บท
ตั้งค่า

บทที่ 15 สังหารคนพิฆาตจิตใจ

หลิ่วเสี่ยวอวี่กับหวังซื่อเจี๋ยก็ตกตะลึงโดยสิ้นเชิงแล้ว หลี่ผู่ที่หลานเยว่พูดถึงนั้น ใช่หลี่ผู่คนนั้นหรือเปล่า?  

แต่เวลานี้เอง หลี่ผู่ถอนหายใจเล็กน้อยแล้ว เขานั้นไม่คิดจะแสดงตัวหรอกนะ แต่เขาก็พอจะเข้าใจความคิดของหลานเยว่เช่นกัน เพื่อให้ตนเองได้ระบายความคับข้องใจนั่นเอง  

เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ เขาก็ได้แต่ขึ้นบนเวทีแล้ว  

หลี่ผู่มองดูโจวกงเผยแล้วบอกช้าๆ ว่า “ผมไปจัดการธุระหน่อย คุณนั่งรอก่อน”  

โจวกงเผยจ้องมองหลี่ผู่อย่างรู้สึกเหลือเชื่อ หรือว่าเขาคือประธานของกลุ่มสถาบันการเงินคัยผู่แห่งสากลจริงๆ ถ้าเป็นความจริง งั้นเขาก็ไม่ใช่คนธรรมดาแล้วจริงๆ  

หลี่ผู่เดินมาถึงเวทีอย่างช้าๆ ตอนที่หวังซื่อเจี๋ยกับหลิ่วเสี่ยวอวี่เห็นหลี่ผู่เดินเข้ามาจริง การแสดงออกบนใบหน้ายังอธิบายไม่ถูกแล้วจริงๆ  

หลานเยว่หลีกทางออกให้อย่างเงียบๆ หลี่ผู่ยืนอยู่หน้าไมโครโฟน มองดูหลิ่วเสี่ยวอวี่กับหวังซื่อเจี๋ยแล้ว

ทั้งสองสั่นเทาไปทั้งตัว ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น

ถ้าหากหลี่ผู่เป็นประธานของกลุ่มสถาบันการเงินคัยผู่แห่งสากลจริงๆ เช่นนั้นเรื่องราวในวันนี้เกรงว่าจะเลวร้ายเป็นอย่างยิ่งแล้ว

เวลานี้หลี่ผู่เอ่ยปากช้าๆ ว่า “ตอนแรกฉันไม่คิดจะแสดงตัวเลย แต่ในเมื่อประธานหลานพูดแล้ว งั้นฉันจะพูดอะไรกับคู่บ่าวสาวใหม่สักหน่อยก็แล้วกัน”

หลี่ผู่เอ่ยรวดเดียว ทุกคนต่างพากันเงียบกริบแล้ว

หลี่ผู่ที่อยู่ในตระกูลหลิ่วสามปีอย่างเกียจคร้านไม่ทำงานทำการอะไรเลย และถูกไล่ตะเพิดออกจากบ้าน กลับเป็นเจ้าของที่แท้จริงของกลุ่มสถาบันการเงินคัยผู่แห่งสากล นอกจากนี้ยังมาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงแต่งงานแล้วอีกด้วย  

เรื่องนี้ไม่ว่ามองยังไง ล้วนแสดงให้เห็นถึงเลศนัยที่น่าเหลือเชื่อ มีบางคนเริ่มวิตกกังวลแทนตระกูลหลิ่วและหวังซื่อเจี๋ยแล้ว  

ความสามารถของกลุ่มสถาบันการเงินคัยผู่แห่งสากลนั้น กำลังแสดงให้เห็นอยู่ตรงหน้าแล้ว  

เวลานี้หวังซื่อเจี๋ยกับหลิ่วเสี่ยวอวี่เริ่มสั่นเทาไปทั้งตัวแล้ว สีหน้าแสดงออกถึงความหวาดหวั่น พวกเขาไม่กล้าจินตนาการว่า ทำไมหลี่ผู่จึงสามารถเป็นเจ้านายของกลุ่มสถาบันการเงินคัยผู่แห่งสากลได้  

พวกเขาดันไปล่วงเกินคนแบบนี้เข้าแล้ว ต่อไปพวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างไรล่ะ?  

นึกถึงการดำเนินงานที่หลานเยว่ลงทุนต่อเหิงไท่แล้ว หวังซื่อเจี๋ยค่อยๆ เหงื่อแตกพลั่ก จิตใจหมดอาลัยตายอยาก ความรู้สึกหวาดหวั่นอย่างลึกซึ้ง พุ่งตรงสู่ยอดศีรษะ  

หลิ่วเสี่ยวอวี่สั่นเทาไปทั้งตัวไม่หยุด สถานะแท้จริงของหลี่ผู่กลับน่าสะพรึงกลัวมากขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นเธอหย่ากับหลี่ผู่ ก็คือโง่จนไม่รู้จะโง่อย่างไรแล้ว

จากความสามารถแท้จริงของหลี่ผู่ ถ้าต้องการแก้แค้นตระกูลหลิ่ว เธอไม่กล้าจินตนาการว่าผลลัพธ์จะร้ายแรงแค่ไหน

ทั้งสองยิ่งคิดยิ่งหวาดหวั่นมากขึ้น ทว่าหลี่ผู่เพียงแค่ยิ้มพลางกล่าวว่า “ฉันขอแสดงความยินดีด้วย ขอให้คู่บ่าวสาวดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา ครองรักอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ขอขอบคุณทุกคน” 

พูดจบหลี่ผู่ก็ยิ้มให้หวังซื่อเจี๋ยกับหลิ่วเสี่ยวอวี่ แล้วลงจากเวทีไป กลับมายังที่นั่งของตัวเองแล้ว  

หวังซื่อเจี๋ยกับหลิ่วเสี่ยวอวี่ตกใจจนพูดไม่ออกแล้ว พิธีกรที่อยู่ข้างๆ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความสับสนเช่นกัน ไม่รู้ว่าลำดับต่อไปต้องทำอย่างไรแล้ว

และเวลานี้เอง หลานเยว่ก็มาถึงหน้าไมโครโฟนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “เมื่อครู่นี้ฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากพวกเราคัยผู่ ที่เป็นคณะกรรมการบริหารอยู่ในเหิงไท่ บัญชีของเหิงไท่เละเทะมาก และสงสัยว่าหลีกเลี่ยงภาษีอีกด้วย ดังนั้นเมื่อครู่นี้พวกเขาจึงแจ้งตำรวจแล้ว พร้อมทั้งเปิดการประชุมคณะกรรมการบริหาร อาศัยคะแนนเสียงอันท่วมท้น ปลดหวังซื่อเจี๋ยออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารแล้ว” 

“พวกเธอทำแบบนี้ไม่ได้”  

 

ในที่สุดหวังซื่อเจี๋ยก็เข้าใจแล้ว เพราะอะไรหลานเยว่จึงรับปากลงทุนให้เหิงไท่ง่ายดายถึงเพียงนี้ ยังจะส่งคนมากมายขนาดนั้นไปเป็นคณะกรรมการอีกด้วย  

ที่แท้ตั้งแต่เริ่มแรก ตนก็ตกลงไปในหลุมพรางแล้ว การกำกับดูแลกองทุนอะไรนั้น ล้วนเป็นข้ออ้างทั้งสิ้น เรื่องที่เธอต้องการทำก็คือเตะตนออกไป แล้วเข้าควบคุมเหิงไท่นั่นเอง  

ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้ พูดโกหกโดยไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ ยังพูดอีกว่าคัยผู่ไม่เห็นบริษัทเล็กๆ อย่างเหิงไท่ของเขาอยู่ในสายตา ตนจึงหลงกลแล้ว

หวังซื่อเจี๋ยพุ่งไปด้านข้างหลานเยว่ ชี้นิ้วมือที่สั่นระริกใส่หลานเยว่แล้วคำรามว่า “เธอทำแบบนี้มันคือการวางแผน แผนการที่ต่ำช้า เหิงไท่เป็นของฉัน พวกเธอใครก็อย่าได้คิดเอาไป”  

“งั้นเหรอ?” หลานเยว่ยิ้มเล็กน้อย “พวกเราดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด มีปัญหาอะไร นายก็ไปฟ้องฉันได้”

“เธอ?” หวังซื่อเจี๋ยโกรธจนแทบกระอักเลือดออกมาแล้ว

หลิ่วเสี่ยวอวี่เห็นสถานการณ์ ก็รู้สึกกระวนกระวายใจบ้างแล้วเช่นกันก่อนจะพูดว่า “คุณหลาน พวกคุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ มีสิทธิ์อะไรปลดซื่อเจี๋ยออกจากตำแหน่ง”  

“เขาถูกสงสัยว่าทำผิดกฎหมาย ไม่มีสิทธิ์เป็นประธานกรรมการของเหิงไท่อีกต่อไปแล้ว”

หลานเยว่พูดพลางโบกมือ เลขานุการนำเอกสารมาชุดหนึ่ง ยื่นให้หลิ่วเสี่ยวอวี่โดยตรง เธอหัวเราะเบาๆ กล่าวว่า “เธอคิดว่าหวังซื่อเจี๋ยชอบเธอจริงๆ เหรอ? เธอคิดผิดแล้ว ก่อนจะแต่งงานกับเธอ เขาได้เตรียมแผนการหย่าเอาไว้แล้ว เตรียมครอบครองบริษัทใบวิลโลว์พลิ้วไสวของเธอ เธอลืมตากว้างๆ อ่านดูให้ละเอียดเถอะ”

หลิ่วเสี่ยวอวี่ถือเอกสารไว้อ่านขึ้นมาโดยไม่ปริปาก  

แต่งงาน ลงทุน ยึดครองสิทธิ์ถือหุ้นส่วนใหญ่ และหย่า การดำเนินการอย่างละเอียดพวกนี้ แม้แต่คนตาบอดก็ยังมองออกว่าเอกสารนี้หมายถึงอะไร  

มือของหลิ่วเสี่ยวอวี่สั่นระริกขึ้นมา เธอส่ายหัวพูดขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด”  

“ถ้าเธอไม่เชื่อละก็ เธอสามารถแต่งงานกับเขาต่อไปได้เลย ลองดูว่าจะมีจุดจบที่ดีหรือเปล่า” เมื่อเห็นสีหน้าอันหวาดหวั่นตกตะลึงของหลิ่วเสี่ยวอวี่แล้ว หลานเยว่รู้สึกสะใจจริงๆ

“ซื่อเจี๋ย บอกฉันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม?” หลิ่วเสี่ยวอวี่หันไปมองหวังซื่อเจี๋ยอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง  

แต่เวลานี้หวังซื่อเจี๋ยกำลังสับสนแล้ว เหิงไท่เปลี่ยนมือในชั่วพริบตา เป็นความจริงที่เขาไม่สามารถยอมรับได้  

ส่วนหลิ่วเสี่ยวอวี่นั้นเขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว

“อย่ากวนใจฉัน” หวังซื่อเจี๋ยคำรามเสียงดังลั่น หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปที่บริษัทแล้ว โดยไม่สนใจหลิ่วเสี่ยวอวี่โดยสิ้นเชิง

หลิ่วเสี่ยวอวี่สีหน้าเศร้าโศก ดูจากท่าทีการแสดงออกนี้ เธอก็รู้แล้วว่าหลานเยว่ไม่ได้พูดโกหก

และตั้งแต่เริ่มต้นหวังซื่อเจี๋ยก็ไม่เคยปฏิบัติต่อเธออย่างจริงใจ ทุกอย่างล้วนเป็นเพียงเรื่องโกหกทั้งนั้น  

ความรู้สึกสิ้นหวังชนิดหนึ่ง พุ่งขึ้นในจิตใจของหลิ่วเสี่ยวอวี่ ทำให้เธอไม่มีเรี่ยวแรงไปทั้งตัว  

หลิ่วเจี้ยนกั๋วกับหวังหลันเห็นสถานการณ์ ก็รีบขึ้นเวทีไปประคองลูกสาวเอาไว้ สีหน้าก็ตื่นตระหนกตกใจเช่นเดียวกัน

เรื่องราวในวันนี้ ช่างเหนือความคาดหมายของพวกเขามากจริงๆ  

หลังจากหวังซื่อเจี๋ยโทรศัพท์หลายครั้งแล้ว ก็ปล่อยโทรศัพท์ร่วงลงพื้นอย่างหมดแรง

เหิงไท่ถูกคนของคัยผู่ควบคุมแล้ว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนมาก กำลังทำการตรวจสอบอยู่ภายในบริษัท  

เขารู้ว่าตัวเองจบสิ้นแล้ว  

แขกรับเชิญภายในงานเลี้ยงจำนวนมาก เวลานี้สีหน้าท่าทางพวกเขาล้วนเคร่งเครียดอย่างมาก  

เรื่องนี้ใหญ่โตเกินไปแล้วจริงๆ

หลี่ผู่ที่ถูกตระกูลหลิ่วไล่ออกจากบ้านนั้น กลับเป็นเจ้าของกลุ่มสถาบันการเงินคัยผู่แห่งสากล และหลิ่วเสี่ยวอวี่กับหวังซื่อเจี๋ย ได้เหยียดหยามเขาไปไม่น้อยเลยทีเดียว 

คำพูดของหลานเยว่ ทำให้บรรดาชนชั้นสูงทางสังคมเหล่านี้เข้าใจแล้วทันที เหิงไท่ถูกวางแผนเล่นงานตั้งแต่แรกแล้ว แต่หวังซื่อเจี๋ยกลับยังไม่รู้ตัวอีก

ยังมีหลิ่วเสี่ยวอวี่ จากการเปิดเผยของหลานเยว่เมื่อครู่นี้ ยิ่งทำให้ทุกคนรู้แล้วว่าพิธีแต่งงานครั้งนี้ ที่แท้ก็เป็นเพียงเรื่องตลกขบขันอย่างหนึ่งเท่านั้น  

หลิ่วเสี่ยวอวี่ถูกหวังซื่อเจี๋ยวางแผนเล่นงานแล้ว แต่หวังซื่อเจี๋ยกลับถูกกลุ่มสถาบันการเงินคัยผู่วางแผนเล่นงานเข้าให้แล้ว

และต้นเหตุของทั้งหมดนี้ ก็สืบเนื่องมาจากหลิ่วเสี่ยวอวี่ไล่หลี่ผู่ออกจากตระกูลหลิ่วนั่นเอง  

ตระกูลหลิ่วกับเหิงไท่พ่ายแพ้ยับเยิน หลี่ผู่จัดการพวกเขาอย่างง่ายดายแทบไม่ต้องสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงแต่อย่างใดเลย

ทุกคนมักจะเหลียวมองไปทางหลี่ผู่ ภายในดวงตาล้วนมีความรู้สึกครั่นคร้ามอย่างลึกซึ้ง  

ส่วนหลี่ผู่หลังจากกลับมานั่งในที่เดิมแล้ว ก็เริ่มดื่มด่ำกับละครฉากใหญ่นี้ เมื่อเห็นผลงานยอดเยี่ยมขนาดนี้ บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้น

และตอนนี้สีหน้าโจวกงเผยกลับเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดแล้ว หลี่ผู่เป็นเจ้าของกลุ่มสถาบันการเงินคัยผู่แห่งสากล สถานะแบบนี้ของเขา ไม่จำเป็นต้องจงใจตีสนิทกับตระกูลโจวของพวกเขาเลยจริงๆ หรือว่าพวกเขาเข้าใจผิดไปแล้ว?

ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น โจวรั่วหนานวิ่งลุกลี้ลุกลนเข้ามาในงานแต่งแล้ว พร้อมกับเที่ยวค้นหาจนมาถึงข้างกายบิดาแล้ว

“คุณพ่อ พวกเราเข้าใจผิดแล้วค่ะ” โจวรั่วหนานหายใจอย่างเหนื่อยหอบพลางพูดขึ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel