บท
ตั้งค่า

บทที่2 หลบหนี

      เหยี่ยนฮ่าวควบม้าหนีออกไปด้วยความรวดเร็ว แต่เนื่องจากกองทัพแคว้นฉู่ได้ถอยทัพไปแล้ว ทำให้บริเวณรอบๆนี้เต็มไปด้วยทหารจากแค้วนจ้าวทั้งสิ้น  เขาไม่รู้ว่าตนเองหมดสติไปนานแค่ไหน  หากคิดหนีไปทางเส้นทางถอยทัพของแคว้นฉู่ อาจจะไปเจอกับกองทัพแคว้นจ้าวที่ยกทัพกลับมาก็ได้เช่นกัน 

         ดังนั้นเพื่อสลัดจากการติดตามของพวกหัวหน้าจ้าว เขาต้องล่อพวกมันไปที่ป่าแห่งความตายแดนต้องห้ามของคนมีชีวิต  ผู้อาวุโสในตระกูลเคยเตือนไว้ว่าห้ามเข้าไปตรงป่าต้องห้ามที่รอยต่อชายแดนแคว้นฉู่กับแคว้นจ้าวเด็ดขาด   แม้กระทั่งเวลาสองทัพทำศึกกัน ยังจงใจหลีกเลี่ยงบริเวณนั้นทุกครั้ง  

มีเพียงสถานที่แบบนั้นเขาจึงสามารถหาทางรอดออกจากวงล้อมทหารแคว้นจ้าวได้  ท่านพ่อของเขาได้มอบของวิเศษที่ใช้ป้องกันพวกวิญญาณร้ายให้พกติดตัว  คาดว่าเขาน่าจะเอาตัวรอดได้ 

 

         สงครามครั้งนี้น่าจะสู้รบกันอีกหลายปีถึงรู้ผล หลังจากกองทัพฉู่พ่ายแพ้คงถอยกลับไปตั้งรับในเมืองชายแดน กองทัพแคว้นจ้าวก็น่าจะเริ่มสร้างป้อมปราการในเขตแดนแคว้นฉู่  คงอีกนานกว่าจะเริ่มการสู้รบครั้งใหม่  คงต้องหลบหนีเลาะไปทางชายป่าจนเข้าเขตเมืองชายแดนแคว้นฉู่  แล้วจึงค่อยหาทางกลับเข้ากองทัพ

           “ ไอ้หนูยอมแพ้ซะ แกหนีไม่รอดหรอก” เสียงหัวหน้าจ้าวตระโกนไล่หลังมาอย่างกระชั้นชิด

            !!

          เหตุใดจึงไล่ตามมาไวนัก   หรือว่า..

        “ ขั้นรวมปราณ! ” 

 

        หลังจากที่หันไปเห็นม้าของหัวหน้าจ้าวขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ บนตัวม้ามีแสงสีฟ้าอ่อนจางๆของการใช้ปราณเข้าช่วยเพิ่มความเร็ว  ยังโชคดีที่น่าจะเป็นเพียงรวมปราณขั้นต้น มิเช่นนั้นเขาคงถูกตามทันแล้ว 

        “ ข้าต้องทำอะไรซักอย่าง  ไม่งั้นโดนตามทันแน่ ”  เขาบ่นออกมาเบาๆ

 

        เหยี่ยนฮ่าวเอื้อมมือคว้าไปยังเกาทัณฑ์ข้างตัวม้า  ซึ่งคาดว่าจะเป็นของเจ้าของม้าคนเก่ามาถือไว้ในมือขวา  แล้วจึงตั้งสมาธิคิดถึงความรู้สึกที่เคยฝึกฝนการใช้เกาทัณฑ์ในความฝัน จนค่อยๆเกิดความคุ้นชินทีละน้อย  แม้ตั้งแต่เกิดมาตัวเขาจะไม่เคยสัมผัสเกาทัณฑ์มาก่อนก็ตาม  

 

ควับ! 

