขยับเท้า ร่างกายก็กระโจนไปที่ฝ่ายตรงข้าม

อีกฝ่ายก็รู้สึกถึงการขยับตัวของฉีเทียน ขณะที่กำลังจะยิง

“เพี๊ยะ!”

เกิดเสียงดังขึ้นข้างหูของฉีเทียน ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น ลำปืนแนบอยู่ข้างหูฉีเทียน

ส่วนมือขวาของฉีเทียน กำลังบีบคอของคน ๆ หนึ่งเอาไว้ อีกฝ่ายใส่เสื้อสีเหลืองโคลน กลมกลืนกับสีของหลังคาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าไม่สังเกตดูให้ดี ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีคนซ่อนอยู่ที่นี่

นี่คือผู้ชายวัยกลางคน โดนฉีเทียนบีบคอไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อ บนโลกนี้ยังมีคนที่เร็วขนาดนี้อีก ตนเองยังไม่ทันตั้งตัวเลย มือของคน ๆ นี้ก็มาถึงข้างหน้าตัวเองแล้ว

ฉีเทียนมองดูอีกฝ่าย : “ภายในประเทศจีน แกสามารถพกอาวุธร้อนมาทำภารกิจได้ เป็นของอิทธิพลไหน?”

ผู้ชายวัยกลางคนยิ้มด้วยความทรมาน : “รู้ไม่น้อยเลยนี่ แต่แกคงจะเข้าใจ แกไม่ได้ข้อมูลอะไรจากปากฉันหรอก ฉันสู้คนอื่นไม่ได้ อยากจะฆ่าจะแกงก็แล้วแต่เลย”

มือของฉีเทียนบีบไปที่ปากของเขาทันที ผู้ชายวัยกลางคนนี้อยากจะปิดปากกัดฟันก็ยังไม่สามารถทำได้เลย

ฉีเทียนพลิกมือแล้วแย่งปืนของเขามา : “เช็ดลายนิ้วมือให้เกลี้ยง การกระทำแบบนี้ โซนของซีเป่ย สามารถถืออาวุธร้อนได้อีกด้วย คงเป็นองค์กรสิบทิศ”

ผู้ชายวัยกลางคนหรี่ตาลอย่างรุนแรง อยากจะส่งเสียงก็ทำไม่ได้

ฉีเทียนยิ้มอ่อน : “ดูท่าแล้ว พวกแกไม่เห็นกฎระเบียบของวิหารราชามังกรในสายตาเลยจริง ๆ”

เมื่อฉีเทียนพูดจบ ก็แกว่งมือหนึ่งครั้ง โยนผู้ชายวัยกลางคนคนนี้ไปข้าง ๆ เหมือนทิ้งขยะ

ผู้ชายวัยกลางคนที่หลุดพ้นออกมาจากการถูกจับกุมไม่ได้หนีทันที แต่เบิกตากว้างจ้องไปที่ฉีเทียน : “วิหารราชามังกร!”

ฉีเทียนยิ้มอย่างเย็นชา : “ทำไม? สำหรับแกงสือฟางของพวกแกแล้ว วิหารราชามังกรสามคำนี้ ไม่มีความน่าเกรงขามแม้แต่นิดเดียวแล้วใช่ไหม?”

ผู้ชายวัยกลางคนส่ายหัว พูดพึมพำว่า : “เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้ที่วิหารราชามังกรจะปรากฏออกมาอีกครั้ง แกเป็นใคร? แกปรากฏตัวในนามของวิหารราชามังกรมาทำให้ภารกิจของฉันล้มเหลว แกมีวัตถุประสงค์อะไร?”

“ฉันคือใคร?” ฉีเทียนดีดนิ้วหัวแม่มือเบา ๆ แหวนทองเข้มวงหนึ่งวาดวิถีทางกลางอากาศ ตกลงมาอยู่ในมือของผู้ชายวัยกลางคน

ทันทีที่ผู้ชายวัยกลางคนเห็นแหวนที่อยู่ในมือชัดเจน ก็เริ่มสั่นไปทั้งตัวโดยไม่สามารถควบคุมได้

“นี้...นี้มัน...แหวนศักดิ์สิทธิ์! วิหารราชามังกร! วิหารราชามังกร!”

ผู้ชายวัยกลางคนมองดูแหวนที่อยู่ในมืออย่างบ้าคลั่ง สายตาหลุดโฟกัส พึมพำวิหารราชามังกรไม่หยุด

เห็นได้ว่า การปรากฏของแหวนวงนี้ ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขามากแค่ไหน

ฉีเทียนมองดูการต่อสู้ที่อยู่ข้างล่างสิ้นสุดลง พูดด้วยน้ำเสียงเฉยชาว่า : “ทำลายกฎระเบียบ แกต้องตาย แต่องค์กรสิบทิศไม่มีความกล้าพอที่จะทำลายกฎระเบียบของวิหารราชามังกร เบื้องหลังของแกคือใคร? พูดออกมา บางทีฉันอาจจะอภัยให้องค์กรสิบทิศมีชีวิตรอดก็ได้”

ผู้ชายวัยกลางคนจ้องมองไปที่ฉีเทียนทันที : “คุณพูดจริงเหรอ?”

เพียงเพราะแหวนวงนี้ ผู้ชายวัยกลางคนเรียกฉีเทียนด้วยความเคารพทันที

ฉีเทียนเอ่ยปาก : “แกไม่มีสิทธิ์มาเจรจาเหล่านี้กับฉัน”

ผู้ชายวัยกลางคนหายใจเข้าลึก ๆ : “แก๊งตง !”

ฉีเทียนพยักหน้าเล็กน้อย

ชายวัยกลางคนลุกขึ้นมา ส่งแหวนที่อยู่ในมือคืนให้กับฉีเทียนด้วยความเคารพ จากนั้นก็กัดฟันอย่างรุนแรง จู่ ๆ ยาพิษที่ซ่อนอยู่ในรากฟันก็แตกอยู่ในปาก

ไม่กี่วิต่อมา ชายวัยกลางคนก็ล้มลงบนพื้น หมดสติไป

ฉีเทียนดีดนิ้ว : “บอดี้การ์ด จัดการหน่อย”

เมื่อเสียงพูดสิ้นสุดลง ฉีเทียนก็กระโดดลงจากหลังคา