บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ผู้หญิงคนนั้น [1/2]

บทที่ 3

ผู้หญิงคนนั้น

พัทธนันท์เข้ามาช่วยงานตลอดทั้งสัปดาห์ การทำงานคล่องตัวขึ้นมากเลยทีเดียว เหลือแค่พวกอุปกรณ์อะไรที่เธอไม่รู้ชื่อหรือยี่ห้อ แต่มันไม่มีปัญหาเลยเพราะลูกน้องลงรายการเบิกให้เธออย่างครบถ้วน เวลาหกโมงลูกค้าเริ่มซา บรรดาลูกน้องก็เคลียร์งานของวันนี้หมดเรียบร้อย เจ้านายกับลูกน้องช่วยกันเลื่อนประตูบานใหญ่ปิดร้าน พูดคุยเรื่องงานเล็กน้อยก่อนจะก้าวขึ้นรถที่ติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้เพราะพัทธนันท์นั่งรออยู่

“เวลานี้รถน่าจะติดนะคะ” เพราะวันนี้มีนัดกับที่บ้านครอบครัวสามี

“ก็เวลาคนเลิกงาน แถมวันศุกร์อีก” กันตรวีหมุนพวงมาลัยออกจากหน้าร้าน มุ่งเข้าสู่ถนนที่การจราจรเริ่มไม่ขยับ

“เค้าขอแวะซื้อขนมไปฝากหลานก่อนนะ” พัทธนันท์หันหน้าไปถามสารถี

เธอโทรศัพท์คุยกับหลานเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา สัญญาว่าจะซื้อขนมกับของเล่นไปฝาก เจ้าตัวตื่นเต้นยกใหญ่บอกให้อาพร้อมมาหาเร็วๆ

“รถมันติด” กันตรวีแย้ง ถ้าเทียบช่วงเวลาปกติจากอู่ไปบ้านเขาจะใช้เวลาประมาณสามสิบนาที แต่ช่วงเวลาที่รถติดแบบนี้คาดว่าไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง

“เค้าสัญญากับหลานไว้แล้ว” เธอบอกเหตุผล

“ถ้าแวะซื้อของ” หญิงสาวยกยิ้มกับคำของกล่าวของสามี แต่ประโยคถัดมาเธอหุบยิ้มแทบจะทันที “แต่ซื้อเสร็จกลับบ้าน แล้วค่อยไปบ้านพี่พรุ่งนี้”

เขารู้อยู่แล้วว่าเธอจะตอบยังไงเลยเลือกใช้วิธีนี้

“งั้นไปเลยก็ได้ค่ะ”

กันตรวีเหลือบมองคนข้างๆ เขาก็มีเหตุผล เพราะถ้าแวะห้างให้พัทธนันท์กว่าจะถึงบ้าน เวลานั้นคนในบ้านคงหลับกันหมดแล้ว เป็นแบบนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่ดี พรุ่งนี้ยังมีเวลาทั้งวันค่อยพาหลานไปเลือกซื้อด้วยกันก็ยังได้

รถยนต์เลี้ยวเข้าบ้านครอบครัวกันตรวีเกือบทุ่มครึ่ง ทั้งคู่เข้าไปสวัสดีกรติที่ห้องรับแขก

“แม่อยู่ในครัว”

พัทธนันท์แยกตัวออกมาเดินเข้าครัวตามคำบอกกล่าวของกรติ เห็นแม่สามียืนอยู่หน้าเตา มีพี่นาสาวใช้ประจำบ้านอยู่เคียงข้าง นาที่รู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้ามา เมื่อเงยหน้าเห็นว่าเป็นใครก็ทักาย

“อ้าว คุณพร้อม”

พัทธนันท์กล่าวทักทายพี่นา กัญญารัตน์ได้ยินสาวใช้เรียกใครก็รีบวางทัพพี หันมามองลูกสะใภ้คนเล็กด้วยอีกคน

“สวัสดีค่ะแม่”

“สวัสดีจ้ะลูก” ท่านเดินเข้ามากอดหญิงสาวแน่น ดีอกดีใจเพราะไม่ได้เจอกันร่วมเดือน “หิวหรือยังลูก”

“ตอนแรกก็ยังไม่หิวเท่าไหร่คะ” เธอทำท่าสูดดมกลิ่นเครื่องแกงที่ลอยมา “แต่พอได้กลิ่นแกงแม่แล้วหิวมากเลย”

คนฟังยกยิ้มปลื้มใจ เดินมาตักน้ำแกงมัสมั่นให้หญิงสาวได้ชิม

“อร่อยเหมือนเดิมค่ะ” เธอตักน้ำแกงในทัพพีชิมอีกครั้ง “พร้อมทำกี่ครั้งก็ไม่อร่อยเท่าแม่ทำค่ะ”

“แต่ละคนมีรสมือไม่เหมือนกันลูก” กัญญารัตน์ขยับมาเปิดหม้ออีกใบ “แม่ทำของโปรดน้องพร้อมไว้ด้วยนะ”

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวมองแกงส้มหม้อใหญ่แล้วระบายยิ้ม แม่สามีรู้ใจเธอที่สุด “แล้วโมบายไปไหนคะแม่”

ตั้งแต่เข้าบ้านมาเธอยังไม่ได้ยินเสียงหลานสักนิด ปกติตะโกนเรียกหาตั้งแต่ได้ยินเสียงรถแล้ว

“อยู่บนห้องขึ้นไปอาบน้ำ”

“แล้วพี่เมย์ พี่กายล่ะคะ” ไม่ลืมถามถึงพี่ชายกับพี่สะใภ้ของกันตรวี

“ก็อยู่บนห้องเหมือนกัน” ท่านปิดเตาแก๊ส “เจ้าโมบายพอรู้ว่าอาจะมาหา เรียกทั้งพ่อทั้งแม่ให้ไปช่วยเลือกชุด เขาอยากแต่งชุดสวยๆ โชว์พวกเราน่ะ”

พัทธนันท์นึกแล้วยิ้มขำกับความเยอะของหลานสาว จากนั้นก็ช่วยกันยกกับข้าวไปที่โต๊ะ

มื้อเย็นที่เวลาเกือบสองทุ่มเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย เพราะมีสมาชิกเยอะทุกวัน ยิ่งหนูน้อยโมบายที่มีอาพร้อมนั่งอยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะคุยเก่งกว่าทุกวัน

“โมบายสูงขึ้นสองเซนฯ ด้วยนะอาพร้อม” พูดทั้งที่ข้าวอยู่เต็มปาก หญิงสาวที่นั่งข้างยกทิชชูขึ้นมาเช็ดคราบเลอะให้

“จริงเหรอ” เธอตื่นเต้นตามหลาน “งั้นอีกไม่นานก็สูงเท่าอาพร้อมแล้วสิ”

“ตอนนี้อาพร้อมอายุเท่าไหร่”

“ยี่สิบสี่ค่ะ”

หลานสาวยกนิ้วขึ้นคำนวณว่าอายุห่างกันกี่ปี ทว่าเมื่อเลขเกินสิบนิ้วที่มีก็ไป

ต่อไม่ถูกแล้ว ทุกคนที่เฝ้ามองก็ตามลุ้น

“อาพร้อมห่างกับโมบายกี่ปี” คนเป็นพ่อถาม

“เอ่อ…” ครั้นลองนับใหม่ก็ยังไม่ได้คำตอบเหมือนเดิม หนูน้อยเงยหน้าตอบทุกคนที่รอลุ้น “หลายปีค่า”

หลังจากจบมื้อเย็นทุกคนก็มารวมกันที่ห้องนั่งเล่นอีกรอบ ใบหน้าของกรติประมุขบ้านประดับด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา มีความสุขที่เห็นลูกหลานอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

“อาพร้อมดูท้องแม่สิ” หนูน้อยชี้ท้องแม่ที่โตแตกต่างจากคนอื่นเพราะมีน้องของเธออยู่ในนั้น “ใหญ่มากเลย”

“กี่เดือนแล้วพี่เมย์”

“กำลังเข้าเดือนที่หกจ้ะ” มนสิชายกมือลูบท้องที่นูนเด่น “รอบนี้ได้ผู้ชาย”

“โมบายจะมีน้องชายแล้ว” พัทธนันท์ระบายยิ้มมองหลานสาวที่เทียวหอมแก้มแม่อย่างออดอ้อน

มนสิชายั้งคำถามที่จะถามว่าเมื่อไหร่คู่สะใภ้อยากมีไว้ทัน ถามบ่อยๆ คนฟังคงไม่รู้สึกดี เหมือนจะกดดันเจ้าตัวมากเกินไป อีกอย่างไม่อยากให้ทั้งคู่มีปัญหากันเหมือนคราวก่อน

“แล้วแกจะมีเมื่อไหร่ล่ะกันต์” แต่เป็นกวีที่ไม่รู้เรื่องคราวก่อนเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หันไปมองหน้าน้องชาย

“คุยกับพร้อมว่าจะมีแล้ว” กันตรวีสบตาภรรยา รายนั้นส่งยิ้มให้เขา

“ดีเลยลูก” กัญญารัตน์ปลื้มใจเมื่อรู้ว่าทั้งคู่วางแผนจะมีหลานให้ท่าน

“แต่ไม่ต้องเครียดนะลูก อายุยังน้อย ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ”

“ค่ะแม่” เธอก็หวังว่าอย่างนั้นอยากให้ลูกติดง่ายโดยธรรมชาติ แต่ถ้านานวันเข้าลูกยังไม่มาอยู่ด้วยกัน ถึงคราวนั้นคงต้องพึ่งวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์เข้ามาช่วย

“ความวุ่นวายกำลังจะเพิ่มขึ้น” กวีหันตบบ่าน้องชาย “แกเตรียมตัวเตรียมพลังไว้ได้เลยกันต์ หรือนอนตุนไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ได้”

“อะไรจะขนาดนั้น” เห็นท่าทางหัวเราะเยาะของพี่ชายแล้วไม่เชื่อ

“เดี๋ยวก็รู้” ขอบตาเป็นหมีแพนด้าแน่นอน ตอนนี้เขาไม่สปอยให้มันรู้ตัวหรอก แต่มันแลกมากับความสุขที่หาจากที่ไหนไม่ได้

คืนนั้นทั้งคู่นอนค้างที่บ้าน กันตรวีก้าวออกจากห้องน้ำ ฝ่ามือหนาใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมลวกๆ เท้าชะงักแต่แปลงเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเล็กๆ กับภาพหญิงสาวต่างวัยสองคนบนเตียงที่เปิดดูหนังสือด้วยกัน

“อันนี้คือบีค่า” คนอ่อนวัยชี้ไปที่หน้าหนึ่งบนหนังสือ สัตว์ปีกสีดำสลับเหลืองอันนี้เธอจำได้

“แล้วอันนี้ล่ะคะ”

“บัตเตอฟายค่ะ” เห็นอาชี้ไปแมลงปีกสวยก็ตอบทันที

“อากันต์อาบน้ำเสร็จแล้ว” เห็นคนข้างๆ เงยหน้าหนูน้อยก็มองตามเห็นอากันต์กำลังเดินมาหา หนูน้อยก็รีบลุกไปที่ปลายเตียงทันที “เค้าเช็ดให้ไหมคะ”

“โมบายอยากเช็ดให้” ยื่นมือไปขอผ้าขนหนู “โมบายเช็ดให้คุณพ่อบ่อยค่า”

กันตรวียื่นผ้าให้มือป้อม อีกฝ่ายรับด้วยท่าทางตื่นเต้นแล้วขยับให้อานั่งปลายเตียง พัทธนันท์เห็นแบบนั้นก็ลุกมาหยิบของในกระเป๋าสะพาย

“โมบายแย่งงานอาพร้อมนะเนี้ย” กันตรวีได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากบนหัว แล้วภรรยาก็ยื่นยากับแก้วน้ำมาตรงหน้าพอดี

“ยาค่ะ” เขาหยิบยาใส่ปากตามด้วยน้ำจนหมดแก้วแล้วยื่นคืนหญิงสาว

“อากันต์ไม่สบายเหรอ” หนูน้อยโมบายยื่นหน้าข้ามไหล่มองหน้าอากันต์ มองอย่างสงสัยในความคิดของเด็กมีคนป่วยเท่านั้นที่ต้องกินยา

“อาแค่บำรุงร่างกาย” ตวัดแขนรวบตัวคนข้างหลังมานั่งตัก หนูน้อยหัวเราะอากันต์แรงเยอะเหมือนพ่อเลย “อาจะมีลูก เลยต้องบำรุงร่างกาย”

“มีน้องให้โมบายเหรอ” จ้องอาตาแป๋ว

“ใช่” พัทธนันท์ได้ยินแบบนั้นแล้วยิ้มหน้าบานเดินไปหาเขาที่กวักมือเรียก ก่อนจะโดนรวบให้นั่งบนขาอีกข้าง

“งั้นอากันต์มีน้องผู้หญิงได้ไหมคะ”

“อาไม่รู้เลยว่าน้องจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง” กันตรวีมองคนที่ยกมือคล้องแขนเขา กลิ่นกายหอมสบู่อ่อนๆ นั้นทำให้เขาหลงใหล “แล้วทำไมอยากมีน้องผู้หญิง”

“ก็แม่มีน้องชายให้โมบายแล้ว อีกอย่าง…” เหลือบไปมองอาสาว “โมบายอยากมีคนเดินแกว่งเปียด้วย”

“ให้อาพร้อมถักเป็นเพื่อนก่อนเอาไหม”

“สองข้างเลยนะคะ” เห็นอาสาวพยักหน้าก้ร้องดีใจ “เย่! อาพร้อมน่ารักที่สุดเลย”

ภาพในจินตนาการที่มีน้องสาวเดินข้างๆ ถักเปียสองข้างเหมือนกันเดินโยกหัวให้มันเกว่งไปมา แต่มีน้องชายอีกคนที่เดินถือกระเป๋าตาม แค่คิดหนูน้อยก็หัวเราะ
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel