บท
ตั้งค่า

Chapter 2 : ผัวคนแรก(แลกหนี้1)

พี่คิงเริ่มขอมารับมาส่งฉันที่ฝึกงาน ฉันเห็นว่ารู้จักกับแม่จึงอนุญาต และวันนี้ฉันจึงเริ่มแผนสลัดรักพี่คิงออกจากฉัน

"พี่คิงไม่ต้องมารับมาส่งใจแล้วนะคะ ใจอายเพื่อน"

"อะไรนะ!?"

"ตามนั้นค่ะ”

ฉันยักไหล่ไหวตัวเล็กน้อยไม่ได้แยแสความรู้สึกของคนฟังเลยสักนิด

"ใจหมายความว่ายังไง?"

"ก็หมายความตามนั้นแหละค่ะ ใจอายเพื่อนไม่อยากให้พี่คิงมารับมาส่ง"

ที่จริงฉันก็อายจริง ๆ นั่นแหละที่มีผู้ชายตัวเตี้ย ๆ ดำ ๆ มารับมาส่งทุกวัน ก็ชายในสเปกของฉันคือ สูง ขาวตี๋ใส่แว่นนี่นา

"หมายความว่าใจจะเลิกกับพี่เหรอ?"

พี่คิงถามฉันออกมาแววตาปนเศร้าเค้นเอาคำตอบ

"เราไม่เคยคบกันจะเรียกว่าเลิกได้ยังไงกันคะ?”

ฉันขึ้นเสียงแหลมใส่พี่คิงทำหน้าถมึงทึงใส่

"แต่ใจไปไหนมาไหนกับพี่ตลอดนี่ พี่มารับใจก็ให้มา ซื้อของให้ก็รับตลอด"

"นั่นก็สถานการณ์พาไป พี่คิงมารับใจปฏิเสธไม่ได้ใจก็เลยต้องตามน้ำไปยังไงล่ะคะ ส่วนของที่พี่คิงให้มาหากพี่คิงอยากเอาคืนใจคืนให้ก็ได้ค่ะ"

ฉันไม่กล้าพูดออกมาว่าแม่บังคับเพราะกลัวพี่คิงจะเสียใจไปมากกว่านี้ จึงอ้างสถานการณ์

"พี่เข้าใจแล้ว"

จู่ ๆ พี่คิงก็หันหน้ามองตรงไปยังท้องถนนทำว่าเข้าใจอย่างง่ายดาย

"ห๊ะ..เข้าใจแล้ว"

ฉันถึงกับงงที่พี่คิงเข้าใจอะไรง่าย ๆ ทำให้ฉันเหมือนยกภูเขาออกจากอกจึงถามกลับไปเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง พี่คิงก็ตอบกลับมาสั้นโดยสายตายังคงทอดมองออกไปยังท้องถนนที่มีฝนตกพรำ ๆ อยู่

"ครับ"

"ต่อไปเราสองก็ยังสามารถเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันได้นะคะพี่คิง เจอกันที่ไหนก็ทักทายใจบ้างนะคะ"

"ครับ"

ฉันเห็นพี่คิงแค่นยิ้มออกมาไม่แม้แต่จะหันมองหน้าของฉันด้วยซ้ำ แม้จะงุนงงแต่ฉันก็เปิดประตูลงจากรถวิ่งฝ่าฝนเข้าบ้านไป

สองชั่วโมงผ่านไป

RRR RRRR RRR

ฉันมองไปยังหน้าจอมือถือเห็นว่าเป็นพี่คิง ก็กดรับสายเพราะได้บอกในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกออกไปแล้ว

"ใจนอนรึยังครับ?"

พี่คิงยังเอ่ยถามฉันออกมาอย่างสุภาพ

"กำลังจะนอนค่ะ พี่คิงมีอะไรหรือเปล่าคะ?"

"พี่คิดถึง"

'อะไร? แสดงว่าเมื่อกี้ที่พูดกันบนรถ ก็คือพูดไม่รู้เรื่องสิ'

ฉันแอบคิดในใจจึงตัดสินใจเอ่ยย้ำกับพี่คิงไปอีกที

"พี่คิงเรื่องของเรามันจบลงไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ?"

"ใจ หากพี่ทำอะไรให้ใจไม่พอใจพี่ขอโทษนะครับ แต่ใจอย่าเลิกกับพี่เลย พี่คงทำใจไม่ได้หากใจเลิกกับพี่"

"นึกว่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก จะต้องให้ใจย้ำไหมคะว่าใจไม่ได้ชอบพี่คิงแบบชู้สาวน่ะ"

"แล้วที่ผ่านมามันคืออะไรล่ะใจ ใจมาให้ความหวังกับพี่ทำไม?"

"ใจไม่ได้ให้ความหวังพี่คิงนะคะ พี่คิดไปเองคนเดียวต่างหากค่ะ"

"ใจ อย่าทำแบบนี้กับพี่เลยนะ นะครับ ฮือๆๆ”

พี่คิงร้องไห้โฮออกมา จนฉันอดที่จะสงสารไม่ได้ปล่อยโฮออกไปด้วย

"พี่คิง..ใจ..ขอโทษ"

ตู๊ดๆๆ .. ฉันตัดสินใจกดวางสายและปิดเครื่องในทันที พี่คิงไม่ละความพยายามโทรเข้าเครื่องแม่ของฉัน แม่กุลีกุจอมาเรียกฉันที่ห้อง แต่ฉันไม่ออกไปแกล้งว่าหลับแล้ว ได้ยินเสียงแม่พูดผ่านโทรศัพท์ว่า

'อย่าคิดมากใจคงจะเหนื่อยเลยหลับไปน่ะ'

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป

ฉันดำเนินชีวิตสดใสในวัยสิบเก้าย่างยี่สิบกับเพื่อน ๆ ต่อไปรู้สึกสบายใจที่ชีวิตไม่มีพี่คิงมาข้องเกี่ยว ฉันกำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับยัยขิมเพื่อนสนิทที่น้ำหนักเกินมาตรฐานไปหลายสิบโล จู่ ๆ ก็มีผู้ชายรูปร่างเตี้ย ตัวดำ ใส่หมวกแก๊ปมายืนดักรอฉันอยู่ที่หน้าบริษัทฝึกงาน

"พี่คิง!!?"

ฉันอุทานออกมาพร้อมทั้งเกาะแขนของยายขิมไว้แน่น ด้วยรู้สึกถึงความอันตราย

"ใจ พี่ขอพาใจกับเพื่อนไปเลี้ยงข้าวเป็นมื้อสุดท้ายก่อนที่เราจะจากกันได้ไหม?"

พี่คิงที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ สบตากับฉันแสดงความจริงใจอย่างที่สุดออกมา ซึ่งฉันมารู้ทีหลังว่า 'นั่นมันคือการแสดง' ที่นักแสดงตุ๊กตาทองหลายคนยังต้องยอมแพ้

ฉันคิดว่าไหน ๆ ก็จากลากันอยู่แล้ว ไปทานข้าวด้วยกันครั้งสุดท้ายก็คงไม่เป็นไร อีกทั้งยังมียัยขิมไปด้วยพี่คิงคงไม่กล้าทำอะไรจึงตอบตกลงพี่คิงไป

...

พี่คิงพาฉันกับยัยขิมไปทานอาหารที่ร้านอาหารหรูชื่อดังติดกับชายทะเล มีพนักงานใส่รองเท้ามีล้อมาเสิร์ฟอาหาร ฉันที่เผลอคิดว่าการจากครั้งนี้ช่างแสนวิเศษจริง ๆ พี่คิงทำตัวเป็นพระเอกที่เหมือนอยู่ในละครทีวีไม่มีผิด จู่ ๆ ความประทับใจในตัวพี่คิงก็ก่อเกิดขึ้นมาซะอย่างนั้น

"ใจชอบปลานึ่งมะนาวไม่ใช่เหรอ? กินเยอะ ๆ นะ"

พี่คิงตักปลานึ่งมะนาวใส่จานให้ฉัน ที่นั่งตรงข้าม อ้อ..ลืมบอกไป พี่คิงมีเพื่อนมาด้วยอีกหนึ่งคน สายตาของเพื่อนพี่คิงที่มองมายังฉันดูไม่น่าไว้ใจที่สุด สัญชาตญาณบอกให้ฉันระวังตัวให้ดี

เราสี่คนทานข้าวจนเวลาล่วงเลยไปสองทุ่มครึ่ง พี่คิงทำทีว่าจะไปส่งฉันกับยัยขิม

พี่คิงไปส่งยัยขิมที่บ้านก่อน เราสองคนโบกมือบ้ายบายลากัน แต่ยัยขิมสีหน้าดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

จากนั้นพี่คิงก็วนไปส่งเพื่อนของเขาหน้าปากซอยก่อนจะถึงซอยเข้าบ้านของฉัน เพื่อให้ฉันเชื่อใจ เมื่อเพื่อนของเขาลงจากรถไปฉันจึงคลายกังวล

แต่เมื่อถึงซอยเข้าบ้านของฉันพี่คิงกลับขับเลยออกไปมุ่งตรงไปยังถนนใหญ่เรื่อย ๆ แม้จะตกใจแต่ฉันก็พยายามพูดกับพี่คิงอย่างใจเย็น

"พี่คิงจะพาใจไปไหน!? นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของใจ พี่คิงพาใจกลับบ้านเถอะ"

"ไม่!! พี่จะไม่ปล่อยใจไปอีกแล้ว"

พี่คิงตวาดฉันกลับมาจนสะดุ้งโหยง! เมื่อเห็นทางไม่ดีฉันจึงหันไปเปิดประตูรถเพื่อจะกระโดดลงไป ไวกว่าความคิดพี่คิงคว้าเสื้อจากด้านหลังของฉันตรึงไว้อย่างนั้น

"แค่ก ๆ ๆ..พี่คิงจะฆ่ากันรึไง?"

ฉันไอออกมาเมื่อถูกเสื้อรัดคอเพราะถูกดึงจากทางด้านหลัง

"พี่ไม่ฆ่าใจหรอก ใจคือชีวิตของพี่ พี่จะฆ่าใจได้ยังไง?"

พี่คิงที่ขับรถยนต์ข้างเดียวพูดขึ้น

"ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยใจไปสิ พี่คิงจะทำอะไรเนี่ย!? ปล่อยใจนะ แค่ก ๆ ๆ ๆ"

...

พี่คิงขับรถมาตาถนนใหญ่เรื่อย ๆ ฉันไม่รู้เป็นเวลานานเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่าไม่นานมาก รถกระบะของพี่คิงก็จอดและดับเครื่องลงและหลังจากที่รถจอดและเครื่องดับลงสักพัก พี่คิงก็คลายมือออกจากคอเสื้อของฉันแล้วเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา

"ใจ อย่าทิ้งพี่เลย ฮือๆ"

"พี่คิง..ใจ"

ฉันไม่กล้าพูดอะไรต่อ เพราะกลัวว่าพี่คิงจะสติหลุดทำร้ายฉันเข้า

"ใจ พี่รักใจนะ ใจอย่าทิ้งพี่ไปเลยนะ ฮือๆๆ"

"พี่คิง..ใจอยากกลับบ้าน"

"บอกพี่มาก่อนสิว่าใจจะไม่ทิ้งพี่"

"พี่คิงส่งใจกลับบ้านเถอะนะ ป่านนี้แม่คงเป็นห่วงมากแล้ว"

"แม่ใจไม่เป็นห่วงใจหรอก เขาบอกว่าให้พี่ตามสบายได้เลย"

"หมายความยังไง!?" 

"ก็หมายความว่า จะขึ้นสวรรค์ หรือลงนรกแม่ใจก็อนุญาตแล้วน่ะสิ!! มานี่"

พี่คิงจับกุญแจมือขึ้นมาล็อกมือทั้งสองข้างของฉันไว้

"กรี๊ด!!! พี่คิงจะทำอะไรใจ!? ปล่อยใจเดี๋ยวนี้!!! กรี๊ดๆๆๆ"

ฉันกรีดร้องออกมาอย่างคนสติแตก เมื่อถูกกุญแจมือล็อกที่แขนทั้งสองข้างเอาไว้

พี่คิงไม่ฟังเสียง ลงจากรถเปิดประตูฝั่งของฉันมุดตัวมาอุ้มฉันออกจากรถ ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายตัวเล็ก ๆ จะอุ้มฉันได้

"กรี๊ด!! กรี๊ด!! พี่คิงจะทำอะไรปล่อยใจ ปล่อยใจ กรี๊ดๆๆ"

ฉันกรีดร้องออกมาจนสุดเสียงไม่สนใจว่าใครจะได้ยิน ได้ยินสิดีจะได้มีคนมาช่วย

พี่คิงแบกฉันขึ้นไปยังบนไหล่ของเขาเข้าบ้านปูนชั้นเดียวมีห้องประมาณ 3-4 ห้อง ฉันคิดว่าบ้านหลังใหญ่ต้องมีคนอยู่แน่จึงกรีดร้องออกมา

"ช่วยด้วย!! ช่วยด้วย!! ใครก็ได้ช่วยที พี่คิงเป็นบ้าไปแล้วช่วยด้วย!!..ว้าย!!"

ฉันถูกโยนไปบนที่นอนหนานุ่มแต่ไม่รู้ว่าสีอะไรตกใจจึงอุทานออกมา สักพักก็มีคนชะเง้อคอเข้ามาในห้อง ฉันรีบกุลีกุจอขอความช่วยเหลือทันที

"พี่คะ พี่!! ช่วยหนูด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ"

คนคนนั้นไม่พูดกับฉัน แต่หันไปพูดกับพี่คิงแทน

"ถนอม ๆ หน่อยเด็กมันพยศก็จริง แต่มันยังบริสุทธิ์เดี๋ยวของจะเสียเอา"

"ครับพี่ชัย"

พอประตูปิดลงพี่คิงก็รีบจัดแจงถอดเสื้อผ้าตัวเอง เหลือแต่ตัวล่อนจ้อน

__________

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel