Chapter 1 : ดวงใจ
"แง๊ ๆ ๆ"
"โอ้ย!!!! จะร้องทำไมกันนักกันหนา กูเหนื่อยแล้วนะ!!”
"ดวงใจไม่เอา ไม่อารมณ์เสียนะ เดี๋ยวพี่ดูลูกเองดวงใจนอนพักผ่อนเถอะ"
"เออ!! ดี!! บ้าจริงชีวิตกูต้องมาจบลงที่พลาดท้องเด็กคนนึง พัง ๆ ๆ ชีวิต โว้ย!!!"
"ไม่เอาสิ ดวงใจอย่าเพิ่งอารมณ์เสียเลยนะ นอนพักก่อน ตื่นมาค่อยไปช็อปปิ้งนะครับ"
"อย่างนี้ค่อยอารมณ์ดีขึ้นหน่อย งั้นฉันนอนก่อนก็แล้วกัน"
.....
'หึ!! สวัสดี ฉันคือดวงใจ ฉันเป็นผู้หญิงร่านรัก ที่ใคร ๆ ก็ตราหน้าว่าเป็นผู้หญิง 'ร้อยผัว' แต่ฉันหาได้สนใจไม่ เพราะคนที่ตราหน้าฉันแต่ละคน ไม่มีใครมาคอยหยิบยื่นให้ฉันกิน!!'
…
'ความหื่นของฉันมันก่อกำเหนิดขึ้นตั้งแต่อายุสิบขวบเมื่ออีนวลเพื่อนฉันมันลากฉันไปแอบดูน้าวินกับน้ามะลิ ที่เป็นน้าของมันกำลังระเริงสวาทกันในห้องส่วนตัว แต่ดันมีรูอยู่ให้เห็น ฉันกับอีนวลเลยแอบดูกันอย่างเงียบ ๆ และนั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นการมีอะไรกันบนเตียงของชายหญิงครั้งแรก!!
"อ๊ะ..อ๊า..พี่วินตรงนั้นแหละ อื้ม อ๊า"
เสียงน้ามะลิสั่นกระเส่าบิดกายรับการสอดใส่และกระแทกของน้าวินผู้เป็นสามีอยู่บนเตียงนอนลายดอกไม้ดวงใหญ่ น้าวินเองก็ธรรมดาซะที่ไหน กระเด้าเอวเข้าออกทั้งเร็วและแรงจนเสียงดัง
'พั่บๆๆๆ ตับๆๆๆ' ไปทั่วห้อง ฉันเห็นก็น้ำลายไหลทันทีไม่รู้เพราะอะไร แต่ที่แน่ ๆ ในวันนั้นฉันกลับบ้านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด ค้างคา แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออารมณ์อะไร?
"ดวงใจนั่งคิดอะไรอยู่?"
นี่ไอ้กะหล่ำเพื่อนสนิทของฉันที่ไปไหนไปกัน ปั่นจักรยานเล่นหม้อข้าวหม้อแกงด้วยกันจริง ๆ มันเป็นพี่ฉันสองปี แต่ด้วยความที่มันชอบทำตัวเป็นเพื่อนฉัน ฉันจึงเรียกมันว่าไอ้ทุกคำ
…
วันเวลาผ่านไปฉันกับไอ้กะหล่ำก็แยกจากกัน ไอ้กะหล่ำไปเข้าไปเรียนที่เมืองหลวงเมื่อมันจบ ป.6 ส่วนชีวิตฉันก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ จนอายุ 19 ปีย่าง 20
...
"ใจมานี่หน่อยสิ"
เสียงแม่เรียกฉันให้เข้าไปหาเมื่อกลับมาจากที่ฝึกงาน เนื่องจากฉันเรียนทวิภาคี ปวส.เทอม 2 จึงมีการฝึกงานตั้งแต่ ปวส.เทอม 2 ไปจนถึง ปวส.ปี 2 เทอมหนึ่ง และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของการฝึกงานปีปวส.ปี 1 เทอมสอง
ฉันทำหน้าตางง ๆ เดินเข้าไปหาทั้งสองคนอย่างว่าง่าย
"ใจนี่พี่คิง เพื่อนรุ่นน้องของแม่ รู้จักกันไว้สิ"
แม่แนะนำให้ฉันรู้จักผู้ชายตัวเล็กระดับความสูงคงจะแค่ 150 เองมั้งที่กำลังส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรที่สุดให้กับฉัน
“สวัสดีค่ะ”
ฉันยกมือไหว้พี่คิงเพื่อนแม่อย่างนอบน้อม พี่คิงมองฉันไม่ละสายตาฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันแทบจะครบทุกซี่
"สวัสดีครับน้องใจ น่ารักอ่อนหวานจังเลยนะครับพี่จิต"
พี่คิงพูดขึ้นกับแม่ของฉันแต่ก็ไม่ได้ละสายตาจากฉันเลยแม้แต่น้อย
"ใช่ไหมล่ะ? เออ..ใจ ไปยกน้ำยกท่ามาให้พี่คิงเขาหน่อยสิลูก พี่เขาเพิ่งมาแม่ยังไม่ได้ยกน้ำยกท่ามาให้เลย"
"จ๊ะแม่"
ฉันรับคำหมุนตัวเดินเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็นรินน้ำเย็นใส่แก้วสองใบนำไปเสิร์ฟให้ทั้งแม่และพี่คิงในห้องรับแขก ทำท่าจะละออกไป แม่ก็เอ่ยขึ้น
"จะไปไหนล่ะใจ? วันนี้ฝึกงานวันสุดท้ายแล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่มีอะไรทำก็มานั่งคุยกับพี่เขาก่อนสิลูก"
ฉันขมวดคิ้วสงสัย แต่ก็นั่งลงลงบนโซฟาสีขาวนวลข้าง ๆ แม่ในตอนนั้นฉันไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าการปรากฏกายของพี่คิงแท้จริงแล้วมันคืออะไร? วันนั้นพี่คิงถามฉันหลายคำถาม ฉันเองที่ยังไม่สนิทก็ตอบแบบขอไปที ตลอดระยะเวลาที่นั่งอยู่ตรงนั้น ฉันบอกได้เลยว่าอึดอัดโครต ๆ แต่ก็ต้องทนเพราะสายตาพิฆาตของแม่ที่ถลึงใส่ฉัน มันทำให้ฉันต้องฝืนยิ้มไปจนพี่คิงลากลับ แม่ได้พูดอะไรยิ้มหน้าบานเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป
...
หลายวันมานี้พี่คิงแวะเวียนมาหาแม่บ่อยมากขึ้น และทุกครั้งก็จะซื้อของฝากมาให้ฉัน ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาเจ้าหญิงไขลานตัวใหญ่ราคาเกือบพัน รองเท้า กระเป๋า ฉันผู้ที่ไม่เคยได้รับของพวกนี้จากใครนอกจากพ่อแม่ จึงตีความหมายไม่ออกว่าสิ่งที่พี่คิงทำนั้นมันหมายความว่ายังไง?
พี่คิงแวะเวียนมาหาฉัน จากวันเป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์ก็เป็นเดือน จากเดือนก็เป็นสองเดือน พี่คิงเริ่มมายืนรอรับฉันกลับจากฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่งหน้าปากซอยทุกวัน วันไหนฝนตกก็มักจะกางร่มให้ แต่ด้วยความสูงของพี่คิงที่เตี้ยกว่าฉันมาก การกางร่มจึงทุลักทุเล ฉันจึงคว้าร่มมากางเองในที่สุด
พี่คิงเริ่มขอเบอร์โทรฉันเพื่อจะโทรหา จริง ๆ ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะให้ไป แต่แม่ของฉันคงแอบจะให้ไป ในวันนั้นจึงมีเบอร์โทรแปลก ๆ โทรเข้ามาหาฉัน ฉันกดรับสายถึงรู้ว่าเป็นพี่คิง
พี่คิงเริ่มรุกหนักจนฉันอึดอัด เอาจริง ๆ ความประทับใจแรกในตัวของพี่คิงสำหรับฉันมันยังไม่เกิดขึ้นละมั้ง พอเขาทำดีด้วยก็เลยรู้สึกเฉย ๆ อาจเป็นเพราะฉันไม่ชอบผู้ชายที่ตัวเตี้ยกว่า พี่คิงเลยไม่เข้าตา เหมือนภาษิตว่า 'คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด'
หลายเดือนผ่านไปฉันเริ่มแน่ใจว่าพี่คิงเข้ามาจีบ พร้อม ๆ กับเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วว่า พี่คิงเองไม่ใช่ การสลัดรักพี่คิงให้ออกไปจากซีวิตของฉันจึงเริ่มต้นขึ้น..
__________
