บท
ตั้งค่า

Ep : 1. เหนือความคาดคิด

อีกห้าเดือนข้างหน้า เขาต้องเข้าประตูวิวาห์ เมื่อปีนี้อายุได้ 35 ปี อชิระ กิจรุ่งเรืองคหบดี หรืออชิ เจ้าของธุรกิจกลางคืน ไนต์คลับ อาบอบนวด แม้ว่าธุรกิจครอบครัวจะมีให้ดูแล แต่ความรักสนุก ความชอบเที่ยวทำให้เขาปล่อยให้น้องชายอย่างอชิตะดูแลกิจการของครอบครัว ส่วนตัวเขาก็มาสร้างอาชีพของตัวเอง จนเป็นหนุ่มสังคมที่ร่ำรวยมีหน้ามีตามีชื่อเสียง และเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ ในแวดวงสังคมที่หลายๆ คนหมายปองไว้

ชายหนุ่มใบหน้าไทยๆ ถอดแบบมาจากพ่อที่เป็นคนใต้ และแม่เป็นคนเมืองกรุง มีส่วนผสมผสานของพ่อกับแม่อย่างลงตัว พ่อของเขาจากไปเมื่อสี่ปีก่อนด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ส่วนแม่ที่รักก็ยังสุขภาพแข็งแรงเหมือนสาวๆ และน้องชายของอชิตะก็หน้าตาคล้ายเขาประดุจว่าเป็นแฝดกัน จะแตกต่างกันเพียงแค่สีผิว เขาเป็นคนผิวเข้ม ส่วนอชิตะน้องชายเป็นคนผิวขาว

อชิระเหมือนพ่อ นิสัยใจคอถอดแบบผู้เป็นพ่อมาทุกอย่าง จริงจังทุกอย่างที่เป็นงาน แต่ถ้านอกเวลางาน เขาก็เพลย์บอยไม้เลื้อยดีๆ ที่สาวๆ ควรจะเลี่ยงเจอ และมาปีนี้มันถึงเวลาแล้ว พรพจีแม่ของเขาจึงทวงคำสัญญา หากว่าอายุ 35 ปี ยังไม่มีแฟน เขาจะต้องแต่งงานกับคู่หมั้นที่แม่หมั้นหมายไว้ให้ลูกชายตั้งแต่เด็ก

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นทำให้อชิระต้องละสายตาจากงานเอกสารตรงหน้า ปกติเขาไม่ชอบให้ใครรบกวนเวลาทำงานเท่าไหร่ แต่ช่วงนี้จิตใจของเขาว้าวุ่นไม่มีสมาธิ เอกสารกองโตตรงหน้าก็ไม่อยากจะทำ แต่เขาชอบที่จะเทคแคร์ลูกค้าที่มาท่องราตรีมากกว่า งานเอกสารสำหรับเขามันจุกจิกเกินไป

“มีอะไรรึเปล่า”

“มีคนมาขอพบคุณอชิครับ”

“วันนี้ฉันไม่ได้นัดใคร แล้วตอนนี้ไนต์คลับก็ยังไม่เปิด”

“เธอบอกว่าต้องพบคุณอชิให้ได้ครับ ผมบอกเธอแล้วว่าไม่ได้นัด ให้เข้าพบไม่ได้ แต่เธอยังดึงดันจะพบให้ได้ และตอนนี้...”

“พาขวัญ”

พนักงานหนุ่มพูดยังไม่ทันจบ อชิระก็พูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นผู้มาขอพบตัวเองเดินเข้ามาในห้อง แล้วภาพเหตุการณ์ในวันนั้นก็ย้อนศรเข้ามาในความคิด จากที่ไม่คิดและลืมไปแล้ว เพราะมันผ่านมาสี่เดือนแล้วที่หล่อนหายไป แม้ว่าช่วงแรกๆ เขาจะรอเธอมาทำงานและตามหา แต่เธอก็หายเงียบไป แต่วันนี้หล่อนมาทำไม

“นายออกไปได้แล้ว ฉันรู้จักเธอ” อชิระบอกไล่คนของตัวเองออกไปเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าหวาน นัยน์ตาเศร้ายืนนิ่งอยู่ข้างหลังของพนักงานหนุ่ม

“ครับ” แล้วพนักงานหนุ่มก็เดินออกจากห้องทำงานของเจ้านายออกไปพร้อมกับเสียงประตูห้องปิดสนิท

พาขวัญ ก่อเกียรติ หรือขวัญ จ้องมองชายที่เป็นคนแรก ชายที่พรากความสาวของตัวเองไป เขาหล่อ เขาเป็นที่หมายปองของผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมาเจอ หัวใจดวงน้อยที่เต้นปกติก็เต้นแรงตื่นเต้นเมื่อเรื่องราวในคืนนั้นมันย้อนเข้ามาในหัวเพื่อตอกย้ำว่าร่างกายของเขาและเธอได้แนบอิงบดเบียดกันและกัน แล้วก็ต้องหลุดออกจากความคิดเมื่อเสียงทุ้มห้วนเอ่ยขึ้น

“เธอมีธุระอะไรกับฉัน” แม้จะกลัวเมื่อมองเห็นร่างเล็กที่เคยผอมบางเมื่อสี่เดือนก่อน ที่ตอนนี้อวบอิ่มมีน้ำมีนวล

“ฉันท้อง” เธอบอกเขาแล้วเดินไปดึงลากเก้าอี้ที่นั่งตรงข้ามโต๊ะทำงานของชายหนุ่มออกมานั่ง เมื่อรู้สึกว่ายืนนานแล้วและเธอก็เริ่มปวดขาด้วย

“ว่าไงนะ” เขาสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที

“ฉันท้องกับคุณ นี่คุณความจำเสื่อมหรือยังไงถึงจำเรื่องราวของเราไม่ได้” หญิงสาวหยิบเอกสารการฝากครรภ์ยื่นให้เขา ถึงจะรับไปแต่เขาก็แค่ปรายตามอง

“แน่ใจได้ยังไงว่าเด็กนั่นเป็นลูกของฉัน พาขวัญ” จะให้เขาเชื่อได้ยังไง ในเมื่อเธอหายออกไปจากชีวิตเขาตั้ง 4 เดือน อยู่ๆ จะมาบอกว่าท้อง เธอควรจะมาบอกเขาตั้งแต่ต้นไม่ใช่ตอนนี้หรือว่าเธอมีอะไรปิดบังเขาอยู่ อชิระหรี่ตามองอย่างใช้ความคิด

“ก็ฉันนอนกับคุณแค่คนเดียว และแค่คืนนั้นคืนเดียว ตอนนี้ลูกก็ได้สิบสี่สัปดาห์แล้ว ระยะเวลาก็น่าจะชัดอยู่แล้วว่าใครเป็นพ่อ” เธอจ้องมองเขาด้วยสายตาผิดหวัง

ตอนนี้พาขวัญหมดหนทางแล้ว หมดทางจะไปแล้ว หล่อนใช้ชีวิตคนเดียวปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่พ่อกับแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อตอนเธออายุได้ 8 ขวบ เธอรับจ้างขายพวงมาลัยตามสี่แยกไฟแดงและอาศัยเช่าบ้านเล็กๆ ในสลัมอยู่ จนตอนนี้หญิงสาวอายุ 20 ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตสุขสบาย เธอทำงานทุกอย่างเพื่อที่จะเป็นค่าเทอม ค่าเช่าห้องพักเล็กๆ รายเดือนอยู่ และตั้งแต่ที่ตั้งท้อง เธอก็ไปทำงานพิเศษไม่ได้ และไม่ได้ไปเรียนด้วย เพราะเจ้าตัวเล็กในท้องไม่ให้ความร่วมมือ พาขวัญแพ้ท้องหนักจนไม่สามารถไปไหนมาไหนได้นอกจากอยู่ห้องกินเงินเก็บน้อยนิดของตัวเอง และเงินเก็บที่มีก็เริ่มหมดลงเรื่อยๆ จนตอนนี้ไม่มีจ่ายค่าเช่าห้องพักราคา 1,400 บาทเท่านั้นเอง ใช่...มันเงินไม่เยอะ แต่เธอก็ไม่มีปัญญาจะจ่าย และตอนนี้เจ้าของห้องเช่าก็พร้อมจะโยนเธอออกจากห้องถ้าเธอไม่รีบหาเงินไปจ่ายให้ จึงเป็นเหตุให้เธอเดินอุ้มท้องเข้ามาหาเขาและเรียกร้องความรับผิดชอบจากคนเป็นพ่อแบบเขา เขารวย เขามีทุกอย่าง พาขวัญเชื่อว่ายังไงเสียเขาก็ต้องดูแลลูกของเธอได้ดีแน่นอน ส่วนตัวเธอจะลำบากยังไงก็ได้ แต่ลูกของเธอจะต้องรอดปลอดภัย มีอนาคตที่ดี ไม่อดมื้อกินมื้อเหมือนกับเธอ

“ใครก็พูดได้ว่านอนกับฉันแค่คนเดียว อย่าเอาลูกมายัดเยียดให้ฉันหน่อยเลย อีกอย่างฉันกำลังจะแต่งงาน”

“คุณต้องรับผิดชอบลูกของฉัน ฉันไม่ได้ขออะไรมาก ขอแค่ให้คุณรับลูกไว้ เพราะคุณมีกำลังทรัพย์ มีทุกอย่างให้เขา แต่ฉันไม่มี” เธอบอกเขา พาขวัญรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องไม่ยอมรับและปฏิเสธ เพราะเขาเป็นไม้เลื้อย เจ้าชู้ตัวพ่อ มีหรือจะยอมให้จับง่ายๆ

“อ้อ...เพราะฉันรวยใช่ไหม เธอถึงอยากจับฉัน”

“ไม่เลยสักนิด ฉันไม่เคยคิด ถ้าฉันมีทางไป ฉันไม่อุ้มท้องมาหาคุณหรอก ฉันไม่เรียกร้องคุณเลย แต่ตอนนี้ฉันไม่มีที่ไป แม้แต่เงินติดตัวสักแดงก็ไม่มี ที่พักก็ไม่มี ถ้าไม่อับจนหนทาง ฉันไม่แบกหน้ามาขอร้องคุณหรอก”

“ที่แท้ก็อยากได้เงินแลกกับพรหมจรรย์คืนนั้นสินะ” พูดจบเขาก็นั่งลงเปิดดึงลิ้นชักนำสมุดเช็คออกมาเซ็นให้เธอเป็นเงินจำนวนห้าแสนบาท ก่อนจะฉีกแล้วส่งยื่นให้เธอ

“เอาเช็คนี้ไปซะ แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก เด็กในท้องเธอไม่ใช่ลูกฉัน”

จะให้เขาเชื่อได้ยังไง เธอทำงานกลางคืนยังไงก็ต้องมีหนุ่มมากหน้าหลายตาเข้ามาหา เขาจะมั่นใจได้ยังไงว่าเธอมีแค่เขา และลูกในท้องเป็นลูกของเขาจริงหรือเธออยากได้เงินกันแน่ บางทีหลังจากครั้งแรกไปแล้ว พาขวัญอาจไปเร่นอนกับคนอื่นก็ได้ แล้วสองมือใหญ่ก็กำแน่น เมื่อคิดแบบนั้นโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องโกรธ ทั้งๆ ที่เขาควรจะโกรธตั้งแต่เธอบอกว่าท้องกับเขาแล้ว

พาขวัญรับเช็คเงินสดที่เขาส่งยื่นมาให้แล้วก็ฉีกทิ้งต่อหน้าเขาทันที

“คุณจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะคุณอชิระ ฉันไม่ได้ต้องการเงินของคุณ ฉันต้องการแค่ให้คุณรับลูกของฉันเป็นลูกเท่านั้น” เธอบอกเขาแล้วก็โยนเช็คที่ฉีกทิ้งใส่หน้าของเขา

“นี่เธอ! ปัง!” มือใหญ่ทุบโต๊ะด้วยความโกรธเมื่อถูกหญิงต่ำต้อยปาหน้าด้วยเช็คเงินสดของตนเอง

“ทำไมคะ คุณรวยมากฉันรู้ แต่ฉันไม่ได้ต้องการ สิ่งที่ฉันต้องการคือต้องการให้คุณยอมรับลูกในท้องของฉัน”

“ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันกำลังจะแต่งงาน เธอก็รู้”

“ฉันรู้ค่ะ แต่คุณแค่รับเขาเป็นลูกบุญธรรมก็ได้”

“แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าเด็กนั่นเป็นลูกของฉัน”

เขาถามหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง แม้ว่าตอนนี้เขาจะสับสนไม่มั่นคงกับคำพูดของตัวเองก็ตาม ถ้าคิดตามระยะเวลาหลังจากคืนนั้นไป พาขวัญตั้งครรภ์ก็อายุครรภ์เท่าที่หล่อนบอก และที่สำคัญเขาไม่ได้ป้องกันสักครั้งที่ฝากกายอุ่นร้อนในกายสาวคับแน่น ‘อืม...เป็นอะไรของแกวะอชิ’ แล้วเขาก็ต้องต่อว่าตัวเองในใจ เมื่อเรื่องราวผิวขาวนวลเนียนของเธอมันฉายซ้ำเข้ามาในหัวให้เขาปวดร้าวความเป็นบุรุษกลางกายระหว่างขา

“ถ้าคุณต้องการตรวจดีเอ็นเอก็ได้ แต่...”

“แต่อะไรอีกล่ะ”

“ต้องรอให้ฉันคลอดเขาก่อนค่ะ”

“ก็ได้ ฉันจะรอตรวจดีเอ็นเอก่อน ถ้าคลอดออกมาแล้วผลตรวจออกมาว่าเด็กเป็นลูกของฉัน ฉันจะรับเขาเป็นลูกและจะเลี้ยงเขาเอง”

“ค่ะ คุณต้องเลี้ยงเขาอยู่แล้ว เพราะฉันไม่มีปัญญาเลี้ยงลูก เพราะปกติลำพังชีวิตในแต่ละวันฉันยังเอาตัวรอดยากเลย ฉันไม่อยากให้เขาลำบากถ้าอยู่กับฉัน” เธอบอกเขา

อชิระนิ่งเงียบเมื่อได้ฟังหญิงสาวพูดจบ ตอนนี้ในหัวของเขาคิดถึงเรื่องลูกในท้องของพาขวัญและคิดหาวิธีว่าจะทำยังไงกับเธอดี เพราะอีกแค่ไม่กี่เดือน เขาจะต้องแต่งงานกับแก้วตา คู่หมั้นสาวแล้ว ถ้าหากพาผู้หญิงท้องเข้าไปในบ้าน แม่ของเขาคงไม่พอใจแน่ แต่ถ้าปล่อยเธอไปแล้วลูกในท้องเป็นลูกของเขาจริงๆ ล่ะจะทำยังไง เขาอยากดูแลแม้ว่าจะยังไม่แน่ใจว่าเด็กในท้องเป็นลูกของตัวเองก็ตาม

“ฉันจะให้เธอไปอยู่ที่บ้านของฉัน แต่ไปในฐานะเด็กรับใช้ที่ฉันรับเข้าไปเท่านั้น เธอจะอยู่ที่นั่นจนกว่าจะคลอดลูกและตรวจดีเอ็นเอ และที่สำคัญเราต้องทำสัญญากันก่อนเพื่อที่ในอนาคตข้างหน้าถ้าลูกเป็นของฉัน ลูกเป็นสิทธิ์ของฉันคนเดียวทันทีที่รู้ผลและเธอก็ต้องหายไปเงียบๆ จากชีวิตของฉัน แต่ถ้าเด็กไม่ใช่ลูกของฉัน เธอต้องพาลูกของเธอออกไปจากบ้านฉัน แต่ฉันก็ไม่ใจร้ายหรอกนะ จะให้เงินเธอไปตั้งตัวไม่ว่าลูกจะเป็นลูกฉันหรือไม่ก็ตาม เธอก็ยังจะได้เงินจากฉัน” อชิระเสนอความคิดและความต้องการของตัวเอง

“ตกลงค่ะ ฉันจะทำสัญญากับคุณ” พาขวัญตกลงอย่างไม่คิด เพราะตอนนี้เธอคิดถึงแค่ลูก ส่วนชีวิตของเธอมันจะพังยังไงก็ช่างขอแค่ลูกของเธอได้มีชีวิตที่ดีก็พอ

“ดี เดี๋ยวฉันจะให้ทนายของฉันร่างสัญญาแล้วพรุ่งนี้เธอค่อยมาเซ็นสัญญากับฉัน”

“ค่ะ”

“หมดธุระของเธอแล้วใช่ไหม กลับไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน” เมื่อตกลงกันได้แล้ว เขาจึงบอกไล่เธอ ตอนนี้เขาเครียด ถ้าหากแม่ที่รักและเคารพของเขารู้เรื่องนี้ เขาต้องโดนท่านตำหนิและต่อว่าแน่นอน

“ฉันไม่มีที่ไป ฉันบอกคุณแล้วยังไงคะว่าตอนนี้ฉันไม่มีที่ไป เงินก็ไม่มี”

“เธอ...ฉัน...โธ่เว้ย!” แล้วเขาก็หงุดหงิดเมื่อหาคำมาว่าหล่อนไม่ได้ “งั้นขึ้นไปพักที่ห้องพักส่วนตัวฉันที่ชั้นบน รู้นะว่าห้องไหน เพราะเคยนอนแล้วนี่”

“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณทุกเรื่องในวันนี้นะคะ” พาขวัญยกมือไหว้ขอบคุณชายหนุ่ม แม้ว่าเขาจะร้าย แต่เขาก็ยังมีความเมตตาต่อเธอ

“ฉันทำเพื่อลูก ไม่ต้องมาขอบคุณฉัน”

“คุณยอมรับแล้วเหรอคะว่าเขา...”

“ยัง ฉันไม่มีทางยอมรับ...ยังไม่ตรวจดีเอ็นเอ ไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน”

“ค่ะ”

แล้วพาขวัญก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงานของเขาไป ส่วนอชิระเมื่ออยู่คนเดียวก็เอนหลังกับพนักเก้าอี้ที่นั่งทันที แล้วก็หลับตาพร้อมกับยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆ ด้วยความหงุดหงิดและเครียด มีหลายๆ เรื่องทำให้เขาคิดไม่ตก ไหนจะเรื่องแต่งงาน ไหนจะเรื่องคุณแม่ และพาขวัญกับลูกอีก ที่เขาจะพาเข้าไปอยู่ในบ้านด้วย

แก้วตาเดินทางมาไนต์คลับเพื่อมาหาคู่หมั้นหนุ่มของตัวเอง เธอดีใจที่วันนี้วันที่รอคอยก็มาถึง หญิงสาวหน้าหวานเดินเข้ามาในไนต์คลับหรูที่ยังไม่เปิดบริการ แต่เธอเป็นคู่หมั้นของเจ้าของจึงไม่ใช่เรื่องยากที่พนักงานจะให้เข้ามา เพราะเธอมาหาคู่หมั้นหนุ่มเป็นประจำ

หญิงสาวรู้ดีว่าในสายตาของว่าที่เจ้าบ่าวนั้นไม่เคยมองตนเหมือนผู้หญิงที่เขาควงเลยสักครั้ง สายตาของเขามีแต่ความอบอุ่นเอ็นดูเธอแบบน้องสาวเท่านั้น แต่แก้วตาก็หวังว่าสักวันอชิระจะรักเธอเหมือนที่เธอรักเขาบ้าง แต่ก็ไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่

“ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปหาพี่อชิเองค่ะ” เธอบอกพนักงานที่เดินนำหน้ามา เพราะเธอไปหาคู่หมั้นหนุ่มเองได้

“ครับ”

แก้วตาเดินขึ้นไปชั้นบนที่ห้องทำงานของคู่หมั้นหนุ่ม ชั้นสองที่พนักงานบอกว่าตอนนี้เขาทำงานอยู่และกำลังมีแขกอยู่ พอเดินมาถึงหล่อนก็เคาะประตูห้องทันที

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“อะไรของเธออีก” อชิระตะโกนถามคนเคาะประตูห้องตัวเองทันที ด้วยคิดว่าเป็นพาขวัญ

แอค!

“อะไรคะพี่อชิ แก้วตาเพิ่งมาถึงนะคะ” พอได้ยินเสียงห้วนตะโกนออกมา แก้วตาก็ผลักเปิดประตูห้องทำงานที่ไม่ได้ล็อกเข้าไปทันที

“เอ้า! น้องตาเองเหรอ พี่ก็นึกว่าพนักงานน่ะ” เขารีบเปลี่ยนสีหน้าที่เครียดตึงเป็นยิ้มกริ่มทันที

“พอดีเด็กบอกว่าพี่อชิมีแขกอยู่ ตาเลยเคาะประตูห้องก่อนค่ะ แต่ทำไม...” เธอถามพร้อมกับมองสำรวจไปรอบๆ ห้อง ด้วยรู้ดีว่าชายคนรักของตัวเองนั้นเจ้าชู้ไม้เลื้อยแค่ไหน

“แขกของพี่กลับไปแล้วน่ะ ว่าแต่น้องตาเถอะ มาหาพี่มีธุระอะไรรึเปล่าครับ” น้ำเสียงสุภาพเอ่ยและส่งยิ้มทรงเสน่ห์ไปกระชากใจของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

“คือตาว่าจะมาชวนพี่อชิไปทานมื้อดึกด้วยกันค่ะ” ใช่...กลางวันปกติหล่อนไม่ค่อยได้เจอคู่หมั้นหนุ่ม เพราะเขาจะนอนพักผ่อน แต่กลางคืนเขาจะมีเวลาให้เธอ เพราะเขาต้องทำงานกลางคืน

“อือ...กินมื้อดึกเหรอ” เขาพูดพร้อมกับก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว

“ค่ะ พี่อชิกินอะไรรึยังคะ”

“ยังเลย งั้นไปกินมื้อดึกกัน”

“ค่ะ”

“ไปกันครับ ว่าแต่น้องตาอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมครับ” เขาถามคู่หมั้นสาวอย่างใส่ใจ เขาเอ็นดูหล่อนเหมือนน้องสาวเท่านั้น แต่เมื่อต้องแต่งงานกัน เขาก็ต้องดูแลแก้วตาให้ดีที่สุด

“ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางก็ได้ค่ะ”

“งั้นเหรอครับ งั้นไปร้านที่อยู่ถัดจากไนต์คลับพี่ไปอีกซอยนะ ร้านนั้นอร่อยมาก เด็กในร้านบอกมา พี่ก็ไม่เคยกินหรอก”

“ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่อชิ”

“มันเป็นหน้าที่ของพี่อยู่แล้วน้องตา”

แก้วตารู้สึกเจ็บกับคำว่าหน้าที่ของเขา หากไม่ใช่เพราะต้องแต่งงานกัน เขาคงไม่ดูแลเทคแคร์เอาใจใส่เธอแบบนี้สินะ หญิงสาวมองคู่หมั้นหนุ่มที่หยิบกระเป๋าสตางค์และกุญแจรถใส่ในกระเป๋ากางเกงสแล็คแล้วก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆ ให้เขาเมื่อเขาเดินอ้อมโต๊ะมาหาตนเอง

“ไปกันเถอะครับ”

“ค่ะ”

อชิระเดินล้วงกระเป๋าเดินนำหน้าคู่หมั้นสาวโดยไม่ได้สนใจอะไร ส่วนแก้วตาได้แต่มองตาม เขาไม่เคยจับมือเธอเดินหรือเดินไปพร้อมกัน เขามักเดินนำหน้าเสมอ นี่สินะ น้องสาวที่เขาบอกมาตลอดว่าไม่เคยคิดกับเธอมากกว่านี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel