บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ใจสลาย [2/2]

ปกติวันที่สองอาการปวดท้องโรคกระเพาะของพัทธนันท์จะต้องดีขึ้นแล้ว แต่ไหนครั้งนี้ดูเหมือนมันจะยังไม่ดีขึ้นเลย กันตรวีใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดตัวให้ภรรยา ถึงเธอจะไม่มีไข้แต่เขาไม่อยากเสี่ยงให้อาบน้ำ กลัวว่าจู่ๆ ไข้จะตามมาแล้วจะหนักกว่าเดิม

“พรุ่งนี้ต้องไปโรงพยาบาลแล้วพร้อม” ถ้าไม่ติดว่าไม่มีใครดูอู่เขาคงรีบพาเธอไปหาหมอ

พัทธนันท์พยักหน้าเห็นด้วย เธอไม่เคยปวดท้องเช่นนี้ไม่ก่อน ไม่ว่าท้องเสีย โรคกระเพาะ หรือเป็นประจำเดือนก็ไม่เคยปวดหน่วงขนาดนี้

“วันนี้พี่คงกลับดึกอีกวันนะ เคลียร์รถให้หมดพรุ่งนี้จะปิดร้านแล้วไปหาหมอ”

“ค่ะ”

กันตรวีออกไปทำงานเพียงลำพังเฉกเช่นเมื่อวาน ก่อนไปก็จัดเตรียมทุกอย่างให้พัทธนันท์เหมือนเดิมและยังคอยโทรหาทุกๆ ชั่วโมง

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในจังหวะที่พัทธนันท์ก้าวออกจากห้องน้ำ ร่างบางหย่อนสะโพกลงระมัดระวังเพราะตอนนี้ทำอะไรนิดหน่อยก็สะเทียนเจ็บระบมถึงท้อง รายชื่อแสดงหน้าจอไม่ใช่กันตรวีอย่างที่คาดเดาเอาไว้ แต่ปรากฏชื่อเพื่อนสนิท

“ว่าไงแป้ง”

“แกงานฉันเสร็จเร็ว วันนี้แกว่างปะ ไปกินข้าวกัน” เดิมทีนัดของสองสาวคือวันพรุ่งนี้ แต่งานของปัทมาเสร็จเร็วเหนือการคาดหมาย เธอจึงมีเวลาว่างในวันศุกร์

“เค้าปวดท้องวันนี้ไม่น่าไหว” พัทธนันท์เอนหลังพิงโซฟา มือบางคอยลูบท้องปลอยประโลนหวังให้มันหายปวด

“อ้าว แล้วตอนนี้อยู่ไหน ปวดมานานยัง” เธอยิ้มจางรับรู้ถึงความเป็นห่วงผ่านน้ำเสียงนั้น

“อยู่บ้าน ปวดมาสองวันแล้ว”

“แล้วสามีแกอะ” ปัทมาไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ รีบลุกขึ้นหยิบกุญแจรถ “งั้นฉันไปหาแกที่บ้านดีกว่า อยากกินอะไรไหม”

“อะไรก็ได้แกซื้อมาเถอะ”

ราวๆ หนึ่งชั่วโมงต่อมาปัทมาก็ปรากฏตัวอยู่ในบ้านเพื่อน มือสองข้างหอบหิ้วของโปรดทั้งคู่มาเต็มที่ สองสาวเพื่อนซี้ช่วยกันจัดแจงใส่จาน

“ทำไมซื้อมาเยอะจัง” พัทธนันท์รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยหลังจากกินยาแก้ปวดไป

“อยากกินมากอะ ตอนไปตรวจบัญชีเครียดกินอะไรไม่ลงเลย” ปัทมาเทส้มตำปูปลาร้ากลิ่นฟุ้งไปทั่งบ้าน

“ส้มตำปูปลาร้าเจ้าดังเลยนะเนี่ย โชคดีตอนไปคนน้อย”

พัทธนันท์มองส้มตำในจานแล้วน้ำลายแตก อดใจไม่ไหวหยิบส้อมตักเส้นมะละกอเข้าปากไม่รอใคร

“อร่อยปะ”

“อร่อยมาก ไมได้กินนานแล้วอะ” ไม่เพียงแค่พูดแต่จิ้มข้าวเหนียวกับน้ำส้มตำเข้าปาก

“แล้วแกปวดท้องกินได้เหรอ”

“ได้ มันไม่เผ็ดขนาดนั้น”

สองเพื่อนซี้กินกันอย่างเอร็ดอร่อยแต่ดูเหมือนคนป่วยจะกินได้เยอะกว่าคนปกติเสียอีก พัทธนันท์เจริญอาหารยามได้กินของที่ชอบแถมยังได้เม้าท์มอยตามประสาผู้หญิงจนลืมอาการปวดท้องไปชั่วขณะ

กันตรวีโทรถามไถ่พัทธนันท์ รับรู้เรื่องว่าปัทมามาเยี่ยมที่บ้านแล้วรู้สึกสบายใจกว่าเดิม อีกอย่างฝ่ายเพื่อนสนิทภรรยารับปากว่าจะอยู่เป็นเพื่อนภรรยาจนกว่าเขาจะกลับ

สองทุ่มเศษหลังจากวางมือซ่อมรถลูกค้าคันสุดท้ายเสร็จแล้ว ลูกน้องทุกคนเริ่มเคลียร์ทำความสะอาดในอู่ที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน ส่วนคนเป็นเจ้านายหลังจากเคลียร์ภายในออฟฟิศเสร็จ มือหนาหยิบสมุดบันทึกเวลาเข้างานเตรียมเอากลับไปทำที่บ้านเพราะต้องลงเวลาโอทีให้กับลูกน้อง

“ดึกแล้วกลับกันก่อนเลย เดี๋ยวปิดประตูเอง”

เมื่อได้ยินเจ้านายอนุญาตทุกคนก็กุลีกุจอกลับเพราะเหนื่อยจากการทำงานล่วงเวลามาสองวันติดแต่ก็ต้องยอมรับว่ารายได้คุ้มค่ากับความเหนื่อย

ไม่ใช่แค่เพียงลูกน้องที่เหนื่อย กันตรวีก็ไม่ต่างกัน เขาหัวหมุนเทียวเข้าเทียวออกออฟฟิศตลอดทั้งวันจนมึนหัวตาลายในบางครั้ง ถ้ามีพัทธนันท์อยู่ช่วยคงบรรเทาความเหนื่อยเขาลงได้ อย่างน้อยยามเห็นน้องยิ้มพร้อมส่งแก้วน้ำเย็นๆ พลอยให้เขารู้สึกหายเหนื่อยราวปลิดทิ้ง

แรงสั่นกับเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่อยู่ใต้กางเกงยีน พยายามเหยียดขาสอดมือหยิบมันออกมา ละสายตาจากถนนมองหน้าจอรายชื่อถึงรู้ว่าคนที่โทรมาคือพลพล ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจแล้วกดรับสาย

“มีอะไร”

“กูมีอะไรให้มึงดู เปิดกล้องแป๊บ” พลพลเปิดกล้องแล้วแพลนกล้องไปรอบๆ เห็นเพื่อนสมัยเรียนรวมตัวกันหลายสิบคน อีกฝ่ายพูดอย่างตื่นเต้น “เพื่อนอยู่กันเต็มที่ร้านกู มึงมาดิ”

“ทำไมไม่บอกล่วงหน้าวะ”

“ไม่ได้นัดใครล่วงหน้า ชวนปุ๊ปปั๊บมันก็มากันทันที” พลพลเดินห่างจากกลุ่มเพื่อนเพราะไม่ค่อยได้ยินเสียงปลายสาย “แล้วมึงขับรถจะไปไหน กลับบ้านเหรอ แวะมาที่ร้านกูก่อนดิ”

“กูต้องกลับบ้าน พร้อมไม่สบาย” เขาวางโทรศัพท์ไว้บนตักตั้งหน้าตั้งตาขับรถ

“อ้าว” พลพลว่าอย่างเสียดาย เมียเพื่อนก็เป็นห่วงแต่นานๆ ครั้งเพื่อนจะบังเอิญว่างตรงกัน “มึงมาสักครึ่งชั่วโมงไม่ได้เหรอวะ นี่ไอ้โอไอ้ไกด์ก็รอมึงอยู่นะเว่ย”

คนฟังขมวดคิ้วอย่างลำบากใจ เพื่อนบางคนไม่ได้เจอกันตั้งแต่งานแต่ง บาง

คนก็นานกว่านั้น แล้วไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเจอกันอีกเมื่อไหร่ ถ้าพลาดไปก็คงรู้สึกเสียดายไม่น้อย

“เออเดี๋ยวไป แค่ครึ่งชั่วโมงนะมึง” เขาตบไฟเลี้ยวขวาเตรียมเข้ายูเทิร์น “แล้วกูไม่ดื่มนะห้ามให้ใครบังคับกู”

“เออๆ กูไม่ให้ใครบังคับมึงหรอก”

กันตรวียูเทิร์นกลับรถเปลี่ยนเส้นทาง อย่างน้อยตอนนี้พัทธนันท์ก็มีปัทมาอยู่เป็นเพื่อน เขาขอเวลาแค่สามสิบนาทีแล้วจะรีบกลับ

“ฉันว่าแกไปหาหมอเถอะ”

ปัทมาเป็นห่วงคนที่ปวดท้องจนตัวงอ หลังจากช่วยกันจัดการอาหารที่เธอซื้อมาจนหมดเกลี้ยง ชั่วโมงต่อมาพัทธนันท์ก็เริ่มบ่นปวดท้องจนถึงตอนนี้ผ่านมาร่วมสี่ชั่วโมงดูเหมือนอาการจะยิ่งแย่ลง ยาที่กินได้ก็ไม่ช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น

“เค้ารอพี่กันต์ก่อน” พัทธนันท์นอนงอตัวตามสัญชาตญาณ ใบหน้าบิดเบ้เมื่ออาการเจ็บปวดเพิ่มขึ้นทวีคูณ “แป้งโทรหาพี่กันต์หน่อย เบอร์แรกเลย”

หญิงสาวคว้าโทรศัพท์ของเพื่อนกดจิ้มตามคำบอกแล้วกดโทรออก ภาวนาให้อีกฝ่ายรับเร็วๆ ทว่ามีเพียงเสียงตอบรับอัตโนมัติจากระบบเท่านั้น

‘ไม่สามารถติดต่อหมายเลขที่ท่านเรียกได้ในขณะนี้’

ครั้นกดโทรอีกกี่หนคำตอบก็ยังเป็นเหมือนเดิม ปัทมานึกโมโหสามีเพื่อน เธอรับปากว่าจะอยู่เป็นพัทธนันท์จนกว่าเขาจะกลับแต่ตอนนี้ดันติดต่อไม่ได้ซะงั้น

สายตาหันไปกลับมองคนที่นอนทรมานแล้วสงสาร จะปล่อยให้เจ็บแบบนี้คงไม่ดีแน่ หากอาการที่เป็นไม่ใช่โรคกระเพาะแต่เป็นไส้ติ่งล่ะ แล้วถ้าเกิดมันแตกขึ้นมา

อาจตายได้เลยนะ ไม่ได้แช่งแต่ขอคิดให้มันน่ากลัวไว้ก่อน

“ฉันโทรหาเป็นสิบสายแล้วไม่รับ” ปัทมาถอดใจเตรียมเก็บของใส่กระเป๋า “ไม่ต้องรอแล้วผัวแกอะ เดี๋ยวฉันพาไปเอง”

สุดท้ายพัทธนันท์ก็พยักหน้ายอมตกลงไปกับเพื่อน ปัทมาขับรถเร็วที่สุดในชีวิต ทันทีทีที่รถจอดหน้าห้องฉุกเฉินสารถีกุลีกุจอลงจากรถรีบให้เวรเปลรีบเอารถเข็นมารับเพื่อนเธอ

“โทรหาพี่กันต์ด้วยนะแป้ง”

พัทธนันท์บอกเพื่อนก่อนจะโดนเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไป ส่วนหญิงสาวอีกคนก็ต้องเอารถไปจอดแต่นิ้วคอยกดโทรหากันตรวีตลอดเวลา

“เมื่อไหร่จะติดต่อได้เนี้ย”

ทันทีที่เข้ามาในห้องฉุกเฉิน แพทย์ได้ทำการฉีดยาเพื่อบรรเทาอาการให้คนไข้ก่อนแล้วจึงมาซักถามอาการตามขั้นตอน

“ปวดมาตั้งแต่วันไหนแล้วคะ”

“ช่วงกลางคืนของเมื่อวานซืนค่ะ” ความเจ็บปวดเริ่มทุเลาลงเล็กน้อย “เคยเป็นโรคกระเพาะนะคะ แต่ไม่เคยปวดแบบนี้”

แพทย์หญิงพยักหน้า “จากในฐานข้อมูลคนไข้แต่งงานแล้ว ประจำเดือนมาปกติหรือเปล่า หรือได้คุมกำเนิดไหม”

พัทธนันท์ใจไม่ดีเมื่อหมอถามถึงเรื่องแบบนี้ แต่หลังจากเลิกกินยาคุมกำเนิดไปร่วมสามเดือน ประจำเดือนเธอก็มาทุกเดือนมีแค่มาน้อยกว่าปกติ ซึ่งเธอคิดไปเองว่าเป็นผลข้างเคียงจากการเลิกกินยาคุมกำเนิด เธอตอบไปตามจริง

“งั้นต้องลองไปตรวจดูก่อน”

แพทย์หญิงพูดทิ้งแค่นั้นก่อนจะเดินออกทิ้งให้คนที่นอนบนเตียงกังวลใจ ครั้นเห็นเพื่อนเดินสวนเข้ามาก็รีบให้ติดต่อกันตรวีทันที

ปัทมาใจคอไม่ดียามเห็นสีหน้ากังวลของพัทธนันท์ที่ตอนนี้ถูกเข็นเข้าห้องตรวจไปแล้ว แต่คนที่เดินวนอยู่หน้าห้องอยากจะปาโทรศัพท์เพื่อนทิ้ง กันตรวีเป็นบ้าอะไร ทำไมติดต่อไม่ได้เกือบยี่สิบนาทีแล้ว

แต่ไม่ถึงสิบนาทีต่อมาพยาบาลที่เข้าห้องตรวจพร้อมพัทธนันท์เมื่อสักครู่ก็ออกมาตรงดิ่งมาที่เธอ

ปัทมาช็อกกับข่าวที่ได้ยิน มันรุนแรงยิ่งกว่าโรคกระเพาะหรือไส้ติ่งแตกที่เธอคิดเอาไว้เสียอีก นิ้วเรียวเร่งกดต่อสายอีกครั้งด้วยความโมโห แต่ครั้งนี้สามารถติดต่อได้ในที่สุดก็ถูกรับสาย

“พี่เป็นบ้าอะไรพี่กันต์” เธอไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะแก่กว่ากี่ปี สนใจแค่ว่าตอนนี้กันตรวีต้องรีบมาหาเพื่อนเธอเดี๋ยวนี้!

“เธอเป็นใคร มารับโทรศัพท์สามีเพื่อนฉันได้ไง” ทว่าคนรับสายกลับไม่ใช่คนที่คาดคิดไว้ ยิ่งเพิ่มความไม่พอใจให้เธอ ปัทมาพูดเสียงดังไม่สนใจสายตารอบข้างที่เริ่มหันมามองให้ความสนใจ

“ไปตามพี่กันต์ให้มาคุยเดี๋ยวนี้!”

เพียงแค่อึดใจเดียวก็ได้ยินเสียงกันตวีที่เธอควรจะได้ยินตั้งแต่สามสิบกว่านาทีที่แล้ว ปัทมาหน้าแดงโกรธจัดจนมือสั่น

“เป็นบ้าอะไรหะ ทำไมไม่รับโทรศัพท์”

ความเสียใจที่โดนความโกรธข่มไว้ตอนนี้เอาไม่อยู่ คำตำหนิจากสายปลายไม่เข้าหูเธอสักนิด ปัทมาน้ำตาร่วงสงสารเพื่อนเหลือเกิน ทำไมชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้

“ดีเนอะมีผู้หญิงมารับโทรศัพท์แทน” ประตูห้องตรวจถูกเปิดออกพร้อมพัทธนันท์ที่นอนร้องไห้ถูกเข็นออกมา ปัทมาตอบด้วยความอึดอัดคับแค้นใจ มันกล้าทำกับเพื่อนเธอแบบนี้ได้อย่างไร

“ถ้ายังอยากเป็นผัวที่ดี ก็ช่วยมาที่โรงพยาบาลหน่อยสิ”

“พร้อมท้องนอกมดลูก ปวดท้องกำลังจะตายช่วยมาเซนต์เอกสารเตรียมผ่าตัดให้ด้วย”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel