บทที่ 8 แขกของพ่อ รึ ฝรั่ง???..
อากาศข้างนอกคงเย็นมาก เธอถึงได้หนาวขนาดนี้ ธารใสขยุ้มผ้าห่มนวมผืนหนาห่อตัว กลิ้งไปมาหลายตลบม้วนร่างจนคล้ายดักแด้ จนมันอุ่นขึ้นนั่นแหละ เธอถึงหยุดทำ ก่อนจะกะพริบตาปริบ ๆ รู้สึกตัวตื่นในเวลาถัดมา แต่หูกลับได้ยินเสียงกุกกักดังอยู่ในห้องตัวเอง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตเพ่งมองเงาร่างตะคุ่ม ๆ ที่ค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้
“ตื่นแล้วหรือ ดีขึ้นหรือยังล่ะ” พี่สะใภ้ของเธอนั่นเอง ร่างอรชรอ้อนแอ้นค่อย ๆ เข้ามานั่งใกล้กับที่นอนของเธอ มือเรียวอุ่นวางแหมะลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาเหมือนวัดไข้
“ตัวไม่ร้อนนี่ ออกไปกินข้าวข้างนอกไหวไหม หรือจะให้พี่เอาเข้ามาให้ในห้อง”
“ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย เดี๋ยวธารตามออกไป อ้อ..พี่พราว เอ่อ.. แขกของพ่อ..” หญิงสาวอยากถามว่าแขกของพ่อกลับไปหรือยัง เพราะเธอไม่อยากเจอหน้าเอาเสียเลย มัน..
“เขาไม่ใช่แขกหรอก แต่เขาเป็นฝรั่งน่ะ ไปสิลุกเร็ว พี่ปราชน์อยากแนะนำให้รู้จักเพื่อนสนิทสมัยไปเรียนที่อังกฤษ พูดไปก็น่าขำ โลกกลมจริง ๆ อยู่ไกลตั้งขั้วโลกยังกลับมาเจอกันได้ เอ้า..ลุกสิจ๊ะ” ไม่พูดเปล่า พี่สะใภ้คนสวยยังทำท่ารื้อผ้าห่มนวมที่เธอใช้ห่อตัวออกให้อย่างทุลักทุเล
“ไม่ไปได้ไหม ไม่อยากรู้จัก เพื่อนพี่ปราชน์ กับแขกของพ่อ พวกนั้นไม่ใช่ญาติของธารนี่” พูดจบร่างเล็กก็ทิ้งตัวลงกับที่นอนหน้าตาเฉย
“ไม่ได้นะธาร นี่เป็นคำสั่งของพ่อกับแม่นะ แล้วธารก็ต้องออกไปขอโทษเขาด้วย รู้นะว่าทำอะไรเขาไว้ ไปรับผิดชอบเลย” คำขู่ของพี่สะใภ้ ทำให้เธอหมดหนทางการเผชิญหน้า โดยเฉพาะคำสั่งของผู้บังเกิดเกล้าด้วยแล้ว ฮือ ๆ ไม่นะ ฉันยังไม่อยากเจอแก ไอ้โจรหน้าหนวด! เธอจำได้ทันทีเมื่อเจอจัง ๆ ที่สนามหญ้าหน้าบ้านเมื่อหัวค่ำนั่น อ๊ะ! ลืมไปเลย ไอ้โจรนั่นมาถึงที่นี่แสดงว่า มันตามเธอมา ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ หรือว่า..มันจะตามมาฆ่าล้างโคตรเธอ ที่บังอาจเห็นใบหน้าของมันแล้ว ไม่มีทาง..แกจะทำร้ายครอบครัวคนอย่างธารใส ศิลปการกรสกุลอย่างนั้นหรือ กล้ามาหยามถึงถิ่น มันจะมากเกินไปแล้ว! อ๊าย..ดูหนังฆาตกรรมมากไปหรือเปล่านะเรา ร่างเล็กลุกขึ้นนั่ง สลัดผ้าห่มนวมผืนหนาออกจากตัว ก่อนจะผลุนผลันวิ่งไปค้นตู้เสื้อผ้าคว้าชุดวอร์มสีดำอุ่นหนา ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายเป็นอย่างดี และที่สำคัญ มันมีฮู้ดช่วยปิดบังใบหน้าได้อีกด้วย ก่อนจะหยิบถุงเท้าขึ้นมาสวม จะตามด้วยถุงมือหากไม่โดนดุเสียก่อน
“เวอร์ไปแล้วธาร มันไม่ได้หนาวขนาดนั้นเสียหน่อย ใส่แค่ถุงเท้าพอจ่ะ รีบ ๆ เลย เจ้าตัวดี” พราวนภาทนมองน้องสามีไม่ไหวจนต้องรีบปราม เมื่อแม่ตัวดีแต่งตัวราวกับจะไปออกค่ายข้างนอกเสียอย่างนั้น
“อ้าว! ก็มันหนาวนี่คะพี่พราว”
“ไม่ต้องเลย ไป ๆ เร็วเข้าทุกคนรอกินข้าวอยู่นะ”
“ฮ่ะ! รอกินข้าว รอทำไมกัน นี่ถ้าธารไม่ตื่นขึ้นมา ทุกคนจะได้กินข้าวไหมแล้วเด็ก ๆ ล่ะคะ”
“ไม่ต้องห่วงเด็ก ๆ หรอกจ่ะ พี่ปราชน์เขาพาไปเข้านอนแล้ว พี่ให้กินยากันไข้ไว้ด้วย เล่นพิเรนทร์ยังไงของเรา นี่มันหน้าหนาวนะ น้ำเย็นขนาดนั้นฉีดเข้าไปได้ไง คุณอีธานจะเป็นไข้ไปด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้” อีธาน.. ชื่อนี้คุ้น ๆ แฮะ มือเล็กชะงักค้างจากที่กำลังเกล้าผมสูง ให้เป็นมวยไว้กลางกระหม่อมอย่างที่ชอบทำจนเคยชิน ก่อนจะหยิบฉวยเอาปิ่นเก่า ๆ ที่พี่สะใภ้ซื้อมาฝากจากเชียงใหม่นานแล้ว มาปักลงบนผมสีน้ำตาลอ่อน อวดลำคอระหง ปล่อยให้ลูกผมข้างลำคอทั้งสองข้างระลงมาตามธรรมชาติของมัน ก่อนจะยกฮู้ดมาคลุมทับหัวทุยจนมิดอีกทีหนึ่ง พลางย่นจมูกให้กับกระจกเครื่องแป้งตรงหน้า เชอะ! ไอ้โจรหน้าหนวดนั่นชื่อ อีธาน เหรอ อีธาน ฮันท์พระเอกจากหนังดัง เรื่อง Mission Impossible หรือเปล่า หรือจะเป็น อีธาน ฮอร์ค นักแสดง รุ่นเดอะอีกคนจะเป็นใครก็ช่าง ฉันจะกระชากหน้ากาก ของแกออกมาบัดเดี๋ยวนี้! ร่างบางทำท่ากำหมัด ชูใส่กระจกตรงหน้า ราวกับตัวเองคือผู้พิทักษ์ความยุติธรรมเสียอย่างนั้น
“มาแล้ว เจ้าตัวยุ่ง มานี่เลยก่อเรื่องกับแขกของพ่อ จนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว มาขอโทษคุณเขาซะ” คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวยุ่ง ค่อย ๆ เยื้องย่าง คล้ายหนทางในการก้าวเดินนั้นมันฝืดเหลือแสน ก่อนจะจรดปลายเท้าใกล้กับครอบครัวจงใจยืนแทรกกลางระหว่างพ่อกับแม่ตรงบริเวณเติ่นกลางบ้าน ซึ่งก็เท่ากับว่าเธอได้ยืนอยู่ตรงข้ามกับศัตรู เอ๊ย! แขกของพ่อโดยปริยาย ไม่รู้ล่ะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเธอจะกระโดดกอดคอพ่อไว้ก่อน ก็คนมันเริ่มกลัวแล้วนี่ โต๊ะกินข้าวก็มี ทำไมวันนี้ถึงได้ตั้งสำรับประดามี ที่แม่เธออุตส่าห์เตรียมต้อนรับแขกราวกับมีเป็นสิบคนอย่างนั้นแหละ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ (เติ่น เป็นเนื้อที่กึ่งเปิดโล่ง มีขนาดไม่เล็กกว่าห้องนอนเท่าใดนัก ใช้งานแบบอเนกประสงค์ สามารถใช้รับรองแขกที่มาเยี่ยมเยือนได้) ธารใสก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาใครทั้งนั้นในตอนนี้ มือเล็กขยุ้มอยู่บริเวณชายเสื้อกันหนาวนิ้วขยับขยุกขยิกอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีมากกว่านี้แล้ว
“เอ้า! เจ้านี่ ทำผิดแล้วยังปกปิดใบหน้าอีก ดูแต่งตัวเข้ายังกับจะไปขึ้นดอยอย่างนั้นแหละ เอาหมวกออกซิ” ผงะ! แม่นะแม่ จบกัน! ใจร้ายที่สุดเลย ทำไมทำกับลูกสาวผู้น่ารักแบบนี้ล่ะเนี่ย เธออุตส่าห์ปิดบังอำพรางตัวขนาดนี้ อย่างน้อยเพื่อตั้งตัวก่อนก็ยังดี เสียแรงเรารึเป็นห่วง กะว่าจะมากระซิบบอกเสียหน่อยให้ระวังแขกของพ่อเอาไว้ มันอาจมาทำร้ายครอบครัวเราก็ได้ หมด..หมดกัน
“แม่!” ธารใสอุทานออกมาเบา ๆ เผลอเงยหน้าขึ้น พลันสายตาเจ้ากรรมก็ปะทะกับคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างจัง ในวงจักษุสีน้ำตาลกลมโตสุกใสของเธอ ได้เห็นฝรั่งตัวโต ๆ สองคน รูปร่างลักษณะท่าทางของสองคนนั้น ใกล้เคียงกันมาก ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นพี่กับน้องคนซ้ายรูปร่างสูงล่ำสันภายใต้เสื้อเชิ๊ตสีฟ้าเนื้อดี นั่งขัดตะหมาด ไม่แพ้คนในชาติเลยด้วยซ้ำ เรือนผมสีน้ำตาลอมทอง ดวงตาสีเทาเข้มคม ผิวสีน้ำตาล หน้าผากกว้าง รับกับจมูกโด่งเป็นสัน ปลายงุ้มเล็กน้อยโหนกแก้มสูงปากหยักได้รูปชายผู้นี้ดูเป็นคนอารมณ์ดี เหมือนมีรอยยิ้มตลอดเวลา เรียวคางเขียวครึ้มไม่มีหนวดเครารกรุงรังให้รำคาญสายตา จัดอยู่ในวัยฉกรรจ์ โดยรวมเขามีโครงหน้าที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น จัดว่าหล่อมาก..แววตาของเขาไม่ดุ แทบจะยิ้มออกมาด้วยซ้ำ เมื่อถูกเธอจ้องเอาตรง ๆ แบบนั้น หากเขากลับไม่ทำให้หัวใจเธอกระตุกได้เท่ากับ อีกคนที่นั่งเยื้องไปทางขวา ที่นั่งพับเพียบเรียบร้อยราวกับไม่ถนัดนั่งขัดตะหมาดเหมือนอีกคน ดวงตาสีเทาคล้ายกันจ้องมองมายังเธอแน่วแน่ เธอมั่นใจว่าเขามองอยู่ก่อนแล้ว เมื่อดวงตาสีน้ำตาลกลมโตของเธอเลื่อนมาสบกับใบหน้านั้นตรง ๆ บ้าง ธารใสเบิกตากว้างเมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่คมสีเทานั่น เหมือนมีพลังบางอย่างที่ส่งมาคล้ายกับสะกดให้เธอไม่สามารถหลบสายตา ร่างของธารใสเซไปพิงหลังของพ่อเล็กน้อยเพื่อต้องการหาที่พึ่งพิง มือเล็กปล่อยจากชายเสื้อกันหนาว ยึดชายเสื้อพ่อบังเกิดเกล้าแทน ใจเธอสั่นระรัว ปากรูปกระจับจิ้มลิ้มสีแดงเรื่อโดยธรรมชาติ เผยอขึ้นเล็กน้อย ใบหน้านวลบางใสขึ้นสีทันทีที่จ้องตากับเขา ผู้ชายคนนี้ตัวสูงใหญ่พอ ๆ กับคนข้างตัวเขา ธารใสลอบกลืนน้ำลายลงคอ ลิ้นเรียวสีชมพูอ่อนเผลอเลียริมฝีปากตัวเอง โดยไม่รู้ว่าท่าทางแบบนั้นของเธอส่งผลให้คนที่เอาแต่จ้องเธอหัวใจแทบหยุดเต้นไปเลยทีเดียว
คิ้วดกดำดวงตาสีเทาคมดุคู่นั้น ช่างทรงพลังอย่างไรพิกล ใบหน้าทรงเหลี่ยม จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบแดงฉานยิ่งกว่า ปากเธอเสียอีก ผู้ชายอะไรปากแดงเป็นบ้า ไรหนวดรอบกรามแกร่งเขียวครึ้มดูรกเรื้อไปทั้งใบหน้า ราวกับเทพเจ้าแห่งสงคราม อี๋..นี่แหละที่เธอเกลียดที่สุด ผู้ชายดิบเถื่อนคนนี้มีอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาไม่น่าไว้วางใจอย่างยิ่ง หากรอยผ่าที่ปลายคางดูมีเสน่ห์ที่สุดแล้ว
ธารใสรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เมื่อเห็นสายตาคมลึกทรงพลังนั้นจ้องตอบกลับมา เธอลอบกัดริมฝีปากอีกรอบ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสดใส ฉายแววไม่พอใจส่งกลับไปให้อีกฝ่าย กลับเป็นเธอเสียเองที่ต้องสะดุ้งเล็กน้อย เมื่ออิโจรห้าร้อยขยับปากสีแดงบางเฉียบนั้น ยื่นออกมาคล้าย..คล้ายส่งจุ๊บ มาให้เธอ อิโจรบ้า! บ้า! บ้า! ทะลึ่งที่สุดอยู่ดี ๆ มาทำท่าเจ้าชู้ใส่เธอซะอย่างนั้น ธารใสก้มหน้าก่นด่าอีกฝ่ายอย่างแค้นเคืองในใจ ทำปากขมุบขมิบคนเดียว แทบอยากจะแลบลิ้นโต้กลับไปแล้วเชียว ถ้าไม่ติดว่า ตัวเองยืนค้ำหัวผู้ใหญ่อยู่
“เอ้า! ไอ้ธาร เอ๊ย! น้องธารครับ มารู้จักกับแขกของพี่หน่อย นี่นาธาน เบอร์นเนอร์ เพื่อนสมัยเรียนที่อังกฤษของพี่ ส่วนนั่น คุณอีธาน เบอร์นเนอร์ พี่ชายของเจ้านี่” พี่ชายแนะนำ สองคนนั้นให้แก่เธอ หากธารใสกลับเงยหน้า จงใจมองไปยังเพื่อนของพี่ชายที่ชื่อนาธานคนเดียวเท่านั้น ก่อนจะยกมือไหว้อย่างสวยงามตามมารยาทและธรรมเนียมที่บรรพบุรุษสอนมา แต่เอ๊ะ! ชื่อนี้ คุ้นมาก อีธาน เบอร์นเนอร์ นึกออกแล้ว! ใช่เขาจริง ๆ ด้วย อดีตนักร้องดังผู้มากความสามารถคนนั้น มานั่งอยู่ตรงหน้าเธอ บนบ้านเธอเสียด้วย ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่า พี่ชายเธอมีเพื่อนเป็นถึงน้องชายอัจฉริยะระดับหัวกะทิน่ะสิ สุดยอดไปเลยพี่ชายฉัน แบบนี้แล้วอดคิดถึงพี่พุดไม่ได้ ถ้าพี่แกรู้ว่าบ้านเธอได้ต้อนรับว่าที่สามีของนางจะเป็นยังไงบ้างนะ เชอะ! เขาจะเป็นใคร โด่งดังมากไหน ก็ไม่อยู่ในสเป็คของเธอแม้แต่นิดเดียว (ว่าแต่เธอมีผู้ชายในอุดมคติตั้งแต่เมื่อไหร่กัน) ช่างเถอะ อย่างไรเสียคนที่มีขนบนใบหน้า ลามไปทั้งตัวก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเธอสักนิด!
“ธารขอโทษพี่เขาเสียโดยเฉพาะ คุณอีธานเขาเปียกไปทั้งตัว ก็เพราะเรานะ แล้วไหนจะกล้องราคาแพงของเขาอีก เราจะต้องชดใช้ให้เขาด้วยนะจะบอกให้” ห่ะ! กล้องเหรอ? ไม่จริงนะไม่รับผิดชอบเด็ดขาดเธอเล่นกับพี่ชายอยู่ดี ๆ แล้วอีตาโจรนี่โผล่มาจากไหนมิทราบ ธารใสบ่นอุบในใจ ก้มหน้างุดไม่ยอมเงยหน้าง่าย ๆ
“เอาล่ะ ๆ มานั่งลงกินข้าวกันได้แล้ว เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง แขกของเราคงหิวแย่แล้ว พอทานอาหารไทยได้นะ คุณสองคนน่ะ” บิดาบังเกิดเกล้าช่วยตัดบทต่อไปให้ พลอยทำให้ความอึดอัด กระอักกระอ่วนใจของเธอค่อยทุเลาเบาบางลงบ้างเล็กน้อย
“อ้าว..เจ้าธารจะมานั่งแทรกกลางพ่อกับแม่ได้ไงเล่า แกก็รู้ พ่อนั่งไหนแม่ก็นั่งนั่นไม่เคยห่างกัน ไปเลย ไปนั่งข้าง ๆ คุณอีธานโน่น ที่ยังว่างมานั่งเบียดกันทำไม” โห..ไม่นะพ่อที่น่ารักของธาร บทจะทำตัวไม่น่ารักก็วันนี้ จะเป็นไรไป กะอีแค่ตัวไม่ติดกันแค่เนี๊ย..เชอะงอล
“เอ่อ..งั้นธารไปนั่งกับพี่พราวก็ได้” ตัวปัญหายังหาทางเพื่อเอาตัวรอดต่อไป