        เขาใช้ขาทั้งสองข้างหนีบท้องม้าเอาไว้ แล้วจึงเอี้ยวตัวหันกลับไปด้านหลัง มือที่ถือเกาทัณฑ์เล็งตรงไปยังหัวหน้าทหารที่ตามมา  แล้วปล่อยลูกศรออกไปทันทีสามดอกซ้อน

        ฮึ่ม! 

        เปรี้ยง เปรี้ยง  เปรี้ยง !

        “ นี่มัน!” หัวหน้าทหารแค่นเสียงด้วยความตกใจ ลูกเกาทัณฑ์สามดอกนี้มารวดเร็วยิ่งนัก มีความแม่นยำและหนักหน่วงมาก  

        โชคดีที่เขาเป็นผู้ผึกยุทธขั้นรวมปราณ มีสัญชาตญาณสัมผัสถึงอันตรายล่วงหน้า ถึงสามารถใช้ดาบในมือป้องกันเอาไว้ได้ แต่ก็ทำให้เสียจังหวะในการไล่ตาม  จนระยะห่างมากขึ้นกว่าเดิม

        “ ด้วยอายุเพียงเท่านี้ ทั้งเชี่ยวชาญหอกและยังยิงเกาทัณฑ์บนหลังม้าได้ ”

        “ สัตว์ประหลาดชัดๆ”

        ต้องรู้ก่อนว่าการจะเชี่ยวชาญทั้งสองอย่างนี้นั้นยากมาก เคยมีคำเปรียบเปรยไว้ว่า

        ฝึกดาบ 1 ปี  ฝึกกระบี่ 10ปี  ฝึกหอกชั่วชีวิต  

        นี่แสดงให้เห็นว่าหอกนั้นฝึกฝนได้ยากที่สุด แต่ถ้าเชี่ยวชาญแล้วก็จะเป็นจ้าวแห่งการฆ่าสังหารในสนามรบ เพราะหอกเป็นจักรพรรดิของอาวุธที่ใช้ในศึกสงคราม เหมาะกับการต่อสู้กับศัตรูหมู่มาก  มีทั้งความอ่อนหยุ่นและดุดัน  ว่องไวและแม่นยำเป็นอาวุธสังหารที่เด่นทั้งรุกและรับ 

        แต่หากอยากจะเป็นผู้เชี่ยวชาญหอก จะต้องฝึกฝนในสนามรบโดยใช้การต่อสู้จริงขัดเกลาประสบการณ์ตนเอง แม่ทัพเก่งๆที่ใช้หอกได้อย่างเชี่ยวชาญมักจะฝึกฝนมานานสิบถึงยี่สิบปี

        ซึ่งก็ทำให้เขาแปลกใจมาก ที่เห็นเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีที่พึ่งเข้าสนามรบเชี่ยวชาญหอกถึงเพียงนั้น แล้วนี่ยังสามารถยิงเกาทัณฑ์บนหลังม้าที่ต้องอาศัยการฝึกฝนนานนับสิบปีได้อีก

        “ แต่ยิ่งเจ้าไม่ธรรมดาเท่าไหร่  ข้ายิ่งต้องจับเจ้าให้ได้ ”

 

        หลังจากหนีการตามล่ามานับ100ลี้(1ลี้เท่ากับ500เมตร) ด้วยอาศัยการหันกลับไปยิงเกาทัณฑ์โจมตีก่อกวนเรื่อยๆ จนลูกเกาทัณฑ์หมด เหยี่ยนฮ่าวก็เริ่มมองเห็นเขตชายป่าต้องห้ามอยู่ไกลๆ  มันมีบรรยากาศแปลกๆดูมืดมนน่าขนลุกกระจายออกมา 

         แม้เวลานี้ยังมีแสงแดดอ่อนๆในเวลายามเย็น  แต่ก่อนถึงชายป่าประมาณหนึ่งลี้กลับมีหมอกสีข่าวขุ่นมัวปกคลุมไปทั่ว จนมีความรู้สึกหลอนของภาพลวงตาภูตผีปีศาจโผล่ออกมาเป็นระยะ

        “ หยุด! อย่าไปทางนั้น ”  หลังจากคาดเดาเส้นทางเหยี่ยนฮ่าวได้ หัวหน้าจ้าวร้องตระโกนออกมาทันที

        “ บัดซบ  นี่เจ้าอยากตายรึไง ” 

        เหยี่ยนฮ่าวเลือกที่จะเมินเฉยต่อเสียงด้านหลังโดยยังคงมุ่งหน้าต่อไปทางเดิมที่ตั้งใจไว้  เพราะตลอดเวลาที่หนีการไล่ล่ามามีกองทหารลาดตระเวนของแคว้นจ้าวอีกสองกลุ่มกำลังไล่ตามมาห่างๆเหมือนต้องการที่จะล้อมจับเขา ทางรอดทางเดียวของเขาจึงมีเพียงป่าด้านหน้าเท่านั้น

 

        ขณะที่เข้าใกล้เขตหมอกมากขึ้นเรื่อยๆ  เหยี่ยนฮ่าวก็เกิดรู้สึกขนลุกขึ้นมาทั้งตัว เหมือนกับเส้นประสาทในสมองเขากรีดร้องบอกให้ถอยห่างจากป่าด้านหน้าห้ามเข้าไปเด็ดขาด 

 

        ในตอนที่ม้าของเขากำลังจะเข้าไปในเขตหมอก  อยู่ดีๆมันก็สะดุ้งสุดตัว แล้วถีบตัวถอยหลังอย่างแรง จนขามันหักล้มนอนลงไปนอนบนพื้น  ลำตัวของมันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง แววตาที่มองไปทางหมอกนั้นมีแต่ความหวาดกลัว แล้วส่งเสียงกรีดร้องไม่หยุด น้ำลายมันฟูมปากออกมาเป็นฟองแดงๆ มันพยามใช้ขาที่หักของมันลากตัวออกไปให้ห่างจากหมอกนั่นมากที่สุด

 

        ก่อนที่ม้าเขาจะล้มลงเหยี่ยนฮ่าวก็กระโดดหลบออกมาก่อนแล้วโดยใช้หอกพยุงตัวไว้ โชคดีที่เขาไหวตัวทันเลยไม่ได้รับบาดเจ็บ 

        เมื่อมองเห็นอาการของม้า สายตาเขาก็มองผ่านเลยเข้าไปในหมอก ในนั้นเขาเห็นเงาคนรูปร่างผอมมีความสูงเกินสามเมตร แต่พอเขาละสายตาเพียงครู่เดียว เงานั้นก็มีขนาดเล็กลงจนเท่ากับคนปกติ  

        ตรงใบหน้าของมันนั้นเลือนลางและเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนที่เรารู้จักเรื่อยๆ จนมีความรู้สึกทั้งเหมือนคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย  มันกำลังแสดงท่าทางแปลกๆ  โดยมีแขนข้างหนึ่งที่ยาวมากจนผิดปกติ มันพยามจะยื่นมือมาคว้าตัวเขาเข้าไป 

        เขารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงแหบพร่า กระซิบเรียกชื่อเขาข้างใบหู เหมือนมันจะพยายามดึงดูดให้เดินเข้าไปหา 

       โดยจำนวนของเงานั้นมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่เขากระพริบตา  ตอนนี้หัวใจเขาเต้นช้าลงไปทุกที เหมือนมีสายลมอ่อนๆคอยดันตัวเขาให้ขยับเข้าไปใกล้เขตหมอกขึ้นทุกที 

        ในเวลาที่จิตใจเขาแทบจะพังทลาย  ภาพเคล็ดวิชาจากแผ่นหินในความฝัน ก็จุดประกายเข้ามาในความคิดทันที

        “ จิตอาชูร่า ” อักขระรูนโบราณที่ตราตรึงในจิตวิญญาณเหมือนถูกกระตุ้นตื่นขึ้นมาเอง จนเขาฟื้นคืนสติขึ้นมาทันที พละกำลังที่เหมือนจะหายไปก็ค่อยๆกลับคืนมาเหมือนเดิม 

        “แม้จะยังไม่เริ่มฝึกฝนจนสำเร็จขั้นแรก แต่เพียงแค่กระตุ้นเคล็ดวิชาขึ้นมาก็ส่งผลเพียงนี้เลยรึ ”

        “ หรือสิ่งที่อยู่ในป่านั่นก็คือพวกวิญญาณมืดนั่นเอง  แต่ตอนนี้ตัวข้าก็ยังคงสัมผัสได้ถึงอันตรายแม้ตอนใช้จิตอาชูร่าแล้ว ” 

        “ หากข้ากระตุ้นเครื่องรางป้องกันที่ท่านพ่อให้มาด้วยอีกอัน  คงน่าจะพอต้านทานมันได้ แต่ตอนนี้คงถอยออกมาดูท่าทีทหารพวกนั้นก่อนดีกว่า”

 

        เหยี่ยนฮ่าวค่อยๆก้าวถอยหลังออกมาทีละก้าวจนห่างจากหมอกอย่างช้าๆ เมื่อรู้สึกดีขึ้นจึงหันกลับไปเผชิญหน้ากับทหารฝ่ายศัตรูที่กำลังกระโดดลงจากหลังม้า  โดยทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันประมาณร้อยก้าว ซึ่งพวกมันก็มีสีหน้าหวาดกลัวเวลามองเข้าไปทางป่าต้องห้ามเช่นกัน

 

        กับ กับ !

        เสียงกีบม้าจำนวนมากวิ่งตรงเข้ามา เห็นเห็นกองลาดตระเวนอีกสองขบวนเข้ามาหยุดตรงที่ทหารกลุ่มแรกอยู่ หัวหน้ากองทั้งสามหันไปปรึกษากันเองแล้วมองมาทางเหยี่ยนฮ่าวด้วยสีหน้าเยาะเย้ย

 

ผ่านไป สามลมหายใจ

        ทหารสามคนกระโดดลงจากหลังม้าถือเกาทัณฑ์แยกออกไปสามจุด โดยพยายามกักตัวเหยี่ยนฮ่าวไว้ตรงกลาง  ทั้งสามคนนี้เป็นตัวแทนจากสามกองลาดตระเวน  หัวหน้ากองทั้งสามคนตกลงกันไว้ว่าตัวแทนของใครยิงเหยี่ยนฮ่าวล้มลงไปได้ก็จะได้ตัวไป 

        หลังจากที่มือธนูทั้งสามสืบเท้าเข้ามาจนห่างเหยี่ยนฮ่าวเพียง สามสิบก้าวก็หยุดลงแล้วตั้งท่าน้าวสายเกาทัณฑ์ทันที

 

        นี่ป็นเพียงเกมที่สร้างความสนุกให้กับทหารกลุ่มใหม่ที่เข้าร่วม แต่สำหรับหัวหน้าจ้าวนั้นกลับรู้สึกคับแค้นใจมาก ตัวเขานั้นต้องการได้ตัวเหยี่ยนฮ่าวมากที่สุด เพราะที่สังเกตเห็นน่าจะเป็นคนจากตระกูลชั้นสูง ยิ่งเมื่อรวมกับฝีมือที่เก่งกาจและอายุยังน้อย คงจะเป็นพวกทายาทสายตรงของตระกูล  ในตัวน่าจะมีของมีค่ามากมาย แถมฝั่งเขายังเกิดความสูญเสียไปแล้ว พี่น้องของเขาคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเสียม้าอีกหลายตัว หากครั้งนี้แพ้ให้กับคนจากหน่วยอื่นก็คงขาดทุนย่อยยับ

 

เสียงสัญญาณดังขึ้น

เปรี้ยง เปรี้ยง   ฟุ่บ

        ลูกเกาทัณฑ์สองลูกที่ถูกยิงออกมาถูกคมหอกทำลายไป  ส่วนอีกลูกหนึ่งเฉี่ยวปลายหูเหยี่ยนฮ่าวไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น  ดูจากความรวดเร็วและความแม่นยำในการยิงมือธนูพวกนั้นคงจะเป็นยอดฝีมือเหมือนกัน  ด้วยพละกำลังกว่าแปดพันจินที่ใช้ในการยิงเกาทัณฑ์กับระยะทางที่ใกล้มาก ลูกเกาทัณฑ์ทั้งสามจึงแทบจะมาถึงในพริบตาเดียว

        หลังที่ใช้หอกป้องกันตนเองได้อย่างฉิวเฉียด  เหยี่ยนฮ่าวหันกลับไปมองดูทางกลุ่มทหารทั้งสามกลุ่ม  เห็นพวกนั้นส่งเสียงพูดคุยให้กำลังใจกันอย่างสนุกสนาน 

        จนเมื่อมีคนให้สัญญาณอีกครั้ง  มือเกาทัณฑ์ทั้งสามจึงกลับมาตั้งท่าเล็งยิงใหม่พร้อมกัน ตอนนั้นตัวเขาเองก็เข้าใจได้ในทันที พวกมันคงเห็นว่าเขาจนมุมไม่กล้าหนีเข้าไปในป่าต้องห้าม  เลยแข่งกันอย่างสนุกสนานว่าใครจะยิงโดนเขาก่อน มันเห็นชีวิตเขาเป็นเพียงเกมสนุกๆให้มันเล่นเท่านั้น

“ หากเป็นตัวข้าในความฝัน คงไม่ต้องถูกไล่ต้อนเพียงนี้ ”

“ ดี…ในเมื่อพวกเจ้ามองข้าเป็นเพียงเหยื่อให้ล่า” 

“ ข้าก็จะใช้พวกเจ้า ขัดเกลาเพลงหอกข้า”

 

        จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาลุกโชน  เหยี่ยนฮ่าวคิดอาศัยยอดฝีมือด้านเกาทัณฑ์ทั้งสามคนนี้ หลอมกระบวนท่าหอกที่เขาเคยใช้ต่อสู้ในสนามรบโบราณ เข้าระดับฝีมือในปัจจุบันใช้การเสี่ยงชีวิตกระตุ้นศักยภาพตัวเองออกมา

 

ห่างออกไปสิบลี้

        เสียงกีบเท้าม้าจำนวนมากกำลังตรงเข้ามาทางจุดที่สามกองลาดตระเวนยืนอยู่  โดยมีม้าหนึ่งตัววิ่งนำขบวนมา ซึ่งเป็นม้ามังกรขาวที่ตัวสูงใหญ่กว่าม้าปกติเกือบเท่าตัว มันเป็นสัตว์อสูรระดับสามเทียบเท่ากับระดับปราณปฐพีของมนุษย์ ถือเป็นสัตว์อสูรใช้สำหรับขี่ชั้นสูงยากที่จะพบเจอ รูปร่างของมันองอาจสง่างาม มีความหยิ่งทะนงในตัวเองสูงและดุร้ายมาก เป็นราชาแห่งม้าศึกที่เสียงร้องของมันสามารถข่มขวัญม้าตัวอื่นได้

 

        บนม้ามังกรขาวมีบุรุษผู้หนึ่งสวมชุดเกราะแม่ทัพสีเงิน หน้าตาคมเข้ม คิ้วเฉียงขึ้นดุจกระบี่ ดวงตาเป็นประกาย  รูปร่างสูงใหญ่บึกบึน อายุประมาณยี่สิบแปดปี เขานั่นเองที่เป็นผู้มอบความปราชัยให้กับกองทัพของแคว้นฉู่ในสงครามครั้งนี้ 

        หลังจากยกทัพตามไล่สังหารทหารทัพแคว้นฉู่จนล่าถอยไปนับร้อยลี้ ซึ่งสร้างความเสียหายใหญ่หลวงในการไล่ล่านี้มีทหารฉู่ล้มตายเพิ่มอีกหลายหมื่นคน

จนเมื่อเก็บกวาดสนามรบเสร็จก็กวาดต้อนสินสงครามกับเหล่าเชลยกลับมาที่ค่าย แล้วจึงนำกองทหารองค์รักษ์ส่วนตัวออกมาตรวจตราสนามรบ 

“ ทางด้านนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น ”  บุรุษในชุดแม่ทัพพูดออกมาเบาๆ

หนึ่งในทหารองค์รักษ์ ล้วงแตรขึ้นมาเป่าส่งสัญญาณ หน่วยลาดตระเวนที่อยู่ใกล้ๆรีบเข้ามารายงานทันที

“ เป็นกองลาดตระเวนกำลังจับทหารหนีทัพแคว้นฉู่ขอรับ ”

 

        ด้านเหยี่ยนฮ่าวนั้นหลังจากเริ่มต่อสู้ไปได้หนึ่งชั่วโมง ตอนนี้รอบๆตัวเขามีเศษลูกธนูตกอยู่เต็มพื้น  คมหอกของเขาทวีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้นตลอดเวลาที่ต่อสู้  เหมือนดั่งพลังแฝงถูกกระตุ้น เขาหลอมรวมกระบวนท่ากับประสบการณ์ต่อสู้ที่พบเจอในฝันเข้ากับร่างกายปัจจุบันได้อย่างเชี่ยวชาญขึ้นเรื่อยๆ  ปลายหอกของเขาแทงออกอย่างพลิ้วไหว ทุกกระบวนท่าต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน เหมือนมองออกถึงวิถีลูกเกาทัณฑ์ล่วงหน้า

ฟุบ ฟุบ

        เขาอาศัยความอ่อนหยุ่นบิดโค้งด้ามหอก จนเกิดแรงดีดสะท้อนตรงส่วนปลายเบี่ยงวิถีลูกเกาทัณฑ์ออกไปด้านข้างจนหมดสิ้น ด้วยอาศัยหลักการสี่ตำลึงปาดพันชั่ง ทำให้ตัวเขาแทบไม่ต้องขยับไปจากจุดที่ยืนอยู่ 

        ในเวลานี้ขอแค่มีหอกในมือ ยอดฝีมือเกาทัณฑ์ทั้งสามก็ไม่ส่งผลคุกคามต่อเขาอีกต่อไป แต่ในขณะที่กำลังจะคิดแผนตอบโต้ เขาก็หันไปมองอีกด้านหนึ่งของสนามรบซึ่งมีฝุ่นฟุ้งกระจายมาแต่ไกล ทัพม้าจำนวนมากกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง

        หลังเสียงเปาแตรของกองทัพดังขึ้น  การต่อสู้ด้านนี้ก็หยุดลงทันที ยอดฝีมือเกาทัณฑ์ทั้งสามก็ถอยออกไปเข้ากลุ่มตนเอง แบ่งแยกออกเป็นสามขบวน แล้วยืนตั้งแถวรอต้อนรับทัพม้าที่เข้ามาใหม่ด้วยความเคารพ

        ภาพทหารม้านับพันในชุดเกราะสีเงินนั้นโดดเด่นยิ่งนัก เพียงไม่นานหลังจากเหยี่ยนฮ่าวก็สังเกตเห็นม้าสีขาวขนาดใหญ่ ที่ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่หน้ากองทัพนั้น มันสูงกว่าม้าทั่วไปเกือบหนึ่งเท่าตัว แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาที่สุดกลับเป็นคนที่นั่งอยู่บนหลังมัน  แม้จะสวมชุดเกราะสีเดียวกันกับกองทหารด้านหลัง  แต่กลับเห็นถึงความแตกต่างเหมือนกับพยัคฆ์ยืนอยู่ในฝูงหมาป่า

        โดยเฉพาะง้าวสีดำอันใหญ่ที่พาดเก็บอยู่บนหลังม้า เพียงแค่มองก็รู้สึกถึงกลิ่นอายโลหิตกระจายออกมา นั่นเป็นอดีตอาวุธคู่กายของแม่ทัพฝ่ายเขาที่ถูกสังหารในสงคราม 

นัยน์ตาเขาหดเล็กลง  ชื่อหนึ่งปรากฏขึ้นมา

“ หยางเจี้ยน ”     

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel