ตอนที่ 4 โรงแรม
"ปลายไปรอพี่ในห้องก่อนนะ พี่...ลืมถุงยางน่ะ"
ยังไม่ทันได้เอ่ยถาม เขาก็บอกเหตุผลขึ้นมาเสียก่อน พลางยัดคีย์การ์ดใส่มือ
ตุลย์พยายามอย่างยิ่งที่จะก้าวขาเดินให้ได้อย่างมั่นคง กลับลงมาที่ลานจอดรถอีกครั้ง
เพียงแต่...เขาไม่ได้กลับขึ้นไปที่ชั้นสามสิบห้า
ปลายฝนนั่งอยู่ขอบเตียงใหญ่กำมือตัวเองเข้าหากันแน่น บีบมันไปด้วยอาการประหม่า หมุนข้อมือดูเวลาที่เดินอย่างช้าๆ ไปจนครบห้านาที ตุลย์ก็ยังไม่กลับขึ้นมา คิดจะลงไปดูก็กลัวจะสวนทางกัน
อาการตื่นเต้นจนหัวใจรัวเสียจังหวะดังโครมครามออกมาจนเธอรู้สึกได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนครบสิบนาที อาการตื่นเต้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็นกังวลว้าวุ่น จากที่นั่งกุมมือตัวเองไว้แน่นก็กลายเป็นต้องลุกเดินวนเวียนอยู่ในห้องเสียหลายรอบ
เธอยังใจเย็นรออยู่จนครบยี่สิบนาที และในตอนนี้ก็เริ่มมั่นใจแล้วว่าตัวเองคงถูกทิ้งไว้อยู่ที่นี่แน่นอน
ในคราแรกที่รู้ว่าถูกทิ้ง ยอมรับว่าเธอออกจะโกรธเขาบ้าง แต่เมื่อเริ่มทบทวนความบ้าระห่ำของตัวเองทั้งที่ยังครองสติได้ไม่เต็มร้อยนักมาถึงตรงนี้ยอมรับว่าเธออายจนไม่รู้จะกล้าเจอหน้าเพื่อนพี่ชายสุดหล่อคนนี้ได้อีกอย่างไร
"อะไรนะ ไม่สำเร็จ"
ปลายฝนพยักหน้าช้าๆ ให้อันนาเพื่อนสาวคนสนิทที่เคยไปเรียนเมืองนอกด้วยกัน เพียงแต่อันนาเรียนจบแล้วก็กลับเมืองไทยเลยไม่ได้อยู่ทำงานต่อ แต่ทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันจนเรียกว่าเป็นเพื่อนสนิทจนทุกวันนี้
"เสียของฉิบหายเลย" อันนาส่ายหน้าบ่นเบาๆ
"แล้วทีนี้ทำไง ฉันไม่กล้าเจอหน้าพี่เขาอีกแน่"
"ก็แล้วแต่แก ถ้าไม่อยากได้เขาแล้วก็ไม่ต้องเจออีกก็ได้"
ปลายฝนถอนหายใจทำหน้าละห้อย เรื่องราวมากมายเมื่อคืนที่เธอตีไข่ใส่สีเสียเกินจริงในหลายเรื่องๆ รวมถึงความใจกล้าหน้าด้านที่เอ่ยชวนเขาวันไนต์นั่นด้วย คราวนี้เธอจะกล้าเจอหน้าเขาอีกได้อย่างไร
ในคราวแรกเธอคิดแค่จะชวนเขาวันไนต์เฉยๆ นั่นแหละ ตามคำแนะนำของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าในตอนนี้ แต่เพราะเธอบอกว่ากลัวเขาปฏิเสธยายเพื่อนตัวดีจึงจัดการหายาเร่งรัดปลุกกำหนัดมาให้เป็นตัวช่วย แต่ที่ไหนได้เรื่องยิ่งกลับตาลปัตรกลายเป็นเธอถูกทิ้งให้นอนอยู่ที่โรงแรมคนเดียวเสียอย่างนั้น
"ก็อยากได้อยู่"
"งั้นก็ไม่ต้องไปสนใจเรื่องเมื่อวาน"
"ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ แบบนั้นสักหน่อย"
"ถ้าขนาดยายังช่วยไม่ได้ ฉันว่าแกเลิกสนใจผู้ชายคนนี้เหอะ เป็นเกย์หรือเปล่าก็ไม่รู้อยู่มาจนอายุจะสี่สิบ"
"พี่ปราณยืนยันบอกว่าไม่เป็น"
"งั้นแกก็ทำใจเหอะ คงไม่ใช่สเปกเขาหรอก"
ปลายฝนมุ่ยหน้าอีกครั้ง พลาดเพียงครั้งเดียวก็พ่ายแพ้ยับเยิน เธอสู้อุตส่าห์ไปขูดรีดข้อมูลมาจากพี่ชาย ถามความชอบของเขาทุกสิ่งอย่าง และเมื่อรู้ว่าเขาออกจะห่างหายเรื่องผู้หญิงไม่ค่อยควงใครในหลายปีที่ผ่านมาเธอจึงยอมแม้กระทั่งจะวันไนต์สแตนด์กับเขาทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อนเมื่อรู้ว่าเขากลัวการผูกมัด และเพราะความกลัวจะไม่สำเร็จจึงยอมวางแผนบ้าๆ แบบนั้น
วันนี้เจ้าของบาร์ดูท่าจะไม่ได้เข้าร้าน เพราะจวนจะถึงเวลาที่ต้องเตรียมตัว เจ้าตัวก็ยังนอนหมดแรงอ่อนเพลียไม่หาย เพราะกว่าแม่นางทั้งห้าจะทำให้อะไรๆ ที่ถูกปลุกตื่นสงบลงได้ก็เกือบครึ่งค่อนคืน อาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวในตอนนี้น่าจะทำให้เขาไม่สบายแน่นอน คงเป็นเพราะเมื่อคืนที่เขานอนแช่น้ำเย็นอยู่ในอ่างเกือบชั่วโมง
นึกแล้วก็แค้นน้องไอ้ปราณฉิบหาย เด็กบ้าก๋ากั่นทำเขาเกือบแย่ เห็นหน้าตาสวยๆ ยิ้มหวานๆ แต่เอาเรื่องจนน่ากลัว
ส่วนคนที่ร้านกาแฟก็ยังเข้าไปดูแลร้านตามปกติ ชะเง้อจนคอจะเป็นยีราฟก็ไม่เห็นลูกค้าประจำที่ดื่มกาแฟตอนเย็นขับรถมาจอดที่หน้าร้านสักที คิดจะไปที่บาร์เขาอีกก็ไม่กล้า
ผ่านไปอาทิตย์กว่าลูกค้าประจำดูเหมือนจะหายไปเลย เขาไม่มาซื้อกาแฟอีก ปลายฝนได้แต่แอบมองหน้าร้านในตอนเย็นของทุกวัน
จากหนึ่งอาทิตย์ก็เข้าสู่หนึ่งเดือนที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้าเขาอีก สุดท้ายก็ได้แต่ทำใจว่าคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
ตุลย์เข้ามาถึงร้านในช่วงหัวค่ำ วันศุกร์สิ้นเดือนลูกค้านักดื่มดูจะหนาตาไม่น้อย แต่เพียงเขาก้าวขาเข้ามาในร้านพนักงานก็รีบแจ้งว่าวันนี้เพื่อนคุณตุลย์เข้ามา
แก้วกาแฟที่วางลงบนโต๊ะทำให้ปราณก้มมองยี่ห้อข้างแก้วชัดๆ มันไม่ใช่ยี่ห้อของร้านน้องสาวตัวเอง
"ไงวะ กาแฟร้านยายปลายไม่อร่อยหรือ"
"อันนี้อร่อยกว่า" ก็แน่ล่ะซิแบรนด์หรูระดับโลกจะไม่อร่อยได้ไง
"สรุปมึงไม่ชอบน้องปลายหรือน้องปลายเขาไม่เอามึงวะไอ้ตุลย์" เข้มเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะถามเพื่อน เมื่อเห็นคนที่เพิ่งมาถึงทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายตอนที่ตอบคำถามไอ้ปราณ
"อาจจะทั้งสองอย่าง"
"ขนาดน้องปลายมึงยังไม่ชอบ ไอ้ปราณงั้นมึงก็ปล่อยให้มันแก่ตายไปคนเดียวเหอะ" ตุลย์ตวัดหางตามองเข้มเขม็ง
"เอ่อๆ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ เดี๋ยวนี้กูก็ไม่เห็นยายปลายมันมาถามอะไรเกี่ยวกับมึงแล้ว มันคงไม่สนใจมึงแล้วก็ได้มั้ง เห็นตอนแรกมาคาดคั้นถามกูสารพัด"
"ก็ดี" เขาจะได้วางใจสักที
"แล้วนี่มึงไม่คิดจะเข้าบริษัทมั่งเลยหรือวะ" ปราณจึงเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นว่าเรื่องนั้นจะยิ่งทำให้เพื่อนสีหน้าไม่ดี
"ก็เข้าบ้าง"
"เออ กูได้ที่แถวชานเมืองมาแปลงนึงเหมาะทำคอนโดฉิบหายเลยว่ะ มึงสนใจลงทุนกับกูไหมไอ้ตุลย์ ไอ้เข้มแม่งเสือกไม่เอาด้วยกับกู" ปราณเอ่ยถาม
"กูเพิ่งลงทุนกับพี่ชายไป ให้เวลากูปั๊มเงินมั่งสิโว้ย"
"ก็น่าสนนะ"
"เออ ไว้เดี๋ยวกูจะส่งรายละเอียดให้มึงดู ว่าจะให้บริษัทน้องมึงก่อสร้างให้นั่นแหละ"
ตุลย์พยักหน้ารับ เอ่ยถามเรื่องที่ดินตรงนั้นอีกหลายคำถาม เมื่อเรื่องที่คุยไกลจากเรื่องน้องสาวไอ้ปราณแถมเป็นเรื่องงาน บทสนทนาในโต๊ะจึงดูมีสีสันขึ้นไม่น้อย
