ตอนที่ 5 ฉันโอเค
คะนิ้งรีบหอบร่างกายเหนื่อยล้าลงจากเตียงทันทีที่ได้สติ แล้วก้มเก็บเสื้อผ้าที่กระจายตามพื้นขึ้นมาสวมใส่ให้เรียบร้อยเพราะในตอนนี้สภาพเธอแทบดูไม่ได้ เธอผ่านสมรภูมิรบหนักหน่วงมาได้อย่างทรมาน และปวดร้าวตรงจุดอ่อนไหว
หากต้องยอมรับว่าบางครั้งติณห์ก็ไม่ได้ใช้ความรุนแรงต่อเธอขนาดนั้น เขาเล้าโลมทุกครั้งที่เธอร้องบอกว่าเจ็บเสมอ ทว่าอาการเจ็บยังมีหลงเหลืออยู่บ้างเนื่องจากครั้งนี้เป็นการมีเซ็กส์ครั้งแรกของเธอ
ส่วนคนตื่นมาทีหลังลุกขึ้นนั่งเอนกายพิงผนักหัวเตียงด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้านราวกับว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งคะนิ้งก็อยากให้เป็นแบบนั้น เธอไม่อยากรื้อฟื้น หรือให้ติณห์พูดถึงอีก เธอรู้ว่าอีกฝ่ายเมาจนขาดสติ ส่วนเธอในช่วงหลังกลับคล้อยตามเขาง่าย ๆ ทั้งที่มีโอกาสให้ขัดขืน
"เป็นไงบ้าง" คำถามแรกที่หลุดจากปากเขา พร้อมสายตาคมมองมายังเธอ คะนิ้งชะงักเล็กน้อย รีบสวมใส่ชุดเดิมปิดร่างกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยขบกัด
"กะ ก็ปกติดี..." คิดอย่างแต่ตอบไปอีกแบบ คะนิ้งเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้วเหมือนกัน "งั้นฉันขอตัวไปอาบน้ำไปเรียนก่อนนะ"
"ยังจะไปเรียนอีกเหรอ ฉันว่าแกไม่น่าไหวนะ"
"ไหวสิทำไมจะไม่ไหว"
"ต้องให้ฉันพูดไหมว่าทำไมแกไม่ไหว"
ติณห์กดมองต่ำไปที่หว่างขาเรียว ท่อนขาของคะนิ้งสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด เพราะเมื่อคืนถูกยกขึ้นพาดบ่าแกร่ง บ้างถูกสลับเปลี่ยนให้อยู่ในท่วงท่าผาดโผน เขาใช้งานมันหนักจนหมดเรี่ยวแรง เขาจำได้แม่น
ไม่ต่างจากเธอเลยสักนิด ภาพเซ็กส์เมื่อคืนฉายเข้าในโสตไม่หยุด เธอกระดากอายเสียจนแก้มสองข้างรู้สึกร้อนผ่าว
"ไม่ต้อง นายอย่าพูดถึงอีกได้ไหม"
"แกโอเคหรือยัง"
"โอเคสิทำไมจะไม่โอเค ฉันไม่โทษนายหรอก ยังไงนายทำไปก็เพราะเมา"
"แต่นั่นมันครั้งแรกของแกนะ" คราบเลือดสีแดงแห้งติดผ้าปูที่นอนสีขาวเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า คะนิ้งยังบริสุทธิ์ และสูญเสียสิ่งที่เธอรักษามาอย่างดีให้กับเขา
"ครั้งแรกแล้วยังไง ฉันไม่คิดเบ็กคิดน้อยหรอก"
คะนิ้งย้อนแย้งกับตัวเองอีกแล้ว ทำไมเธอจะไม่คิดล่ะ...แต่พอนึกถึงคำพูดเมื่อคืนของติณห์ ที่บอกว่า เอากับเธอแก้ขัดไปก่อน นั่นทำให้เธอไม่ต้องการเรียกร้อง และพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีก
เธอเสียความรู้สึก!
"แกยังเป็นเพื่อนกับฉันได้ใช่ไหม" ติณห์เอ่ยถามอีกครั้ง
"แน่นอนสิ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม แกอย่าคิดมากเลย"
"อืม" ชายหนุ่มขานรับในลำคอ แต่ก็ใช่ว่าจะเลิกคิดมากต่อการกระทำของตนเองที่พลั้งพลาดได้
"เออจริงสิ...ผู้หญิงที่แกพร่ำเพ้อหาเขาทั้งคืนเป็นใครเหรอ ทำไมไม่พามาเจอเปิดตัวเพื่อนบ้าง" เสียงหวานติดสั่นพูดขึ้น
ติณห์ไม่เคยพาผู้หญิงที่เขาไปออกเดทด้วยมาพบปะกับเพื่อนฝูงเพราะไม่เคยคิดจะจริงจังด้วย แถมไม่เคยมีอาการพร่ำเพ้อพรรณนาหาเธอคนนั้นหนักเอาการขนาดนี้มาก่อน แต่คนปัจจุบันคงมีอิทธิพลต่อเขามาก ถึงแคร์ และเสียหลักถึงเพียงนี้
"ได้ดิ เอาไว้ฉันตามจีบเขาติดจะพามาเปิดตัวให้แกเห็นเป็นคนแรกเลย" ติณห์รับปาก
ตอนพูดเรื่องผู้หญิงของเขาในบทสนทนา คะนิ้งสังเกตเห็นมุมปากหยักยกยิ้มน้อย ๆ ตลอดเวลา
"ฉันจะรอดูแล้วกัน"
"น้องเขาสวยมากนะเว้ย เป็นดาวคณะนิเทศศาสตร์ หุ่นเอ็กซ์ หน้าสวย ผมยาวตรง ตรงไทป์สุด ๆ เลยว่ะ!"
ติณห์คงรักมากจริง ๆ จนเก็บอาการไม่อยู่เชียว
รู้สึกอิจฉาผู้หญิงคนนั้นชะมัดเลย...
แล้วคนที่ทำได้แค่แอบชอบเพื่อนตัวเองต้องคอยรับฟัง รับความเจ็บปวดคนเดียวเงียบ ๆ แบบนี้น่ะเหรอ
วันต่อมาในระหว่างที่คะนิ้งเดินไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็นเพื่อเปิดดื่มพร้อมกับยาคุมฉุกเฉินในมือ ซึ่งติณห์เป็นคนออกไปซื้อ ตระเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เช้า ก่อนเขาจะออกไปข้างนอก
ไม่รู้ว่าไปไหนเหมือนกัน
ทว่าเธอได้ยินเสียงแตะคีย์การ์ดที่หน้าประตูห้อง และเสียงฝีเท้าของใครบางคนทำให้คะนิ้งต้องวางขวดน้ำเปล่ากับแผงยาคุมลงไว้ที่เดิมแล้วเดินออกไปดูตามเสียงที่มา
"แกมาก็ดีเลย ฉันจะได้แนะนำพลอยให้รู้จักกันไว้" ติณห์เอ่ยขึ้นบอกเธอ พร้อมกับโอบเอวคอดของผู้หญิงที่พามาด้วยไปนั่งที่โซฟา
"พะ...พลอย" เธอทวนคำพูดนั้นอีกครั้ง