ตอนที่ 4 ผู้หญิงคนนั้น
คะนิ้งเตรียมผ้าชุบน้ำพอหมาด ๆ เพื่อไปเช็ดตัวให้เพื่อนหนุ่ม พร้อมน้ำเปล่าที่เพิ่งเอามาจากในตู้เย็น เธอก้าวไปข้างเตียงที่อีกฝ่ายนอนดิ้นไปดิ้นมา แล้วหย่อนตัวนั่งลง
"ติณห์ ฉันเอาน้ำมาให้แล้ว ลุกขึ้นมาดื่มสิ"
คนเมาผงกหัวขึ้น ก่อนพลิกตัวนอนหงายหน้ามองเพดาน แล้วคว้าขวดน้ำในมือเธอไปดื่มแก้กระหายอึกใหญ่จนหมด แล้ววางขวดไว้ข้างเตียง คะนิ้งถึงกับส่ายหัวเบื่อหน่าย สุดท้ายก็ต้องเป็นเธอที่ต้องมาดูแลเขา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ติณห์เมาจนแทบไม่มีสติ และยังคงเป็นเธอคนเดียวคนเดิมคอยเช็ดตัว เปลี่ยนชุดให้เขา
มือเรียวบางหยิบผ้าขนหนูไปชุบน้ำสะอาดในชามเล็ก ๆ ที่เตรียมมา เมื่อบิดผ้าพอหมาด ๆ จึงยื่นไปวางบนใบหน้าคมสัน ลูบไล้ตั้งแต่หัวจนลงมาถึงลำคอ ติณห์กลับปัดมือออกอย่างรำคาญ
"อยู่นิ่ง ๆ สิติณห์" เสียงใสหวานดุคนตัวโต พลางยกแขนแกร่งข้างขวามาเช็ดชำระล้างเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตามรูขุมขน
"ทำไมต้องดุ"
"บอกดี ๆ นายเคยฟังฉันด้วยเหรอ"
"..." ติณห์ส่ายหน้าตอบกลับเร็วทีเดียว ดวงตาคมประกายยังคงจดจ้องหญิงสาวไม่ละไปไหน คะนิ้งที่รู้สึกได้ว่าสายตาคู่นั้นมองเธอนานสักพักใหญ่แล้วก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา เดิมทีเธอพยายามเก็บอาการหวั่นไหวแล้ว แต่สุดท้ายก็ใจไม่แข็งพอ มันเปราะบางเหลือเกินเมื่อใกล้ชิดเขา
"นอนได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนนะ เดี๋ยวก็ลุกไม่ไหวหรอก"
"ฉันอกหัก เขาไม่รักฉัน..." จู่ ๆ สุ้มเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มือที่กำผ้าขนหนูเพื่อเช็ดตัวชายหนุ่มเลยหยุดชะงักตาม อดไม่ได้ที่คะนิ้งจะอยากรู้แล้วสิ ผู้หญิงที่ทำให้ติณห์อาการหนัก เป็นเอามากจนถึงขั้นไปดื่มเหล้าย้อมใจเป็นใคร
ใครกันสามารถเล่นงานหัวใจเขาได้สาหัสถึงขนาดนั้น
คะนิ้งเอาแต่คิดในใจ เธอเงียบฟังถ้อยคำตัดพ้อที่ค่อย ๆ หลุดจากปากติณห์ออกมาทีละนิดละน้อย กระนั้นก็ยังจับใจความสำคัญไม่ได้อยู่ดี
"ฉันรักเธอ คิดถึงแต่หน้าเธอ ทุกอย่างมันตามหลอกหลอนฉันไปหมด..."
พอดิบพอดีกับที่คะนิ้งเช็ดตัวให้ติณห์เสร็จสรรพ วินาทีที่ท่อนขาเรียวเตรียมก้าวออกจากห้องเพื่อกลับไปห้องนอนของตัวเองเพราะเธอก็ต้องการพักผ่อนเช่นกัน หากมือหนากลับคว้าข้อมือเล็กเอาไว้
คะนิ้งหันไปสบสายตาคมแล้วเลิกคิ้วถามสมทบ "มีอะไรอีกล่ะติณห์ ฉันง่วงนอน"
"ทำไมไม่รักฉัน ทำไมวะ..."
แน่นอนว่าติณห์ยังคงพร่ำเพ้อถึงผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเธอไม่หยุด สิ่งนั้นนั่นเองทำให้คะนิ้งไม่อยากอยู่ในห้องนี้นาน เธออดทนฟังผู้ชายที่เธอแอบรักกำลังพรรณนาถึงคนอื่นหรอกนะ
ใจเจ็บแทบบ้า!
"นี่ฉันเพื่อนนายไม่ใช่เธอคนนั้นหรอกนะ ปล่อยมือฉันเลย"
เธอพยายามแกะมือหนาออก แต่นอกจากติณห์จะไม่ฟังแล้วยังดึงแขนเธออย่างแรงจนตัวถลาเซล้มลงไปนอนบนเตียงข้าง ๆ เขา
คะนิ้งแทบจะดีดตัวผึงลุก ทว่าติณห์กลับว่องไวกว่า ร่างหนาดันตัวขึ้นมาคร่อมทับบนเอวคอดเอาไว้ โน้มตัวลงมาใกล้ใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ลมหายใจร้อนผ่าวผ่านรูจมูกติณห์เป่ารดลำคอระหง
ติณห์จับแขนสองข้างของเธอถูกกดราบไปกับเตียงนอน และวางอยู่เหนือศีรษะ สอดประสานมือนุ่มอุ่นกุมไว้แน่น
ขณะเดียวกันคะนิ้งขนอ่อนลุกซู่ หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามเมื่ออยู่ในท่วงท่าที่ล่อแหลม
สันจมูกโด่งคมค่อย ๆ ลากคลอเคลียตามไหปลาร้าทรงสวยลงมาเรื่อย ๆ เพราะเธอสวมใส่ชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินทำให้สายเสื้อร่นลงง่ายดาย ติณห์ใช้กลีบปากหยักที่อุ่นร้อนขบเม้มเบา ๆ ตรงเนินเนื้อนุ่มจเป็นรอยจ้ำแดง
"ติณห์ ทำบ้าอะไรเนี่ย!" ตากลมเบิกกว้างตื่นตระหนก พยายามดิ้นขืนตัว แล้วร้องเรียกสติของคนเมา
ครั้งนี้ติณห์เมามากจนขาดสติยังยั้งชั่งใจเลยหรือไง!
"ฉันต้องการเธอ...เธอใจร้ายที่ไม่รักฉัน ฉันอยากให้เธอเป็นของฉัน ผู้หญิงใจร้าย!"
ติณห์เอาแต่ตัดพ้อถึงหาได้ใส่ใจคำห้ามปรามของหญิงสาวใต้ร่างตน ก่อนเคลื่อนไปหาแก้มเนียน กดปากหอมแก้มเธอเบา ๆ อย่างทนุถนอม สูดดมกลิ่นกายสาวหอมเย้ายวนยั่วอารมณ์เฮือกใหญ่
เราทั้งคู่ตัวแนบชิดเสียดสีกันจนรับรู้ว่าของบางสิ่งในตัวของติณห์ชี้โด่ผ่านกางเกงในตัวเดียวออกมา
"ติณห์มีสติหน่อยสิ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นนะ" เพ้อหาคนอื่นจนเห็นหน้าเธอเป็นหล่อนเชียวหรือ
"เธอต้องเป็นของฉันคนเดียว..."
"ฉันไม่ใช่-...อื้อ!!" เสียงใสนั้นถูกกลืนลงคอโดยที่ไม่มีโอกาสได้พูดปฏิเสธครั้นติณห์ปิดปากเธอด้วยการจูบ บดขยี้ริมฝีปากอวบสีระเรื่อ ร่างอรชรนอนเกร็งไปทุกสัดส่วน ลิ้นแกร่งชอนไชเข้าไปในโพรงปาก กระทั่งคว้านชิมน้ำหวานอย่างหื่นกระหาย
รสจูบที่เข้มข้น ผสมผสานกลิ่นแอลกอฮอล์จากเขาจาง ๆ ทำให้คะนิ้งผ่อนคลาย มือที่เคยจิกจึงคลายออกในวินาทีถัดมา ดวงตากลมหลับพริ้มเคลิบเคลิ้มเพราะจูบละมุมจากเขา
เพียงชั่วครู่คะนิ้งเรียกสติตัวเองได้อีกครั้ง ดวงตาคู่กลมจึงเบิกโตเมื่อติณห์พยายามลากฝ่ามือไปทั่วเรือนร่างเธอ แล้วบีบเค้นตามส่วนเว้าโค้งของร่างกาย สัมผัสที่วูบวาบจากเพศตรงข้ามทำให้เธอรู้สึกโอนอ่อนได้ไม่ยาก
เธอไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน ไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนในระยะประชั้นชิดแบบนี้ และไม่เคยทำแบบนี้กับใคร ติณห์เป็นคนแรกที่ได้จูบแรกของเธอ
แต่เธอรู้ตัวดีว่าพวกเขากำลังทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพื่อนที่ไหนเขามีอะไรกัน?
แม้รักติณห์ขนาดไหน เธอก็จะไม่ทำอย่างนั้นกับอีกฝ่าย ในขณะที่เขาไม่มีสติ คิดได้ดังนั้นคะนิ้งจึงผละปากออก เอ่ยขึ้น "ติณห์หยุดเดี๋ยวนี้ ถ้าเมาก็นอน ฉันเป็นเพื่อนแกไม่ใช่ผู้หญิงที่แกรัก"
"เพื่อนก็เอาได้หนิ เอาแกแก้ขัดไปก่อนแล้วกัน"
ทำเอาหัวใจคะนิ้งปวดแปลบเพราะคำพูดคำจารุนแรง
ต่อจากนั้นคำห้ามปรามจากคะนิ้งก็แทบไม่มีผลต่อติณห์ ชายหนุ่มถอดกางเกงในตัวสุดท้ายทิ้งไปข้างเตียง แล้วหันกลับมาโฟกัสร่างขาวอวบตรงหน้า ยื่นมือออกไปเปิดกระโปรงชุดนอนของเจ้าหล่อนขึ้นไปกองเหนือเอว จนเห็นซับในบาง ๆ คะนิ้งรีบยกมือปิดส่วนตรงนั้น หากสถานการณ์ขณะนี้เธอตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขา
ติณห์คร่อมทับบนตัว พร้อมจัดการถอดชุดบนร่างเธอออกทีละส่วน เริ่มจากซับในจนกระทั่งถอดชุดนอนเสร็จสรรพ ชุดเธอถูกโยนทิ้งไปอย่างไม่แยแส คะนิ้งกระดากอายแทบอยากมุกหน้าหนี จู่ ๆ ติณห์ก็เมาขาดสติจนปล้ำเธอ
คะนิ้งทั้งโกรธ ทั้งเจ็บจนน้ำตาเล็ดหางตา จุกจนพูดไม่ออก เพราะต่อให้เอ่ยปากบอกติณห์ไปยังไงว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นเขากลับไม่ฟัง
ติณห์เอาแก่นกายแข็งโด่ซึ่งน่าจะมีขนาดใหญ่ยาวราวห้าสิบหกดุนดันผ่านร่องคับแคบที่ไม่เคยมีสิ่งแปลกปลอมฝ่าผ่านเข้ามา ความเจ็บเล่นงานเธออย่างหนัก เพราะกลีบกุหลาบสีชมพูสวยฉีกขาดครั้นแทรกฝ่าความบริสุทธิ์จนสำเร็จ
ร่องรักขมิบรัดกายแกร่งระรัวเสียจนได้ยินเสียงติณห์คำรามราวกับเสือผู้หิวโหย เขาสบถออกมาเป็นพัก ๆ ขณะสะโพกสอบกระแทกกระทั้นเธอไม่หยุดหย่อน
"อ๊ะ---"
สติของเธอล่องลอย ทำได้เพียงนอนจิกเล็บ เกร็งรองรับอารมณ์อีกฝ่าย เจ็บทรมานจนแทบอยากจะกรีดร้องออกไปให้รู้แล้วรู้รอด ทว่าคะนิ้งกลับกัดปากจนห้อเลือด เก็บเสียงครางแผ่วเบาในคอ
เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบ ประโยคก่อนคะนิ้งจะหมดแรงแล้วสลบไปอย่างหมดสภาพ
คือคำพูดที่ลอดจากปากติณห์ ว่า 'ไม่ได้ใส่ถุงป้องกัน แถมยังปล่อยในตั้งหลายรอบ พรุ่งนี้เธอต้องกินยาคุมกำเนิด!'