ตอนที่ 3 พี่ไม่ต้อง น้องจัดการเอง (2)
ชลธีชงเหล้าแล้วยกขึ้นดื่มรวดเดียว เมื่อวางแก้วลงเขาก็พูดขึ้นโดยที่สายตายังไม่ได้ละจากมัน “มึงจำน้องชายกูได้ใช่ไหม” เมื่อเอ่ยถึงคนเป็นน้องชายชลธีก็อดที่จะเหยียดยิ้มเยาะออกมาไม่ได้
“ที่มึงบอกว่าเอาไปทำงานด้วยเพราะพ่อขอร้องน่ะเหรอ” ธนาจำเรื่องที่เพื่อนมาบ่นให้ฟังได้ แม้มันจะผ่านมาประมาณสองปีแล้วก็ตาม
เขารับรู้ถึงปัญหาของครอบครัวมันอยู่เป็นระยะๆ จะว่ายังไงดี มันเหมือนขาดความอบอุ่น เพราะความสนใจของพ่อถูกยกให้แม่เลี้ยงและน้องชายไปจนหมด
“อื้อ”
“ทำไมว่ะ ไปทำผู้หญิงท้องหรือไง” ธนาคาดเดาจากนิสัยที่ตนได้ฟังและได้เจออีกฝ่ายอยู่ประมาณสองสามครั้ง ซึ่งบอกตรงๆ เลยว่าไม่ถูกชะตาเอาเสียเลย
“ให้เป็นอย่างนั้นจะดีเสียกว่า” ชลธีสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันมามองหน้าธนาตรงๆ “มันโกงเงินบริษัทและตอนนี้ก็หนีไปแล้ว”
“เชี่ย!” ธนาอุทาน ไม่ต่างกับมารีญาที่เหมือนทำเป็นไม่สนใจพวกเขาทั้งคู่คุยกัน แต่จริงๆ แล้วหูผึ่งรับรู้ทุกคำพูดได้อย่างชัดเจน ที่ถึงกับหันขวับและเผลอเขย่าแขนคนเป็นพี่ชายอย่างตกใจ “เอาไปเท่าไหร่วะ”
“แปดล้านกว่า” ชลธีบอกแล้วยกเหล้าในแก้วขึ้นดื่ม ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแรงๆ
“มึงก็รู้จักนิสัยน้องมึงทำไม ปล่อยให้ไปยุ่งเกี่ยวกับการเงินของบริษัทวะ”
“เข้าไปทำงานได้ไม่นานเท่าไหร่ มันก็เป็นแฟนกับน้องคนทำบัญชี”
“แล้วน้องคนนั้นล่ะ”
“หนีไปด้วยกัน” ชลธีทำเสียงหึในลำคอ นึกไปถึงวันที่เขาและเพื่อนๆ ที่เป็นหุ้นส่วนกันมาตรวจสอบบัญชีแล้วพบว่าเงินหายไปแปดล้านกว่าบาทเข่าแทบทรุด
“แล้วหุ้นส่วนคนอื่นๆ เขาว่ายังไง”
“ถ้ากูไม่หาเงินไปคืนบริษัท งานนี้มันคงล่มแน่ๆ” ชลธียกมือขึ้นนวดขมับ เขาไม่สนใจที่เพื่อนๆ บอกว่าจะแจ้งความเอาผิดธนากร แต่เขากลัวบริษัทที่กำลังจะขาดสภาพคล่องล้มมากกว่า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น มันคือความผิดของเขาแต่เพียงผู้เดียว ที่เอางูเห่าเข้ามาทำงาน
“มึงตามมันไม่ได้เหรอวะ”
“ไม่เลย แต่กูว่าพ่อกับน้าจ๋าอาจจะรู้ แต่เขาไม่ยอมบอกกู” ชลธีคาดเดา และจากที่สังเกตมีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเงียบหายไปทั้งคน ดูทั้งคู่ไม่เดือดเนื้อร้อนใจสักเท่าไหร่ มีแค่พ่อที่มาถามถึงยอดความเสียหายและพยายามจะหาทางช่วยบ้าง ถึงอย่างนั้นก็ไม่วายที่จะบอกว่า ‘ช่วยน้องมันหน่อยนะ’ และเพราะประโยคนี้เหมือนกันที่ทำให้เขาพบเจอความหายนะวายป่วงอย่างเช่นตอนนี้
“งั้นที่นัดกูมาคืนนี้...” ธนาพูดยังไม่ทันจะจบ ชลธีก็พูดแทรกขึ้นอย่างรู้สึกสมเพชตัวเอง “ใช่ มึงพอจะมีให้กูยืมไหม กูไม่ได้ยืมปากเปล่านะ ทำสัญญาและคิดดอกเบี้ยมาเลย แต่อย่าโหดล่ะ” เขาพูดติดตลกทั้งที่มันไม่ตลกเลยสักนิด
“มันก็...” ธนาพูดยังไม่ทันจะจบประโยคน้องสาวที่นั่งเงียบมาตลอดก็เขย่าแขน “พี่พาฉันไปห้องน้ำหน่อยสิ”
“ไปเองสิโตแล้ว คนกำลังคุยธุระอยู่”
“ไม่เอา นะๆ มีแต่คนเมาน่ากลัวออก” มารีญางอแง นั่นสามารถเรียกความสนใจจากชลธีได้เป็นอย่างดี และจากการคาดเดา เขาคิดว่าหญิงสาวน่าจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ไม่แคล้วคงเรียกธนาไปคุยและห้ามไม่ให้เขายืมเงินแน่นอน
แล้วจะทำยังไงได้ล่ะ
“ยุ่งจริงเชียว” ธนาบ่นอย่างรำคาญหันไปบอกชลธีเล็กน้อยแล้วเดินนำน้องสาวไปที่ห้องน้ำ เมื่อถึงตรงทางเข้า เขาก็ยืนกอดอกพิงผนัง
“เข้าไป เดี๋ยวยืนรอตรงนี้แล้วกัน”
“พี่ต้องมากับฉัน” ไม่พูดเปล่ามารีญายังลากคนเป็นพี่ชายให้ตามเข้าไปด้วย
“อะไรเนี่ย” ธนาเบิกตากว้างเมื่อน้องสาวลากเขาตามเข้าไปด้วย “เดี๋ยวๆ นี่มันห้องน้ำชายนะ”
“แล้วใครสน” ว่าแล้วมารีญาก็หันไปยิ้มให้ผู้ชายสองคนที่ยืนฉี่และหันมามองเธอด้วยสีหน้าตื่นตกใจเล็กน้อย
“ยัยแบมแกจะทำอะไร เข้ามาในนี้ทำไม” ธนาโวยวายอีกครั้ง เพราะโดนน้องสาวลากเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูล็อกกลอนเสร็จสรรพ ปิดฝาชักโครกลงแล้วผลักให้เขานั่ง
“อยู่ข้างนอกคนก็มองน่ะสิ” มารีญาให้เหตุผล ก่อนจะถอยหลังไปยืนพิงผนังเท้าเอวสบตากับคนเป็นพี่ชายในห้องแคบๆ
“แล้วมีอะไร”
“เรื่องที่พี่อาร์มขอยืมเงิน”
“ทำไม แกจะบอกให้พี่ไม่ให้เขายืมหรือไง”
“ใช่ค่ะ”
และคำตอบของมารีญาก็ทำเอาธนาถึงกับขมวดคิ้ว เหมือนว่าตัวเองกำลังฟังผิดอยู่หรือเปล่า แล้วบอกย้ำถึงสถานการณ์ตอนนี้ของชลธี “นั่นผู้ชายที่แกรักกำลังลำบากเลยนะ”
“ก็เพราะอย่างนี้ไงคะ ฉันถึงบอกว่าพี่ไม่ต้องช่วยพี่เขา แต่ฉันจะช่วยเขาเอง” มารีญายิ้มอย่างมีเลศนัย
“นี่แกกำลังคิดแผนชั่วร้ายอยู่ใช่ไหม” ธนาหรี่ตามอง มาถึงตอนนี้เขาพอจะเดาสิ่งที่คนเป็นน้องจะทำออกแล้ว
“แผนชั่วร้ายอะไร มันคือสวรรค์บันดาลต่างหาก ประจวบเหมาะจริง ๆ มาดูซิว่าพี่เขาจะหนีไปไหนพ้น” ว่าแล้วมารีญาก็ปิดปากหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ ธนามองแล้วได้แต่กลอกตามองบน “เจริญล่ะน้องสาวกูจะใช้เงินซื้อผู้ชาย”
“ให้ยืมไม่ได้จะซื้อสักหน่อย ถ้าการเจรจาลงตัวก็ถือว่าวินวินไงคะ” ใช่วินวิน เธอได้สามี ส่วนชลธีก็ได้เงินไปใช้หนี้ ไม่มีอะไรลงตัวมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“ภาวนาขอให้มันรับข้อเสนอของแกก็แล้วกัน”
“ไม่ลองก็ไม่รู้ ถ้าโดนปฏิเสธพี่ก็มีหน้าที่ช่วยฉัน โอเค๊”
“แกนี่มันจริงๆ เลย จะทำอะไรเดือดร้อนพี่ทุกที จะบอกมันเองไหมล่ะ”
“สถานที่แบบนี้คุยเรื่องเงินเรื่องทองได้ที่ไหน พี่นัดพี่เขาอีกทีแล้วกัน และไม่ต้องบอกนะคะว่าฉันจะเป็นคนให้เงินพี่เขายืม เอาไว้วันนัดจะบอกพี่เขาเอง พี่บอกไปว่าขอคิดดูก่อน ตกลงนะคะ” มารีญาจัดแจงทุกอย่างเสร็จสรรพ คนเป็นพี่ชายทำได้แค่พยักหน้าด้วยท่าทีคล้ายกับเอือมระอา “พี่มีทางเลือกด้วยหรือไง”
“ขอบคุณนะคะพี่ชาย พี่ช่วยฉัน ฉันก็จะช่วยพี่”