บท
ตั้งค่า

ยอมให้ก็ได้ 1

เกณิกายืนมองตัวเองที่สะท้อนในกระจกเงา สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม โดยเฉพาะร่องรอยที่ภากรฝากไว้บนลำคอว่าตนจัดการปกปิดดีหรือไม่ แม้จะบอกกี่ครั้งว่าห้ามให้เขาทำรอย ทว่าทุกครั้งเขาก็ฝากไว้ให้เธอดูต่างหน้าและหาวิธีจัดการกับมันทุกครั้งไป

ครั้นพอพูดขอร้องบ่อยๆ ก็อารมณ์เสียใส่ อีกทั้งยังกล่าวหาคิดว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ กลัวผู้ชายที่บริษัทรู้เห็นหรือไรว่ามีแฟน ทั้งที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอมีแหวนเพชรเม็ดเล็กสวมใส่ เป็นการบอกนัยๆ ว่าเธอไม่ใช่สาวโสด มิหนำซ้ำยังบังคับให้เธอบอกใครต่อใครว่าแต่งงานมีสามี

ดูเอาสิ...ดูสิ่งที่ภากรกระทำกับเธอ เขากักขังเธอให้อยู่กับเขาทุกทาง กักขังให้เธอเป็นนางบำเรอรองรับความต้องการมาเกือบปี และยังตราหน้าว่าเธอคือหญิงร่านอยากได้เขาจนตัวสั่น ถึงขั้นวางยาปลุกเซ็กซ์เขาในงานเลี้ยงวันเกิดชายหนุ่ม

ซึ่งเธอไม่ได้ทำแต่อย่างใด เธอแค่ได้รับคำสั่งจากคุณหญิงรัศมีให้เข้าไปดูเขาเท่านั้น เพราะวันนั้นภากรดื่มไปมากจนมึนเมา หลังจากคนในบ้านพาขึ้นไปส่งบนห้องนอน คุณหญิงรัศมีจึงให้เธอไปดูความเรียบร้อยเท่านั้น

ภากรต่างหากที่ปลุกปล้ำขืนใจเธอจนไม่มีเหลือ รุ่งเช้ามาจึงกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เคราะห์ซ้ำกรรมซัดแฟนสาวของภากรที่ชายหนุ่มเพิ่งขอคบเป็นแฟนในวันเกิด ดันมาหาในช่วงเช้าที่บ้านศรันย์วดีกำลังวุ่นวายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น รับรู้ความจริงว่าภากรและเธอเกินเลยกัน จึงขอเลิกกับภากรและบินหนีไปต่างประเทศ

"ถ้าอยากได้ฉันมาก ฉันจะสงเคราะห์ให้ แต่จำเอาไว้ว่าเธอเป็นได้แค่อีตัวบนเตียง ไม่มีสิทธิ์ มีเสียงอะไรในตัวฉันทั้งนั้น ฉันจะทำให้เธอเจ็บยิ่งกว่าฉันเสียอีก ที่สะเออะเข้ามาทำให้ความรักของฉันพัง"

คิดถึงประโยคนี้ยามใด เกณิกาก็ปวดหนึบไปทั้งใจ ชวนหายใจไม่ออกอย่างไรไม่ทราบ และหลังจากวันนั้นมาภากรก็รักษาคำพูดได้ดีทุกอย่าง เขาไม่แยแส ไม่สนใจไยดี ทำให้เธอเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส

"คุณเตยเชิญครับ" ดรัณทำหน้าที่เชื้อเชิญ เมื่อเห็นเกณิกาเดินออกมาหน้าคอนโด เพื่อให้หญิงสาวขึ้นรถไปบริษัทด้วยกัน ส่วนเจ้าของรถนั่งเงียบราวไม่มีความรู้สึกอยู่ด้านใน แม้ใจไม่อยากขึ้นไป ทว่าเธอก็ต้องจำใจต้องขึ้นอยู่ดี

เคยมีหนึ่งครั้งที่คิดดื้อรั้นแข็งข้อ ไม่ยอมขึ้นรถตามที่ดรัณเอ่ยบอก สิ่งที่ภากรทำคือสั่งให้ดรัณและคนขับวิ่งไล่จับเธอยัดเข้าไปในรถ จากนั้นชายหนุ่มก็พาเธอไปลงโทษที่โรงแรมเสียจนหมดแรง ตั้งแต่นั้นมาเกณิกาจึงประมาณตนว่าเธอไม่ควรสู้ เพราะมีแต่จะเจ็บตัวเสียเปล่าๆ

บรรยากาศภายในรถแสนจะเงียบสงัด เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังบริษัท เกณิกานั่งตัวตรงมองไปด้านหน้า เพราะคิดว่าอีกไม่กี่นาทีคงถึงที่ประจำที่รถคันนี้ต้องจอดให้เธอลงดั่งเช่นทุกครั้ง ทว่าเมื่อถึงที่ประจำรถยนต์กลับเคลื่อนตัวผ่านไป

"อ้าว! คุณดรัณไม่จอดรถให้เตยลงล่ะคะ เลยมาแล้วนะคะ" ร้องทักท้วงเพราะคิดว่าดรัณอาจจะหลงลืม ส่วนคนถูกทักท้วงก็ได้แต่นั่งเงียบ เหลือบมองเจ้านายที่นั่งเงียบมีสีหน้าเรียบเฉยผ่านกระจกมองหลัง

"ข้างหน้ามีป้ายรถเมล์คุณดรัณจอดป้ายนั้นก็ได้ค่ะ" กระชับกระเป๋าสะพายเตรียมจะลง ทว่าเมื่อถึงป้ายดรัณกลับขับผ่านอีก

"คุณดรัณ..."

"ก็นั่งไปด้วยกันมันจะตายไหม" สุดท้ายคนที่นั่งเงียบมานานก็เอ่ยขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ดรัณถึงกับโล่งใจ ในที่สุดเจ้านายก็ยอมพูดอะไรเสียที

"ก็เตยไม่รู้นี่คะ ว่าคุณตะวันอนุญาตให้เตยนั่งไปด้วยจนถึงบริษัท" ค่อนแคะย้อนกลับ หันใบหน้างอง้ำไปมองข้างทาง ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะให้เธอไปด้วย ทุกครั้งก็เห็นปล่อยลงข้างทาง

"ฉันแค่เจอเธอเดินอยู่ริมถนนกำลังจะถูกรถมอไซต์เฉี่ยวก็เลยรับขึ้นรถมาด้วย แค่นั้น" เกณิกาเข้าใจดีทุกอย่างที่ภากรพูดมา ข้ออ้างหากมีใครถามว่าทำไมถึงมากับเขาสินะ

"ค่ะ"

"พูดกับฉันก็ควรหันหน้ามาหาฉัน ไม่ใช่มองถนนเพราะมันไม่ได้คุยกับเธอ" คนถูกต่อว่าหมุนตัวกลับมาหาคนเจ้าอารมณ์ ที่ไม่รู้จะหงุดหงิดอะไรหนักหนาตั้งแต่เช้าแบบนี้

"ค่ะ"

"ค่ะของเธอคืออะไร อยู่ดีๆ ก็มาค่ะ สมองมันกลวงจนคิดอะไรไม่ได้หรือไง" ใบหน้างามเชิดขึ้นลำคอตั้งตรง คลี่ยิ้มเย้ยหยันให้คนตรงหน้า

"ถ้าสมองเตยกลวงก็ดีสิคะ เตยจะได้ไม่ต้องเก็บเรื่องที่ไม่สบายใจมาคิด...เมื่อคืนที่เตยพูดก่อนที่คุณตะวันจะเดินออกไปจากห้อง เตยพูดจริงๆ นะคะ สิ่งที่คุณตะวันทำมันเกินกว่าที่เตยจะไม่รู้สึกอะไร ถ้าคุณไม่จัดการ เตยจะจัดการเอง...คุณดรัณช่วยจอดก่อนถึงหน้าบริษัทด้วยนะคะ เดี๋ยวเตยเดินเข้าไปเองดีกว่าค่ะ เตยไม่อยากตอบคำถามคนอื่น กลัวตอบไม่เนียนแล้วคนอื่นจะสงสัยเอา คงไม่ดีแน่ถ้าเป็นอย่างนั้น" ดรัณเหลือบมองเจ้านายที่นั่งหน้าเครียดคิ้วขมวดอยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นภากรไม่เอ่ยค้านอะไร จึงทำตามที่เกณิกาบอก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel