ตอนที่ 9 ฉันยังไม่แต่งงาน
คิดถึงเรื่องนี้เธอก็รู้สึกหนักอก
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นผู้ชายคนนั้นกวักมือเรียกเธอให้เข้าไป อวิ๋นเหยาเหยาเดินเข้าไปเธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนลูกหมาแสนเชื่อง โดนกวักมือเรียกแบบนั้น
เธอเชื่องตั้งแต่เมื่อไหร่ ตัวเองอยู่ต่อหน้าโจวซั่วออกจะหยิ่งทะนงตน
"ฉันต้องไปแล้ว" เธอพูด
“ไปนั่งกินเหล้ากับพวกตาแก่หรอ?” เขาขมวดคิ้วอีกครั้ง
"หืม?" อวิ๋นเหยาเหยาส่ายหน้า "วันนี้ที่สตูดิโอมาเลี้ยงส่งฉันน่ะ ฉันทิ้งพวกเขาไว้ที่หวางถิงถ้าไม่รีบไปก็จะดูไม่ดี"
"เลี้ยงส่งคุณ?" เหมือนเขาจะถามไปอย่างนั้น พลางห่มผ้าให้ลูกชาย
"อืม บอกไปนายก็ไม่เข้าใจหรอก"
อวิ๋นเหยาเหยาคิดแต่ปากมันตอบอัตโนมัติ "พอดีว่าฉัน..โดนแทงข้างหลังน่ะเลยไม่อยากจะอยู่แล้วยื่นใบลาออกไปแล้ว.."
เขาขบเม้มริมฝีปาก "คุณหมายถึงแฟนกากๆคนนั้นของคุณพาแฟนเก่าเข้ามาแย่งงานคุณน่ะหรอ?"
อวิ๋นเหยาเหยาเบิกตา "คุณนี่ ทำไมรู้เรื่องนี้..หรือว่าคืนนั้นฉันพูดให้ฟังหรอ?" เธอกระพริบตา "ฉันคงเมามากจริงๆ" พร้อมกับบ่นพึมพำ
เขาเงียบ
เด็กที่นอนอยู่บนเตียงร้องครางเบาๆ ปากน้อยๆ ของเขาขยับและเขาร้องอย่างน่าสงสาร "หม่ามี๊ เจ็บ…"
อวิ๋นเหยาเหยารู้สึกสงสารเธอทนฟังไม่ไหว
"นายเรียกแม่ของเด็กมาดีกว่า"
ตี้จิ่งเหยียนมองตาเธอ"คุณก็อยู่นี้แล้วไม่ใช่หรอ"
“ฉันจะทำอะไรได้ อีกอย่างฉันต้องไปแล้ว" อวิ๋นเหยาเหยารู้สึกว่า เธอไปสนิทกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วยังจะให้ไปเป็นแม่อีก
“เมื่อก่อนตอนเขาเจ็บคุณย่าเขาก็จะเป็นคนปลอบตลอด เอาหน่า..ฉันไม่ค่อยถนัด "
เป็นน้ำเสียงที่ชัดเจนอีกครั้ง จนกระทั่งเขาเบี่ยงตัวหลบไปอีกทางให้เธอเข้ามาที่ตำแหน่งข้างเตียง
อวิ๋นเหยาเหยามองไปที่เขาและหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เด็กน้อยตะโกนเรียก 'หม่ามี๊' บนเตียงทำให้เธอสะเทือนใจ
อวิ๋นเหยาเหยาเห็นพ่อเขานิ่งเฉย จึงไม่มีทางเลือกยื่นมือไปกุมหลังมือของเด็กน้อยเบาๆ พลางเงยหน้าขึ้นถาม “แบบนี้หรอ?”
สายตาของตี้จิ่งเหยียนมองไปที่บนมือเธอนิ้วขาวสะอาดเรียวยาวของเธอ ในคืนนั้นมือคู่นั้นเคยลูบไล้ไปทั่วร่างกายเขา
ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ชอบทำให้คนอื่นปวดหัวอยู่เรื่อย แถมยังทิ้งรอยกัดไว้ตามตัวเขาอีก แต่พอเป็นมิตรขึ้นมาก็รู้สึกอยากจะครอบครอง ถ้าเธอไม่ร้องไห้ฟูมฟายในคืนนั้น เธอคงจะเสร็จเขาไปแล้ว
นายกำลังคิดอะไรอยู่อวิ๋นเหยาเหยาไม่ได้ยินเขาตอบ แต่เห็นเขาเอาแต่จ้องมองเธอเลยถามอีกครั้ง
ชายคนนั้นละสายตาไป มองไปที่เด็กน้อย “ก็ประมาณนี้แหละ แค่เขาไม่ร้องว่าเจ็บก็โอเคแล้ว "
อวิ๋นเหยาเหยาไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ เธอก็มองไปที่หน้าของเด็กน้อยด้วยใบหน้าเล็ก ๆ อ้วนๆ ของเขาเหมือนหมั่นโถวเล็กๆ น่ารักจริงๆ เหมือนว่าจะเจ็บคิ้วน้อยๆ ขมวดเล็กน้อยทำให้ทนดูไม่ได้
อวิ๋นเหยาเหยากุมมือเด็กน้อยเบาๆ อย่างเอ็นดู"เกิดอะไรขึ้นกับเขา " อวิ๋นเหยาเหยาถามชายที่อยู่ข้างหลัง "พยาบาลบอกว่าอาการเล็กน้อย"
"มันจะเล็กน้อยได้ยังไง ถึงขนาดเป็นลมหมดสติ"
"หอบหืดคนอื่น ๆ หายใจไม่ออกด้วยโรคหอบหืดแต่เด็กคนนี้จะเป็นลมเมื่อเขาป่วย "
"เป็นหนักไหม?"
ตี้จิ่งเหยียนสบตาของเธอทั้งส่ายหน้าและพยักหน้า "ถ้าดูแลดีๆ ก็ไม่อันตรายถึงชีวิต"
อวิ๋นเหยาเหยาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่แม้ว่าจะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำให้เจ็บปวดทรมานได้
ว่าแต่อวิ๋นเหยาเหยาคิดอะไรออกบางอย่าง "คุณแต่งงานหรือยัง?"
ตี้จิางเหยียนสอดมือข้างหนึ่งลงในกระเป๋ากางเกงของเขามองเธอหัวจรดเท้า"อะไรนะ"
อวิ๋นเหยาเหยาหยุดชั่วคราวก่อนที่จะพูดว่า: "ไหนๆ นายก็แต่งงานแล้ว ลูกนายก็โตขนาดนี้แล้วไม่ควรที่จะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกแบบนั้น"
ชายคนนี้ดูเหมือนจะยิ้ม นี่เขาถูกผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้สั่งสอนหรอ
“ไม่บอกตัวเองก่อนหรอ เข้มงวดกับคนอื่นแต่ตัวเองกลับทำตรงกันข้าม"
"แต่ฉันยังไม่ได้แต่งงานนี่!'' เธอแย้ง
"แต่คุณก็เป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ? ควรรักนวลสงวนตัวสิ" เขาหรี่ตา
"ต่อให้ฉันเที่ยวดื่ม ฉันก็ยังบริสุทธิ์อยู่ไม่ใช่หรือไง?" เธอเถียง
"โอ๊ะ..คุณผู้หญิงถ้าคืนนั้นไม่เป็นฉันคุณคิดว่าคุณจะยังบริสุทธิ์อยู่ไหม?"
"นั่นมันเป็นนาย เพราะเป็นนายฉันถึงเลือกไง ถ้าเป็นคนอื่นนายคิดว่าฉันจะยอมหรอ?"
ตีจิ่งเหยียนยิ้ม เขาหรี่ตา "จริงเหรอ? ทำไมล่ะ?"
อวิ๋นเหยาเหยาขมวดคิ้ว "ก็นายหล่อ แค่นั้นแหล่ะ แต่ถ้าฉันรู้ว่านายมีครอบครัวแล้วฉันก็จะไม่ยุ่งกับนายหรอก ฉันไม่อยากเป็นมือที่สามที่ไปทำลายครอบครัวของใครเค้า"
คำพูดของเธอทำให้ชายคนนั้นหัวเราะ
อวิ๋นเหยาเหยารู้สึกไม่พอใจ รอยยิ้มนั้นเหมือนว่ากำลังดูถูกเธอ เธอรู้สึกหงุดหงิด "นายหัวเราะอะไร"
ตี้จิ่งเหยียนก้มหัวลงมามองเธอใกล้ ๆ "ก็แค่คืนหนึ่งที่ไม่มีอะไรเกินเลย จะไปทำลายครอบครัวใครได้"
ทันใดนั้นเขาก็เดินเข้ามาประชิดตัว ทำให้สมองของอวิ๋นเหยาเหยาว่างเปล่า
เนื่องจากเธอดื่มเหล้ามา รู้สึกขาดอากาศ เหมือนจะเป็นลม
เธอถอยออกไปโดยสัญชาตญาณหลังติดขอบเตียง ร่างของเธอเซลงไปทางเตียงข้างหลังเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีเด็กน้อยนอนอยู่ สองมือก็เอื้อมไปเกาะผู้ชายด้านหน้าเธอแทนโดยไม่รู้ตัว
ตี้จิ่งเหยียนเหยียดแขนออกเพื่อรับเธอไว้ในอ้อมกอดเธอถูกกอดเบา ๆในอ้อมแขนของเขาและทั้งสองก็ตัวแนบชิดติดกัน
อวิ๋นเหยาเหยาฉุกคิดขึ้นมาได้เธอดึงคอเสื้อของเขาและหันไปมองเด็กน้อยที่นอนอยู่ข้างหลัง เมื่อเห็นว่าเขายังคงนอนหลับอย่างสบายเธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อหันกลับไปไม่นึกว่าจะใกล้ผู้ชายคนนั้นขนาดนี้และแก้มของเธอก็แตะคางของผู้ชายคนนั้น
ริมฝีปากของเธอสัมผัสกับลูกกระเดือกสุดเซ็กซี่ของเขาเขาหายใจแรงและมองลงไปที่ดวงตาของเธอ
ร่างกายของอวิ๋นเหยาเหยาว้าวุ่นไปหมดคนทั้งสองคนร่างใกล้ชิดติดกัน เธอสัมผัสได้ถึงปฏิกิริยาทางกายภาพของผู้ชายคนนั้นตรงช่วงล่างหน้าขาของเธอ
มันทั้งร้อนและทั้งแข็งเหมือนแท่งเหล็กที่กำลังทิ่มแทงเธอ
มีเหงื่อออกจากปลายจมูกของเธอและเธอบังคับตัวเองไม่ได้
ครั้งก่อนที่เธอดื่มจนเมาแล้วมีปากเสียงกับเขา ตอนนั้นเองเธอก็จำอะไรไม่ได้แล้วแต่ตอนนี้เธอมีสติ
เธอรู้ดีท่าทางอันคลุมเครือของทั้งสองตอนนี้นั้นอันตรายยิ่งนัก อวิ๋นเหยาเหยาหัวใจเต้นแรงเธอสูดลมหายใจและผลักไหล่ของเขาออก แต่ชายคนนี้แข็งปานหิน
เธอพยายามผลักอยู่หลายครั้งไม่เป็นผล เหนื่อยหิบจึงแหงนหน้าขึ้นมองเขา
ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้นริมฝีปากบางของเขาก็ประกบลงมาในทันที เขาจูบเธออีกแล้ว ตี้จิ่งเหยียนกดสะโพกของเธอแน่นอีกมือกดท้ายทอยของเธอให้รับการบดจูบที่ดูดดื่มและยาวนานนี้ของเขา
ลิ้นหนาสอดเข้าไปดูดเรียวลิ้นของเธอร่างทั้งร่างของอวิ๋นเหยาเหยาอ่อนระทวยลง มือที่คิดว่าจะผลักเขาออกตอนนี้กลับกำเสื้อของเขาเอาไว้แน่น
ก่อนที่เขาจะถอนจุมพิตออกเขาขบริมฝีปากของเธอเบาๆทำให้อวิ๋นเหยาเหยารู้สึกตัว เธอหอบหายใจผลักเขาออก
อวิ๋นเหยาเหยาขมวดคิ้ว ผลักเขาออกแล้วเธอก็เอ่ยขึ้น "ฉัน ฉันขอตัวก่อนนะ"
"อืม." เขาไม่รั้งเธอต่อเขาเดินไปส่งเธอที่ประตูยื่นมือออกไปเปิดประตูให้เธอ อวิ๋นเหยาเหยาก้าวขาได้เพียงก้าวเดียวก็ได้ยินเขาพูด "ฉันยังไม่แต่งงาน"
ยังไม่แต่งงาน? แต่เขามีลูกชาย ดูเหมือนว่าจะพยานรักตัวน้อยในวัยเยาว์
จากนั้นอวิ๋นเหยาเหยาฉุกคิด นี่มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย
เมื่อหันมองกลับไปเธอมองชายคนนั้นและพูดอย่างชัดเจนว่า "ฉันไม่สนใจ!"
ตี้จิ่งเหยียนหน้าบึ้ง อวิ๋นเหยาเหยาไม่สนใจเขาและเดินจากไป
...