ตอนที่ 4 พรหมจรรย์ 3 แสน
หงษ์ยัดเงินใส่มือฉัน ก่อนจะหยิบชามโจ๊กมากินแล้วพอหงส์กินข้าวเสร็จฉันก็จัดยาให้หงษ์กินทันที หงษ์หลับมาจนถึง บ่าย 3 กว่าจะตื่นนี่นอนหรือตายก็ไม่รู้
“ตาล แก ไปทำงานได้รึเปล่าวันเนี้ยอย่างน้อยไปช่วยเจ๊ ดูแลเรื่องลิ้นชักเงินก็ได้ แต่ถ้าเจ๊ให้เสิร์ฟก็ทำเลย”
“อืมได้ซิ”
“มา งั้นฉันจะแต่งตัวให้แกเอง”
ฉันเอาชุดของหงษ์มาลอง จนได้ชุดที่หงษ์พอใจ จากนั้นหงษ์ก็จับฉันแต่งหน้าทำผม ซึ่งมันสามารถเปลี่ยนฉันกลายไปเป็นอีกคนเลย
“สวยเหมือนกันนะเนี้ย”หงษ์ยิ้มชมฉันใหญ่เลย
“ขอบใจนะหงษ์”
“ขอบใจทำไม เพื่อนกัน แกรีบไปได้ละ เดี๋ยวสาย”
ฉันจึงรีบไปขับรถของหงษ์ตรงไปที่บาร์ทันที พอฉันเปิดประตูเข้าร้านไปเจ๊ก็ปรบมือใหญ่เลย
“ว้าววววันนี้ตาลมันสวยวะ”
“ขอบคุณค่ะเจ๊”
“นี่พร้อมทำงานแล้วใช่มั้ย”
“ ค่ะ รอช้าเดี๋ยวอดตาย”
“ดีมาก เอาเป็นว่า ตาลไปนั่งคู่กับ กับใครดีวะ อืม.....…”
“กับหนูก็ได้ค่ะเจ๊”
“เออ นั่งกับ อีปรางก็ได้ไป”
ฉันจึงเดินไปนั่งคู่กับปรางซึ่งปรางดีมาก บอกฉันแทบจะทุกอย่างซึ่งทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมาเลย
“ตาล มีแขกเรียก”
ฉันหันไปมองโต๊ะที่เรียกฉันตามที่ปรางบอก เขาเป็นกลุ่มคนมีเงิน หล่อทุกคนเลยนะ ฉันกับปรางจึงเดินเข้าไปพร้อมกัน ฉันรู็สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเพราะฉันถูกสายตาของ 1 ในกลุ่มมองด้วยสายตาที่ไม่พอใจ เขาดูน่ากลัวมาก
ฉันเดินมาอย่างเก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูก แต่ยังดีที่ปรางเป็นงาน ปรางให้ฉันนั่งฝั่งซ้ายส่วนปรางฝั่งขวา ทำให้ฉันนั่งอยู่ข้างคนที่ไม่ชอบหน้าฉัน ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย
“ น้อง 2 คนชื่ออะไรกันบ้างจ้ะ”
คนที่นั่งกับปรางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“หนูชื่อปรางค่ะ ส่วนนั่นเพื่อนหนูชื่อตาล”
ปรางแนะนำด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง แล้วชายคนนั้นก็เอามือขึ้นมาโอบปรางเอาไว้อย่างสนิทสนม แต่ชายที่อยู่ข้างฉันเขากลับเอาบุหรี่ขึ้นมาสูบอย่างเดียวโดยไม่หันมามองฉันเลย
“ไอ้เหี้ยตุล มึงจะเครียดอะไรนักหนาวะ แค่ผู้หญิงคนเดียวนี่มาเที่ยวนะเพื่อน”
“กูไม่ได้คิดเรื่อง ยุ้ย กูแค่ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้”
“บรรยากาศดีๆแบบนี้เนี้ยนะ ดูดิ สาวๆสวยๆล้อมรอบไปหมด”
“แต่กูไม่ชอบ”
เขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบฉัน เขาคงจะไม่ชอบผู้หญิงกลางคืนแน่ๆ
“งั้นตาลขอตัวนะคะ”
“จะไปไหนละน้อง นั่งนี่แหละคอยชงเหล้าให้เพื่อนพี่”
ฉันจึงนั่งลงและพยายามชงเหล้าให้เขาแต่ฉันชงไม่เป็นทำให้ เขามองด้วยสายตาที่รังเกียจอย่างเห็นได้ชัด ฉันจึงรีบก้มหน้าทันที
“มึงจะมองน้องตาลทำไมวะ น้องปรางบอกเขาพึ่งมาทำงานวันนี้วันแรก เลยยังไม่เป็น”
“เสแสร้งเก่งละไม่ว่า”
ผู้ชายคนนี้ปากร้ายชะมัด น่ากลัวด้วย ฉันอยากออกไปจากตรงนี้เร็วๆจัง
“อย่าไปถือสาเพื่อนพี่เลยนะ พอดีมันพึ่งทิ้งเมียนะ”
“ไอ้สัสคิม ถ้าไม่หยุดกูจะต่อยมึงเดี๋ยวเนี้ย”
“โห โหดตลอดไอ้สัส”
แล้วพวกเขาก็นั่งคุยกันไปพักใหญ่จนเวลาล่วงเลยไปจน ถึง 5 ทุ่ม
“พี่จะไปเที่ยวต่อน้องไหวกันรึเปล่า พี่จะพาไปช็อป”
“ไหวค่ะ ปรางไหว”
“ตาลขอตัวดีกว่าค่ะ พอดีตาลไม่ถนัดเที่ยว”
“ตาล ไปเป็นเพื่อนกันหน่อยซิ”
ปรางรบเร้าฉันเพื่อให้ไปเป็นเพื่อนเธอซึ่งฉันก็ขัดคนไม่ค่อยเป็นซะด้วย
“ต้องไปบอกเจ๊ก่อนนะ”
“เดี๋ยวปรางไปบอกเอง เสี่ยคิมคะ ขอค่าตัวพาเที่ยวค่ะ”
ปรางหันไปหาเสี่ยคิม แล้วเสี่ยคิมก็เอาเงินวางที่มือของปรางปึกนึง ซึ่งปรางยิ้มหน้าบานเลย แล้วหลังจากนั้นปรางก็เดินไปหาเจ๊พร้อมกับวางเงินให้เจ๊ ครึ่งนึง ฉันจึงเลี่ยงเดินไปหาเจ๊ด้วยเช่นกัน
“อีปราง ไปเที่ยวอย่างเดียวนะมึง”
“เที่ยวอย่างเดียวซิเจ๊ หนูมีตาลไปด้วย สบายใจได้หายห่วง”
“เออก็ดี ตาล ถ้ามีอะไรโทรหาเจ๊ได้นะ เพิ่งทำวันแรก อย่ามีผัวก่อนละ”
“โหเจ๊ ตาลไม่มีหรอก”
ฉันส่งยิ้มให้เจ๊ก่อนจะเดินมาที่โต๊ะ ปรางกับเสี่ยคิมเดินควงกันไปราวกับคู่รักที่พึ่งคบกัน ส่วนฉันกับเสี่ยตุลกลับเดินห่างกันเป็นกิโลแถมสายตาที่เขามองฉันมันมีแต่ความไม่ชอบใจ
เขาพาฉันกับปรางไปที่ตลาดโต้รุ่ง บอกเลยมีแต่คนมองทั้งนั้นเพราะชุดที่พวกเราใส่มันรัดมาก เอวเป็นเอวตูดเป็นตูดเลยก็ว่าได้
“ตาล มานี่ๆ ลองชิมน้ำส้มแก้วนี้ดู อร่อยมาก”
ปรางยื่นแก้วน้ำให้ฉัน ฉันจึงรับมาดื่มอย่างไม่รีรอเลย แล้วไม่นานฉันก็รู้สึกมึนหัว เหมือนจะอ้วก แถมมันจะง่วงๆด้วย
“ปราง ตาลง่วงอ่ะ”
“อ้าวหรอ ง่วงหรอ งั้นกลับกันเลยมั้ย”
“ก็ดีนะ ตาลจะไม่ไหวแล้ว”
เสี่ยคิมเลยพาเรา 2 คนกลับ แล้วพอขึ้นรถ ฉันก็หลับลงบนไหล่ของปรางทันทีเลย
ฉันมารู้สึกตัวอีกทีคือฉันได้กลิ่นบุหรี่ นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี้ย ฉันพยายามมองซ้ายมองขวา แต่มันไม่ใช่ห้องของหงษ์นี่ แล้วสายตาฉันก็เห็นผู้ชายนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้องน้ำ ฉันพยายามขยี้ตาเพราะภาพมันยังไม่ชัด
“จะนอนอีกนานมั้ย”
เสียงเขาพูดขึ้น ฉันจำเสียงนี้ได้ มันเป็นเสียงของเสี่ยตุล คนที่ไม่ชอบฉันนั่นเอง
“นี่มันอะไรกันอ่ะ คุณพาฉันมาที่ไหน”
“โรงแรมไง ฉันคงจะไม่พาผู้หญิงอย่างเธอไปบ้านฉันหรอกนะ”
“แล้วคุณพาฉันมาทำไม แล้วเพื่อนฉันละ คุณเอาเพื่อนฉันไปไว้ไหน”
“เพื่อนเธอนะหรอ หนีไปแล้วหละ”
“หมายความว่ายังไง”
เขาเดินมาหาฉันช้าๆก่อนจะก้มลงมาจับที่ปลายคางของฉันให้เงยขึ้นไปมองใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เย็นชาของเขา
“ก็หมายความว่าฉันซื้อพรหมจรรย์เธอกับเพื่อนเธอแล้วไง ผู้หญิงแบบเธอเนี้ยมีค่าตั้ง3 แสนเชียวนะ”
ฉันเหมือนโดนใครเอามีดมากรีดที่กลางใจเลย ทำไม ทำไมปรางถึงทำกับฉันแบบนี้
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนจะปล่อยมือออกจากคางของฉันแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอย่างใจเย็น