บท
ตั้งค่า

3 มันก็อิ่มเหมือนกัน

ห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่เคยว่างเปล่า ตอนนี้เต็มไปด้วยข้าวของกระจัดกระจาย เพราะเจ้าของห้องคนใหม่ไม่มีเวลาที่จะจัดข้าวของเครื่องใช้ให้เข้าที่

หลังจากเรียนจบและต้องย้ายออกจากหอพักที่หน้ามหาวิทยาลัย เมญาวีหรือเมยก็ต้องมาเช่าหอพักเล็ก ๆ เท่ารูหนูอยู่ เพราะเธอยังไม่อยากจะกลับไปที่บ้านตามคำชวนของมารดา

อันที่จริงแล้วมารดาของเธออยากให้กลับไปหางานทำที่บ้านเกิดแต่เมญาวีอยากลองหางานทำที่กรุงเทพก่อน หญิงสาวเรียนจบปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่งด้วยเกรดที่ไม่ค่อยสูงเท่าไหร่ การหางานจึงยากกว่าเพื่อนคนอื่น แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ ไม่ว่าจะมีประกาศรับสมัครที่ไหนหญิงสาวก็ไปยื่นใบสมัครไว้ทุกที่

ในแต่ละวันเมญาวีแทบไม่ได้อยู่ห้องเลย ข้าวของเครื่องใช้ที่ย้ายมาจากหอพักจึงยังไม่ถูกเก็บเข้าที่

“เมย ให้รินช่วยฝากงานให้ไหม” รินรดาเพื่อนสนิทเพียงของหญิงสาว ทนดูไม่ได้กับสภาพของเพื่อนในตอนนี้

“ไม่เป็นไรริน เมยอยากลองหางานด้วยตัวเองก่อน”

“นี่มันเดือนหนึ่งแล้วนะ ที่เมยเป็นแบบนี้”

“เอาน่า ถ้าเมยไม่ไหวจริง ๆ เมยจะบอกนะ”

“แต่ที่รินเห็นมันก็แทบจะไม่ไหวแล้วนะ ได้กินข้าวบ้างหรือเปล่า”

“กินสิ”

“เหรอแล้วกินที่ไหนล่ะ รินถามป้าร้านข้าวข้างล่างแล้ว ป้าบอกว่าเมยไม่แวะที่ร้านแกมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ”

“แหม เมยก็ไปกินร้านอื่นบ้างสิ”

“เอาจริงนะเมย มีเงินพอใช้ไหม เอาของรินก่อนได้นะ” รินรดารู้ว่าตั้งแต่เรียนจบแม่ของเพื่อนไม่ได้ส่งเงินมาให้อีกเพราะอยากให้ลูกสาวกลับไปทำงานใกล้ ๆ บ้าน

“ยังพอมี”

“แล้ววันนี้กินข้าวกับอะไรเหรอ”

“แซนด์วิช”

“เมยจะกินแต่แซนด์วิชไม่ได้นะ”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า กินอะไรมันก็อิ่มเหมือนกัน เมยไม่อยากเสียเวลา”

“ห่วงตัวเองบ้างนะเมย แล้วนี่ไปสมัครมากี่บริษัทแล้ว”

“ไม่รู้สิ เมยไม่ได้นับ”

“แล้วมีที่ไหนเรียกตัวแล้วบ้าง”

“ก็มีบ้างแต่งานไม่ตรงสาย เมยเลยเอาไว้ก่อน”

มีหลายบริษัทที่เรียกเธอเข้าไปสัมภาษณ์แต่พอไปถึงแล้วเมญาวีก็ต้องรีบปฏิเสธ ไม่ใช่เพราะเธอเลือกงานแต่เธอเลือกเจ้านายมากกว่า

ล่าสุดที่เธอไปสัมภาษณ์ หญิงสาวเกือบจะตอบตกลงอยู่แล้ว แต่จังหวะที่กำลังจะออกจากห้อง ผู้บริหารวัยห้าสิบกว่าก็เอามือมาจับบั้นท้ายของเธอ เมญาวีรีบวิ่งออกมาจากที่นั่นและไม่คิดที่จะกลับไปอีกเลย

“เมย เย็นนี้เราไปหาอะไรกินกันนะ เดี๋ยวรินเลี้ยงเอง”

“ไม่เป็นไรริน เมยเกรงใจ”

“เมย รินเบื่อที่ต้องนั่งกินอะไรคนเดียว เมยไปกับรินนะ สัญญาจะไม่เข้าร้านแพง ๆ ให้เมยต้องลำบากใจ”

“งั้นกินส้มตำกันไหม”

“ได้สิ เมยรีบอาบน้ำแต่งตัวเลยนะจะได้รีบไปกัน”

หลังจากออกจากร้านส้มตำเล็กๆ ที่เคยทานด้วยกันเป็นประจำ เมญาวีก็แยกกับเพื่อนที่หน้าร้าน หญิงสาวไม่อยากให้รินรดาเสียเวลาไปส่งที่หอพัก เพราะจากที่นี่นั่งรถเมล์เพียงสองป้ายก็ถึง

เธอแวะที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยหญิงสาวเลือกซื้อขนมขบเคี้ยวและน้ำดื่ม ระหว่างรอชำระเงินก็ยืนมองห่อขนมในมือแล้วก็นึกถึงเรื่องราวในอดีต

เมญาวีจำเหตุการณ์วันนั้นได้ไม่มากเท่าไหร่เพราะมันผ่านมานานแล้ว แต่สิ่งที่ยังจำได้ดี ก็คือขณะที่เธอกำลังร้องไห้เพราะโดนเพื่อนล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาปลอบเธอ เอาขนมให้เธอกิน เด็กผู้ชายคนนั้นบอกกับเธอว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของโรงงานผลิตขนม

‘จริงเหรอคะ’

‘จริงสิ พี่จะหลอกเธอทำไม’

‘หนูอิจฉาพี่จังได้กินแต่ขนมอร่อย ๆ แน่เลย’

‘ถ้าไปเที่ยวกรุงเทพอย่าลืมแวะไปหาพี่นะ พี่จะเอาขนมอร่อย ๆ ให้กิน แต่ต้องกินให้เรียบร้อยนะ ไม่ใช่เลอะอย่างนี้’

เด็กชายล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตนเองมาเช็ดให้

‘พี่ใจดีจัง ถ้าโตขึ้นหนูจะแต่งงานกับพี่นะคะ’

‘เพราะพี่ใจดีเหรอ’

‘เพราะหนูอยากกินขนมเยอะ ๆ’

‘พี่สัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอ แต่ตอนนี้เธอต้องเลิกร้องไห้ก่อน”

เด็กชายวัย 12 ปีให้สัญญากับเด็กหญิงผมเปียซึ่งตอนนั้นเธอเพิ่งมีอายุเพียง 6 ปี

เมญาวีจำได้แค่นั้น เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่ชายใจดีคนนั้นเลยนอกจากรู้แค่ว่าพ่อของเขาเป็นเจ้าของโรงงานผลิตขนม

“278 บาทค่ะ” เสียงพนักงานร้านสะดวกซื้อปลุกหญิงสาวให้ออกจากภวังค์

เธอรีบจ่ายเงินแล้วก็เดินกลับหอพักซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในซอย

เมญาวีไม่รู้ว่าพี่ชายใจดีคนนั้นจะจำเธอได้หรือเปล่าถ้าได้เจอกันอีกครั้ง แม้จะเป็นความทรงจำในช่วงเวลาที่แสนสั้นแต่มันก็ทำเธอยิ้มได้ทุกครั้งที่นึกถึง

ถ้ามีโอกาสได้เจอพี่ชายคนนั้นอีกครั้งเธอก็อยากจะลองทวงสัญญานั้นดูสักครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะยังจำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอได้หรือเปล่า แต่สำหรับเธอนั้นจำได้ดี เธออยากเป็นเจ้าสาวของเขาไม่ใช่เพราะว่าเขามีขนมให้เธอเยอะ ๆ แต่เพราะเธอประทับใจเขาคอยปลอบเธอจนหยุดร้องไห้

พอกลับมาถึงหอพักเมญาวีก็อาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเนื่องจากพรุ่งนี้เธอจะออกไปหาสมัครงานอย่างเคย พอล้มตัวลงนอนเสียงสมาร์ทโฟนก็ดังขึ้น เมื่อเห็นชื่อคนโทรเข้าหญิงสาวก็หน้าเครียด

“สวัสดีค่ะแม่ คิดถึงแม่จังเลย” คนที่กำลังนอนกลิ้งไปมาส่งเสียงอ้อนไปตามสาย

“คิดถึงก็รีบกลับมาอยู่กับแม่สิเมย”

เพชรลดาพูดกับลูกสาวทุกครั้งที่โทรมาหาหลังจากที่เมญาวีเรียนจบ เธออยากให้ลูกสาวเพียงคนเดียวกลับไปอยู่ใกล้ ๆ ครอบครัวของเธอไม่ได้ลำบากเรื่องเงินเลย เพชรลดากับสามีใหม่ช่วยกันทำงานที่ไร่ มีทั้งข้าวโพด ข้าวสาลี หญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ซึ่งภายในไร่ของเธอเลี้ยงโคนมไว้อีกนับร้อยตัว

“แม่คะ เมยขอเวลาอีกเดือนหนึ่งได้ไหมคะ”

“อีกเดือนเดียวนะลูก ถ้าหนูยังหางานทำไม่ได้หนูต้องกลับมาช่วยแม่กับลุง”

“แม่คะ เมยจบบริหารนะคะ แต่คุณลุงกับแม่ทำไร่นะคะ มันคนละอย่างกันเลยนะคะ”

“หนูก็เอาความรู้ที่เรียนมาช่วยบริหารงานในไร่ไงลูก คนงานเราก็เยอะแยะ แม่ไม่ได้ให้หนูลงไปทำงานเองสักหน่อย”

“ขอเวลาเมยนะคะ ถ้าครบเวลาแล้วเมยจะกลับไปอยู่กับแม่กับลุงนะคะ”

“สัญญานะลูก”

“ค่ะแม่ เมยสัญญา เมยรักแม่นะคะ”

“แม่ก็รักเมยนะลูก ดูแลตัวเองด้วย แม่โอนเงินไปให้แล้ว”

“ขอบคุณค่ะแม่”

พอเห็นจำนวนเงินเมญาวียิ้มกว้าง ในที่สุดมารดาก็ใจอ่อนโอนเงินมาให้เธอใช้ ถ้าใช้จ่ายอย่างประหยัดเธอก็อยู่หางานที่นี่ได้อีกหลายเดือนเลยทีเดียว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel