บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 ความจริงที่ปกปิด [2/2]

“สุขสันต์วันเกิดนะกันต์”

ดลภาเดินถือเค้กมาให้คนที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะ กันตรวีที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่เงยหน้าส่งยิ้มให้แฟนสาว

“ต้องถ่ายคลิปด้วยเหรอ”

“เป็นความทรงจำของเราไง” ดลภายิ้มหวานอยู่หลังกล้อง ยื่นเค้กให้เขา “รีบเป่าสิเดี๋ยวเทียนก็ละลาย”

กันตรวีดีใจที่วันเกิดในปีนี้มีเธอ เป่าเทียนจนหมด อดไม่ใจไม่ไหวยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มคนที่อยู่หลังกล้องฟอดใหญ่

“เดียร์น่ารักจัง ขอบคุณนะครับ”

ดลภาแพลนกล้องออกไปข้างหน้าให้เห็นเราทั้งคู่อยู่ในเฟรม จะได้แคปหน้าจอเอาไว้บันทึกเป็นรูป จากนั้นก็มานั่งกินเค้กด้วยโดยที่ยังมีกล้องถ่ายวิดีโอไว้อยู่

“พรุ่งนี้เลิกเรียนเราไปกินข้าวร้านที่เดียร์อยากกินกันไหม”

“จำได้ด้วยเหรอว่าร้านไหน”

“ก็ร้านที่ขับรถผ่านอยู่ทุกวัน”

ดลภาพยักหน้าตักเค้กเข้าปาก ดีใจที่เขาจำได้ ร้านที่ว่าเธอบอกเขาไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน “ดีใจที่จำได้”

“ก็ใส่ใจแฟนไง”

ดลภาเบ้หน้าอย่างมันไส้ ปาดครีมเค้กยื่นไปจ่อปากเค้า “วันเกิดปีนี้อยากได้อะไร”

กันตรวีมองตาเธออย่างสื่อความหมาย ก่อนจะอ้าปากรับเค้กตรงหน้าช้าๆ “อยากได้เดียร์”

คนฟังหน้าแดงไหนจะสายตาแพรวพราวที่ส่งมาให้กันอีก ดลภาอมยิ้มยื่นหน้าใกล้เขียนแฟนหนุ่ม ริมฝีแทบห่างกันไมถึงสองนิ้ว “รักเดียร์หรือเปล่า”

กันตรวีจ้องริมฝีปากที่มีครีมสีขาวติดอยู่ เผลอแลบลิ้นเลียปากอย่างกระหายก่อนจะช้อนมองดวงตาใส เขารู้ดลภาต้องการยั่ว ซึ่งเขาก็ไม่ปฏิเสธว่าชอบ

“รักมาก เรียนจบแต่งงานกันนะเดียร์”

ภาพที่ตัดไปทำให้คนดูรู้ได้ทันทีว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น พัทธนันท์น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว เธอสับสนกับตัวเองว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร โกรธ เสียใจ ผิดหวัง แต่ยอมรับว่าข้างในมันเจ็บปวดเหลือเกิน ยามเห็นความรักในอดีตของสามีกับคนที่เขาบอกว่าเป็นแค่เพียงคนรู้จัก พัทธนันท์ดูวิดีโอมากมายที่ถูกเก็บไว้ เหมือนตอกย้ำว่าความรักของเรา กันตรวีไม่มีความซื่อสัตย์ให้กันเลย

กันตรวีโกหกหน้าตายว่ามีฝ่ายเป็นคนรู้จัก แถมยังเป็นแค่คนรู้จักห่างๆ นั้นเป็นสถานะที่เขาให้กับผู้หญิงคนนั้น ย้อนกลับไปนึกถึงเมื่อเดือนก่อน สองคนนั้นทำเหมือนเธอเป็นคนโง่ ที่เขาทั้งสองสุมหัวกันหลอก

เสียงโทรศัพทท์ดังขึ้นดึงสติให้พัทธนันท์กลับมาอยู่กับปัจจุบัน เธอยกมือเช็ดน้ำตาลวกๆ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่แผดเสียงร้อน ครั้นเห็นชื่อคนที่โทรมา พัทธนันท์เม้มปากอย่างชั่งใจ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจรับ

“ค่ะ” พยายามควบคุมเสียงให้ปกติที่สุด

“พร้อมจะมากี่โมง” กันตรวีถามภรรยาเห็นเธอส่งข้อความมาบอกว่าจะเข้ามาหา

พัทธนันท์ที่พึ่งรู้ว่าสามีโกหก ณ เวลานี้เธอไม่อยากเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ “เค้าคงไม่ไปแล้ว”

“ทำไม” กันตรวีเดินหลบมาเสียงรบกวน “เสียงแปลกๆ ไม่สบายเหรอ”

“เปล่าค่ะ

“แล้วทำไมถึงจะไม่มาแล้ว” เขาถามย้ำ

“ไปค่ะไป เค้าปั่นน้ำผลไม้ไว้แล้วยังไงก็ต้องไปนั้นแหละ” เธอคิดไม่ออกว่าไม่ไปด้วยสาเหตุอะไร

“ถ้าออกมาแล้วโทรบอกด้วยนะ”

“ทำไมต้องโทรบอกค่ะ”

“อะไร” กันตรวีเองก็ไม่เข้าใจกับคำถามของภรรยา “ก็โทรบอกเป็นปกติอยู่แล้ว”

คนที่รู้ความลับของสามีคิดจิตนาการต่างๆ นานาไปเองว่ากันตรวีปกปิดอะไรไว้ ถึงต้องให้โทรบอกตอนออกจากบ้าน

“ได้ค่ะ”

พัทธนันท์ถอนหายใจเหลือบมองภาพที่ยังฉายค้างไว้อยู่ สิ่งที่ยังติดในใจคือ

เหตุใดทำไมกันตรวีต้องโกหก เขากลัวเธอไม่เชื่อใจเขาเหรอ ที่ผ่านมาไม่เคยสักครั้งที่เธอไม่เชื่อใจสามี กันตรวีผู้ที่ไม่ชอบคนโกหก และไม่ว่าเรื่องอะไรเธอก็ไม่เคยโกหกเขา ถึงเรื่องนั้นเธอจะโดนเขาตำหนิก็ไม่เคย แต่ว่าวันนี้กันตรวีกลับเป็นคนทำมันเสียเอง รวมถึงผู้หญิงคนนั้นด้วย

พัทธนันท์มาถึงอู่เครื่องยนต์ภายในสิบห้านาทีหลังจากที่โทรบอกเขา เธอเอาน้ำผลไม้ปั่นที่เตรียมมาจากบ้านให้สามี

“แล้วลังอะไรหลังรถ”

“ลังเสื้อผ้า เค้าเก็บมาให้เตย”

กันตรวีพยักหน้า เห็นสีหน้าภรรยาผิดปกติแล้วเป็นห่วง “เดี๋ยวพี่ยกให้ รีบเข้าไปข้างในเถอะมันร้อน”

เธอรับแก้วจากเขาแล้วเดินเข้าไปในออฟฟิศโดยมีเขาเดินถือลังตามหลังเข้ามา เมื่อเรียบร้อยเขาก็ออกกลับไปทำงาน โดยมีแก้วน้ำฝีมือภรรยาติดมือไปด้วย

“พี่เอาเสื้อผ้ามาให้เตยแล้วนะ”

“เยอะจังพี่พร้อม” เตยเห็นยังใบใหญ่แล้วร้องดีใจ รีบยกมือไหว้ “ขอบคุณมากนะคะ”

“เอาไปเลือกดูนะ” พัทธนันท์เปิดลังคลี่เสื้อผ้าให้ดู “ผ้าดีๆ ทั้งนั้นเลยอย่าทิ้งนะเสียดาย”

“ไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ เตยจะใส่ทุกตัวเลย” เตยยิ้มดีใจ เสื้อผ้าเจ้านายสวยๆ ทั้งนั้น “ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่พร้อม”

พัทธนันท์พยักหน้ายิ้มให้อีกฝ่าย ดีใจที่เห็นคนรับมีความสุข สองสาวหยิบ

เสื้อผ้าขึ้มาดูส่วนเจ้าของคนเก่าก็เล่าว่าเคยใส่ไปไหนมาบ้าง แม้ดวงตาจะบอบช้ำจากการร้องไห้

“เออเตย พี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม”

“ได้ค่ะ” เตยพับเสื้อใส่กลับไปในลัง เงยหน้ามองเจ้านายที่ดูอ้ำๆ อึ้งๆ “มีอะไรเหรอคะ ถามเตยได้”

พัทธนันท์ชั่งใจไม่กล้าถาม แต่ก็อยากรู้ “เตยจำผู้หญิงที่ชื่อเดียร์ได้ไหม ที่เอารถมาซ่อมเกือบสองเดือนแล้ว”

“เดียร์… จำได้ค่ะคนสวยๆ คนนั้น”

“เขามาที่นี่อีกหรือเปล่า” ที่ถามเพราะเธอไม่ได้เข้ามาที่นี่ทุกวัน

เตยพยายามนึก จำได้ว่าอีกฝ่ายเคยมาครั้งหนึ่ง “เคยค่ะ มาทำน้ำมันเบรก”

“นานยัง”

“สองอาทิตย์มั้งค่ะ”

เตยสงสัยมองเจ้านายที่มีสีหน้ากังวล “มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“เปล่า” พัทธนันท์มองออกไปข้างนอกไม่เห็นกันตรวีอยู่แถวนี้ หันกลับมามองเตยอย่างมีแผนในใจ “เตยช่วยอะไรหน่อยได้ไหม”

เตยพยักหน้าใจเต้นแรง ถามแบบนี้อย่าบอกนะว่า…

“ถ้าผู้หญิงคนนั้นเขามาอีก โทรบอกพี่หน่อยได้ไหม” เห็นสีหน้าไม่ดีของเจ้านายแล้วเตยรีบพยักหน้า “โทรเบอร์ส่วนตัว”

“ได้ค่ะ”

พัทธนันท์รู้สึกไว้ใจคนตรงหน้า มั่นใจว่าเตยไว้ใจได้ “สัญญานะเตยว่าห้ามบอกใคร รู้กันแค่สองคน”

“สัญญาค่ะพี่พร้อม”

เตยให้คำสัญญากับเจ้านายที่พึ่งมาทำงานด้วยได้แค่สองเดือน พัทธนันท์ไม่เหมือนเจ้านายแต่เปรียบเสมือนพี่สาวที่ใจดีมาก ไปไหนจะมีของฝากติดมือมาให้เสมอ อีกทั้งยังพูดเพราะใจดี ไม่ข่มเหง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะให้ทำอะไรเธอยินดีช่วยเสมอ แม้จะสงสัยแต่จำไว้ว่าไม่ใช่เรื่องตัวเอง รู้เท่าที่ควรจะรู้ เพราะถึงอย่างไรกันตรวีก็เป็นเจ้านายเธออีกคน

พัทธนันท์เก็บความอึดอัดครั้งนี้ไม่ไหว ทุกครั้งที่มองหน้าสามีภาพวิดีโอตอนที่พวกเขารักกันมันแว๊บขึ้นมาในหัว เธอไม่ควรเอาเรื่องในอดีตมาคิด แต่เธอไม่สามารถห้ามตัวเองได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกลไกธรรมชาติ

กันตรวีเองก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของภรรยา พัทธนันท์ไหวตัวจนเขาเอะใจ ครั้นเวลาเขายื่นมือไปจับ พัทธนันท์จะมีท่าทีชะงัก สะดุ้ง หรือไม่ก็ชักกลับ แต่เหมือนพอเธอตั้งสติได้ก็ทำตัวเมือนปกติ

“พี่กันต์” พัทธนันท์เรียกสามีที่นอนอยู่ข้างๆ

กันตรวีครางรับใบลำคอ ทันทีที่ตวัดแขนกอดภรรยา เธอก็สะดุ้งราวกับเขาเป็นของร้อน “เนี่ย ทำไมต้องสะดุ้งด้วย หลายครั้งแล้วนะ”

พัทธนันนท์หน้าเสียเธอก็ไม่รู้ตัวเอง จับมือเขาให้มากอดตัวเองอีกครั้ง “เมื่อกี้ตัวพี่เย็นอะ”

“เห็นหลายครั้งแล้ว เป็นเพราะพร้อมใจลอยมากกว่าไม่ได้สนใจตรงหน้า” พอบ่อยเข้ากันตรวีก็เสียความมั่นใจเหมือนกัน “แล้วเมื่อกี้จะพูดอะไรนะ”

เธอพลิกตัวกอดสามีชุกหน้าแนบอกอุ่น

“เค้าจะขอกลับบ้าน ช่วงนี้ม้าเจ็บเข่าอยากไปหาค่ะ”

“เป็นนานยัง”

“ประมาณอาทิตย์หนึ่งได้นะ” พัทธนันท์ช้อนตามองสามีที่มองเธออยู่เช่นกัน “ให้เค้าไปได้ไหม”

“จะไปวันไหน ถ้าจะไปพี่ต้องกลับรถไปส่ง” บ้านภรรยาอยู่ต่างจังหวัดเค้าไม่อยากให้เธอขับรถไปเอง

“วันพุธค่ะ” วันนี้คืนวันจันทร์ “ไม่เป็นไรค่ะ ตอนกลางวันขับได้”

“ไปเร็วจังนะ” กันตรวีขมวดคิ้วก้มมองภรรยา ยกมือลูบหัวอย่างเอ็นดู “แน่ใจว่าขับเองได้”

“ค่ะ”

“ไม่ไว้ใจพร้อมขับรถเลย” คราวนี้กันตรวีส่ายหน้า “พี่ขับไปส่งดีกว่า หรือนั่งเครื่องไปดีกว่ามั้ย”

“แล้วพี่ไม่ไปด้วยเหรอ” คำถามลองใจ ถ้าเป็นปกติเธออยากให้เขาไปด้วยแต่ครั้งนี้ขอยกเว้น

“พร้อมไม่ได้บอกล่วงหน้า ไปไม่ได้” กันตรวีคิดว่าตัวเองมีเหตุผล “ช่างมาทำอู่ทุกวัน พี่ต้องอยู่ดู”

พัทธนันท์พยักหน้าไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะเดาคำตอบล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว

พัทธนันท์ไม่ได้โกหกเรื่องที่ม้าเจ็บเข่า เพียงแค่ท่านไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่เหตุที่เธออยากกลับบ้านเพราะมีนัดพูดคุยกับปัทมา เธออึดอัดใจกับที่รู้เรื่องว่ากันตรวีโกหก เป็นคำถามที่ติดค้างอยู่ในใจว่าเหตุใดเขาถึงไม่บอกความจริง

กันตรวีขับรถมาส่งตั้งแต่เช้ามืด แล้วเดินทางกลับเพียงลำพัง

“ม้าไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย” ไพลินบอกลูกสาวที่นั่งเล่นอยู่ข้างๆ “แล้วมานี่ พี่เขาจะหุงพาข้าวกินที่ไหน”

“พร้อมทำแช่ฟรีชไว้ค่ะ”

“แล้วจะอยู่ถึงวันไหน ม้าว่างจะได้ขึ้นไปส่ง จะไปเยี่ยมแม่แก้วด้วยคราวก่อนเจอกันน้อย”

“อาทิตย์หนึ่งค่ะ”

“ทำไมอยู่นานจังลูก” ไพลินสงสัย ครั้นเห็นลูกสีหน้าแปลกๆ แล้วฉงน “ทะเลาะกับพี่เขาเหรอ”

พัทธนันท์ส่ายหน้า เธอไม่กล้าเอาเรื่องพวกนั้นมาปรึกษาที่บ้าน “เปล่าค่ะ”

ไพลินจับหน้าลูกให้เงยมาสบตาตน คนเป็นแม่ยอมรู้จักลูกตัวเองดี “บอกม้าได้นะลูก”

“ไม่มีอะไรค่ะ” พัทธนันท์ส่งยิ้มให้คนเป็นแม่ พลางกอดแขนออดอ้อน “คิดถึงเค้กกล้วยหอมฝีมือม้าจัง ทำให้กินหน่อยค่ะ”

“งั้นไปทำกัน เดี๋ยวม้าสอนด้วย กลับบ้านจะได้ลองทำกินเอง”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel