บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ผู้หญิงคนนั้น [2/2]

เป็นเวลากว่าสองเดือนที่พัทธนันท์เข้ามาช่วยทำงานที่อู่ซ่อมเครื่องยนต์ เธอปรับตัวในการทำงานคู่กับเขา โดยการห่อมื้อเที่ยงมาจากที่บ้านมากินด้วยกัน หรือบางวันก็สั่งร้านข้างนอกให้มาส่งที่อู่ เนื่องจากช่วงกลางวันคนเยอะ คนงานบางส่วนก็ยังทำงาน ออกกินข้างนอกบ่อยครั้งเห็นทีว่าจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่

“ค่าถ่ายน้ำมันเครื่องแปดร้อยห้าสิบครับ” ตั้มยื่นธนบัตรใบเทาให้เมียเจ้านาย

“โอเค” พัทธนันท์เปิดลิ้นชักหยิบเงินทอนพร้อมบิล “อันนี้เงินทอนกับบิล เรียบร้อยนะ”

ตั้มเปิดประตูออกไปสวนกับเจ้านายที่จะเข้ามาพอดี เดินมาหาลูกค้ายื่นเงินทอนกับบิลให้เจ้าของรถที่พึ่งซ่อมเสร็จ

“ขอบคุณมากนะค้าบ”

ตั้มมองจนลูกค้าถอยรถออกไปจากอู่ แล้วเดินไปโต๊ะไม้หินอ่อนตักน้ำเย็นจากกระติกดับกระหาย

“มึงสังเกตไหมวะไอ้ตั้ม” ช่างบอยอีกคนเดินเข้ามาสมทบ หยิบแก้วอีกใบแล้วตักน้ำกินอึกใหญ่

“สังเกตไรวะ”

“ตั้งแต่เมียเฮียมาช่วยงาน แกอยู่ในออฟฟิศบ่อยกว่าตอนทำคนเดียวอีก” ตั้ม

มองตามเพื่อนไปในห้องกระจก เห็นเจ้านายนั่งใกล้เมียไม่ห่าง แล้วมันแปลกตรงไหน

“คนมีเมียก็ต้องหวงเป็นธรรมดาปะวะ” เขาวางคว่ำแก้วไว้ที่เดิม “สวยขนาดนั้น แถมเมียเด็กอีกยิ่งหวงเข้าไปใหญ่”

“เออก็จริง” พยักหน้าเห็นด้วย ถ้าเขาเป็นเฮียก็คงหวงมากเหมือนกัน ก็ทั้งเด็กทั้งสวยขนาดนั้น

“สองคนนั้นอะ” ตั้มกับบอยที่กำลังจะกลับไปทำงาน ชาวูบไปตัวมองหน้ากันเลิ่กลั่ก หรือว่าเฮียได้ยินเสียงพวกเขา “ตั้มกับบอยอะได้ยินไหม”

เพื่อนซี้มองหน้าอย่างใจไม่ดี เพราะรู้นิสัยเจ้านายตัวเองเลยค่อนข้างเกรงกลัว เมื่อกี้ไม่น่าปากพล่อยเลย

“ครับเฮีย” ตั้มตอบไม่เต็มเสียง เห็นเฮียกวักมือเรียกเลยต้องเดินไปหาอย่างเสียไม่ได้ บอยเดินตามเพื่อนไปติดๆ แต่พอเห็นเจ้านายยื่นเงินให้ สองเพื่อนมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ

“พร้อมเขาจะเลี้ยงข้าว” กันตรวีเบี่ยงตัวหลบให้ลูกน้องเห็นคนข้างในที่กำลังส่งยิ้มให้พวกเขา

“จะกินอะไรก็ได้ค่ะ ซื้อแล้วมาแบ่งกินกับทุกคนนะคะ”

กันตรวีวีเห็นท่าทียืนนิ่งของพวกมันสองคนแล้วขมวดคิ้ว เป็นอะไรของมัน

“สรุปจะกินไหม”

“ครับๆ ” ตั้มยื่นมือไปรับเงิน ก่อนจะยกมือขอบคุณคนข้างใน “ขอบคุณครับ”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะ” รับไหว้แทบไม่ทัน พวกเขาอายุมากกว่าเธอเสียอีก “กินให้อร่อยนะคะ”

พวกเขารู้ได้ทันทีว่าทำไมเฮียติดเมียขนาดนี้

พัทธนันท์กับกันตรวีกินมื้อเที่ยงอยู่ในห้อง มีกับข้าวสองอย่างง่ายๆ ที่ใช้เวลา

ทำในตอนเช้าไม่นาน

“วันเสาร์เค้ามีนัดกับแป้งนะ”

“นัดกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นบอกก่อน”

“เมื่อคืน” เธอตักผัดผักใส่จานเขา “พอดีแป้งพึ่งกลับจากไปตรวจบริษัทที่ต่างจังหวัดมาค่ะ”

กันตรวีกำลังจะตอบ แต่เสียงรถยนต์ที่วิ่งเข้ามาจอดหน้าดึงสายตาทั้งคู่ให้หันไปมอง เจ้าของร่างสูงเป็นฝ่ายลุกขึ้นยืน

“พวกช่างน่าจะกินข้าวกันอยู่” เขายกน้ำขึ้นกินหมดไปครึ่งแก้ว “เดี๋ยวพี่ไปดูก่อน”

พัทธนันท์พยักหน้าให้เขา วันนี้ลูกค้าเข้ามาไม่เยอะ รถที่ค้างอยู่ในอู่ก็ไม่ต้องเร่งรีบลูกน้องทุกคนเลยพักพร้อมกันอยู่ข้างหลังประจวบเหมาะกับที่เธอเลี้ยงอาหารพวกเขาพอดีเลยถือว่าได้พักเต็มที่

พัทธนันนท์มองตามหลังสามีไปจนถึงรถที่พึ่งเข้ามาจอด ประตูฝั่งคนขับถูกเปิดก่อนผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งก้าวลงมา ท่าทางชะงักของทั้งคู่ทำเอาเธอเอะใจ ก่อนผู้หญิงคนนั้จะถอดแว่นกันแดด ริมฝีปากที่ทาลิปสีแดงสดส่งยิ้มให้สามีเธอราวกับตื่นเต้นที่ได้เจอกัน

“กันต์” ดลยาเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว ราวกับไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะเจอชาย

หนุ่มตรงหน้า แต่พอเห็นสีหน้าเรียบนิ่งของคนที่เพิ่งเจอ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ จางหาย

“มาทำอะไร” น้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนไม่รู้สึกไม่รู้สาอะไรที่เห็นหญิงสาว

ตรงหน้า ดลภารู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ในใจ

“เอารถมาเช็กน่ะ” เธอปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ ส่งยิ้มหวานให้คนหน้าตรงเหมือนเดิม “พอดีเดียร์ไม่ได้ขับมาหลายปี เลยต้องเอามาเช็กสักหน่อย”

กันตรวีแบมือบ่งบอกว่าต้องการกุญแจ เมื่อหญิงสาวส่งให้เขาก็รับมาแล้วขึ้นไปสตาร์ทรถ กดปุ่มเปิดกระโปรงรถก่อนจะก้าวเลี่ยงลงมายืนด้านหน้ารถ

“กันต์สบายดีใช่ไหม” ดลภาก้าวตามมายืนเคียงข้าง พยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอตื่นเต้นดีใจกับการได้เจอกันครั้งนี้

ยิ่งได้มองในระยะใกล้ๆ กันตรวีแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขายังเหมือนเดิม ผมแสกกลางที่ชอบไม่เป็นทรงที่ไว้มาตั้งแต่สมัยมหาลัยนั้นเธอจำได้ดี สีผิวที่คล้ำกว่าเดิมเล็กน้อย ยิ่งหน้าตาไม่ได้ดูเพิ่มขึ้นตามอายุเป็นเพราะฝ่ายชายเป็นคนประเภทดูแลตัวเองเป็นอย่างดี มีแค่ร่างกายที่ดูใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

“อือ” กันตรวีตอบราวกับไม่ได้ใส่ใจ คิ้วหนาขมวดยุ่งเปิดจุกหลอดน้ำมันเครื่องใช้ผ้าเช็ดเหล็กยาว ตรวจสอบปริมาณน้ำมันเครื่องแล้วใส่ไว้ที่เดิม “น้ำมันเครื่องแห้งต้องถ่าย น้ำมันเบรกก็หมด”

“อ๋อ” เธอพยักหน้า ไม่ละมองสายตาจากเขาเห็นเหงื่อไหลเป็นทางบริเวณจอนผม ข้างนอกร้อนมากกันตรวีเป็นคนขี้ร้อนอย่างนี้เสมอ ขนาดออกมาไม่ถึงสิบนาทีเหงื่อยังออกขนาดนี้ “งั้นเปลี่ยนเลยก็ได้”

“ให้เช็กช่วงล่วงด้วยไหม” กันตรวีเอื้อมมือจับฝากระโปรง ใช้แรงกดเล็กน้อย

ให้มันปิดสนิท เป็นจังหวะเดียวกับที่ดลภาก้มมองผลันสายตาก็ปะทะเข้ากับแหวนบนนิ้วนางข้างซ้าย

เมื่อเห็นว่าเธอตอบไม่เงียบ กันตรวีเลยพลิกตัวหันมาทางเธอ เห็นสายตาจด

จ้องที่มือซ้ายของตัวเอง หากเขาไม่ได้คิดไปเองแววตาของเธอมีความเศร้าซ่อนอยู่

“ว่าไงเดียร์”

“อือ” ดลภาครางรับในลำคอ จู่ๆ ก็หาเสียงตัวเองไม่เจอ ยิ่งเห็นสายตาที่เขามองมา ยิ่งทำให้เธอเจ็บจี๊ดข้างในใจ “เช็กเลยก็ได้”

“รอก่อนละกัน พวกช่างกำลังพักเที่ยง” เขาเมินสายตาที่จ้องมอง ยกผ้าขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดมือ “หรือจะไปร้านอื่นก็ได้นะถ้ารีบ”

“ไม่รีบ รอได้” ถ้อยคำที่อีกฝ่ายที่ทำราวกับไม่สนใจ ยิ่งตอกย้ำให้เด่นชัดในความรู้สึก

“อือ นั่งรอสักพัก”

พูดจบกันตรวีก็เดินผ่านหน้าเธอกลับไปห้องเดิมราวกับไม่สนใจไยดีกับการได้พบเจออีกครั้ง ดลภามองเข้าไปในห้องกระจก ทันทีที่กันตรวีนั่งลง ผู้หญิงที่นั่งคอยอยู่แล้วรินน้ำให้เขา ใบหน้านั้นเต็มรอยยิ้ม ขยับริมฝีปากพูดคุยอย่างอารมณ์ดีกับกันตรวี ท่าทีที่ทั้งคู่มีให้กันยิ่งทำให้คนมองยิ่งเจ็บปวด ไม่น่าเชื่อว่าไม่เจอกันเพียงห้าปี กันตรวีจะชิ่งแต่งงานไปเสียก่อนแถมไม่ได้เชิญเธอไปร่วมงานเหมือนคำพูดที่เธอเคยขอไว้
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel