ตอนที่ 8 ไม่อยากเป็นมือที่สาม
อวิ๋นเหยาเหยาก้มหน้าลงไปมอง เห็นเด็กผู้ชายนั่งกุมกระเป๋านักเรียนอยู่ที่ข้างกำแพง โดนเธอเตะแบบนี้หนูน้อยก็ตัวหดลงไปอีกแล้วเงยหน้าขึ้น
เด็กน้อยท่าทางอายุไม่เกินสี่ห้าขวบ ภายใต้หมวกมีดวงตาเป็นประกายเหมือนกับดาวระยิบระยับ
อวิ๋นเหยาเหยารู้สึกผิด “ขอโทษนะ ฉันเตะโดนตรงไหนบ้าง?"
เด็กน้อยขมวดคิ้วและถูเข่าของเขา อวิ๋นเหยาเหยาคิดว่าตัวเองเตะโดนเด็กน้อยเสียแล้ว เธอนั่งยองๆลง “เตะโดนตรงนี้ใช่ไหม ไหนยืนขึ้นให้ฉันดูหน่อย "
เด็กน้อยมองเธอสักพัก อุ้มกระเป๋าหนังสือยืนขึ้น อวิ๋นเหยาเหยาม้วนขากางเกงขึ้นและมองใกล้ ๆ ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็น แต่พอดูดีๆแล้วถึงกับตกใจ
เห็นรอยช้ำที่หัวเข่ามากมายมีรอยถลอกจางๆเด็กน้อยตัวเล็กๆ ดูท่าทางหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
"โดนคนรังแกมาหรอ" อวิ๋นเหยาเหยาถามด้วยความเป็นห่วง ทุกวันนี้มีการทารุณกรรมเด็กเยอะแยะไป
หนูน้อยผู้เย่อหยิ่งไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของเธอ "ใครจะกล้ารังแกผม"
"แล้วรอยฟกช้ำพวกนี้มาจากไหน?"
เขาเบะปากและพูดความจริง "ทะเลาะกับคนอื่นมา"
หนุ่มน้อยวางกระเป๋านักเรียนไว้ข้าง ๆ ก้มตัวลงและจับเอาขากางเกงลง
อวิ๋นเหยาเหยาหัวเราะ “ตัวแค่นี้รู้จักไปทะเลาะกับคนอื่นด้วยหรอหื๊ม..”
เมื่อโดนสบประมาทเด็กน้อยฮึดฮัดสองที พร้อมกล่าว "มันกวนผมนี่พ่อผมบอกแล้วว่า เด็กอย่างผมถ้ามีเรื่องให้บอกผู้ปกครอง ถ้าครั้งต่อไปเขามายั่วผมอีกผมจะให้พ่อไปจัดการ "
“……” อวิ๋นเหยาเหยาอยากจะขำถึงขั้นสุด
"ขำอะไร?" เด็กน้อยจ้องมองเธออย่างเอาเรื่อง
“ฉันขำหรอ?” อวิ๋นเหยาเหยายิ้มให้พร้อมหยิบกระเป๋านักเรียนยื่นให้เขา “อย่าอยู่ในที่แบบนี้คนเดียวรีบกลับไปหาพ่อเร็วเข้า ตรงนี้คนผ่านไปผ่านมาเยอะแยะวุ่นวายประเดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุ"
“ผมยังไปไม่ได้” เด็กน้อยส่ายหัว "พ่อของผมไม่ทันคน คุณย่าเลยให้ผมมาคอยดูพวกเขา"
“……” อวิ๋นเหยาเหยาถอนหายใจ"ต้องให้เด็กน้อยมากำกับเนี่ยนะ งั้นพ่อของเธอคงไม่ทันคนจริงๆแหละ"
“งั้นคุณน้าก็คงไม่ทันคนเหมือนกับพ่อของผม”
อวิ๋นเหยาเหยายกคิ้วสูง "ยังไง?"
“คุณย่าบอกว่าผู้หญิงห้ามดื่มเหล้า เป็นอันตรายต่อร่างกาย” ขณะที่เด็กน้อยพูดเขาโน้มหัวเล็กๆ ไปที่ผมยาวๆ ของเธอพร้อมสูดดมจากนั้นย่นจมูกเล็กน้อยด้วยท่าทีรังเกียจ “ดื่มหนักเกินไปแล้ว..คุณน้าขี้เมา”
นี่เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นเหยาเหยาถูกเด็กสั่งสอน
เธอตะลึง.
น่าขำที่สุด แต่ก็ยังมีความอบอุ่นในใจ
เธอลูบหัวของเด็กน้อย "น้าขี้เมาจะเข้าไปดื่มต่อแล้ว หนูก็รีบกลับไปหาคุณพ่อที่อ่อนต่อโลกของหนูเถอะ"
เด็กน้อยเบ้ปากเล็ก "คุณน้าก็เหมือนกับพ่อของผมแหละ"
อวิ๋นเหยาเหยาหัวเราะ ไม่อยากจะทิ้งเด็กน้อยน่ารักคนนี้ไปเลย แต่เสียดายไม่ใช่ลูกตัวเอง
หลังจากบอกลาเด็กน้อยแล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนกำลังจะดันประตูเข้าห้อง ข้างหลังเธอก็มีเสียง 'ตุบ—-' เสียงอะไรบางอย่างกระทบลงกับพื้น
อวิ๋นเหยาเหยาหยุดก้าวชั่วคราวและหันกลับมาอย่างรวดเร็ว ภาพตรงหน้าของเธอทำให้สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป
เด็กน้อยที่เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ตอนนี้กลับล้มลงบนพื้น อวิ๋นเหยาเหยารู้ดีว่าตัวเธอเองไม่ใช่คนรักเด็กขนาดนั้น แต่เห็นสภาพเด็กน้อยแบบนั้น มันก็บีบหัวใจเธอ
เธอสร่างเมาไปมากกว่าครึ่ง อุ้มเด็กไปที่ด้านนอกแท็กซี่เข้ามาส่งคนพอดี บริกรหน้าร้านอาหารเห็นเธอออกมาจึงรีบเปิดประตูรถ เมื่อได้เห็นเด็กน้อยในอ้อมแขนของเธอแน่นิ่งก็ตกใจ
"คุณผู้หญิงนี่เกิดอะไรขึ้นครับ? "
“ฉันไม่มีเวลามาก" เธอขึ้นรถแล้วบอกคนขับแท็กซี่ว่า "รีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ขับเร็วหน่อย" หลังจากที่พูดจบอวิ๋นเหยาเหยาก็โทรหาเสี่ยวเถาบอกว่าเธอทำธุระครู่เดียวเดี๋ยวกลับไป
เมื่อถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้ให้เด็กเข้าห้องฉุกเฉิน อวิ๋นเหยาเหยาหยิบโทรศัพท์มือถือของเด็กน้อยขึ้นมา แต่ไม่รู้รหัสผ่านจึงติดต่อครอบครัวของเขาไม่ได้แต่แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้นได้เวลาพอดี
คำว่า 'คุณพ่อ 'ปรากฏบนหน้าจอ อวิ๋นเหยาเหยาไม่ลังเลที่จะรับโทรศัพท์
"ห่าวยู๋ว ให้เวลาแกอีกหนึ่งนาทีต้องมาให้ฉันเห็นหน้าเดี๋ยวนี้"น้ำเสียงของผู้ชายปลายสายดูท่าเหมือนจะหมดความอดทน
ห่าวยู๋ว?
เป็นชื่อที่พูดยากจริงๆ
อวิ๋นเหยาเหยาตอบว่า "คุณคะ เขาไปหาคุณตอนนี้ไม่ได้ค่ะ แต่คุณต้องรีบมาหาเขาเดี๋ยวนี้ตอนนี้"
อีกฝ่ายเงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะถามว่า “ทำไมถึงเป็นคุณ?”
คำถามนี้ราวกับว่าเธอกับเขารู้จักกัน
"ลูกชายของคุณห่าวยู๋วเพิ่งเป็นลมหมดสติที่หวางถิงฉันบังเอิญไปพบเขาเข้าก็เลยพาเขามาโรงพยาบาล"
คำพูดของเธอถูกชายคนนั้นแทรก “โรงพยาบาลไหน?”
"โรงพยาบาลเหรินหมินตรงถนนเฉิงหนาน"เธอเข้าใจความกังวลอีกฝ่ายจึงรีบตอบ
"อืม ผมจะรีบไป"
ห้าคำชัดเจน อวิ๋นเหยาเหยาคิดว่าเสียงนี้เป็นเสียงที่คุ้นเคยและน่าฟังเธอคิดอยู่พักหนึ่ง "คุณคะพวกเรารู้จักกันไหม?"
"ไว้เจอกันก่อน"อีกฝ่ายทิ้งไว้แค่เพี่ยงสี่คำง่ายๆ ก่อนจะวางสายไปดื้อๆ อวิ๋นเหยาฟังเสียง ‘ตู๊ด ตู๊ด’ ในโทรศัพท์ คิ้วขมวดเล็กน้อย
ใครบอกเขาล่ะว่าเธอต้องรอเขาอยู่ที่นี้ เธอยังมีแขกรออยู่ที่หวางถิงต้องรีบกลับไปสะสางนะ
แต่เมื่อคิดถึงเด็กน้อยผู้น่าสงสารเหยาเหยาก็ทิ้งเขาไม่ลง ช่างเถอะ คิดจะทำดีก็ต้องทำให้มันถึงที่สุดเถอะ
เธอวางสายโทรศัพท์และหลังจากนั้นไม่นานเธอก็เห็นกลุ่มทีมแพทย์ในชุดกาวน์เดินเข้ามา คนที่ดูก็รู้ว่าน่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลเดินอยู่ด้านหน้าถามพยาบาลว่า “ได้ยินว่าคุณหนูถูกส่งมาที่นี่ตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
"อยู่ข้างในค่ะลองเข้าไปดู?" พวกเขาเดินไปพลางถามไป “ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?”
"เรื่องเล็กหน่า..ในที่สุดตอนนี้เขาก็ฟื้นแล้วแต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่คุณหนูห่าวยู๋วหรือไม่"
คนกลุ่มหนึ่งรีบเข้าไปในห้องรักษา
อวิ๋นเหยาเหยาเห็นเหตุการณ์ก็รู้สึกใจไม่ดี ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะช่วยชีวิตคุณหนูผู้ส่งสูงไว้ได้
หลังจากนั้นไม่นานเด็กน้อยก็ถูกเข็นออกมาจากห้องส่งต่อไปที่ห้องผู้ป่วยวีไอพี เขาหลับแล้ว นอนหลับตาเงียบๆ บนเตียง หน้าซีดและดูน่าสงสาร
“เด็กอาการดีขึ้นแล้วใช่ไหม” อวิ๋นเหยาเหยาเข้าไปถามพยาบาลที่เดินมา
“ค่ะ ไม่เป็นอะไรแล้ว อีกสักครู่ฉีดยาเสร็จคงจะฟื้น"
"งั้นก็ดีแล้วค่ะ" อวิ๋นเหยาเหยาถอนหายใจอย่างโล่งอก
เด็กปลอดภัยแล้วเธอก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ รอจนเห็นว่าพยาบาลฉีดยาให้เด็กน้อย เธอจึงหันหลังเตรียมจะกลับ มือเพิ่งจะแตะลูกบิดประตูก็มีแรงดึงประตูจากด้านนอกอย่างแรง
อวิ๋นเหยาเหยาไม่ทันตั้งตัว ปล่อยมือไม่ทันตัวถลาไปด้านนอกเธอคิดว่าต้องล้มแบบหมดท่าแน่ๆ และเธอก็หลับตารอให้ความเจ็บปวดมาถึง แต่เอวของเธอถูกคว้าไว้ได้ด้วยมืออุ่นๆ
เธอชนเข้าที่หน้าอกของเขาอย่างแรง
“ดื่มไปกี่แก้วเนี่ย?” เสียงทุ้มสุดเซ็กซี่ดังขึ้นเหนือหัวของเธอ
เสียงนี้มัน …คุ้นมาก! อวิ๋นเหยาเหยาเงยหน้ามองผู้ชายตรงหน้า
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนว่าเขาไม่ค่อยจะสบอารมณ์กับร่างที่เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ของเธอ
อวิ๋นเหยาเหยาจ้องเขา "คุณมาที่นี้ได้ยังไง"
สายตาของชายคนนั้นมองผ่านเธอและมองเข้าไปข้างใน อวิ๋นเหยาเหยาก็เข้าใจในทันที "ฉันว่าแล้วตอนคุยโทรศัพท์รู้สึกเสียงมันคุ้นๆ"
เขาคลายคิ้วที่ขมวดเล็กน้อยและเขาก็เหลือบมองเธอ"ความจำดีนี่"
สายตาแบบนี้ทำให้เหยาเหยารู้สึกร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก
เธอเผลอหวนนึกถึงภาพความทรงจำในคืนนั้น และนึกถึงเรื่องที่คลับที่เธอโดนเขาหยอกล้อ ทำให้รู้สึกฉุนเฉียวอยู่บ้าง"ถ้าฉันรู้ว่าพ่อของเด็กคนนั้นคือนาย ฉันกลับไปนานแล้ว”
"ไหนๆ ก็ยังไม่กลับ พวกเราเข้าไปคุยกันหน่อย"ท่าทางอบอุ่นอ่อนโยนยังคงเหมือนเดิม ขณะที่เขาพูดเขาตบเอวของเธอด้วยฝ่ามือใหญ่ๆ "คุณยืนตรงๆ ได้ไหม?"
อวิ๋นเหยาเหยาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ากำลังอยู่ในอ้อมกอดเขา เธอหน้าแดงเขายืดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหันไปด้านข้างและให้เขาปล่อย
เขาเดินเข้าไปในห้องคนไข้
อวี้เฟยเดินตามไปอวิ๋นเหยาเหยายังจำเขาได้แม่น ครั้งก่อนที่ห้องส่วนตัวสุดหรูที่เธอใช้เขาให้เอาเงินไปให้เจ้านายของเขา
อวี้เฟยก้มหัวให้เธอพร้อมกล่าว “สวัสดีครับ” อวิ๋นเหยาเหยายังคงรู้สึกอายเมื่อเธอนึกถึงเรื่องครั้งก่อนเธอจึงแค่ก้มหัวถือเป็นการตอบรับ
ชายคนนั้นเข้าไปในห้องคนไข้ หมอและพยาบาลยืนพูดคุยกันเรื่องอาการของเด็กน้อย
อวิ๋นเหยาเหยายืนรออยู่ด้านนอก ได้ยินไม่ชัดสายตาเธอจับจ้องอยู่ที่ชายคนนั้นเท่านั้น
รูปโฉมของชายคนนี้ไม่มีอะไรจะต้องเอ่ย ไม่ใช่แค่หนึ่งในร้อย ในพัน ในหมื่น ไม่ได้เวอร์เลยสักนิด พยาบาลข้างๆมองเขาอย่างหลงใหล เขินหน้าแดง
ผู้ชายคนนี้เป็นหายนะจริงๆ ใครที่เป็นภรรยาเขา คงจะต้องตามล้างตามเช็ดผู้หญิงที่มาเกาะแกะทุกวัน
ภรรยา? อวิ๋นเหยาเหยานึกถึงเรื่องนี้ ถึงกับตัวแข็งทื่อ
เขามีลูกชายแล้ว ถ้าอย่างนั้นน่าจะภรรยาแล้วสิ
คืนนั้นพวกเขา …
อวิ๋นเหยาเหยาไม่ต้องการเป็นมือที่สาม ขนาดว่าเธอกับโจวซั่วแค่เป็นแฟนกันโดนโจวซั่วหักหลังเธอยังเจ็บแค้นแทบตาย แต่ไม่ได้เลยถ้าเธอจะเป็นมือที่สามแล้วไปทำลายชีวิตคู่ของคนอื่น เธอไม่ได้เลวขนาดนั้น
...