บทที่ 4.2 'ครอบครัวตัว J'
บทที่ 4.2
'ครอบครัวตัว J'
“หนูจีนใช่ไหม?”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจนเจย์กับจีนหันไปมองก็พบว่าเป็นชายวัยกลางคนแต่งตัวดูมีภูมิฐาน จีนยกยิ้มออกมาจนกว้างในทันทีก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ชายตรงหน้าอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะเฮียไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”
“น่าจะเป็นปี ๆ แล้วมั้ง หายหน้าหายตาจากวงการไปเลย” ชายวัยกลางคนเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม
“พอดีหนูแต่งงานแล้วก็มีลูกค่ะก็เลยไม่ได้ออกไปทำงาน” จีนตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
ท่าทางที่สนิทสนมของจีนกับชายวัยกลางคนทำให้เจย์ที่ยืนอยู่เกิดอาการไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย ชายหนุ่มกำรถเข็นจนแน่นและพยายามจะควบคุมสติของตัวเองเอาไว้ก่อนจะหันไปหาจีนแล้วบีบแขนของอีกฝ่ายเพื่อเรียก
"เรายังมีของต้องไปซื้อกันอีก”
“อ๊ะ!" จีนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อแรงบีบที่แขนของเธอมันแรงพอสมควรจนเธอรู้สึกเจ็บ
หญิงสาวหันไปมองเจย์ก็พบว่าเขาดูไม่ค่อยพอใจนักถึงจะแสดงออกมาไม่หมดแต่เธอก็อยู่กับเจย์มานานพอที่จะดูออกว่าตอนไหนเขารู้สึกยังไง “นั้นสินะฉันลืมไปเลย”
“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะเฮียไว้โอกาสหน้าค่อยคุยกันใหม่นะคะพอดีมีธุระต้องไปทำต่อ”
“งั้นโชคดีนะ”
จีนพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ชายวัยกลางคนอีกครั้งอย่างอ่อนน้อมและเข็นรถเข็นลูกชายออกมาจากตรงนั้นในทันทีโดยมีเจย์เดินเคียงข้างมาติด ๆ
หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเงยมองหน้าเจย์ด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ “นายหิวหรือเปล่าไปหาอะไรกินกันไหม?”
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงได้สนิทสนมกับเธอนัก?” เจย์จ้องมองจีนด้วยแววตาดุ
“เป็นผู้มีพระคุณของฉัน เขาเป็นคนที่ช่วยดันฉันจนฉันกลายเป็นพริตตี้ที่มีชื่อเสียงนั่นแหละถ้าไม่ได้เขาฉันคงเป็นพริตตี้ระดับล่างธรรมดาทั่วไป” จีนตอบออกไปตามความจริงเพราะผู้ชายคนเมื่อกี้คือเฮียใหญ่ของบริษัทโมเดลลิ่งและเป็นอดีตนายจ้างของเธอที่ช่วยดันจนเธอดังนั่นแหละ
“แล้วเธอเคยนอนกับเขาหรือเปล่า?”
คำพูดของเจย์ทำให้จีนชักสีหน้าบึ้งตึงออกมาในทันที หญิงสาวหันไปมองสามีของตัวเองด้วยสีหน้าหงุดหงิดเพราะไม่คิดว่าคำพูดนั้นมันจะออกมาจากปากของคนที่ขึ้นชื่อว่าผัวเธอและก็เป็นผู้ชายคนแรกของเธออีกต่างหาก
“นายก็รู้ว่านายเป็นคนแรกของฉันแล้วฉันจะไปนอนกับเฮียเขาได้ยังไง คำถามแบบนั้นอะกลั่นกรองออกมาจากสมองแล้วหรือไงหรือว่าใช้หัวนิ้วโป้งเท้าคิด?”
คำพูดของจีนทำให้เจย์ชะงักไปในทันทีเหมือนโดนตอกหน้าเข้าเต็ม ๆ จนหน้าชาไปทั้งแทบเพราะมันก็นานแล้วนะที่เขาไม่ได้ยินคำพูดแรง ๆ แบบนี้จากปากของจีน ตอนท้องจีนไม่เคยพูดจาแบบนี้เลยด้วยซ้ำแต่พอคลอดแล้วรู้สึกว่าฝีปากจะกลับมาจัดจ้านเป็นจีนคนเดิม
“รู้แบบนี้ฉันน่าให้หมอผ่าเอาหมาออกจากปากเธอตอนคลอดด้วยเลย”
“พูดไม่ดูตัวเองเลย ในปากนายก็คงมีเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์เลยแหละ”
“แอ้ ๆ”
จาเรดส่งเสียงร้องออกมาด้วยรอยยิ้มในทันทีจนจีนยกยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปยักคิ้วให้เจย์ด้วยสีหน้ากวน ๆ “เห็นไหมขนาดลูกยังเห็นด้วยกับฉันเลย”
“ทำไมไม่เข้าข้างคุณพ่อบ้างล่ะครับน้องจาเรด คุณพ่อน้อยใจแล้วนะ” เจย์เบะปากออกมาเล็กน้อยด้วยสีหน้ามุ้ยเมื่อเห็นลูกชายไม่ยอมเข้าข้างเขาเลยเอาแต่เข้าข้างจีนอยู่ได้ เขาเป็นพ่อนะมันน่าน้อยใจชะมัด
“แอ้ ๆ” จาเรดส่งเสียงร้องออกมา ริมฝีปากบางของเด็กน้อยแย้มยิ้มจนตาหยีก่อนจะไขว่คว้ามือไปในอากาศเหมือนจะปลอบผู้เป็นพ่อ
“ลูกชายใครเนี่ยมันน่าฟัดจังเลย” เจย์ก้มลงไปหยิกแก้มลูกชายเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว
“เดี๋ยวแก้มลูกก็ช้ำหมดหรอก นายชอบเล่นแรง ๆ กับลูก” จีนพูดบ่นเจย์เล็กน้อยตามประสาแม่
“ไม่เป็นไรหรอกน่าลูกเป็นผู้ชายนะไม่ใช่ผู้หญิงบอบบาง”
จีนได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาเท่านั้นเพราะเธอไม่อยากจะเถียงกับเจย์หรอก เขาเป็นพ่อนินาส่วนเธอเป็นแม่ความห่วงลูกมันต่างกัน เขาก็ห่วงในแบบผู้ชาย แบบแมน ๆ ไม่ได้ทะนุถนอมอะไรมากและชอบเล่นแรง ๆ กับลูกประจำนั่นแหละ ส่วนเธอนะเหรอแค่เห็นเจย์อุ้มลูกหมุนไปมาเธอก็แทบจะเป็นลมแล้วกลัวลูกจะหลุดมือกระเด็นออกไปนอกบ้าน
แต่เธอก็ชอบนะชอบมองดูเวลาที่เจย์เลี้ยงลูกเพราะเวลานั้นเจย์จะแสดงความอบอุ่นออกมาอย่างชัดเจน รอยยิ้มเสียงหัวเราะของเขามันออกมาจากใจจริงเสมอถึงแม้ว่าเขาจะเลี้ยงจาเรดได้ไม่เต็มที่แต่เขาก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อมอบความรักให้จาเรด ถึงเขาจะเป็นสามีที่ไม่ค่อยได้เรื่องนักแต่เขาก็เป็นพ่อที่ดีคนหนึ่งเลยแหละ
