บท
ตั้งค่า

Ep : 4. ชีวิตในบ้านหลังใหญ่

พรพจีมองพาขวัญที่กำลังช่วยเด็กรับใช้ในบ้านคนอื่นทำความสะอาด แล้วนางก็เบะปากเล็กน้อยให้กับภาพที่เห็นแล้วก็เดินผ่านเข้าไปในห้องนั่งเล่น โดยมีผ่องแม่บ้านเก่าแก่และเป็นคนสนิทของตัวเองเดินตามไปด้วย ก่อนหน้านั้นผ่องลากลับไปที่บ้านต่างจังหวัดและเพิ่งกลับมาเมื่อสามวันก่อน นางจึงมีเพื่อนได้พูดคุยและคิดแผนการกลั่นแกล้งพาขวัญ

ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่อชิระ ลูกชายของนางพาพาขวัญเข้ามาอยู่ในบ้านของนาง ยิ่งตอนนี้ท้องของเธอโตขึ้นทุกวัน และก็เหมือนว่าลูกชายจะใส่ใจเธอเหมือนกัน เพราะเด็กรับใช้ในบ้านต่างพูดต่อๆ กันจนมาถึงหูของนางว่าอชิระมักซื้อของกินและของบำรุงมาให้หญิงสาวทุกครั้งที่กลับมาจากทำงาน แถมลูกชายของนางก็กลับมาค้างที่บ้านเป็นประจำด้วยตอนนี้ ซึ่งเมื่อก่อนจะกลับมาค้างที่บ้านแค่วันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น

“ผ่อง...ฉันทนไม่ไหวแล้วนะตอนนี้”

“คุณจีอดทนหน่อยนะคะ คุณอชิบอกว่ารอแค่ให้แม่คนนั้นคลอดลูก อีกไม่นานค่ะ”

“ไม่นาน ไม่นานแต่มันนานมากเลยนะ และตอนนี้หนูตาก็มาที่บ้านบ่อยมาก ฉันกลัวว่าหนูตาจะเสียใจและไม่พอใจ”

“แต่คุณอชิก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับยัยเด็กนั่นไม่ใช่เหรอคะ”

“ก็จริงอย่างผ่องว่า แต่ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิ เด็กรับใช้ในบ้านก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอชิไปหาผู้หญิงชั้นต่ำที่ตึกคนใช้บ่อยนะพักหลังๆ มานี้ อีกอย่างอชิก็กลับมานอนที่บ้านทุกวัน มันผิดปกติ ฉันไม่ค่อยสบายใจเลย แล้วแบบนี้จะให้ฉันเชื่อลูกชายได้อีกเหรอ” พรพจีคิดไม่ตก ยิ่งนับวันลูกชายก็ยิ่งทำให้นางไม่มั่นใจแล้วสิว่าจะยังเหมือนวันแรกที่พาพาขวัญเข้ามาในบ้านหรือเปล่า

“แล้ววันนี้หนูตาจะมาทานข้าวที่บ้านเราด้วยใช่ไหม ผ่องไปบอกยัยชั้นต่ำนั่นให้อยู่แต่หลังบ้านนะ ไม่ต้องเสนอหน้ามาเดินเพ่นพ่านให้คนอื่นเห็นโดยเฉพาะหนูแก้วตา”

“ค่ะคุณจี เดี๋ยวผ่องไปจัดการให้”

“ดีมากผ่อง ในบ้านก็มีแต่ผ่องเนี่ยแหละที่ฉันไว้ใจ ส่วนเด็กรับใช้คนอื่นๆ ก็เหมือนจะเข้าข้างมัน ฉันล่ะเกลียดมันนัก ไม่รู้ทำไมทุกคนถึงเอ็นดูมัน”

“ใครที่คุณจีไม่ชอบ ผ่องก็ไม่ชอบค่ะ”

“ขอบใจมากนะผ่อง เธอไปดูเด็กๆ เตรียมมื้อเย็นรอว่าที่ลูกสะใภ้ฉันเถอะ”

“ค่ะ”

“แล้วก่อนไปก็ไปจัดการไล่ยัยชั้นต่ำนั่นออกไปให้พ้นบริเวณบ้านใหญ่ด้วยล่ะ แล้วกับข้าวให้เธอทำกินเอง สั่งเด็กในบ้านห้ามทำกับข้าวหรือแบ่งกับข้าวให้ยัยนั่นกิน ก่อนหน้านี้ที่ฉันยอมเพราะตาอชิบอกว่ายัยนั่นแพ้ท้องหนัก แต่ตอนนี้เห็นว่าไม่แพ้ท้องแล้ว ฉะนั้นให้ทำกับข้าวกินเอง ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องกิน”

“รับคำสั่งค่ะคุณจี ผ่องคนนี้จะรีบจัดการให้เลยค่ะ”

“ไปเถอะ ฉันจะขึ้นห้องแล้ว จะไปเอนหลังสักหน่อย พักนี้มีแต่เรื่องให้ปวดหัวและหงุดหงิด” แล้วนายและบ่าวคู่หูก็ต่างแยกย้ายกัน

เมื่อถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกไปไหน พาขวัญจึงเก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอน หญิงสาวไม่คุ้นเคยกับการอยู่เฉยๆ สุดแสนจะเบื่อหน่าย แต่ก็ต้องจำทน เพราะเจ้าของบ้านสั่งห้ามเสียงแข็งขนาดนั้น คงจะมีแขกสำคัญมาที่บ้านแน่ๆ หญิงสาวคิดพลางลูบท้องของตัวเอง เธอจะทนเพื่ออนาคตที่ดีของลูก

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

เสียงดังหน้าห้องนอนทำให้พาขวัญหลุดออกจากความคิดตัวเองลุกขึ้นไปที่ประตูห้อง ตอนนี้ท้องของเธอโตมากขึ้นทุกวันทำให้ดูอุ้ยอ้ายเดินไม่สะดวก

“มีอะไรจ๊ะพี่นาง” พอเปิดประตูห้องออกมาเห็นสาวใช้อีกคนยืนอยู่ สาวใช้คนนี้เป็นมิตรกับพาขวัญต่างจากคุณแม่บ้านคนสนิทของเจ้าของบ้าน ที่ไม่ชอบหน้าเธอตามเจ้านายผู้สูงวัย

“พี่ทำกับข้าวเตรียมไว้เสร็จแล้ว พี่เลยแอบแบ่งอาหารมาให้น้องขวัญจ้ะ” นางส่งยื่นปิ่นโตอาหารที่ตนเองและใจ สาวใช้อีกคนแอบตักแบ่งมาให้หญิงสาว

“ขอบคุณพี่นางกับพี่ใจมากนะคะที่เมตตาขวัญ แต่ทำแบบนี้พี่ทั้งสองคนอาจจะโดนคุณท่านตำหนิได้นะคะ” พาขวัญรับปิ่นโตในมือหญิงสาวมาถือไว้ด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจ

“กลัว แต่ว่าพี่ก็สงสารขวัญ ตอนนี้ก็ท้องโตแล้ว เดินไม่สะดวกจะให้ไปหุงข้าวหุงปลากินเองได้ยังไง แค่ทุกวันเราช่วยพี่ๆ ในบ้านทำความสะอาดบ้านก็หนักมากพอแล้วนะ ป้าผ่องก็อีกคน ใจร้ายเหลือเกิน คุณท่านก็เหมือนกัน ไม่รู้จะแกล้งน้องขวัญไปถึงไหน” นางอดพูดถึงเจ้านายและป้าผ่องคนสนิทของเจ้านายไม่ได้

“พี่นางอย่าพูดแบบนั้นค่ะ เดี๋ยวก็มีใครมาได้ยินเข้า อีกอย่างให้ท่านได้ทำเถอะค่ะ ขวัญทนได้ และขวัญก็เป็นแค่คนอาศัย เป็นแค่คนรับใช้ ก็สมควรแล้วที่ท่านจะใช้งาน” เธอบอก เพราะไม่อยากให้นางนินทาเจ้านายแบบนี้ มันดูไม่ดี และไม่อยากให้ใครมาได้ยินด้วย

“น้องขวัญเป็นคนดีแบบนี้ยังไงล่ะถึงโดนกลั่นแกล้ง ยิ่งท้องใหญ่มากขึ้นทุกวัน อีกอย่างเขาบอกไม่ให้คนท้องเครียด มันส่งผลถึงเด็กในท้องนะจ๊ะ” พาขวัญยิ้มให้นางที่เป็นห่วงตัวเองมาตลอด ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ตอบกลับไป

“ขวัญสบายมากค่ะ เรื่องแค่นี้เอง อีกอย่างขวัญต้องทนให้ได้จนกว่าจะคลอดเจ้าตัวเล็กค่ะ” เธอบอกพร้อมอีกมือที่ว่างลูบหน้าท้องนูนโตของตัวเองไปมา

“งั้นพี่ไปก่อนนะ จะรีบไปตั้งโต๊ะอาหารให้คุณท่าน วันนี้คุณอชิพาคู่หมั้นมาทานอาหารเย็นด้วย”

นางพูดจบก็เดินจากไปโดยไม่รู้เลยว่าหน้าที่ยิ้มน้อยๆ ก่อนหน้านี้ของพาขวัญมันจืดจางหายไป แต่มีความเศร้าความเจ็บปวดเข้ามาแทนที่ พาขวัญรู้ดีว่าอีกไม่นานอชิระต้องแต่งงานกับแก้วตา เธอเห็นคู่หมั้นของเขาแวะเวียนมาบ้านบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยได้เห็นหน้าชัดๆ เพราะถูกสั่งให้อยู่แต่ในห้องไม่ให้ออกไปเดินเพ่นพ่านเวลาคุณเขามา

เธอปิดประตูห้องพร้อมกับถือปิ่นโตไปวางไว้ที่โต๊ะวางของขนาดเล็กที่เพิ่งไปซื้อมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วตอนที่ออกไปหาหมอตามนัด และต้องขอบคุณอชิระที่ให้เงินเดือนเธอไว้ใช้สอย ในบางครั้งเขาก็ทำดีกับเธอ ซื้อข้าวของเครื่องใช้มาให้ แม้แต่เสื้อผ้าที่เธอใส่ ชุดคลุมท้องที่ใส่อยู่ทุกวันนี้เขาก็ซื้อมาให้ทั้งนั้น เหมือนเขาจะใส่ใจและแสนดี แต่บางครั้งดวงตาคู่คมทรงเสน่ห์นั้นก็เย็นชากับเธอเหลือเกิน

อชิระพาว่าที่เจ้าสาวมาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยเหมือนที่ทำบ่อยๆ เพราะคุณแม่สั่ง ท่านอยากให้เขาและแก้วตาสนิทกันมากกว่านี้ เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะแต่งงานกันแล้ว เขามองดูแก้วตาพูดคุยกับแม่ในห้องนั่งเล่น และทั้งสองคงลืมไปแล้วว่ามีเขานั่งอยู่ด้วย เมื่อไม่มีใครสนใจเขาจึงหลบออกไปจากห้องเงียบๆ เพื่อไปหาใครบางคน เพราะก่อนจะไปรับแก้วตา เขาแวะไปซื้อชุดคลุมท้องมาให้พาขวัญด้วย เขาอยากเอาไปให้เธอก่อนจะทานมื้อเย็น

พอเดินมาถึงหน้าห้องของพาขวัญ อชิระก็ยกมือขึ้นจะเคาะประตูห้อง แต่ก็เปลี่ยนใจลองบิดลูกบิดประตู เพราะพาขวัญชอบลืมล็อกประตูห้องบ่อยๆ และก็จริง เธอไม่ได้ล็อกห้อง เขาจึงยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วเปิดผลักเข้าไปในห้องของหล่อน พอเปิดเข้าไปก็เห็นร่างอวบอิ่มนอนหลับสนิทบนเตียงขนาดเล็กของเธอ เขาจึงเดินยิ้มเข้าไปหาเธอพร้อมกับในมือมีถุงชุดคลุมท้องที่ซื้อมาด้วย

อีกมุมหนึ่งของบ้าน แก้วตาขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำตามหลังเขามาติดๆ จากตอนแรกจะเข้าห้องน้ำ พอมองเห็นหลังไวๆ ของคู่หมั้นหนุ่มเดินมาทางตึกคนรับใช้ เธอก็เปลี่ยนทางเดินเดินตามชายหนุ่มมาเงียบๆ และเห็นว่าในมือของเขามีถุงที่อยู่เบาะหลังรถของเขาติดมือมาด้วย พอเดินมาเห็นเขาเดินหายเข้าไปในห้องของคนรับใช้ เธอก็ยิ่งสงสัยและแปลกใจว่าเขาเข้าไปทำอะไร จึงเดินมาแอบดูที่หน้าห้องที่ไม่ได้ผลักปิดประตู เธอเกาะขอบประตูมองอชิระที่นั่งอยู่บนเตียงและบนเตียงขนาดเล็กก็มีผู้หญิงใส่ชุดคลุมท้องนอนอยู่ แก้วตาปิดปากตัวเองและน้ำตาก็เอ่อคลอสองดวงตาสวยจนทนอยู่ไม่ไหวแล้วเดินจากไปเงียบๆ

ด้านอชิระไม่รู้เลยว่าแก้วตาตามตัวเองมาเห็นภาพในตอนนี้ เขาโน้มลงไปหอมแก้มนวลของคนที่นอนตะแคงหันมาทางตนเอง และวางถุงชุดคลุมท้องไว้กับพื้นข้างๆ ขาตัวเอง มือใหญ่ลูบแก้มนวลเนียนไปมา อชิระไม่รู้เลยว่าทำไมร่างอวบอิ่มของพาขวัญถึงได้ยั่วยวนและดึงดูดเขาขนาดนี้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขโมยหอมแก้มของเธอเวลาหลับ

“อืม” มือเล็กยกขึ้นมาปัดแก้มตัวเองออกอย่างรำคาญเมื่อถูกรบกวน แต่ก็ยังไม่ยอมตื่นขึ้นมา

หึ!

เขายิ้มขำในลำคอมองมือเล็กที่ลูบถูไถแก้มตัวเองไปมาแล้วก็โน้มลงไปหอมแก้มนุ่มนิ่มของพาขวัญอีกครั้ง ก่อนจะผละออกมาแล้วลุกขึ้นพร้อมกับหยิบถุงชุดคลุมท้องไปวางไว้ที่โต๊ะวางของ

“ขี้เซาจริงๆ เธอเนี่ย” อชิระพูดแผ่วเบาเกรงว่าจะทำให้หญิงสาวตื่น เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะออกจากห้องไป

แก้วตาวิ่งร้องไห้ออกไป ภาพที่เห็นมันทำให้หัวใจดวงเล็กปวดร้าว หญิงสาวพยายามเตือนสติตัวเองว่ามันคงไม่ใช่อย่างที่คิด อชิระไม่มีทางทำร้ายจิตใจของเธอแน่ อีกไม่นานก็จะแต่งงานกัน เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้ถูกใครบังคับ ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่การกระทำที่อ่อนโยนของอชิระมันทำให้แก้วตารู้สึกกังวล

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

ผ่องมาตามหญิงสาวเมื่อเห็นว่าหายมาเข้าห้องน้ำนานแล้ว และตอนนี้ทุกคนก็พร้อมหน้าพร้อมตากันที่ห้องรับประทานอาหารแล้ว จะขาดก็แต่แขกคนสำคัญของวันนี้เท่านั้นที่ยังไม่เข้าไป

“คุณตาคะ คุณท่านให้ป้ามาตามคุณตาไปทานข้าวค่ะ”

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

ผ่องร้องเรียกพร้อมเคาะประตูเรียกอีกครั้ง ด้านคนข้างในห้องส่องกระจกเช็ดหน้าตัวเองและปรับโทนเสียงให้เป็นปกติแล้วตอบกลับไป

“ค่ะ ตาจะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะป้าผ่อง”

“ค่ะ งั้นป้าไปก่อนนะคะคุณตา” แล้วเธอก็รีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แม้ว่าตอนนี้ดวงตาจะแดง เพราะก่อนหน้านี้เธอผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก แต่เธอก็ต้องปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพื่อไม่ให้ทุกคนสงสัยว่าเธอร้องไห้มาหรือยังไงกัน

“แม่รู้นะว่าก่อนหน้านี้อชิไปหาแม่นั่น” พรพจีถามลูกชายที่นั่งอยู่ทางขวามือของตัวเอง แม้ไม่ถามว่าหายไปไหนมา นางก็พอจะรู้ว่าอชิระไปไหนมาก่อนจะมาที่ห้องรับประทานอาหาร

“ผมแค่เอาชุดคลุมท้องไปให้เธอเองครับ”

“ไปน่ะไปได้ ทำไมไม่รอให้หนูตากลับก่อน ลูกควรจะ...ช่างเถอะ หนูตามาแล้ว” แล้วนางก็หยุดพูดถึงเรื่องนี้ทันทีเมื่อแก้วตาเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร

“มาแล้วเหรอหนูตา เป็นอะไรรึเปล่าลูก หายไปนานเลย” นางถามว่าที่ลูกสะใภ้อย่างเอ็นดูพร้อมส่งสายตาให้ลูกชายลุกขึ้นเดินไปลากเก้าอี้ออกให้หญิงสาวนั่ง อชิระทำตามที่แม่สั่งทันที เขาเลื่อนเก้าอี้ออกให้แก้วตานั่งแล้วก็เดินกลับมานั่งที่เดิมของตัวเอง

“ไม่มีอะไรค่ะ พอดีว่าหนูท้องเสียนิดหน่อยค่ะคุณป้า” เธอโกหกพร้อมยิ้มหวานให้ท่านก่อนจะมองหน้าคมเข้มของว่าที่เจ้าบ่าว เขาไม่มีท่าทางรู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“เหรอลูก ว่าแต่ทำไมตาหนูแดงๆ เหมือน...”

“เอ่อ...พอดีคอนแทคเลนส์หนูมันหล่นด้วยค่ะ มันเคืองตานิดหน่อย หนูคงเผลอขยี้ตาแรงไปหน่อยน่ะค่ะคุณป้า” หญิงสาวพูดปดอีกครั้ง

“งั้นทานข้าวกันเถอะ นาง ใจ ตักข้าวสิ” พรพจีสั่งสาวใช้ให้ตักข้าว เพราะตอนนี้เลยเวลามื้อเย็นมาแล้ว

“อชิตักกับข้าวให้น้องบ้างสิลูก” เมื่อเห็นว่าลูกชายเฉยเมยกับแก้วตา

“ครับ” เขารับคำแล้วก็ตักแกงเขียวหวานตรงหน้าตัวเองให้คู่หมั้นสาวที่นั่งตรงข้ามกับตัวเองทันที

“ขอบคุณค่ะพี่อชิ” แก้วตายิ้มอ่อนหวานให้ว่าที่เจ้าบ่าว ก่อนจะตักอาหารให้คนสูงวัยบ้างเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง

“ขอบใจนะหนูตา ป้าอยากให้หนูกับอชิแต่งงานกันเร็วๆ ป้าอยากได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้เต็มทีแล้ว”

นางพูดพร้อมกับทานมื้อเย็นอย่างเจริญอาหาร ส่วนคนที่จะได้แต่งงานมีสีหน้ายิ้มรับยิ้มสู้เท่านั้น เพราะในหัวของเธอคิดถึงแต่เรื่องก่อนหน้านี้ ส่วนอชิระก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะยังไงเขาก็ต้องแต่งงานกับแก้วตาตามที่แม่ต้องการ แต่ทำไมนับวันเขากลับรู้สึกว่าไม่อยากทำตามคำสั่งของท่านแล้ว เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่าทุกวันนี้เขาทำถูกแล้วหรือเปล่า แล้วเรื่องของพาขวัญอีก เขาก็ยังไม่เคลียร์เลย

หลังจากมื้อเย็นจบลง พรพจีก็ขอตัวขึ้นไปบนห้องพักของตัวเอง เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้พูดคุยกันตามลำพังที่ห้องนั่งเล่น และเมื่ออยู่กันลำพัง อชิระก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับแก้วตา เพราะเขาไม่เคยต้องนั่งคุยกับผู้หญิงนานๆ ส่วนมากจะชวนกันทำกิจกรรมมากกว่าคุย

“พี่อชิคะ”

“ครับน้องตา”

“ตอนนี้พี่อชิมีผู้หญิงอื่นอยู่ในใจหรือเปล่าคะ” แก้วตาตัดสินใจถามเขาไปตรงๆ เพราะรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายเจ้าชู้คงไม่ปิดบังเรื่องนี้กับเธอ

“ก็มีบ้างครับ พี่เป็นผู้ชายนะน้องตา แต่แต่งงานกันเมื่อไหร่ไม่มีแน่นอนครับ ระหว่างนี้พี่ยังมีสิทธิ์” เขาบอกหญิงสาวพร้อมกับหยิบหนังสือรถยนต์ที่โต๊ะตรงหน้าขึ้นมาเปิดดู

“ก็พี่หล่อขนาดนี้คงมีผู้หญิงเยอะแน่เลยใช่ไหมคะ” เธอถามเขาทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเขาน่ะมันเพลย์บอยตัวพ่อเลยแหละ

“ไม่หรอกครับ พี่ไม่ได้หล่อแต่พี่มีเสน่ห์ จริงๆ พี่ก็เหมือนผู้ชายทั่วไปแหละครับ ถ้าไม่เจ้าชู้จะเรียกว่าผู้ชายได้ยังไง อีกอย่างน้องตาไม่ต้องคิดมากนะ ถ้าเราแต่งงานกันไป พี่จะเป็นสามีที่ดีให้น้องตาได้แน่นอน จะไม่มีเรื่องผู้หญิงมารบกวนให้น้องตารำคาญใจ”

“ตาเชื่อพี่อชิค่ะ เพราะตาระ...”

“ดึกแล้ว พี่ว่าน้องตากลับดีกว่าเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

อชิระรีบเอ่ยแทรกขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่าหญิงสาวจะพูดอะไร เขาไม่คู่ควรกับความรักของแก้วตา เธอเป็นคนดีเกินกว่าจะมารักผู้ชายอย่างเขา เขาพยายามแล้วที่จะรักเธอเหมือนที่เธอรักเขา แต่เขาก็ทำไม่ได้ ความรู้สึกเวลาที่มองแก้วตามีความหวังดีและห่วงใยแบบพี่ชายเป็นห่วงน้องสาว ไม่เหมือนเวลาที่เขามองพาขวัญ ร่างกายของเขาจะมีปฏิกิริยาตอบโต้แทบทุกครั้ง

“เพิ่งสองทุ่มเองนะคะ”

“พี่ต้องออกไปทำงานที่ไนต์คลับพอดี พี่จะไปส่งตาก่อน” หญิงสาวยังไม่ทันบอกความในใจก็ถูกไล่ทางอ้อมเสียแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel