ตอนที่ 8
ตอนที่ 8
หลังจากที่มีเรื่องวุ่นวายที่มหาวิทยาลัย วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ญาณินไม่มีเรียน จึงตื่นสายกว่าปกติ แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว สิ่งแรกที่เธอทำก็คือการเช็กโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ก่อนที่จะได้รับข้อความจากเพื่อนสนิทสมัยมัธยม เธอจึงรีบต่อสายตรงกลับไปเพื่อถามรายละเอียดเพิ่มเติมทันที
“ฮัลโหล เก้า เราเห็นข้อความที่แกส่งมาแล้วนะ คือยังไงเหรอ?”
“ขอบคุณนะญาที่ติดต่อกลับมา พอดีตอนนี้เรากำลังต้องการคนมาช่วยเป็นดีเจให้ที่ร้านแทนคนเก่าวันหนึ่งน่ะ เรานึกไม่ออกแล้วว่าจะเป็นใครได้ ถ้าไม่ใช่แก”
เพื่อนสนิทคนนั้นตอบรายละเอียดต่าง ๆ กลับมาจนญาณินเริ่มเข้าใจเจตนาที่อีกฝ่ายติดต่อมา ซึ่งเธอเองก็ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าควรจะตอบตกลงหรือว่าปฏิเสธออกไปดี
“หาคนอื่นแล้วไม่ได้จริง ๆ เหรอ”
“ใช่ แต่ถ้าแกไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ เราเองก็เกรงใจเหมือนกัน”
“ไม่เป็นไร ๆ แค่วันเดียวเอง เดี๋ยวแกส่งโลเคชันร้านมาไว้เลยนะ เดี๋ยวฉันตามไป”
“ขอบคุณนะญา ไว้เจอกันนะ เดี๋ยวเราส่งโลฯ แล้วก็เวลาที่ขึ้นโชว์ให้”
“โอเค เจอกัน”
เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว สายก็ถูกตัดไป วินาทีนั้นญาณินถึงกับเอนหลังลงไปนอนอีกครั้ง แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยมที่คอยช่วยเหลือกันมาตลอด เธอก็คงจะเอ่ยปากปฏิเสธไปแล้ว
ซึ่งเวลาที่เก้าส่งมาให้กับญาณินก็คือช่วงเวลาประมาณสามถึงสี่ทุ่ม ระหว่างวันเธอจึงจัดการทำความสะอาดห้อง ทั้งปัดกวาดเช็ดถูจนเสร็จสรรพ รู้ตัวอีกทีก็มืดค่ำเสียแล้ว
ขณะนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งโดยประมาณ ญาณินรีบอาบน้ำตั้งแต่หัววันก็จริง แต่ทว่าดันมาเสียเวลากับการแต่งตัวอยู่พักใหญ่ ๆ เลยทีเดียว
“หาว่าฉันเป็นยายเฉิ่มใช่ไหม คอยดูเลย...”
หญิงสาวบ่นพึมพำอยู่กับตัวเองก่อนที่จะหยิบเสื้อผ้าแนวเซ็กซี่ออกมาเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่บนเตียงนอนเพื่อเลือกดูว่าวันนี้เธอควรจะใส่ตัวไหนไปออกงานดี
เธอใช้เวลาอยู่นานสองนานกว่าที่จะได้ชุดที่ถูกใจ วันนี้ญาณิน เลือกใส่เป็นเสื้อครอปเอวลอยควบคู่ด้วยกระโปรงตัวสั้นที่ไม่เคยได้มีโอกาสสวมใส่มาก่อนเลยสักครั้ง เธอเห็นว่ามันดูเข้ากับการเป็นดีเจจึงตัดสินใจเลือกมาใส่
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว ญาณินก็รีบไปตามนัดหมายที่เก้าได้แจ้งเอาไว้ในข้อความทันที
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการเดินทางไปยังผับใจกลางตัวเมือง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่สักเท่าไรนัก ระยะเวลาที่ใช้จึงไม่ได้ยาวนานเหมือนอย่างที่คาดคะเนเอาไว้
“ญา ทางนี้!”
ต้นเสียงดังกล่าวลอยแว่วมาถึงหูของญาณินทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามายังตัวผับที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงและผู้คนมากมาย และเมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนสนิทเธอก็รีบตรงดิ่งไปหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“โห...วันนี้แต่งตัวแซ่บไม่เบาเลยนะ เดี๋ยวนี้เปลี่ยนแนวแล้วเหรอ”
ถ้อยคำทักทายแรกของการพบเจอกันในรอบหลายเดือนแน่นอนว่าหนีไม่พ้นรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ โดยปกติแล้วญาณินไม่ค่อยได้แต่งตัวทำนองนี้เท่าไรนัก เธอมักจะแต่งตัวมิดชิดทั้งยังมีแว่นที่คอยปกปิดตัวตนลึก ๆ ของเธอเอาไว้อีกทีหนึ่ง
“เปล่าสักหน่อย แกจะให้ฉันแต่งตัวมิดชิดมาเป็นดีเจหรือไงเล่า ก็ต้องนิดหนึ่งแหละ”
“โอเค ๆ เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวไปเตรียมตัวข้างหลังกัน อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงคิวแกแล้ว”
“อื้ม แกนำทางฉันไปหน่อยสิ”
“ได้ ตามฉันมาเลย” จากนั้นทั้งสองก็พากันเข้าไปเตรียมตัวที่หลังผับตามที่ได้ตกลงกันไว้ทันที
เก้าพาญาณินเข้าไปเตรียมตัวรอทางด้านหลัง ก่อนจะปล่อยเธอเอาไว้คนเดียวเพราะมีความจำเป็นจะต้องออกไปทำหน้าที่ของตนเอง ซึ่งญาณินเองก็ไม่ได้มีข้อกังขาใด ๆ เธอเข้าใจและปล่อยให้อีกฝ่ายไปรับผิดชอบงานแต่โดยดี
ระหว่างที่นั่งรอเวลา หญิงสาวเจ้าของรูปร่างเพรียวก็หยัดกายขึ้นยืนทั้งยังเดินวนไปวนมาด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าในอดีตจะพอมีประสบการณ์ทางด้านนี้มาบ้าง แต่ปัจจุบันเธอก็แทบจะไม่ได้จับงานดีเจเลยด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกเลยถ้าหากว่าจะมีอาการเหล่านั้นผุดขึ้นมา
“คิวต่อไปสแตนด์บายรอข้างเวทีได้เลยนะครับ”
“อ๋อ โอเคค่ะ สักครู่นะคะ”
ญาณินตอบกลับทีมงาน ก่อนที่จะหยิบกระจกที่พกติดตัวขึ้นมาเช็กดูความพร้อมของใบหน้า เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เธอก็รีบเดินตามหลังของทีมงานไปอย่างรวดเร็ว
หน้าที่การเป็นดีเจประจำผับในวันนี้สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมที่อยู่ด้านล่างเวทีได้เป็นอย่างดี ทั้งรูปร่างหน้าตาและโชว์ของญาณินทำเอาทั้งลูกค้าขาประจำและขาจรต่างก็ติดใจไปตาม ๆ กัน
แสงสีเสียงในผับส่งเสริมให้ดีเจสุดแซ่บเป็นจุดสนใจจากทุกคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ เธอรู้ดีว่าการทำงานในสายอาชีพนี้ไม่สามารถเป็นยายเฉิ่มเหมือนที่คนอื่นกล่าวหาเธอเอาไว้ได้
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมวันนี้เธอถึงเลือกที่จะสลัดคราบสาวเฉิ่มเชยก่อนหน้านี้ทิ้งออกไปอย่างไม่คิดลังเล...
