บทที่ 5 เฟริ์สคิส ของฉ๊านนนนน..
หากตอนนี้ท่อนแขนแกร่งข้างหนึ่งรวบตัวเธอไว้มั่น มันบีบกระชับแน่นขึ้น ส่วนอีกข้างตะปบปากเธอแน่นจนแทบขยับไปไหนไม่ได้ ชั่ววินาทีหน้าสิ่วหน้าขวาน ทำไมธารใสรู้สึกว่ามือที่ปิดปากเธออยู่ช่างแสนนุ่มไม่หยาบกร้าน เหมือนอย่างที่เธอจินตนาการไว้ แถมตัวมันยังได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงของผู้ชายอีกต่างหาก บ้าน่า ธารใส เธอจะมาหลงเสน่ห์ไอ้โจรเถื่อนปล้นสวาทสาววัยเบญจเพสอย่างนั้นหรือ หญิงสาวพยายามเบี่ยงหน้าเพื่อหนีจากการถูกพันธนาการอีกครั้ง เพียงเสี้ยววินาที ในช่วงขณะที่ไอ้โจรเนื้อตัวหอมกรุ่น หันไปมองตามคนที่วิ่งผ่านมาเมื่อครู่ เธอได้เห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างของมันจากแสงไฟส่งกระทบพอดิบพอดี โอ้ พระเจ้าเค้าโครงหน้าเป็นชาวต่างชาติ ผิวขาว จมูกโด่งเสียด้วย แถมมันยังมีหนวดเครา รกหน้าอีก อี๋...ฉันเกลียดอิพวกมีหนวดที่สุด ให้ตายยังไงฉันก็ไม่มีทางให้แกได้สมหวังแน่ไอ้ฝรั่งขี้นก ธารใสพยายามฮึดสู้อีกครั้ง แต่แรงที่มีอยู่น้อยนิดกลับเทียบไม่ได้เลยกับแรงที่ส่งมาแค่ครึ่ง ๆ มันเพียงแค่ใช้ร่างกายกดเธอไว้ให้แนบกับกำแพงขรุขระด้านหลัง ส่วนมือใหญ่ ก็แค่กำมือเธอรวบไว้ด้วยกันแค่นั้น
“ชู่ว์..อย่ากลัวเลย ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ขอแค่หลบซ่อน แค่ให้แน่ใจว่าพวกนั้นไปแล้ว ผมจะปล่อยคุณไปอย่างปลอดภัย โอเคไหม” มันพูดภาษาอังกฤษได้ไพเราะมาก ๆ สำเนียงราวกับเจ้าของภาษา จะบ้าหรือธารใส แค่คำพูดและเสียงไพเราะเสนาะหูนั่น ถึงกับทำให้เธอใจสั่น ตัวอ่อนปวกเปียกไปเลยหรือนี่
“อั้นอ้ออ่อยอั๋นอั๊กอีอิ” เธอโต้ตอบเป็นภาษาบ้านเกิดของมัน เผื่อมันจะเข้าใจ และเห็นใจปล่อยเธอไปเสียที
“สัญญามาสิว่าคุณจะไม่ร้องโวยวาย ผมไม่แน่ใจ ว่าพวกเขาไปหมดหรือยัง” แสดงว่าไอ้โจรนี่ กำลังหนีใครมา มาเฟียท้องถิ่น หรือ หนีตำรวจนอกเครื่องแบบมา! ได้การละ ทางรอดของเธอมาแล้ว เธอจะยอมอ่อนข้อให้มัน ปล่อยให้มันตายใจ แล้วซัดมันให้หมอบเลยคอยดู (ทำได้หรือเปล่าไม่รู้ ไว้ว่ากันทีหลัง)
หญิงสาวพยักหน้าคล้ายเข้าใจอะไรง่าย ๆ ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตสุกใสของเธอ ช่างดึงดูดเขานัก มือใหญ่ค่อย ๆ คลายออกจากปากเรียวบางสีซีดของเธอช้า ๆ ดวงตาสีเทาของอีธาน พยายามจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นราวกับกำลังสะกด หากต่างคนต่างรอดูท่าทีของอีกฝ่ายเสียมากกว่า เพื่อความไม่ประมาท กรี๊..เพียงแค่มือหนาใหญ่ นั่นผละออกห่าง ได้แค่สองถึงสามเซ็นต์เท่านั้น เธอก็เตรียมกรีดร้องออกไปทันที เมื่อหางตาของเธอเหลือบไปเห็นเงาคนเดินมาทางนี้ หวังว่าความหวังอันน้อยนิดของเธอจะสัมฤทธิผล หากมันก็แค่กำลังจะออกเสียงแค่นั้น เธอถึงเพิ่งได้ตระหนักว่าอย่าล้อเล่นกับวัยเบญจเพส!
“อ๊ะ!!อุ๊บ!!” ใบหน้าคมคาย หนวดเครารกครึ้มหายวูบไปต่อหน้า พร้อมกับริมฝีปากแดงฉานของเจ้าของ ฉกทาบทับลงมาอย่างรวดเร็วและหนักหน่วงมายังริมฝีปากบางของเธอ จนตั้งตัวไม่ทัน หัวใจของเธอกระตุกวาบราวกับถูกไฟช๊อตไปทั่วร่าง ในวินาทีแรกที่รับสัมผัสตัวชาแทบไม่รู้สึกรู้สาใดๆ ถัดจากนั้น ธารใสรู้สึกถึงความซ่านซ่าบนริมฝีปาก พาให้ใจสั่นจนควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ มันเป็นอะไรที่เธอไม่เคยรับรู้ ไม่เคยลิ้มลอง ราวกับถูกสูบลมหายใจไปพร้อมกับดูดเรี่ยวแรงไปหมด ธารใสพยายามดึงสติกลับคืนมา เมื่อหนวดเคราแข็ง ๆ ครูดใบหน้าอ่อนใสของเธอจนรู้สึกเจ็บและรำคาญ เธอพยายามเก็บเสียงอะไรบางอย่างที่มันบ่งบอกว่าเธอพอใจในรสจูบ
จากคนแปลกหน้า ไม่นะ นี่มัน ..เรียกว่าจูบใช่ไหม ตายแน่ ธารในเอ๋ยเกิดมาจากท้องแม่ เธอยังไม่เคยเอาปากไปแตะกับใครมาก่อนโดยเฉพาะเพศตรงข้ามที่เรียกว่าผู้ชาย แล้วอีตาฝรั่งขนดก หน้าตาดิบเถื่อน นี่เป็นใครถึงได้กระทำการอุกอาจ ล่วงล้ำสิทธิที่เธอควรสงวนไว้ให้คนรักเท่านั้นไม่ใช่หรือ ฮึ้ย! มันน่าโมโหนัก
นี่มันเฟริ์สคิสของฉันเชียวนะ! ฉันเกลียดหนวดรก ๆ นี่ที่สุด ห้ามปล่อยเนื้อปล่อยตัวกับไอ้โจรเนื้อตัวหอมกรุ่นคนนี้เด็ดขาดธารใส! หญิงสาวก่นด่าให้โจรหน้าหนวดในใจอย่างเดือดดาล หญิงสาวพยายามสะบัดตัว ให้หลุดพ้นจาก เงื้อมมือไอ้โจรเนื้อตัวหอมนั่น และก็สำเร็จ เมื่อมันมัวแต่เคลิบเคลิ้มและคิดว่าเธอตัวอ่อนไปแล้วจากจูบเมื่อครู่ ไม่รอช้าในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันระวังตัวธารใสจัดการกระแทกเข่าเข้าระหว่างขาของมันเต็มแรง จนมันร้องอั๊กในลำคอ
ร่างใหญ่หนาล้มลงบนเข่าของมันเอง คงจุกไม่น้อย จนขยับตัวไม่ไหว อีกนานทีเดียวล่ะ ที่แกจะลุกขึ้นมาได้ไอ้โจรหน้าหนวด! หญิงสาวว่าต่อในใจ พลางแสยะยิ้มคนเดียว ก่อนจะตะเกียกตะกายหนีออกมาจากมุมอับนั้นทันที ในตอนแรกเธอคิดจะวิ่งมาบอกการ์ดหน้าร้าน แต่พอคิดอีกที พวกนั้นคงไม่สนใจคำพูดของเธอแน่ และถ้าจะไปป่าวประกาศบอกใคร ๆ ว่ามีโจรอยู่ตรงนั้นเขาก็คงไม่รับฟังเธอหรอก
ธารใสที่ไม่ได้หันหลังกลับไปมองเลยว่าไอ้โจรหน้าหนวดตัวสูงใหญ่เจ้าของกลิ่นกายหอมกรุ่นนั่น ค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นช้า ๆ มือใหญ่ดึงฮู้ดขึ้นมาบดบังใบหน้า เมื่อยืดตัวเต็มความสูงได้แล้วสูดหายใจเข้าปอดลึกสุดใจ พยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อสะกดความเจ็บปวด จุกจนแทบหายใจไม่ออกในตอนแรก หากเพียงแค่ไม่กี่นาทีหรอก เข่าเล็กกระจ้อยร่อยนั่นไม่ได้ทำให้เขาทรมานนานเลย มันเป็นผลดีที่เขาออกกำลังกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกีฬาเอ็กซ์สตรีม ที่แกล้งทรุดตัวลงเพราะต้องการให้โอกาสเธอ อยากรู้เหมือนกัน สาวชาวเอเชียร่างเล็กนั่นจะทำอะไรต่อได้ เขาประเมินแรงกำลังเธอได้ถูก แต่ที่ผิดไปคือฝีเท้าเล็กนั่น เพียงแค่อึดใจเมื่อร่างเล็กหลุดพ้นจากพันธนาการของเขา แม่เจ้าพระคุณ ก็สปีดฝีเท้าจากไป แทบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว
“หึ หึ น่าสนใจ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าคุณคือใคร Baby” ริมฝีปากแดงสดคลี่ยิ้มออกมาอย่างหมายมาด มือหนายกนิ้วโป้งลูบคลึงที่ริมฝีปากบางเฉียบของตนเองไปมา ใจกระหวัดคิดไปถึงความหวานฉ่ำที่ได้รับจากหญิงสาวขี้วีนคนนั้น สายตาคมดุมองจ้องฝ่าแสงไฟนีออน ไปยังผับฝั่งตรงข้าม เขาเห็นร่างเล็กนั่นวิ่งหายเข้าไปรวมตัวปะปนกับนักท่องราตรีกลุ่มหนึ่ง โดยที่การ์ด แค่สองคนไม่ทันสังเกตเห็น ร้ายใช่เล่นนะยัยตัวเล็ก เรียวขายาวก้าวเดินออกจากซอกตึกที่ใช้หลบซ่อนตัวจากบรรดากระจอกข่าวที่อุตส่าห์ตามเขามาถึงนี่ เมื่อแน่ใจแล้วว่าพวกนั้นคงไปหมดแล้ว พลันเท้าใหญ่ใต้รองเท้าหนังราคาแพง ได้สะดุดกับกระเป๋าเป้ใบไม่เล็กไม่ใหญ่ บรรจุอะไรบางอย่างคล้ายกระดาษม้วนทับซ้อนกันหลายแผ่น ความยาวของมันโผล่ออกมาจากข้างในให้เห็น คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันที พลันสายตาคมเหลือบไปเห็นแผ่นการ์ดเล็ก ๆ แข็ง ๆ ตกอยู่ใต้ฝ่าเท้าอีกทีหนึ่ง ร่างสูงก้มลงไปหยิบก่อนจะพลิกขึ้นมาดูดวงตาสีเทา เพ่งมองผ่านแสงไฟนีออนบนหัว ที่ส่องลงมาพอให้เห็นตัวหนังสือบนกระดาษแผ่นเล็กแข็ง ๆ ตรงหน้า หากเขาอ่านได้แค่ตัวหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
Thai National ID card Identification
Number x63xx xxxx…..
Name Miss Tharnsai
Last name Sinlapakrankornsakun
Date of Birth 28 Dec. 1990
ร่างสูงดึงตัวเองจากที่ก้มลงอ่านตัวหนังสือเล็ก บนการ์ดดังกล่าว มุมปากบางเฉียบสีแดงสด ราวกับทาลิปติกเคลือบไว้กระตุกแย้มยิ้มคนเดียว และสิ่งที่ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะเมื่อเห็นประโยคล่างสุด Date of Birth 28 Dec... พร้อมกับรูปถ่ายหน้าตรง ด้านขวามือ ใบหน้าอ่อนใสของสาวเจ้ายังตราตรึง และแจ่มชัดในดวงตาสีเทาเข้มของเขา
เจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ ภายใต้เสื้อยืดสีดำเนื้อดี สวมทับด้วยเสื้อแขนยาวมีฮู้ดตัวใหญ่ ถูกนำมาปิดทับศีรษะทุยอย่างมิดชิด สะพายเป้ของใครบางคนขึ้นบ่าหนาเพียงข้างเดียว ขายาวที่สวมกางเกงยีนสีเข้มก้าวเดินตรงดิ่งไปยังผับฝั่งตรงข้ามทันที และไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาเลยที่จะสามารถเข้าไปในนั้นได้ โดยไม่ต้องมีการตรวจ หรือแสดงบัตรใด ๆ แก่การ์ดสองคนที่ยืนคุมอยู่ด้าน หน้า บริเวณทางเข้า ชายฉกรรจ์ทั้งสองต่างก้มหัว ผายมือให้แก่เขา ผู้เป็นหุ้นส่วนของเจ้าของผับดังกล่าว แถมยังเป็นเพื่อนสนิทกันอีกต่างหาก