บท
ตั้งค่า

เจ็บไปทั้งใจ 1

เกณิกากระวนกระวายไม่ค่อยสนุกสนานอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อหญิงสาวตัดสินใจมาร่วมงานวันเกิดผู้จัดการ แทนที่จะอยู่รอภากรที่ห้อง แต่จะให้เธอทำเช่นไรในเมื่อนี่ก็เป็นผู้จัดการที่ต้องทำงานร่วมกันและเธอคือลูกน้อง คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่หากเธอจะไม่มาร่วมงาน

ส่วนภากรเขาเป็นยิ่งกว่าเจ้านายเปรียบเสมือนเจ้าชีวิต แต่เธอคิดว่าเขาคงไม่มาหาเธอตั้งแต่หัวค่ำหรอกมั้งเธอน่าจะกลับไปทัน เพราะโดยปกติช่วงเวลาที่ภากรจะมาหาเธอก็สี่ทุ่มเข้าไปแล้ว นี่เพิ่งจะทุ่มสี่สิบสักสองทุ่มเธอค่อยขอตัวกลับ ใช้เวลาเดินทางไม่เกินสามทุ่มน่าจะถึงห้องพัก อีกอย่างทุกครั้งที่ชายหนุ่มจะมาหาเขาก็ต้องโทรมาก่อน แต่นี่ไม่โทรแสดงว่ายังไม่มา

แต่หารู้ไม่ว่าที่เกณิกาคาดคะเนไว้ผิดหมดไม่มีชิ้นดี เมื่อคนที่ลั่นวาจาว่าจะมาหาเกณิกาเพื่อคลายเครียด บัดนี้ได้เข้ามานั่งรอหญิงสาวอยู่ที่โซฟาภายในห้องเรียบร้อย โดยไม่มีการโทรแจ้งล่วงหน้าดั่งเช่นทุกครั้ง

สายตาคมอำพันทอดมองไปยังจอโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้ อย่างไม่ใคร่สนใจเนื้อหาของข่าวที่นักข่าวกำลังนำเสนอเสียเท่าไหร่ ในสมองตอนนี้มีแต่ความไม่พอใจที่เจ้าของห้องเลือกที่จะไม่ฟังคำสั่ง ไม่อยู่รอเขาอย่างที่เธอควรจะทำ แก้ววิสกี้ในมือที่ให้ดรัณไปซื้อมาให้เมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ถูกสาดเข้าลำคอจนหมดแก้ว

ดรัณยืนเงียบอยู่ข้างเจ้านาย มองอากัปกิริยาของเจ้านายแล้วก็นึกเป็นห่วงเกณิกาขึ้นมา คืนนี้หญิงสาวคงถูกเจ้านายเขมือบลงท้องทั้งตัวแน่ เจ้านายเขาเวลาโมโหไม่พอใจฟังใครเสียที่ไหน เอาแต่ใจก็ที่หนึ่ง

แต่ก็อย่างว่าเจ้านายคือลูกชายคนโตที่จะสืบทอดธุรกิจและยังเป็นหลานชายคนแรก พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย จึงพากันตามอกตามใจเสียยกใหญ่ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ทำให้เคยตัวมาจนถึงอายุสามสิบห้า

“ให้ผมโทรบอกคุณเตยให้กลับมาไหมครับนาย” หากให้เจ้านายนั่งรออยู่แบบนี้ ดรัณคิดว่าเกณิกาคงสะบักสะบอมไม่ได้นอนแน่ หากกลับมาเร็วโทษหนักอาจจะเป็นเบาก็ได้

“ไม่ต้อง ฉันจะดูสิ ว่ายัยนั่นจะกลับมากี่ทุ่มกัน”

“ครับ”

“เรียกใยไหมมาให้ฉันด้วย” ดรัณหันขวับมองเจ้านาย นึกแปลกใจอยู่บ้าง ก็เมื่อสักครู่เจ้านายบอกจะรอเกณิกาที่นี่ แล้วทำไมอยู่ดีๆ ถึงให้เรียกคู่ขามาหากันล่ะ

“ให้ไปรอที่โรงแรมใช่ไหมครับ” เรียวปากหยักยกยิ้ม หยิบขวดวิสกี้ขึ้นมาเทลงบนแก้วพลางเอ่ยตอบลูกน้อง

“ให้มาที่นี่ เดี๋ยวนี้”

“ครับ” ดรัณมองเห็นถึงความหายนะที่กำลังเดินทางมาสู่เกณิกาในทันที แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อตนคือลูกน้อง เจ้านายสั่งก็ต้องทำตาม รีบดำเนินการตามคำสั่งนั้นในทันที

เมื่อได้เวลาสองทุ่มเกณิกาจึงรีบลาผู้จัดการที่เป็นเจ้าของงานวันเกิด รวมทั้งพี่สาวที่เป็นเพื่อนร่วมงานทั้งสองคน ร่างบางรีบเดินออกจากร้านมายืนรอหน้าร้านเพื่อเรียกแท็กซี่กลับห้องพัก จากที่ตั้งใจจะนั่งรถประจำทางเกณิกาคงต้องพับเก็บไว้ เมื่อมีลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้นชวนใจคอไม่ดีอย่างไรไม่รู้

นับว่าโชคดีที่วันนี้การจราจรบนท้องถนนไม่ติดขนัดอย่างเช่นทุกวัน ทำให้เกณิกามาถึงห้องพักในเวลาสองทุ่มครึ่ง ร่างบางรีบเดินเข้าไปในลิฟต์เพื่อขึ้นสู่ห้องพักที่อยู่ชั้นห้า เมื่อเลี้ยวออกมาจากมุมตึกเท้าก็ชะงักงัน เมื่อเห็นดรัณยืนหน้าห้อง คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขามาทำไม และมีใครอยู่ในห้องเธอตอนนี้ อากาศถูกสูดเข้าสู่ปอดจนเต็มรีบสาวเท้าเดินไปห้องตัวเอง

“คุณดรัณ” ดรัณหน้าเจือนไปเล็กน้อย เมื่อเกณิกามาถึงเร็วกว่าที่ตัวเองคาดการณ์ไว้

“ครับ”

“คุณตะวันอยู่ในห้องใช่ไหมคะ” แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าใช่ แต่ก็ยังโง่งมถามออกไป

ดรัณพยักหน้ารับและอยากจะบอกหญิงสาวสียเหลือเกิน ว่าไม่ใช่แค่ภากรที่อยู่ในห้องยังมี...

“งั้นเตยขอตัวนะคะ” ก่อนที่คนรอจะเกรี้ยวโกรธจนฆ่าเธอได้ เกณิกาก็รีบเปิดประตูห้องเข้าไป เธอไม่รู้หรอกว่าภากรมารอเธอนานไหม แต่หากให้รอนานมากกว่านี้คงไม่ดีแน่

“ซี๊ด...อืม...” ทว่าเสียงร้องครางและภาพตรงหน้าก็ทำให้เกณิกาชาวาบไปทั้งตัว เหมือนถูกสาปให้เป็นน้ำแข็ง จากความชากลายเป็นความเหน็บหนาวเข้าลึกถึงไขสันหลังและขั้วหัวใจ

เมื่อเห็นภากรกำลังนั่งอยู่บนโซฟาและมีผู้หญิงกำลังปรนเปรอความเสียวซ่านให้อยู่ด้านล่าง นัยน์ตาของเกณิกาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ลำคอตีบตันพูดอะไรไม่ออกสักคำ เหมือนตัวเองกำลังจะหมดแรง หัวใจมันบีบรัดแน่นจนเจ็บแทบหายใจไม่ออก

“ทำต่อสิ หยุดทำไม” เสียงแหบห้าวเอ่ยบอกหญิงสาวที่กำลังมอบความสุขให้ตัวเองอยู่ด้านล่าง

“แต่ว่า...”

“ไม่ต้องสนใจ คิดซะว่าเป็นตอไม้ ไร้ค่า” เรียวปากหยักยกยิ้มดูแคลน กดศีรษะของหญิงสาวให้ก้มลงมอบความสุขให้แก่นกายของตัวเองต่อ

น้ำตาที่เอ่อคลอในตอนแรกไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง ไม่คิดเลยว่าภากรจะทำกับเธอถึงขนาดนี้ ถึงขนาดเอาผู้หญิงคนอื่นมาบำเรอภายในห้องที่เธอพักอาศัยอยู่

“เร็วๆ สิ จะเอาไหมค่าจ้าง” เมื่อหญิงสาวที่จ้างมาไม่ยอมต่อเสียทีก็ชักอารมณ์เสีย ส่วนหญิงสาวเมื่อนึกถึงเม็ดเงินจำนวนมาก ก็ไม่รั้งรอที่จะครอบครองแก่นกายใหญ่ตรงหน้าอีกครั้ง ทำเหมือนเกณิกาคือตอไม้อย่างที่ภากรบอกในคราแรก

“คุณดรัณว่างไหมคะ เตยอยากเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง ว่ามันจะตื่นเต้นกว่าของเก่าที่เคยๆ ไหม”

ชายเจ้าของชื่อรวมทั้งผู้ชายที่นั่งอยู่ที่โซฟาหูผึ่งไม่ต่างกัน ดรัณนั้นถึงกับหัวใจร่วงไปอยู่แทบเท้า เกณิกากำลังหานรกมาใส่หัวเขาแล้วไหมล่ะ ส่วนคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาถึงกับเลือดขึ้นหน้ากัดกรามกรอด ตวัดสายตามองคนใจกล้าที่เอ่ยประโยคนั้นออกมา

“เตยหอม!!” ตวาดเสียงดัง จนผู้หญิงที่กำลังรูดรั้งแก่นกายใหญ่สะดุ้งเฮือกทำตัวไม่ถูกขึ้นมา ส่วนคนถูกเรียกก็ไม่คิดฟัง เดินออกจากห้องไปเสียดื้อๆ

“โธ่โว้ย! ไอ้ดรัณจับตัวไว้ อย่าให้ออกไปไหนนะ ส่วนเธอกลับไปได้แล้วไม่มีอารมณ์ เดี๋ยวฉันให้เลขาโอนเงินไปให้”

“ค่ะๆ” ใครจะอยากอยู่กันล่ะ บรรยากาศตอนนี้มาคุยิ่งกว่าอยู่ในสงคราม

“คุณเตยกลับเข้าไปในห้องเถอะนะครับ เดี๋ยวเป็นเรื่องใหญ่ คนในคอนโดจะแตกตื่นเอา” ดรัณเอ่ยบอก เมื่อเห็นถึงความหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น หากเกณิกายังดื้อดึงก้าวออกจากที่นี่ไป คอนโดนี้คงพังเป็นหน้ากลอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel