ตอนที่ 7
ตอนที่ 7
“จะให้เย็นยังไงอีก ที่ผ่านมายังเย็นไม่พอหรือไง คนบ้าอะไรหาเรื่องกันทุกครั้งที่เจอหน้า นี่ถามจริง ๆ เลยนะคะ ฉันไปทำอะไรให้ ถึงได้ทำนิสัยเสียใส่กันแบบนี้ตลอดเลย”
เป็นครั้งแรกที่ญาณินไม่คิดที่จะอดกลั้นความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายอีกต่อไปแล้ว เธอไม่สนใจว่าผู้คนรอบข้างจะมองมาอย่างไร อย่างน้อย ๆ วันนี้นอร์ทจะต้องได้รับรู้ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาตั้งแต่แรกเจอจนถึงตอนนี้ว่ามันไม่เคยมีความรู้สึกดี ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว
“แล้วทำไม กับแค่คำว่าเฉิ่ม ต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ สงสัยจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ถึงได้ร้อนตัว”
“ไอ้นอร์ท มึงก็หาเรื่องน้องเขาอยู่ได้ พอได้แล้ว”
“กูไม่พอ มึงคิดว่ามึงห้ามกูได้เหรอ?”
ชายหนุ่มใบหน้าคมสันหันไปมองเพื่อนสนิทก่อนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบและแฝงไว้ด้วยความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง
วินาทีที่ญาณินได้ยินคำตอบเช่นนั้น เธอก็ได้แต่ขมวดคิ้ว ในชีวิตของเธอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมารู้จักมักคุ้นกับคนแบบนี้เลย เธอคงตัดสินใจผิดแล้วที่ตามติดแตงกวามาด้วยตั้งแต่วันแรก ๆ
“คนแบบนี้น่ะเหรอคะ ที่มีแต่คนเคารพ ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ”
“มันเกี่ยวอะไร ตัวเองโมโหแล้วพาลไปเรื่อย แบบนี้ก็ได้เหรอ”
“แล้วใครเป็นคนทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้ล่ะ ถ้าไม่ใช่พี่”
“เธอก็จัดการอารมณ์ตัวเองเอาสิ โวยวายแบบนี้ ไม่อายคนอื่นเขาหรือไง” เขามีสีหน้าเฉียบขาดขณะที่เอ่ยบอกคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเน้นหนัก ถึงตอนนี้นอร์ทก็ยังคงคิดที่จะหาเรื่องอีกฝ่ายไม่เลิกเสียที...
“แตงกวา ฉันกลับแล้วนะ แกจะอยู่ก็อยู่ไป”
“ญา เดี๋ยวสิ ฉันไปด้วย...”
แตงกวาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่แรกเห็นเช่นนั้นก็รีบลุกพรวดขึ้นมาทันทีก่อนที่จะตะโกนตามหลังเพื่อนของตัวเองตามไป แล้วจึงหันมาบอกลากับแฟนหนุ่ม “หนูไปก่อน ไว้ค่อยว่ากันนะ”
“ฝากขอโทษญาแทนเพื่อนพี่ด้วยนะ”
“ค่ะ ไปก่อนนะคะ”
เมื่อหญิงสาวทั้งสองคนวิ่งออกไปจนกระทั่งลับสายตา แฟนหนุ่มของแตงกวาอย่าง วีก็รีบเอ่ยทักท้วงการกระทำของนอร์ทขึ้นมาโดยพลัน
“ไอ้นอร์ท เรื่องนี้กูไม่เห็นด้วย มึงมีสิทธิ์อะไรไปว่าน้องเขาวะ เด็กคนหนึ่งเสียความมั่นใจเพราะมึง มึงภูมิใจมากหรือไง”
“เรื่องของกู มึงไม่รู้อะไรอย่าพูดเลยดีกว่า ยายนั่นน่ะ ยิ่งกว่าคำว่าเฉิ่มซะอีก”
“กูพูดขนาดนี้แล้วมึงก็ยังไม่เลิกจะว่าเขาอีกนะ”
“แต่น้องเขาก็ดูเฉิ่ม ๆ อย่างที่ไอ้นอร์ทมันพูดจริง ๆ นะเว้ย แต่ก็ปากแซ่บใช้ได้”
เพื่อนในกลุ่มอีกคนพูดขึ้นเมื่อคิดเห็นเช่นเดียวกันกับนอร์ท คนนอกต่างก็มองว่าญาณินเป็นเด็กเฉิ่ม ไม่มีอะไรน่าสนใจ โดยที่ลืมไปว่าการพูดตรง ๆ กับเจ้าตัวไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลยแม้แต่น้อย
“พวกมึงนี่นะ ต่อหน้าน้องเขามึงก็เว้น ๆ ไว้หน่อยก็ได้ อีกอย่างเป็นรุ่นพี่ก็หัดทำตัวดี ๆ กันหน่อย กูว่าจะไม่มีใครเคารพก็เพราะแบบนี้แหละ คราวหน้าถ้าเจอน้องมันอีก กูขอร้องมึงเลยนะไอ้นอร์ท อย่าไปว่าน้องเขาอีก”
“กูไม่สน กูพูดตามที่กูเห็น อีกอย่างกูไม่ค่อยถูกชะตากับยายเด็กนั่นตั้งแต่แรก ไม่รู้ว่าแฟนมึงจะชวนมากินข้าวกลางวันที่โรงอาหารคณะเราทำไมนักหนา”
“อย่าลามมาว่าแฟนกูนะ เดี๋ยวกูก็ศอกให้หรอก”
วีพยายามเป็นอย่างมากในการห้ามปรามเพื่อนสนิทของตนไม่ใช่พูดจาไม่ดีใส่ญาณิน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเปล่าประโยชน์เหมือนที่ผ่านมา
ทางด้านของญาณินเองก็ดูจะสถานการณ์ไม่สู้ดีเท่าไรนัก กว่าที่ญาณินจะยอมหยุดก็เล่นเอาแตงกวาถึงกับเหนื่อยหอบกันเลยทีเดียว
“ญา ใจเย็น ๆ นะ อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย”
“แตงกวา ฉันจะบอกกับแกเป็นครั้งสุดท้าย ว่าฉันจะไม่ไปเป็นเพื่อนแกแล้ว ฉันอยู่คนเดียวได้ ไม่ต้องเป็นห่วง เข้าใจตรงกันนะ”
หญิงสาวพูดบอกคนข้างกายด้วยความหัวเสีย ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง เพราะคนที่ทำให้เธอต้องมาเจอกันกับนอร์ทอยู่บ่อย ๆ ก็คือแตงกวา
“อืม รู้แล้ว ๆ ฉันขอโทษนะ แต่พี่วีบอกกับฉันแล้วว่าพี่นอร์ทเขาจะไม่ยุ่งกับแกแล้วอะ ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะกล้าว่าแกขนาดนี้ ต่อไปนี้ฉันจะไม่บังคับแกแล้ว อย่าโกรธฉันนะ”
“ฉันไม่ได้โกรธแกหรอก เพราะฉันรู้ว่าเจตนาของแกก็แค่ไม่อยากทิ้งฉันไว้ที่คณะคนเดียว คนที่ผิดเต็ม ๆ มีแต่ไอ้พี่นั่นต่างหากที่ปากไม่ดีใส่ฉันไม่ยอมหยุด”
ญาณินพูดไปก็หัวเสียไป กี่ครั้ง ๆ เวลาเจอหน้ากันเธอก็มักจะหัวเสียอยู่เป็นประจำ กลายเป็นคู่กัดจนเริ่มคุ้นชิน แต่ทว่าวันนี้อีกฝ่ายใช้คำพูดที่แรงเกินไปซึ่งเธอรับไม่ได้ จึงเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่เหมือนอย่างที่เห็น...
วันนี้ญาณินถึงกับสาบานกับตัวเองในใจว่าจะไม่มีทางไปเหยียบที่โรงอาหารวิศวะฯ อีกต่อไปแล้ว ตามจริงเธอเองก็ไม่ได้อยากที่จะเหมารวม แต่การที่ต้องไปเจอหน้ากับนอร์ทอีก ไม่ใช่สิ่งที่เธอปรารถนาเลยสักนิด
