บทที่ 2 คืนหมดภายในสามวัน
เจียงเหยียนทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาเปิดประตูออกมา หยิบใบสั่งซื้อที่อยู่บนพื้นขึ้น พูดถาม “จี้ซียืมเงินพ่อเธอเท่าไหร่?”
“สองแสน รักษาลูกสาวของนายทั้งหมด นายไม่รู้เหรอ นายมีปัญญาคืนได้เหรอ?” โจวปิงปิงถามอย่างก้าวร้าว
คนที่เธอเกลียดมากที่สุดก็คือพี่เขยคนนี้
เดิมทีพ่อแม่อยากจะเกี่ยวดองกับตระกูลเจียง มีความช่วยเหลือต่อธุรกิจเครื่องปรุงยาของตระกูล
ผลปรากฏว่าตั้งแต่ต้นจนสุดท้ายโปะเงินไปแล้วหลายแสน
“แค่สองแสนเอง ภายในสามวันคืนครบหมด ต่อไปห้ามมาหาเรื่องที่นี่อีก” เจียงเหยียนตอบกลับท่าทางสบายๆ
“ถ้านายนำเงินมาได้สองแสน ฉันจะเขียนชื่อกลับหัว”
“ฉันไม่สนใจชื่อของเธอสักเท่าไหร่ รอให้คืนเงินครบ รบกวนเธอต่อไปปฏิบัติต่อภรรยาของฉันดีๆ หน่อย ถ้ากล้าลงมือกับเธออีก ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก อืม ร้ายแรงมากจริงๆ” เจียงเหยียนพูดเตือน
โจวปิงปิงมองดูรอยบีบตรงลำคอขาวและอ่อนโยนของโจวจี้ซี รู้ได้ว่าเมื่อคืนเธอถูกตบอีกแล้ว จึงพูดเยาะเย้ย
“หึ เพิ่งตบตีเธอยกหนึ่ง ตอนนี้กลับมาเป็นผู้ชายแสนดีปกป้องภรรยาเหรอ? ได้ ฉันจะดูสิว่าขยะอย่างนาย ใช้อะไรคืนเงิน”
เจียงเหยียนโบกมือ พูดขึ้น “รีบไสหัวไปเถอะ ไม่เช่นนั้นฉันจะถีบเธอออกไป”
หลังจากโจวปิงปิงออกไป โจวจี้ซีไม่ได้มีความซาบซึ้งใจสักนิด ความโศกเศร้าทรมานกว่าการที่หัวใจตายซะอีก เธอเพียงแค่พูดอย่างเย็นชา
“เรื่องที่ทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องรับปากมั่วๆ สุดท้ายคนที่เดือดร้อนคือฉัน ถ้านายมีเงินสองแสนจริงๆ เอาให้เหมียวเหมียวใช้ยาเคมีรักษาโรคมะเร็งก่อน พ่อฉันมีทรัพย์สินเกินร้อยล้าน ถูกพวกเธอยึดไปหมด ฉันเอามาแค่สองแสนสามแสนไม่ถือว่าทำเกินไป”
“อาการป่วยของเหมียวเหมียว ฉันจะหาวิธีเอง” เจียงเหยียนพูดจบ มองดูใบสั่งซื้อขีดๆ เขียนในมือ ถามขึ้น “เงินที่จะเข้าสินค้าก็ไม่มีแล้วใช่ไหม?”
โจวจี้ซีถอยหลังไปอย่างระมัดระวัง จนกระทั่งถอยจนถึงมุมเคาน์เตอร์ แม้กระทั่งตัวก็สั่นเล็กน้อย
“ต่อให้นายตีฉันให้ตาย ก็ไม่มีเงิน ค้างค่าเช่าร้านสองเดือนแล้ว ยาของเหมียวเหมียวก็ใกล้กินหมดแล้ว เงินส่วนตัวที่พ่อฉันแอบไว้ก็ถูกแม่เลี้ยงเอาไปหมด ต่อไปยืมไม่ได้แม้แต่สตางค์เดียว”
เธอได้กลายเป็นคนตกใจง่ายไปแล้ว ทุกครั้งที่เจียงเหยียนมาขอเงิน ก็ต้องถูกทุบตี
เจียงเหยียนรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
“เรื่องเงินมอบให้เป็นหน้าที่ฉัน”
พูดจบอยากจะออกไป โจวจี้ซีปลุกความกล้าตะโกนออกไป “นายจะพนัน จะเล่นผู้หญิง ยอมให้คนหลอกเป็นตัวตลก ฉันไม่สนทั้งนั้น แต่ถ้ายังกล้าลงมือกับฉันอีก ฉันจะพาเหมียวเหมียวสู้กับนายสุดชีวิต”
เจียงเหยียนมองดูเธอ พยักหน้าพูด “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันไม่มีทางเอาเงินจากเธอสักสตางค์เดียว ยิ่งไม่มีทางลงมือกับเธอ และไม่มีใครหลอกฉันได้อีกแล้ว”
เขาอยากจะขอโทษ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ตัวเองทำ มันพูดไม่ออกจริงๆ
ทุบตีภรรยาการกระทำที่ไร้ยางอายแบบนี้ จะเป็นเรื่องที่เขาในฐานะนายแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ทำได้อย่างไร
มองดูแผ่นหลังของเจียงเหยียนหายไปจากประตู โจวจี้ซีรู้สึกได้ถึงความผิดปกติเล็กน้อย
สายตาฉุนเฉียวและเย็นชาแบบนั้นของสามีหายไปแล้ว เหมือนว่าอ่อนโยนขึ้นเยอะ
“โจวจี้ซี อย่าหลงผิดไป สันดานคนเปลี่ยนไม่ได้ หลายปีนี้เขาทำร้ายเธอไม่มากพอเหรอ?”
…
หน้าร้านติดถนนที่แพงที่สุดของตลาดสมุนไพรจีนร ตอนนี้ทั้งหมดเป็นของศูนย์การแพทย์เทียนซิน เถ้าแก่ก็คือจ้าวเซียวหรุหรุ
สามปีก่อนยังเช่าอยู่ แต่ภายหลังเจียงเหยียนแพ้ให้เธอ ราคาตลาดสูงถึง 35 ล้าน
ชั้นหนึ่งและชั้นสองศูนย์การแพทย์เป็นศูนย์ให้การรักษา ชั้นสามกลับเป็นโรงน้ำชา
อันที่จริงโรงน้ำชาเป็นแหล่งรวมตัวเล่นการพนัน เจียงเหยียนได้เสียทรัพย์สินกว่าหนึ่งร้อยล้านที่นี่
เหล่าเถ้าแก่ใหญ่ของวงการยา มีการเล่นที่พิเศษ นอกจากพนันเครื่องปรุงยาจีนที่ล้ำค่า “ดู ดม ซักถาม จับชีพจร” ก็พนันได้
ก่อนหน้านี้ทุกคนแค่เล่นสนุก เงินเดิมพันที่มากที่สุดก็ไม่เกินห้าแสน
แต่เจียงเหนียนอาศัยกำลังของตัวเอง สติถิสูงสุดเพิ่มเป็น 30 ล้าน
ตั้งแต่นั้นมาศูนย์การแพทย์เทียนซินก็มีชื่อเสียงในเมืองเจียงโจว ธุรกิจดีเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่า ชื่อเรียกเจียงเหยียนคนล้างผลาญก็ฉาวโฉ่ไปไกล ถูกพูดติดตลกว่า “ผู้ใจบุญ”
เมื่อคืนเจียงเหยียนพนันจับชีพจรกับคนอื่น แพ้อีกหนึ่งแสน
เพิ่งเดินมาถึงหน้าร้าน พยาบาลสองคนที่เคาน์เตอร์ต้อนรับก็จำเขาได้ ยิ้มพูดอย่างเหน็บแนม “อุ๊ย คุณชายเจียงมาอีกแล้วเหรอ”
“ฉันมาหาเถ้าแก่เนี้ยของพวกเธอ”
“เธออยู่ที่ชั้นสามห้องพิเศษเปี่ยนเช่ ไปเองเถอะ เจ้านายหวังก็อยู่ รอคุณคืนเงินอยู่น่ะ”
จ้าวเซียวหรุหรุเป็นสาวสังคม ฝีมือทางการแพทย์ธรรมดาๆ เดิมทีเป็นแค่พยาบาลเล็กๆคนหนึ่ง
แต่ชนะตรงที่กลอุบายเหนือชั้น หน้าตาก็สวย เธอเดาใจผู้ชายได้แม่นยำ เข้าได้ทุกฝ่าย มีความชำนาญจัดการปัญหาได้อย่างสบาย
เจียงเหยียนมีวันนี้ได้ ก็เพราะถูกเธอดึงลงน้ำ
ตอนที่เขาเพิ่งรับตำแหน่งประธานบริหารตลาดสมุนไพรจีนรเมืองเจียงโจว เหล่าพ่อค้าต่างพูดว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ มีเพียงจ้าวเซียวหรุหรุชื่นชมความฉลาดของเขา
โจวจี้ซีภรรยาไม่แยแสต่อเจียงเหยียน จ้าวเซียวหรุหรุก็อ่อนโยนราวกับสายน้ำ เชื่อฟังคล้อยตามทุกอย่าง
รอให้ถึงตอนที่เจียงเหยียนถูกหลอกจนเลอะเลือน เธอก็เริ่มชักนำ ใช้วิธีการที่ทำกับคนอื่นมาทำกับเขา
แรกเริ่มเจียงเหยียนชนะเกินสิบล้านจริงๆ ทันใดนั้นรู้สึกว่าตัวเองคืออัจริยะทางการแพทย์ แทบจะลอยขึ้นสวรรค์
จากนั้นเวลาไม่ถึงครึ่งปี ก็แพ้ทรัพย์สินของตระกูลจนหมด
จ้าวเซียวหรุหรุร่วมมือกับพ่อลูกตระกูลอู๋ หลังจากหลอกเจียงเหยียนจนหมดตัว ก็ถีบส่งเขา
เจียงเหยียนกำลังจะเคาะประตูห้องส่วนตัว กลับได้ยินด้านในกำลังพูดถึงโจวจี้ซี
“หล่าวหวัง ฉันบอกแล้วไง ทั้งที่รู้ว่าไอ้ขยะนั่นเอาเงินหนึ่งแสนออกมาไม่ได้ คุณยังจะพนันกับมัน ที่แท้ก็ชอบภรรยาของมันสินะ” เสียงของจ้าวเซียวหรุหรุ
“ฮ่าฮ่า ภรรยาของมัน ออร่า หุ่น ใบหน้า แต่ละอย่างเด็ดๆ แม่งยั่วยวนจริงๆ วางไว้ในบ้านของไอ้ขยะนั่น เปล่าประโยชน์และน่าเสียดายมากเลยนะ นี่ฉันเรียกว่าสงสารคนสวย” เจ้านายหวังตอบกลับ น้ำเสียงตื่นเต้น
“เด็ดกว่าฉันเหรอ?” จ้าวเซียวหรุหรุถาม
“รสชาติไม่เหมือนกัน คุณคือปีศาจจิ้งจอกกลับชาติมาเกิด เธอคือนางฟ้าลงมาจากสวรรค์”
“ผู้ชายที่อยากได้โจวจี้ซีเยอะแยะไป แค่หนึ่งแสนเกรงว่าจะไม่มีประโยชน์” จ้าวเซียวหรุหรุพูดตอบ
“ครั้งเดียว เพียงแค่ครั้งเดียวชาตินี้ของฉันก็คุ้มค่าแล้ว”
“ผู้ชายบ้า ฉันคิดว่าคุณจะแต่งกับเธอซะอีก”
“ฉันก็อยากนะ แต่เสือตัวเมียที่บ้านจะกัดคน”
ด้านในมีเสียงหัวเราะต่ำทรามดังขึ้นไม่หยุด
เจียงเหยียนถีบประตูเปิดออก
จ้าวเซียวหรุหรุตกใจ สำลักชาร้อนจนน้ำตาไหลออกมา ด่าอย่างโมโห “แกเป็นบ้าเหรอ นี่มันประตูไม้จริงนะ ชดใช้ไหวไหม ลวกโดนปากฉันแล้ว”
เจียงเหยียนในตอนนี้ สมองมีสติยิ่งกว่าใคร รู้ว่าจ้าวเซียวหรุหรุผู้หญิงร่านคนนี้ เห็นเขาเป็นหมาโง่ที่พาเดินเล่น
เขาหนามยอกเอาหนามบ่ง กลับสภาพนิสัยคุณชายในอดีต เล่นเป็นเพื่อนเธอถึงที่สุด
เจียงเหยียนยิ้มตาหยีนั่งลง พูดขึ้น “ลวกตรงไหนเหรอ ฉันเป่าให้เธอ”
จ้าวเซียวหรุหรุปัดมือเขาออก พูดขึ้น “ไสหัวไปซะ! แกไม่มีโอกาสแล้ว”
“ไอ้นี่อยู่นิ่งๆ หน่อย” หล่าวหวังตะคอก
ผู้ชายที่มาเที่ยวที่นี่ แทบจะคุกเข่าใต้กระโปรงจ้าวเซียวหรุหรุ แย่งกันทำเป็นหมาขี้ประจบ
เจียงเหยียนไอ้หมอนี่คือขยะ คนเลว คนล้างผลาญที่มีชื่อเสียงของตลาดสมุนไพรจีนร แค่เป็นคนก็เหยียบย่ำเขาได้
“เจ้านายหวัง เมื่อคืนฉันแพ้คุณหนึ่งแสน ไม่ก็จะพนันอีกครั้ง หรือไม่ก็ไม่มีสักสตางค์” เจียงเหยียนพูดขึ้น
“นายน่ะมีเงินทุนมาเล่นฉันเหรอ กล้าปัดบัญชีของฉัน ใช้ชีวิตเบื่อแล้วใช่ไหม” หล่าวหวังตบโต๊ะตะคอกขึ้น
ในมือของเขามีใบแสดงหนี้ของเจียงเหยียน ไม่กลัวด้วยซ้ำ